สรุปแบบยาวไปไม่อ่าน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ผมคิดว่าในเกมเจอกับบุรีรัมย์ โค๊ชสุพรรณไม่ได้ทำทีมแบบไร้ศักดิ์ศรี แต่หวังผลระยะยาวมากกว่า
เรื่องที่จะเขียนถึงนี้ คิดว่าเป็นเรื่องที่อาจจะเคยได้ยินกันมาบ้าง เรื่องแข่งม้าสามตัว
เป็นเรื่องจริงที่เกิดในยุคชุนชิว ยุคสงครามระหว่างรัฐก่อนที่จะมีการรวมชาติจีน
ในช่วงกลางยุคชุนชิว มีกุนซือนามว่าซุนปิน
ซุนปินเป็นลูกหลานซุนวูที่คนไทยรู้จักกันดี เล่าเรียนพิชัยสงคราม โชคร้ายมีเพื่อนทะเยอทะยานกลัวว่าซุนปินจะขัดขวางความเจริญก้าวหน้า จึงวางแผนป้ายสีจนซุนปินถูกลงโทษทรมานโดนตัดเอ็นขา ต้องใช้ชีวิตบนรถเข็น ทั้งต้องแกล้งบ้าเพื่อไม่ให้เพื่อนเห็นว่าเป็นเสี้ยนหนาม
แต่ซุนปินยังโชคดีที่มีต่างแคว้นช่วยชีวิตทั้งยังมอบตำแหน่งราชการให้ จนภายหลังซุนปินสร้างชื่อเสียงใหญ่โต ทั้งยังเอาชนะเพื่อนเลวที่ทำให้ตกระกำลำบากได้อีกด้วย
เหตุการณ์นี้เกิดระหว่างซุนปินรับราชการอยู่ในรัฐฉี
ขณะรับอยู่ในรัฐฉี ซุนปินสนิทสนมกับแม่ทัพเถียนจี้ผู้ชื่นชอบการแข่งม้า แต่ม้าของเถียนจี้ลงแข่งเท่าไหร่ก็ไม่ชนะสักที ซุนปินที่ดูอยู่นั้นได้อธิบายกับเถียนจี้ว่า ในการแข่งม้าที่ใช้ผลชนะจากสามครั้ง ที่ผ่านมาเถียนจี้ใช้ม้าเร็วแข่งกับม้าเร็ว ม้าเร็วปานกลางแข่งกับเร็วปานกลาง ม้าช้าแข่งกับม้าช้า เมื่อม้าทั้งสองฝ่ายมีฝีเท้าคู่คี่สูสี จึงทำให้มีโอกาสชนะเพียงครึ่งต่อครึ่งทั้งสามครั้ง
ซุนปินวางแผนให้เถียนจี้ใหม่ โดยให้จับคู่ม้าดังนี้
- ม้าที่ช้าที่สุดของซุนปิน ให้แข่งกับม้าที่เร็วที่สุดของคู่แข่ง
- ม้าเร็วปานกลาง ให้แข่งกับม้าที่ช้าที่สุด
- ม้าเร็วที่สุด ให้แข่งกับม้าเร็วปานกลาง
เมื่อยอมทิ้งผลแพ้ชนะเพียงหนึ่งครั้งเพื่อกุมความได้เปรียบสองครั้ง เถียนจี้จึงชนะการแข่งแบบ 2 ใน 3 ทุกครั้ง ได้เงินกลับมามากมาย
การบริหารม้าของซุนปินนั้น ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีใครเอามาใช้กับฟุตบอล
เราเห็นเกมที่เมื่อเจอกับทีมที่อ่อนกว่ามาก โค๊ชเลือกจะพักตัวหลักให้โอกาสตัวสำรอง
เมื่อเจอทีมที่เมื่อเจอทีมระดับกลางตารางที่มีโอกาสพลิกล็อค ก็เลือกใช้ตัวหลักฟูลทีม
แต่การยอมทิ้งผลเมื่อเจอกับทีมแข็งแกร่งกว่านั้น เป็นเรื่องที่ต้องขบคิดกว่าการพนันม้าแข่ง
เพราะแฟนบอลย่อมหวังจะเห็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุดเจอกับทีมที่แข็งแกร่ง
ทางหนึ่งเมื่อออมกำลัง โอกาสที่ผลจะออกมามีแพ้กับเสมอมากกว่าชนะ
แต่การได้หนึ่งหรือศูนย์แต้มเพื่อโอกาสได้สามแต้มในสถานการณืได้เปรียบอย่างการเล่นเป็นเจ้าบ้านนั้นน่าเย้ายวน
สามหรือสี่แต้มจากสองเกมย่อมดีกว่าศูนย์แต้มจากสองเกม
เมื่อแสดงออกว่าไม่ใช้กำลังเต็มที่ ผู้ติดตามทีมย่อมไม่พอใจ
ทั้งฟุตบอลมีโอกาสอกผลถึงสามหน้า และทีมตรงข้ามไม่ใช่ม้าแข่ง จึงสามารถมีกำลังฮึดขึ้นมา
โอกาสที่จะได้ศูนย์แต้มจากสองเกมก็มี
ผลจากนัดแรกแม้สุพรรณบุรีจะพยายามอย่างเต็มที่ เล่นเกมตามแผนการ วิ่งลืมตายจนตะคริวกินครึ่งทีม
สุดท้ายสุพรรณก็ไม่สามารถต้านทานกำลังของบุรีรัมย์ได้ จึงไม่มีแต้มกลับมา
และทั้งฟอร์มการเล่นกับบทสัมพาษณ์ที่ไม่ระมัดระวังของโค๊ช ทำให้แฟนบอลที่ติดตามไม่พอใจอย่างมาก
