สวัสดีค่ะเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่มาตั้งกระทู้นี้แค่อยากหาที่ระบายเท่านั้น จะไปพูดกับแม่ก็ไม่อยากรบกวน กลัวแม่เป็นห่วงและกลุ้มใจ จะไปพูดกับเพื่อนก็อาย เลยขอระบายในที่นี้ค่ะ
ฉันเชื่อว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ก็อยากจะใส่ชุดเจ้าสาว มีงานแต่งงานสวยๆ อยู่กับสามีที่ดีและร่วมกันสร้างครอบครัวที่อบอุ่น แล้วก็คงมีส่วนหนึ่งที่อยากพบกับผู้ชายแบบพ่อตัวเอง แต่ไม่ใช่สำหรับฉัน ผู้ชายแบบพ่อ (และอีกหลายเรื่องราวรอบตัว) ทำให้การแต่งงานไม่เคยอยู่ในความคิดฉันเลยค่ะ
พ่อเป็นคนอารมณ์ร้อน ชอบเสียงดัง และพูดจาไม่ดี ยิ่งตอนที่ดื่มมาด้วยแล้ว ยิ่งแย่กว่าเดิมอีกค่ะ เวลาไม่พอใจอะไรก็ปึงปัง ลงกับข้าวของ (แต่ก็ยังดีนะคะที่ไม่เคยลงไม้ลงมือ) นิสัยของพ่อที่กล่าวมานี่จะทำแต่กับคนในบ้านนะคะ พอออกไปเจอคนอื่นก็จะพูดจาดีขึ้นมาได้ เราก็เสียใจ กับคนอื่นพูดดีด้วยได้ แต่กับคนในบ้านทำไมต้องมาพูดจาแบบนี้ใส่ด้วยก็ไม่รู้นอกจากนี้ พ่อยังไม่เคยมองว่าตัวเองทำอะไรผิด คิดว่าตัวเองดี สิ่งที่อื่นทำมันไม่เคยจะมีคุณค่า ตอนเด็กๆ ฉันก็ไม่รู้เรื่องอะไรมากหรอกค่ะ ได้แต่เห็นแม่เสียใจ ตอนนี้ก็โตจนรับรู้ได้เองแล้ว
เรื่องราวที่เป็นปัญหามากที่สุดคือเรื่องข้างของในบ้าน พ่อจะชอบขนข้าวของมากมายเข้าบ้าน สารพัดอย่าง ทั้งหนังสือ อุปกรณ์ต่างๆ เสื้อผ้า วางอยู่ทั่วบ้าน จนไม่มีที่จะเก็บ ส่วนแม่ก็เป็นคนมีระเบียบค่ะ ไม่ชอบเห็นอะไรรกๆ ก็จะชอบเก็บชอบจัด อะไรที่ไม่ใช้ก็จะทิ้งหรือไม่ก็เอาไปบริจาค แต่ของพ่อนี่ไม่ได้เลย ปกติก็ไม่เคยจะหยิบมาใช้หรอก แต่พอจะทิ้งก็ได้ใช้ขึ้นมาทันที แม่ก็เลยได้แต่จัดข้าวของของพ่อให้เป็นระเบียบเท่านั้น เคยบอกให้พ่อคัดแยกของที่ไม่ใช้ออกมาบ้างนะคะ แต่พ่อก็จะเดี๋ยวก่อน ไม่ว่าง ผลัดไปเรื่อยไม่เคยทำสักที ทีนี้ ด้วยความที่แม่เป็นคนเก็บของ เวลาพ่อหาอะไรไม่เจอเขาก็จะโมโหแล้วก็โทษแม่ โดยที่เราก็ไม่รู้ว่าของมันเคยอยู่ตรงนั้นหรือเปล่า เพราะแม่เองก็จำไม่ได้ แค่จัดของเท่านั้น ไม่เคยทิ้งอะไรเลยค่ะ
มาพูดถึงเหตุการณ์ที่ทำให้ฉันตัดสินใจเขียนกระทู้นี้ขึ้นมาดีกว่าค่ะ อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่าพ่อได้วางข้าวของไว้ทั่วบ้าน ตอนนี้พ่อยึดเอาโต๊ะกินข้าวในครัวเป็นโต๊ะทำงานไปแล้วค่ะ จึงมีข้าวของของพ่อวางอยู่บนโต๊ะ กินพื้นที่ไปส่วนหนึ่ง (จริงแล้วโต๊ะนี้ก็ไม่ค่อยได้ใช้นั่งกินข้าวเท่าไหร่หรอกค่ะ ส่วนใหญ่จะไปกินที่บ้านอากง หรือไม่ก็ยกเข้าไปกินหน้าทีวีกัน) วันนี้พี่ชายฉันทำกับข้าวค่ะ ต้องใช้โต๊ะตัวนั้นวางวัตถุดิบและเตรียมอาหาร แล้วพี่ฉันเวลาทำอะไรจริงจังก็จะ “เยอะ” เลยใช้พื้นที่เยอะไปด้วย ชั้นเลยจัดการเอาข้าวของพ่อส่วนหนึ่งใส่ถุงไว้ แล้วก็วางไว้บนโต๊ะนั่นล่ะคะ ไม่ได้เอาไปไหนเลย แค่จะเพิ่มพื้นที่บนโต๊ะให้โล่งขึ้นอีกหน่อย พอพ่อกลับมาเห็นเข้าก็โมโหค่ะ โวยวายเหมือนว่าบ้านนี้ไม่มีพื้นที่สำหรับเขาเลย แล้วก็ออกจากบ้านไปอีกพร้อมกับของเหล่านั้น (ของที่ว่ามันคือหัวเข็มขัดที่พ่อทำเองค่ะ สงสัยคงจะรักมากนะคะ รักมากกว่าลูกอีกมั้ง) คืนนี้ ฉันอยู่กับพ่อแค่สองคนค่ะ แม่กับพี่ไม่อยู่ พอพ่อกลับเข้าบ้านมาอีกด้วยท่าทางที่ยังโมโหอยู่ ฉันก็เลยหนีเข้าห้อง แต่ก็ยังมิวายได้ยินเสียงด่าและเสียงปึงปังที่เขาทำ พ่อไม่เคยด่าใส่หน้าหรอกนะคะ แต่ก็พูดเสียงดังอยู่ในบ้านเนี่ยแหละ ไม่มีทางที่จะไม่ได้ยิน
นี่ล่ะค่ะ คิดดูสิคะว่าถ้าเจอแบบนี้ประจำจะรู้สึกยังไง แต่ถึงยังไงพ่อก็ไม่ได้เลวร้ายไปทั้งหมดหรอกค่ะ เวลาดีๆ พ่อก็จะใจดีตามใจฉันมากกว่าแม่อีกค่ะ ฉันรักพ่อนะคะ แต่ฉันก็ยังกลัว กลัวว่าจะเจอผู้ชายแบบพ่อแล้วต้องเป็นทุกข์เหมือนแม่ จึงขออยู่ตัวคนเดียวไปดีกว่า
ถึงแม้ว่าฉันจะชอบอ่านนิยาย เพ้อฝันถึงความรักที่โรแมนติก แต่ความเป็นจริงที่พบก็บอกว่าผู้ชายดีๆ มันมีแต่ในนิยายเท่านั้นค่ะ
ขอบคุณที่คนที่เข้ามาอ่านที่ฉันบ่นนะคะ
เมื่อพ่อทำให้ฉันไม่เคยคิดอยากจะแต่งงาน
ฉันเชื่อว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ก็อยากจะใส่ชุดเจ้าสาว มีงานแต่งงานสวยๆ อยู่กับสามีที่ดีและร่วมกันสร้างครอบครัวที่อบอุ่น แล้วก็คงมีส่วนหนึ่งที่อยากพบกับผู้ชายแบบพ่อตัวเอง แต่ไม่ใช่สำหรับฉัน ผู้ชายแบบพ่อ (และอีกหลายเรื่องราวรอบตัว) ทำให้การแต่งงานไม่เคยอยู่ในความคิดฉันเลยค่ะ
พ่อเป็นคนอารมณ์ร้อน ชอบเสียงดัง และพูดจาไม่ดี ยิ่งตอนที่ดื่มมาด้วยแล้ว ยิ่งแย่กว่าเดิมอีกค่ะ เวลาไม่พอใจอะไรก็ปึงปัง ลงกับข้าวของ (แต่ก็ยังดีนะคะที่ไม่เคยลงไม้ลงมือ) นิสัยของพ่อที่กล่าวมานี่จะทำแต่กับคนในบ้านนะคะ พอออกไปเจอคนอื่นก็จะพูดจาดีขึ้นมาได้ เราก็เสียใจ กับคนอื่นพูดดีด้วยได้ แต่กับคนในบ้านทำไมต้องมาพูดจาแบบนี้ใส่ด้วยก็ไม่รู้นอกจากนี้ พ่อยังไม่เคยมองว่าตัวเองทำอะไรผิด คิดว่าตัวเองดี สิ่งที่อื่นทำมันไม่เคยจะมีคุณค่า ตอนเด็กๆ ฉันก็ไม่รู้เรื่องอะไรมากหรอกค่ะ ได้แต่เห็นแม่เสียใจ ตอนนี้ก็โตจนรับรู้ได้เองแล้ว
