มีใครคิดตั้งใจจะ “เลิกเหล้า” แบบจริงจังบ้างไหมคะ?
เราเป็นคนนึง ที่กว่าจะเลิกเหล้าได้ก็ผ่านอะไรมาเยอะมว๊ากกก ประสบการณ์โชกโชนอาบเลือดกันเลยทีเดียว
ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องไม่ง่ายก็ตาม เพราะร้านเหล้าส่วนใหญ่ก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม และกลุ่มแก๊งค์คอเหล้าที่โทรนัดได้ตล๊อดด อย่างงี้มีหรอจะปฏิเสธ! 555
แต่ละครั้งที่เหล้าเข้าปากก็มักจะมีวีรกรรมเด็ดๆตลอด เพราะนิสัยส่วนตัวเวลาเมาทีไร ชอบทิ้งตัวทุกที ต้องลำบากเพื่อนที่มาเที่ยวด้วยกัน และบางทีเรานี่แหละ ต้องคอยไปหามเพื่อนด้วย นิสัยคล้ายกันเลยเมาด้วยกันได้
วันนี้เลยขอมาแชร์วีรกรรมเปรี้ยวเยี่ยวราดในอดีต ที่ทำให้เรารู้สึกว่าควร
“ลดละเลิกเหล้า” ให้ได้ซะที
มานั่งนึกทีไร การกินเหล้าของเรามันเสี่ยงชีวิตตล๊อด ไหนๆก็เข้าช่วงเทศกาลที่หลายๆคนอยากจะ
“เลิกเหล้าเข้าพรรษา” เผื่อจะไว้เป็นอุทาหรณ์ให้กับคนที่กำลังจะเลิกเหล้าแบบเรา
เหตุการณ์แรก
สมัยเป็นเด็กมหาลัยเคยจีบผู้ชายคนนึง ตอนนั้นคือ
“แห้ว” ผู้ชายปฏิเสธค่า แอบชอบเค้ามานานสุดท้ายไปรู้ว่ามาว่าเค้าชอบรุ่นพี่จ้า ฮือออ...รู้สึกอกหักช้ำรัก เลยไปกินเหล้ากับเพื่อน และแล้วก็เมาหนักมาก เมาถึงขนาดซื้อของ 20 บาท ยังจ่ายแบงค์ 500 แล้วไม่เอาตังค์ทอน
กลับมานอนหอเพื่อนเมาจนอ้วกตั้งแต่ตี 1 ยันตี 4 อาการดูไม่ไหว เพื่อนต้องลากไปโรงพยาบาลของมหาลัย แต่พวกมันดันกลับกันก่อนเพราะเมากันทุกคน อยู่เฝ้ากันไม่ไหว ก็เหลือแต่เรานอนไร้สติอยู่คนเดียว ตื่นมาอีกที รู้สึก งงๆ มึนๆ เลยออกจากโรงพยาบาลมาแบบดื้อๆ ไม่ได้จ่ายเงิน ไม่ได้เซ็นอะไรเลย
ออกมาก็ลืมอีกว่า หอเพื่อนห้องไหน นั่งเบลออยู่หน้าหอเป็นวันกว่าเพื่อนจะออกมาเจอ สภาพตัวเองดูไม่ได้เลย เข็ดหลาบไม่กล้ากินเหล้า ทิ้งช่วงไปเป็นปีเลย
เหตุการณ์ที่สอง
พอถึงวัยทำงาน งานเลี้ยงบริษัทจัดที่ร้านอาหารแถวพระรามสี่ ตอนนั้นเพลงอะไรมาก็เต้นกันหมด แถมชอบไปแซวผู้ชายกับเพื่อนเก้งหน้าห้องน้ำชายด้วย ยังไม่พอเพื่อนเล่าให้ฟังว่า เวลาเราเจอใครกล้ามแน่น ก็ไปกระโดดขี่หลังผู้ชายตามเข้าไปห้องน้ำ พร้อมบอกกับเพื่อนว่า
