คบกัน3ปี..แยกย้ายกันไปตามหาฝัน...ติดต่อกันแบบไม่ได้เลิกกันแต่อยู่ห่างกันมา6ปี..จบกันปีที่9เมื่อมือที่สามมาเยือน
มีเรื่องสับสนค่ะ เรื่องนี้อาจเป็นอุทาหรณ์กับหลายๆคนนะคะ ว่าขีวิตเราอย่ามัวแต่รอ หรือเดี๋ยวอยากทำอะไรควรทำ...เพราะสุดท้ายความแน่นอนก็คือความไม่แน่นอน..จนได้
ถ้าหากเป็นคุณ จะทำอย่างไรคะ...จากเรื่องราวต่อไปนี้
เป็นคุณจะติดต่อแฟนเก่าของคุณคนนี้อีกไหมคะ
พอดีเราอยู่ไกลกัน..และฉันกำลังจะข้ามทวีป..ไปในที่ๆเขาอยู่..เพื่อไปเที่ยวค่ะ..ใจนึงก็อยากเห็นว่าเขาเป็นอย่างไรบ้างแล้ว..8 ปีที่เราไม่เจอกันตัวเป็นๆแต่อีกใจเค้าทิ้งเราไปนะ
เรื่องของเรามันยาวนาน...ตลอดระยะเวลา9ปีแต่ขอเล่าโดยสังเขป...เรามาย้อนเวลากลับไป..ด้วยกันนะคะ
มีแฟน คบมา 3 ปี เค้าไปอยู่อเมริกา
เรารักกันดี ติดต่อกันตลอด คุยสไกด์หากัน คิดถึงกันเสมอ ทุกๆคืนก่อนที่เขาจะนอน
กลางคืนเขา..กลางวันฉัน..เรามักจะได้คุยเล่าเรื่องราวในชีวิตกันด้วย FaceTime
ติดต่อแบบไม่เจอหน้ากัน ตั้งแต่ ปี 2550 จน 2556 ปลายปี..เนื่องจากฉันเองต้องเรียนโทและทำงานประจำอยู่ที่นี่ ทำให้ไม่ได้ไปหาเค้าสักที....
....คิดแต่ว่าเดี๋ยวเรา...ก็เจอกัน
เราวางแผนกันไว้ว่า กลางปี57 หากฉันจบโท จะไปฉลองกับเขาที่นั่น....แต่แล้วกลับไม่มีอีกแล้ว
ปลายปี56 เมื่อเดือน ธ.ค. รักเราเริ่มสั่นคลอน ฉันรูสึกว่าเขาเปลี่ยนไป
เค้า ไม่เหมือนเดิม ฉันรู้สึกได้
จนวันหนึ่ง ฉันเห็น ผู้หญิง คนหนึ่ง สวย เซกซี่ เปรี้ยวจี้ดมาก
มาtag ใน ไอจี แฟนฉัน ว่าแบบ รอด้วยนะตัว ไรอย่างนี้
ฉันโทรหาเขา เขาไม่ยอมรับ บอกว่าเป็นเพื่อน
ช่วงนั้นฉันสับสน กระวนกระวาย
โทรหาเค้าบ่อยๆ เพราะอยากแน่ใจ ช่วงนั้นก็ เริ่มเข้าคริสมาส ปี 2556
โทรไปไม่ค่อยรับ โทรกลับ ก็คุยกันนิดเดียว จนรู้สึกเลยว่ามันมีอะไรแน่ๆ
แต่...เขาก็ไม่ยอมรับ
จนวันหนึ่ง มค. 2557 ฉัน คาดคั้นเค้าเพราะรูปโฟรไฟล ในไลด์ที่เค้าเปลี่ยน มันเป็นตรีมเดียวกับ
ผู้หญิงคนนั้น สีภาพและสถานที่ สื่อว่าเขาไปด้วยกัน
เหมือน ต่างคนต่างเหงามา เจอกัน ณ นิวยอค ซิตี้...
เค้าไม่ยอมรับเหมือนเดิม บอกว่าเพื่อน...
จนแล้วหลัง วาเลนไทด์ ปี 2557
ความจริงปรากฎ 18 กพ 2557
ฉันเห็นแฟนฉันโพสรูปบ้านที่หลังคาเต็มไปด้วยหิมะปกคลุม...ใช่ค่ะ...ผู้หญิงผู้น่าสงสัยคนนั้น..ก็โพสรูปเดียวกัน...เป็นคุณ...จะว่าอย่างไรคะ...รูปที่มาจากมุมมองเดียวกัน..จากหน้าต่างบ้านเดียวกันสินะ
ตัวฉันชาไปหมดเบยค่ะ_มันเหวงๆเบาๆชอคๆ
โทรหาเขา เขาบอกว่า อะไรไม่รู้เรื่อง..ไม่มีสาระ
ฉันจ้องจับผิดเขา..อย่าทำนิสัยแบบนี้..เสียใจมากค่ะ
ในวันเดียวกัน ฉันไลด์หาเขา ไม่ได้อ่านเลย..จึงรู้สึกว่าเราถูกblocked แน่ๆ ฉันโทรหาเค้า ทั้งวัน หลายสายมาก นับ ร้อย เพราะเค้าไม่รับไม่โทรกลับ ตลอดช่วงเวลา
เที่ยงวัน – เที่ยงคืน ซึ่ง ปกติไม่เป็นแบบนี้
อย่างไร เค้าก็จะติดต่อมา บอกฉันว่า เค้าทำอะไรอยู่
สายที่ ร้อย จบลง...
สักพักหนึ่ง..แฟนฉันโทรกลับมา
น้ำเสียงนิ่ง เย็น เงียบ
ถามว่าโทรมามีอะไร...ฉันวีนเค้าทันที..เป็นอะไรทำไมบลอคเค้า..ทำไม...เค้าตอบมาสั้นๆ คำเดียวว่า
"พี่จะบอกอะไรให้นะ....เงียบ...เงียบ..ฉันอึ้งภาวนาในใจว่า ขอให้เขาตอบแบบเดิม...แต่เค้าพูดต่อมาว่า"พี่มีแฟนใหม่แล้ว...พอใจไหม...อยากให้พี่พูดไม่ใช่หรอ"..เสียงเหมือนร้องไห้..แล้ววางสายไปทันที
ฉันอึ้ง ตัวชา ร้องไห้ สับสนไปหมด และเลือกที่จะโทรหาอีกคน คู่กรณี ผู้หญิง คนนั้น
ทุกข้อคำถามที่ข้องใจ ทุกเหตุการณ์ที่สงสัย
ผู้ หญิง คนนั้น เหมือน อึ้งไป แต่ก็ไม่รับ
บอกว่า มีแฟนแล้ว และมีแฟนเยอะ และไม่รู้มาก่อน ว่า เขามีแฟนแล้วที่ไทย
แล้ว หากเป็นเรื่องจริง นางจะถอยเอง แลดูขัดกันนะคะ
ปากบอกเป็นเพื่อน แต่นางจะถอย นางบอกฉันว่าคบกันมาจะสิบปีแล้ว คุยกันดีๆสิ ...จบไปวางสาย
คบกัน3ปี..แยกย้ายกันไปตามหาฝัน..ติดต่อกันแบบไม่ได้เลิกกันแต่อยู่ห่างกันมา6ปี..จบกันปีที่9เพราะมือที่สาม.จะคุยกันอีกดีไหม
มีเรื่องสับสนค่ะ เรื่องนี้อาจเป็นอุทาหรณ์กับหลายๆคนนะคะ ว่าขีวิตเราอย่ามัวแต่รอ หรือเดี๋ยวอยากทำอะไรควรทำ...เพราะสุดท้ายความแน่นอนก็คือความไม่แน่นอน..จนได้
ถ้าหากเป็นคุณ จะทำอย่างไรคะ...จากเรื่องราวต่อไปนี้
เป็นคุณจะติดต่อแฟนเก่าของคุณคนนี้อีกไหมคะ
พอดีเราอยู่ไกลกัน..และฉันกำลังจะข้ามทวีป..ไปในที่ๆเขาอยู่..เพื่อไปเที่ยวค่ะ..ใจนึงก็อยากเห็นว่าเขาเป็นอย่างไรบ้างแล้ว..8 ปีที่เราไม่เจอกันตัวเป็นๆแต่อีกใจเค้าทิ้งเราไปนะ
เรื่องของเรามันยาวนาน...ตลอดระยะเวลา9ปีแต่ขอเล่าโดยสังเขป...เรามาย้อนเวลากลับไป..ด้วยกันนะคะ
มีแฟน คบมา 3 ปี เค้าไปอยู่อเมริกา
เรารักกันดี ติดต่อกันตลอด คุยสไกด์หากัน คิดถึงกันเสมอ ทุกๆคืนก่อนที่เขาจะนอน
กลางคืนเขา..กลางวันฉัน..เรามักจะได้คุยเล่าเรื่องราวในชีวิตกันด้วย FaceTime
ติดต่อแบบไม่เจอหน้ากัน ตั้งแต่ ปี 2550 จน 2556 ปลายปี..เนื่องจากฉันเองต้องเรียนโทและทำงานประจำอยู่ที่นี่ ทำให้ไม่ได้ไปหาเค้าสักที....