เรื่องราวที่เป็นปัญหามากที่สุดคือเรื่องข้างของในบ้าน พ่อจะชอบขนข้าวของมากมายเข้าบ้าน สารพัดอย่าง ทั้งหนังสือ อุปกรณ์ต่างๆ เสื้อผ้า วางอยู่ทั่วบ้าน จนไม่มีที่จะเก็บ ส่วนแม่ก็เป็นคนมีระเบียบค่ะ ไม่ชอบเห็นอะไรรกๆ ก็จะชอบเก็บชอบจัด อะไรที่ไม่ใช้ก็จะทิ้งหรือไม่ก็เอาไปบริจาค แต่ของพ่อนี่ไม่ได้เลย ปกติก็ไม่เคยจะหยิบมาใช้หรอก แต่พอจะทิ้งก็ได้ใช้ขึ้นมาทันที แม่ก็เลยได้แต่จัดข้าวของของพ่อให้เป็นระเบียบเท่านั้น เคยบอกให้พ่อคัดแยกของที่ไม่ใช้ออกมาบ้างนะคะ แต่พ่อก็จะเดี๋ยวก่อน ไม่ว่าง ผลัดไปเรื่อยไม่เคยทำสักที ทีนี้ ด้วยความที่แม่เป็นคนเก็บของ เวลาพ่อหาอะไรไม่เจอเขาก็จะโมโหแล้วก็โทษแม่ โดยที่เราก็ไม่รู้ว่าของมันเคยอยู่ตรงนั้นหรือเปล่า เพราะแม่เองก็จำไม่ได้ แค่จัดของเท่านั้น ไม่เคยทิ้งอะไรเลยค่ะ
มาพูดถึงเหตุการณ์ที่ทำให้ฉันตัดสินใจเขียนกระทู้นี้ขึ้นมาดีกว่าค่ะ อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่าพ่อได้วางข้าวของไว้ทั่วบ้าน ตอนนี้พ่อยึดเอาโต๊ะกินข้าวในครัวเป็นโต๊ะทำงานไปแล้วค่ะ จึงมีข้าวของของพ่อวางอยู่บนโต๊ะ กินพื้นที่ไปส่วนหนึ่ง (จริงแล้วโต๊ะนี้ก็ไม่ค่อยได้ใช้นั่งกินข้าวเท่าไหร่หรอกค่ะ ส่วนใหญ่จะไปกินที่บ้านอากง หรือไม่ก็ยกเข้าไปกินหน้าทีวีกัน) วันนี้พี่ชายฉันทำกับข้าวค่ะ ต้องใช้โต๊ะตัวนั้นวางวัตถุดิบและเตรียมอาหาร แล้วพี่ฉันเวลาทำอะไรจริงจังก็จะ “เยอะ” เลยใช้พื้นที่เยอะไปด้วย ชั้นเลยจัดการเอาข้าวของพ่อส่วนหนึ่งใส่ถุงไว้ แล้วก็วางไว้บนโต๊ะนั่นล่ะคะ ไม่ได้เอาไปไหนเลย แค่จะเพิ่มพื้นที่บนโต๊ะให้โล่งขึ้นอีกหน่อย พอพ่อกลับมาเห็นเข้าก็โมโหค่ะ โวยวายเหมือนว่าบ้านนี้ไม่มีพื้นที่สำหรับเขาเลย แล้วก็ออกจากบ้านไปอีกพร้อมกับของเหล่านั้น (ของที่ว่ามันคือหัวเข็มขัดที่พ่อทำเองค่ะ สงสัยคงจะรักมากนะคะ รักมากกว่าลูกอีกมั้ง) คืนนี้ ฉันอยู่กับพ่อแค่สองคนค่ะ แม่กับพี่ไม่อยู่ พอพ่อกลับเข้าบ้านมาอีกด้วยท่าทางที่ยังโมโหอยู่ ฉันก็เลยหนีเข้าห้อง แต่ก็ยังมิวายได้ยินเสียงด่าและเสียงปึงปังที่เขาทำ พ่อไม่เคยด่าใส่หน้าหรอกนะคะ แต่ก็พูดเสียงดังอยู่ในบ้านเนี่ยแหละ ไม่มีทางที่จะไม่ได้ยิน
นี่ล่ะค่ะ คิดดูสิคะว่าถ้าเจอแบบนี้ประจำจะรู้สึกยังไง แต่ถึงยังไงพ่อก็ไม่ได้เลวร้ายไปทั้งหมดหรอกค่ะ เวลาดีๆ พ่อก็จะใจดีตามใจฉันมากกว่าแม่อีกค่ะ ฉันรักพ่อนะคะ แต่ฉันก็ยังกลัว กลัวว่าจะเจอผู้ชายแบบพ่อแล้วต้องเป็นทุกข์เหมือนแม่ จึงขออยู่ตัวคนเดียวไปดีกว่า
ถึงแม้ว่าฉันจะชอบอ่านนิยาย เพ้อฝันถึงความรักที่โรแมนติก แต่ความเป็นจริงที่พบก็บอกว่าผู้ชายดีๆ มันมีแต่ในนิยายเท่านั้นค่ะ
ขอบคุณที่คนที่เข้ามาอ่านที่ฉันบ่นนะคะ