“Guอยากยืนเยี่ยวเหมือนผู้ชายบ้างโว้ยยย” จนเพื่อนต้องมาลากออกไปในสภาพที่เรากำลังจะแกะกางเกงฉี่พอดี ไม่งั้นงานนี้มีเลอะแน่ 55
ตอนมาทำงานวันจันทร์นี่ทั้งฮาและอายมากกก โดนเม้าท์จนถึงทุกวันนี้ หมดกัน ชื่อเสียงที่เคยสะสมมา T^T
เหตุการณ์ที่สาม
ตอนครั้งที่ไปงานปาร์ตี้ EDM ที่ไบเทคบางนา ซึ่งเป็นงานที่รวมเหล่าดีเจระดับโลกมาเปิดเพลงตื๊ดให้เราได้แด๊นซ์กันอย่างเมามันส์ นั่นก็เมาหนักเหมือนกัน เจอเบียร์ฟรี เหล้าฟรีของคนที่ไปเต้นด้วยกันข้างๆอีก มีหรือจะปฏิเสธฮ่าๆ ตอนกลับเราก็หลงกับเพื่อนอีกหากันไม่เจอ เลยเดินออกไปทางหลังไบเทคเพราะเห็นคนเดินออกมา ก็เลยเดินตามกันไป ตอนนั้นไม่มีแท็กซี่คันไหนจอดรับเลย แถมคนก็ยืนรอรถกันเพียบ เราทั้งเมาทั้งอ้วก แล้วก็หลับไป ตื่นอีกที ประมาณ7 โมงเช้า ข้างถนนแถวๆ พงหญ้าคนเดียว
ตื่นมางงมาก นี่อยู่ที่ไหน?? สภาพตัวเองดูไม่ได้เลย แบบว่าไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นหนักขนาดนี้ โชคดีที่ไม่เป็นอะไร ยังคิดอยู่เลยเราผ่านจุดนี้มาได้ยังไง จุดที่โดน
“ทิ้งไว้ข้างทาง” เล่าให้เพื่อนฟังตกใจกันทุกคน
หลังจากเหตุการณ์นอนตรงพงหญ้าทำให้ เราตระหนักกับเรื่องเหล้ามากขึ้น ว่ายิ่งกินไปเท่าไหร่ทำให้ชีวิตแย่ติดลบอีกด้วย ยิ่งได้ฟังเพื่อนที่ทำงานเล่าว่า
สมัยมหาลัยเพื่อนสนิทเค้าไปปาร์ตี้กันในเมือง ซึ่งขับรถไปกันเอง ไม่ได้นั่งแท็กซี่ ขากลับก็ต้องขับกลับมา เพื่อกลับหอพักแถวรังสิต ตอนนั้น บนรถมีกันอยู่ 4 คน ทุกคนเมากันหมด ช่วงใกล้ๆถึงรังสิตแล้ว มีทางแยกให้ขึ้นสะพาน กับวิ่งด้านล่าง อาจจะเป็นเพราะเมา หรือตัดสินใจไม่ทัน ทำให้รถพุ่งเข้าชนกับเกาะปูนตรงทางแยกกลางถนนเข้าอย่างจัง!! เหตุการณ์นั้น ทำให้มีคนเสียชีวิต 3 คน และเจ็บสาหัสอีก 1 คน ตอนนั้นข่าวนี้ช็อคสะเทือนไปทั้งมหาลัยทีเดียว เพราะเป็นเรื่องที่น่าสลดของนักศึกษาที่เสียชีวิตเพราะเมาแล้วขับ
เลยทำให้เราได้คิดทบทวนกับเรื่องที่ผ่านมาว่าถ้ายังเมาหัวราน้ำอยู่แบบนี้ ไม่รู้วันไหน ชีวิตต้องพังเพราะเหล้าบ้างแหละ อดีตก็สอนตัวเองมาเยอะแต่ไม่เคยจำ
