เคยตั้งกระทู้ไปเมื่อกลางปีนี้ครับ ตอนนั้นคาดไว้ว่า สิ้นปีนี้จะมีเงินเก็บ 3 ล้าน
และมีเงินลงทุนเพิ่มอีกเดือนละแสน ไปเรื่อยๆ ทุกเดือน
โดยตอนนี้ทำได้เกินเป้าหมายไปแล้วครับ คือตอนนี้ยังไม่ถึงสิ้นปี ผมมีเงินเก็บรวมแล้ว 3 ล้านบาท
โดยมีเงินอีกส่วนนึงคือ 5 แสนบาท ไว้เป็นทุนในการหมุนเวียนธุรกิจ,ค่าใช้จ่ายภายในบ้าน
พอร์ตกองทุน ตอนนี้ครับ
KFSDIV = 1 ล้าน
KFSEQ-D = 4 แสน
VFOCUS-D = 6 แสน
TEF-DIV = 1 ล้าน
โดยอย่างที่ทราบกันครับ ปีนี้ พอร์ตผมหักปันผลแล้วติดลบประมาณ 4 % คือผมถัวซื้อทุกๆเดือนครับ ( ไม่มีเงินก้อน )
ซึ่งผมถือว่าพอใจครับกับสภาวะตลาดขาลงแบบปีนี้ ใจผมเมื่อสะสมเงินครบ 3 ล้าน ก็กะไว้ว่าจะถือเงินสดภายในปีนี้แล้ว คือไม่ซื้อเพิ่ม กะรอดูทิศทางตลาดก่อนครับ
เป้าหมายระยะสั้นผมคือ สะสมหน่วยในกองทุนให้ได้ 5 แสนหน่วย อาจใช้เวลา ภายในปีหน้า หรือไม่เกิน 2 ปีครับ
เป้าหมายระยะยาวคือ สะสมหน่วยลงทุนในกองทุนให้ได้ 1 ล้านหน่วย ยังไม่กำหนดเวลาครับ
เนื่องจากรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายที่ไม่แน่นอน คือในปีที่แล้วผมคาดว่าจะเหลือเงินมาลงทุน เดือนละ 1 แสน แต่ปีนี้เหลือเฉลี่ย มากกว่า 1 แสนทุกเดือนครับ
แต่เมื่อเร็วๆนี้ผมเพิ่งทราบว่าจะได้รับเงินสดก้อนนึง 10 ล้านบาท
เป็นเงิน มรดก ล่วงหน้าครับ จะได้เงินภายในปีนี้ครับ
----------
ตอนนี้ผมเลยมีความคิดว่า
ถ้าได้เงินก้อนมา 10 ล้าน + เงินผมเองภายในปีนี้ น่าจะราวๆ 3 ล้าน 5 แสน รวมๆแล้วก็ 13 ล้านกว่าๆ
ผมจะว่าจะหาจังหวะเข้าซื้อกองทุนเพิ่มหน่วยให้ได้ 1 ล้านหน่วย ตามเป้าหมายระยะยาวที่ได้วางไว้ครับ
โดยคำนวนแล้วน่าจะใช้เงินซื้ออีกราวๆ 8 ล้านครับ
ส่วนใจผมกะว่าเมื่อสะสมหน่วยกองทุนได้ตามเป้าแล้ว เหลือเงินสดราวๆ 3 ล้าน ก็จะคัดหุ้นพื้นฐานดีสัก 4 ตัว
ใช้เงิน 2 ล้านซื้อ อีก 1 ล้านเอาไปลง พวกกองทุนตราสารหนี้ หรือฝากประจำระยะสั้นๆ 6-12 เดือน
----------
ผมกะว่าถ้าผมทำตามแผนที่ผมตั้งเอาไว้แบบที่ได้กล่าวไป
ในอีก 5 ปีข้างหน้า คือ ปี 59 - ปี 63
พอร์ตหุ้นของผมจะโตขึ้นปีละ 2 ล้านบาท ( ไม่รวมปันผลของหุ้นตัวที่ถือนะครับ ) = 12 ล้าน
โดยเงิน 2 ล้านจะได้มาจาก