....คิดแต่ว่าเดี๋ยวเรา...ก็เจอกัน
เราวางแผนกันไว้ว่า กลางปี57 หากฉันจบโท จะไปฉลองกับเขาที่นั่น....แต่แล้วกลับไม่มีอีกแล้ว
ปลายปี56 เมื่อเดือน ธ.ค. รักเราเริ่มสั่นคลอน ฉันรูสึกว่าเขาเปลี่ยนไป
เค้า ไม่เหมือนเดิม ฉันรู้สึกได้
จนวันหนึ่ง ฉันเห็น ผู้หญิง คนหนึ่ง สวย เซกซี่ เปรี้ยวจี้ดมาก
มาtag ใน ไอจี แฟนฉัน ว่าแบบ รอด้วยนะตัว ไรอย่างนี้
ฉันโทรหาเขา เขาไม่ยอมรับ บอกว่าเป็นเพื่อน
ช่วงนั้นฉันสับสน กระวนกระวาย
โทรหาเค้าบ่อยๆ เพราะอยากแน่ใจ ช่วงนั้นก็ เริ่มเข้าคริสมาส ปี 2556
โทรไปไม่ค่อยรับ โทรกลับ ก็คุยกันนิดเดียว จนรู้สึกเลยว่ามันมีอะไรแน่ๆ
แต่...เขาก็ไม่ยอมรับ
จนวันหนึ่ง มค. 2557 ฉัน คาดคั้นเค้าเพราะรูปโฟรไฟล ในไลด์ที่เค้าเปลี่ยน มันเป็นตรีมเดียวกับ
ผู้หญิงคนนั้น สีภาพและสถานที่ สื่อว่าเขาไปด้วยกัน
เหมือน ต่างคนต่างเหงามา เจอกัน ณ นิวยอค ซิตี้...
เค้าไม่ยอมรับเหมือนเดิม บอกว่าเพื่อน...
จนแล้วหลัง วาเลนไทด์ ปี 2557
ความจริงปรากฎ 18 กพ 2557
ฉันเห็นแฟนฉันโพสรูปบ้านที่หลังคาเต็มไปด้วยหิมะปกคลุม...ใช่ค่ะ...ผู้หญิงผู้น่าสงสัยคนนั้น..ก็โพสรูปเดียวกัน...เป็นคุณ...จะว่าอย่างไรคะ...รูปที่มาจากมุมมองเดียวกัน..จากหน้าต่างบ้านเดียวกันสินะ
ตัวฉันชาไปหมดเบยค่ะ_มันเหวงๆเบาๆชอคๆ
โทรหาเขา เขาบอกว่า อะไรไม่รู้เรื่อง..ไม่มีสาระ
ฉันจ้องจับผิดเขา..อย่าทำนิสัยแบบนี้..เสียใจมากค่ะ
ในวันเดียวกัน ฉันไลด์หาเขา ไม่ได้อ่านเลย..จึงรู้สึกว่าเราถูกblocked แน่ๆ ฉันโทรหาเค้า ทั้งวัน หลายสายมาก นับ ร้อย เพราะเค้าไม่รับไม่โทรกลับ ตลอดช่วงเวลา
เที่ยงวัน – เที่ยงคืน ซึ่ง ปกติไม่เป็นแบบนี้
อย่างไร เค้าก็จะติดต่อมา บอกฉันว่า เค้าทำอะไรอยู่
สายที่ ร้อย จบลง...
สักพักหนึ่ง..แฟนฉันโทรกลับมา
น้ำเสียงนิ่ง เย็น เงียบ
ถามว่าโทรมามีอะไร...ฉันวีนเค้าทันที..เป็นอะไรทำไมบลอคเค้า..ทำไม...เค้าตอบมาสั้นๆ คำเดียวว่า
"พี่จะบอกอะไรให้นะ....เงียบ...เงียบ..ฉันอึ้งภาวนาในใจว่า ขอให้เขาตอบแบบเดิม...แต่เค้าพูดต่อมาว่า"พี่มีแฟนใหม่แล้ว...พอใจไหม...อยากให้พี่พูดไม่ใช่หรอ"..เสียงเหมือนร้องไห้..แล้ววางสายไปทันที
ฉันอึ้ง ตัวชา ร้องไห้ สับสนไปหมด และเลือกที่จะโทรหาอีกคน คู่กรณี ผู้หญิง คนนั้น
ทุกข้อคำถามที่ข้องใจ ทุกเหตุการณ์ที่สงสัย
ผู้ หญิง คนนั้น เหมือน อึ้งไป แต่ก็ไม่รับ
บอกว่า มีแฟนแล้ว และมีแฟนเยอะ และไม่รู้มาก่อน ว่า เขามีแฟนแล้วที่ไทย
แล้ว หากเป็นเรื่องจริง นางจะถอยเอง แลดูขัดกันนะคะ
ปากบอกเป็นเพื่อน แต่นางจะถอย นางบอกฉันว่าคบกันมาจะสิบปีแล้ว คุยกันดีๆสิ ...จบไปวางสาย