เราเลยค่อยๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองเพื่อที่จะ “ลดละเลิกเหล้า” ให้ได้ จากปกติที่ออกไปเที่ยวทุกวันศุกร์ ก็เปลี่ยนมาออกกำลังกายหรือดูหนัง หาอย่างอื่นที่เราอยากทำแทนที่จะไปร้านเหล้า ยิ่งถ้าได้ออกกำลังกายมันจะไม่อยากกินเหล้าด้วย จะรู้สึกเสียดายเวลาที่ออกกำลังกายแต่ไปพังเพราะพิษเหล้า แต่ถ้าวันไหนเพื่อนชวน แล้วเลี่ยงปาร์ตี้ไม่ได้ละก็ เราก็ไปดื่มปกติแหละค่ะไปเอ็นจอยเหมือนเดิม แต่เลือกที่จะไม่ดื่มเหล้านะ ดื่มอย่างอื่นแทนอ้างเพื่อนไปว่า
“หมอสั่งให้งด” หรืออะไรก็ได้ เพราะของอย่างงี้ต้องบังคับที่ใจเราล้วนๆ ไม่มีใครมาบังคับให้คุณดื่มได้หรอกค่ะ มีเป็นสิบเป็นร้อยวิธีที่ทำให้เราเลือกจะไม่ดื่มเหล้าได้ ซึ่งตอนนี้เราเลิกมาได้หลายเดือนละ และคิดว่าควรจะพอกับการกินเหล้า เมามายได้ซะที
ใครเคยมีประสบการณ์แย่ๆ วีรกรรมเกี่ยวกับเรื่องเมาเหล้า เอามาแชร์กันหน่อยนะคะ เผื่อกระทู้นี้จะได้เป็นอุทาหรณ์ ให้หลายๆคน ที่อยากลองเริ่ม
“ลดละเลิกเหล้า” และอยากจะเอาใจช่วยหลายๆ คน ให้การเข้าพรรษานี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการลดละเลิกเหล้ากันนะคะ
ประสบการณ์ฝังใจ ที่ทำให้เลิกเหล้าได้
เราเป็นคนนึง ที่กว่าจะเลิกเหล้าได้ก็ผ่านอะไรมาเยอะมว๊ากกก ประสบการณ์โชกโชนอาบเลือดกันเลยทีเดียว
ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องไม่ง่ายก็ตาม เพราะร้านเหล้าส่วนใหญ่ก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม และกลุ่มแก๊งค์คอเหล้าที่โทรนัดได้ตล๊อดด อย่างงี้มีหรอจะปฏิเสธ! 555
แต่ละครั้งที่เหล้าเข้าปากก็มักจะมีวีรกรรมเด็ดๆตลอด เพราะนิสัยส่วนตัวเวลาเมาทีไร ชอบทิ้งตัวทุกที ต้องลำบากเพื่อนที่มาเที่ยวด้วยกัน และบางทีเรานี่แหละ ต้องคอยไปหามเพื่อนด้วย นิสัยคล้ายกันเลยเมาด้วยกันได้
วันนี้เลยขอมาแชร์วีรกรรมเปรี้ยวเยี่ยวราดในอดีต ที่ทำให้เรารู้สึกว่าควร “ลดละเลิกเหล้า” ให้ได้ซะที
มานั่งนึกทีไร การกินเหล้าของเรามันเสี่ยงชีวิตตล๊อด ไหนๆก็เข้าช่วงเทศกาลที่หลายๆคนอยากจะ “เลิกเหล้าเข้าพรรษา” เผื่อจะไว้เป็นอุทาหรณ์ให้กับคนที่กำลังจะเลิกเหล้าแบบเรา
เหตุการณ์แรก