1 ล้าน = ปันผลของกองทุนปันผลที่ผมถืออยู่ 1 ล้านหน่วย
1ล้าน = เงินที่เหลือจากการทำงานในแต่ละเดือน โดยถ้าปีถัดๆไป ผมทำงานทั้งปีเหลือเดือนละ 1 แสน เท่ากับทั้งปีคือ 1.2 ล้าน
เงินที่เหลือ 2 แสนผมจะนำมาพักไว้ที่ กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นครับ
ในกรณีที่ เงินปันผลได้มากกว่า 1 ล้านบาทผมก็จะทำกรณีเดียวกันกับเงินเหลือจากทำงานครับ คือเพิ่มเงินสดเข้าพอร์ตหุ้นแค่ปีละ 2 ล้านบาทเท่านั้น
ในบางปีที่ เงินปันผลกับเงินเหลือเก็บไม่ถึง 2 ล้าน ผมก็จะดึงเงินในกองทุนตราสารหนี้ส่วนมาเติมเข้าไปครับ
----------
ในส่วนเงินในกองทุนปันผล ผมรับความเสี่ยงได้ครับ คือความต้องการคือให้มันช่วยทำงานสร้างปันผลต่อเนื่อง ค่าเฉลี่ย 10% ต่อปี ในระยะเวลา 10 ปีครับ
ในส่วนของเงินที่ลงในพอร์ตหุ้น คือกะเพิ่มทุนเข้าไปเรื่อยๆ ถ้าถึงจุดนึงมีกำไรตามเป้าหมายก็จะ ปรับพอร์ต ไปตามสภาวะตลาดครับ
ส่วนเป้าหมายในระยะเวลา 10 ปีข้างหน้า สำหรับลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี เงินต้นก้อนแรก 2 ล้าน กับเพิ่มทุนปีละ 2 ล้าน = ทุน 22 ล้าน คือผมกะว่าจะรักษาระดับเงินในพอร์ตให้มีมูลค่า ตอนนั้นให้ได้อยู่ระดับเงินต้นตอนนั้น
เช่น ยังไม่ครบ 10 ปีตามเป้า ทุนเงินต้นเรา 16 ล้าน พอร์ตกำไร 20% ก็อาจขายทำกำไรออกมา ในส่วน 20% ที่เป็นกำไรครับ แต่ก็ต้องดูสภาวะตลาดโดยรวมด้วยครับ
โดยผมกะไว้ว่าอาจจะนำเงินในส่วนที่เป็นกำไรในพอร์ต ทุกๆช่วง มาลงกับพวก อสังหา อาจจะซื้อคอนโด หรือ ตึกแถวให้คนเช่า อะไรประมาณนี้ครับ
ส่วนเป้าหมายที่สุดทางจริงๆที่คิดไว้คือ ถ้าก่อน หรือหลัง 10 ปีที่ตั้งเป้าหมายเรื่องระยะเวลาในการลงทุนจะก่อนหรือหลังก็แล้วแต่
ถ้ามูลค่าทรัพย์สินที่เริ่มแรกคือ 13 ล้าน ถ้าวันนึงผมเพิ่มมูลค่าได้ 40 ล้านผมจะปรับฐานการลงทุนอีกครั้งครับ
แต่เท่าที่คิดไว้เบื้องต้นคือ ลดพอร์ตลง 50% เพื่อลดความเสี่ยงครับ
อยากทราบความเห็นของพี่ๆเพื่อนๆทุกท่านครับ กับแนวคิดของผม รับฟังทุกความคิดเห็นครับ
ขอบคุณครับ
หากข้อความหรือเนื้อหาในกระทู้นี้ทำให้ท่านใดไม่สบายใจ ขออภัยนะครับ
จุดประสงค์ในการตั้งกระทู้คือ ผมอยากได้ข้อคิดหรือแนวคิดที่แตกต่างออกไปจากเพื่อนๆพี่ๆเท่านั้นครับ