สมัยเป็นเด็กมหาลัยเคยจีบผู้ชายคนนึง ตอนนั้นคือ “แห้ว” ผู้ชายปฏิเสธค่า แอบชอบเค้ามานานสุดท้ายไปรู้ว่ามาว่าเค้าชอบรุ่นพี่จ้า ฮือออ...รู้สึกอกหักช้ำรัก เลยไปกินเหล้ากับเพื่อน และแล้วก็เมาหนักมาก เมาถึงขนาดซื้อของ 20 บาท ยังจ่ายแบงค์ 500 แล้วไม่เอาตังค์ทอน
กลับมานอนหอเพื่อนเมาจนอ้วกตั้งแต่ตี 1 ยันตี 4 อาการดูไม่ไหว เพื่อนต้องลากไปโรงพยาบาลของมหาลัย แต่พวกมันดันกลับกันก่อนเพราะเมากันทุกคน อยู่เฝ้ากันไม่ไหว ก็เหลือแต่เรานอนไร้สติอยู่คนเดียว ตื่นมาอีกที รู้สึก งงๆ มึนๆ เลยออกจากโรงพยาบาลมาแบบดื้อๆ ไม่ได้จ่ายเงิน ไม่ได้เซ็นอะไรเลย
ออกมาก็ลืมอีกว่า หอเพื่อนห้องไหน นั่งเบลออยู่หน้าหอเป็นวันกว่าเพื่อนจะออกมาเจอ สภาพตัวเองดูไม่ได้เลย เข็ดหลาบไม่กล้ากินเหล้า ทิ้งช่วงไปเป็นปีเลย
เหตุการณ์ที่สอง
พอถึงวัยทำงาน งานเลี้ยงบริษัทจัดที่ร้านอาหารแถวพระรามสี่ ตอนนั้นเพลงอะไรมาก็เต้นกันหมด แถมชอบไปแซวผู้ชายกับเพื่อนเก้งหน้าห้องน้ำชายด้วย ยังไม่พอเพื่อนเล่าให้ฟังว่า เวลาเราเจอใครกล้ามแน่น ก็ไปกระโดดขี่หลังผู้ชายตามเข้าไปห้องน้ำ พร้อมบอกกับเพื่อนว่า “Guอยากยืนเยี่ยวเหมือนผู้ชายบ้างโว้ยยย” จนเพื่อนต้องมาลากออกไปในสภาพที่เรากำลังจะแกะกางเกงฉี่พอดี ไม่งั้นงานนี้มีเลอะแน่ 55
ตอนมาทำงานวันจันทร์นี่ทั้งฮาและอายมากกก โดนเม้าท์จนถึงทุกวันนี้ หมดกัน ชื่อเสียงที่เคยสะสมมา T^T
เหตุการณ์ที่สาม
ตอนครั้งที่ไปงานปาร์ตี้ EDM ที่ไบเทคบางนา ซึ่งเป็นงานที่รวมเหล่าดีเจระดับโลกมาเปิดเพลงตื๊ดให้เราได้แด๊นซ์กันอย่างเมามันส์ นั่นก็เมาหนักเหมือนกัน เจอเบียร์ฟรี เหล้าฟรีของคนที่ไปเต้นด้วยกันข้างๆอีก มีหรือจะปฏิเสธฮ่าๆ ตอนกลับเราก็หลงกับเพื่อนอีกหากันไม่เจอ เลยเดินออกไปทางหลังไบเทคเพราะเห็นคนเดินออกมา ก็เลยเดินตามกันไป ตอนนั้นไม่มีแท็กซี่คันไหนจอดรับเลย แถมคนก็ยืนรอรถกันเพียบ เราทั้งเมาทั้งอ้วก แล้วก็หลับไป ตื่นอีกที ประมาณ7 โมงเช้า ข้างถนนแถวๆ พงหญ้าคนเดียว
ตื่นมางงมาก นี่อยู่ที่ไหน?? สภาพตัวเองดูไม่ได้เลย แบบว่าไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นหนักขนาดนี้ โชคดีที่ไม่เป็นอะไร ยังคิดอยู่เลยเราผ่านจุดนี้มาได้ยังไง จุดที่โดน “ทิ้งไว้ข้างทาง” เล่าให้เพื่อนฟังตกใจกันทุกคน
หลังจากเหตุการณ์นอนตรงพงหญ้าทำให้ เราตระหนักกับเรื่องเหล้ามากขึ้น ว่ายิ่งกินไปเท่าไหร่ทำให้ชีวิตแย่ติดลบอีกด้วย ยิ่งได้ฟังเพื่อนที่ทำงานเล่าว่า
สมัยมหาลัยเพื่อนสนิทเค้าไปปาร์ตี้กันในเมือง ซึ่งขับรถไปกันเอง ไม่ได้นั่งแท็กซี่ ขากลับก็ต้องขับกลับมา เพื่อกลับหอพักแถวรังสิต ตอนนั้น บนรถมีกันอยู่ 4 คน ทุกคนเมากันหมด ช่วงใกล้ๆถึงรังสิตแล้ว มีทางแยกให้ขึ้นสะพาน กับวิ่งด้านล่าง อาจจะเป็นเพราะเมา หรือตัดสินใจไม่ทัน ทำให้รถพุ่งเข้าชนกับเกาะปูนตรงทางแยกกลางถนนเข้าอย่างจัง!! เหตุการณ์นั้น ทำให้มีคนเสียชีวิต 3 คน และเจ็บสาหัสอีก 1 คน ตอนนั้นข่าวนี้ช็อคสะเทือนไปทั้งมหาลัยทีเดียว เพราะเป็นเรื่องที่น่าสลดของนักศึกษาที่เสียชีวิตเพราะเมาแล้วขับ
เลยทำให้เราได้คิดทบทวนกับเรื่องที่ผ่านมาว่าถ้ายังเมาหัวราน้ำอยู่แบบนี้ ไม่รู้วันไหน ชีวิตต้องพังเพราะเหล้าบ้างแหละ อดีตก็สอนตัวเองมาเยอะแต่ไม่เคยจำ
เราเลยค่อยๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองเพื่อที่จะ “ลดละเลิกเหล้า” ให้ได้ จากปกติที่ออกไปเที่ยวทุกวันศุกร์ ก็เปลี่ยนมาออกกำลังกายหรือดูหนัง หาอย่างอื่นที่เราอยากทำแทนที่จะไปร้านเหล้า ยิ่งถ้าได้ออกกำลังกายมันจะไม่อยากกินเหล้าด้วย จะรู้สึกเสียดายเวลาที่ออกกำลังกายแต่ไปพังเพราะพิษเหล้า แต่ถ้าวันไหนเพื่อนชวน แล้วเลี่ยงปาร์ตี้ไม่ได้ละก็ เราก็ไปดื่มปกติแหละค่ะไปเอ็นจอยเหมือนเดิม แต่เลือกที่จะไม่ดื่มเหล้านะ ดื่มอย่างอื่นแทนอ้างเพื่อนไปว่า “หมอสั่งให้งด” หรืออะไรก็ได้ เพราะของอย่างงี้ต้องบังคับที่ใจเราล้วนๆ ไม่มีใครมาบังคับให้คุณดื่มได้หรอกค่ะ มีเป็นสิบเป็นร้อยวิธีที่ทำให้เราเลือกจะไม่ดื่มเหล้าได้ ซึ่งตอนนี้เราเลิกมาได้หลายเดือนละ และคิดว่าควรจะพอกับการกินเหล้า เมามายได้ซะที
ใครเคยมีประสบการณ์แย่ๆ วีรกรรมเกี่ยวกับเรื่องเมาเหล้า เอามาแชร์กันหน่อยนะคะ เผื่อกระทู้นี้จะได้เป็นอุทาหรณ์ ให้หลายๆคน ที่อยากลองเริ่ม “ลดละเลิกเหล้า” และอยากจะเอาใจช่วยหลายๆ คน ให้การเข้าพรรษานี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการลดละเลิกเหล้ากันนะคะ