แผนลงทุนระยะยาวของผม อยากได้คำแนะนำครับ
และมีเงินลงทุนเพิ่มอีกเดือนละแสน ไปเรื่อยๆ ทุกเดือน
โดยตอนนี้ทำได้เกินเป้าหมายไปแล้วครับ คือตอนนี้ยังไม่ถึงสิ้นปี ผมมีเงินเก็บรวมแล้ว 3 ล้านบาท
โดยมีเงินอีกส่วนนึงคือ 5 แสนบาท ไว้เป็นทุนในการหมุนเวียนธุรกิจ,ค่าใช้จ่ายภายในบ้าน
พอร์ตกองทุน ตอนนี้ครับ
KFSDIV = 1 ล้าน
KFSEQ-D = 4 แสน
VFOCUS-D = 6 แสน
TEF-DIV = 1 ล้าน
โดยอย่างที่ทราบกันครับ ปีนี้ พอร์ตผมหักปันผลแล้วติดลบประมาณ 4 % คือผมถัวซื้อทุกๆเดือนครับ ( ไม่มีเงินก้อน )
ซึ่งผมถือว่าพอใจครับกับสภาวะตลาดขาลงแบบปีนี้ ใจผมเมื่อสะสมเงินครบ 3 ล้าน ก็กะไว้ว่าจะถือเงินสดภายในปีนี้แล้ว คือไม่ซื้อเพิ่ม กะรอดูทิศทางตลาดก่อนครับ
เป้าหมายระยะสั้นผมคือ สะสมหน่วยในกองทุนให้ได้ 5 แสนหน่วย อาจใช้เวลา ภายในปีหน้า หรือไม่เกิน 2 ปีครับ
เป้าหมายระยะยาวคือ สะสมหน่วยลงทุนในกองทุนให้ได้ 1 ล้านหน่วย ยังไม่กำหนดเวลาครับ
เนื่องจากรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายที่ไม่แน่นอน คือในปีที่แล้วผมคาดว่าจะเหลือเงินมาลงทุน เดือนละ 1 แสน แต่ปีนี้เหลือเฉลี่ย มากกว่า 1 แสนทุกเดือนครับ
แต่เมื่อเร็วๆนี้ผมเพิ่งทราบว่าจะได้รับเงินสดก้อนนึง 10 ล้านบาท
เป็นเงิน มรดก ล่วงหน้าครับ จะได้เงินภายในปีนี้ครับ
----------
ตอนนี้ผมเลยมีความคิดว่า
ถ้าได้เงินก้อนมา 10 ล้าน + เงินผมเองภายในปีนี้ น่าจะราวๆ 3 ล้าน 5 แสน รวมๆแล้วก็ 13 ล้านกว่าๆ
ผมจะว่าจะหาจังหวะเข้าซื้อกองทุนเพิ่มหน่วยให้ได้ 1 ล้านหน่วย ตามเป้าหมายระยะยาวที่ได้วางไว้ครับ
โดยคำนวนแล้วน่าจะใช้เงินซื้ออีกราวๆ 8 ล้านครับ
ส่วนใจผมกะว่าเมื่อสะสมหน่วยกองทุนได้ตามเป้าแล้ว เหลือเงินสดราวๆ 3 ล้าน ก็จะคัดหุ้นพื้นฐานดีสัก 4 ตัว
ใช้เงิน 2 ล้านซื้อ อีก 1 ล้านเอาไปลง พวกกองทุนตราสารหนี้ หรือฝากประจำระยะสั้นๆ 6-12 เดือน
----------
ผมกะว่าถ้าผมทำตามแผนที่ผมตั้งเอาไว้แบบที่ได้กล่าวไป
ในอีก 5 ปีข้างหน้า คือ ปี 59 - ปี 63
พอร์ตหุ้นของผมจะโตขึ้นปีละ 2 ล้านบาท ( ไม่รวมปันผลของหุ้นตัวที่ถือนะครับ ) = 12 ล้าน
โดยเงิน 2 ล้านจะได้มาจาก
1 ล้าน = ปันผลของกองทุนปันผลที่ผมถืออยู่ 1 ล้านหน่วย
1ล้าน = เงินที่เหลือจากการทำงานในแต่ละเดือน โดยถ้าปีถัดๆไป ผมทำงานทั้งปีเหลือเดือนละ 1 แสน เท่ากับทั้งปีคือ 1.2 ล้าน
เงินที่เหลือ 2 แสนผมจะนำมาพักไว้ที่ กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นครับ
ในกรณีที่ เงินปันผลได้มากกว่า 1 ล้านบาทผมก็จะทำกรณีเดียวกันกับเงินเหลือจากทำงานครับ คือเพิ่มเงินสดเข้าพอร์ตหุ้นแค่ปีละ 2 ล้านบาทเท่านั้น
ในบางปีที่ เงินปันผลกับเงินเหลือเก็บไม่ถึง 2 ล้าน ผมก็จะดึงเงินในกองทุนตราสารหนี้ส่วนมาเติมเข้าไปครับ
----------
ในส่วนเงินในกองทุนปันผล ผมรับความเสี่ยงได้ครับ คือความต้องการคือให้มันช่วยทำงานสร้างปันผลต่อเนื่อง ค่าเฉลี่ย 10% ต่อปี ในระยะเวลา 10 ปีครับ
ในส่วนของเงินที่ลงในพอร์ตหุ้น คือกะเพิ่มทุนเข้าไปเรื่อยๆ ถ้าถึงจุดนึงมีกำไรตามเป้าหมายก็จะ ปรับพอร์ต ไปตามสภาวะตลาดครับ
ส่วนเป้าหมายในระยะเวลา 10 ปีข้างหน้า สำหรับลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี เงินต้นก้อนแรก 2 ล้าน กับเพิ่มทุนปีละ 2 ล้าน = ทุน 22 ล้าน คือผมกะว่าจะรักษาระดับเงินในพอร์ตให้มีมูลค่า ตอนนั้นให้ได้อยู่ระดับเงินต้นตอนนั้น
เช่น ยังไม่ครบ 10 ปีตามเป้า ทุนเงินต้นเรา 16 ล้าน พอร์ตกำไร 20% ก็อาจขายทำกำไรออกมา ในส่วน 20% ที่เป็นกำไรครับ แต่ก็ต้องดูสภาวะตลาดโดยรวมด้วยครับ
โดยผมกะไว้ว่าอาจจะนำเงินในส่วนที่เป็นกำไรในพอร์ต ทุกๆช่วง มาลงกับพวก อสังหา อาจจะซื้อคอนโด หรือ ตึกแถวให้คนเช่า อะไรประมาณนี้ครับ
ส่วนเป้าหมายที่สุดทางจริงๆที่คิดไว้คือ ถ้าก่อน หรือหลัง 10 ปีที่ตั้งเป้าหมายเรื่องระยะเวลาในการลงทุนจะก่อนหรือหลังก็แล้วแต่
ถ้ามูลค่าทรัพย์สินที่เริ่มแรกคือ 13 ล้าน ถ้าวันนึงผมเพิ่มมูลค่าได้ 40 ล้านผมจะปรับฐานการลงทุนอีกครั้งครับ
แต่เท่าที่คิดไว้เบื้องต้นคือ ลดพอร์ตลง 50% เพื่อลดความเสี่ยงครับ
อยากทราบความเห็นของพี่ๆเพื่อนๆทุกท่านครับ กับแนวคิดของผม รับฟังทุกความคิดเห็นครับ
ขอบคุณครับ
หากข้อความหรือเนื้อหาในกระทู้นี้ทำให้ท่านใดไม่สบายใจ ขออภัยนะครับ
จุดประสงค์ในการตั้งกระทู้คือ ผมอยากได้ข้อคิดหรือแนวคิดที่แตกต่างออกไปจากเพื่อนๆพี่ๆเท่านั้นครับ