ผลแพ้ชนะโค๊ชอาจคิดไว้ แต่ปฏิกิริยาของแฟนบอลนั้นน่าจะไม่ใช่สิ่งที่โค๊ชคาดคิดไว้
ฟุตบอลไม่ใช่สงคราม กีฬาคือความบันเทิงไม่ใช่การฆ่าฟัน ผู้ชมต้องการความบันเทิง
นั่นเป็นสิ่งทีสุพรรณและทุกทีมในลีกต้องพึงระลึกเสมอ
แต่ผมคิดว่าแม่ทัพของสุพรรณบุรี เลือกผลในระยะยาวมากกว่าระยะสั้น
ฟุตบอลลีกเป็นสงครามยาวหนึ่งปี มีการแข่งขัน 34 ครั้ง ไม่ใช่แข่งม้า 3 ครั้ง
สุพรรณบุรีกล้ำกลืนความพ่ายแพ้เพื่อสามวันข้างหน้า และอีกสามเดือนข้างหน้า
หากมีเกมที่โอกาสชนะสูงเพียงนัดเดียว ผมก็เชื่อว่าโค๊ชเลือกจะไขว่คว้าเพื่อให้ขวัญกำลังใจของทีมกลับมา
แม้จะไม่ได้หนึ่งแต้มจากบุรีรัมย์ แต่สามแต้มจากเกมในบ้าน เป็นสามแต้มที่สำคัญมาก
และแม่ทัพของสุพรรณบุรีไม่ใช่ผู้ไร้เกียรติ แต่เป็นผู้ที่พยายามต่อสู้เพื่อผลลัพท์ในอีกสามเดือนข้างหน้า
ผมหวังว่าการเสี่ยงดวงครั้งนี้จะทำให้สุพรรณบุรีฟื้นขึ้นมาได้อีกครั้ง
และหวังว่าแฟนบอลสุพรรณบุรีจะยังศรัทธาติดตามต่อไป.....ถึงโค๊ชแกจะปากพาจนแบบนั้นก็เถอะนะ
แม่ทัพกับโค๊ช แข่งม้ากับแข่งฟุตบอล พิชัยสงครามกับฟุตบอลลีก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เรื่องที่จะเขียนถึงนี้ คิดว่าเป็นเรื่องที่อาจจะเคยได้ยินกันมาบ้าง เรื่องแข่งม้าสามตัว
เป็นเรื่องจริงที่เกิดในยุคชุนชิว ยุคสงครามระหว่างรัฐก่อนที่จะมีการรวมชาติจีน
ในช่วงกลางยุคชุนชิว มีกุนซือนามว่าซุนปิน
ซุนปินเป็นลูกหลานซุนวูที่คนไทยรู้จักกันดี เล่าเรียนพิชัยสงคราม โชคร้ายมีเพื่อนทะเยอทะยานกลัวว่าซุนปินจะขัดขวางความเจริญก้าวหน้า จึงวางแผนป้ายสีจนซุนปินถูกลงโทษทรมานโดนตัดเอ็นขา ต้องใช้ชีวิตบนรถเข็น ทั้งต้องแกล้งบ้าเพื่อไม่ให้เพื่อนเห็นว่าเป็นเสี้ยนหนาม
แต่ซุนปินยังโชคดีที่มีต่างแคว้นช่วยชีวิตทั้งยังมอบตำแหน่งราชการให้ จนภายหลังซุนปินสร้างชื่อเสียงใหญ่โต ทั้งยังเอาชนะเพื่อนเลวที่ทำให้ตกระกำลำบากได้อีกด้วย
เหตุการณ์นี้เกิดระหว่างซุนปินรับราชการอยู่ในรัฐฉี
ขณะรับอยู่ในรัฐฉี ซุนปินสนิทสนมกับแม่ทัพเถียนจี้ผู้ชื่นชอบการแข่งม้า แต่ม้าของเถียนจี้ลงแข่งเท่าไหร่ก็ไม่ชนะสักที ซุนปินที่ดูอยู่นั้นได้อธิบายกับเถียนจี้ว่า ในการแข่งม้าที่ใช้ผลชนะจากสามครั้ง ที่ผ่านมาเถียนจี้ใช้ม้าเร็วแข่งกับม้าเร็ว ม้าเร็วปานกลางแข่งกับเร็วปานกลาง ม้าช้าแข่งกับม้าช้า เมื่อม้าทั้งสองฝ่ายมีฝีเท้าคู่คี่สูสี จึงทำให้มีโอกาสชนะเพียงครึ่งต่อครึ่งทั้งสามครั้ง
ซุนปินวางแผนให้เถียนจี้ใหม่ โดยให้จับคู่ม้าดังนี้
- ม้าที่ช้าที่สุดของซุนปิน ให้แข่งกับม้าที่เร็วที่สุดของคู่แข่ง
- ม้าเร็วปานกลาง ให้แข่งกับม้าที่ช้าที่สุด
- ม้าเร็วที่สุด ให้แข่งกับม้าเร็วปานกลาง
เมื่อยอมทิ้งผลแพ้ชนะเพียงหนึ่งครั้งเพื่อกุมความได้เปรียบสองครั้ง เถียนจี้จึงชนะการแข่งแบบ 2 ใน 3 ทุกครั้ง ได้เงินกลับมามากมาย
การบริหารม้าของซุนปินนั้น ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีใครเอามาใช้กับฟุตบอล
เราเห็นเกมที่เมื่อเจอกับทีมที่อ่อนกว่ามาก โค๊ชเลือกจะพักตัวหลักให้โอกาสตัวสำรอง
เมื่อเจอทีมที่เมื่อเจอทีมระดับกลางตารางที่มีโอกาสพลิกล็อค ก็เลือกใช้ตัวหลักฟูลทีม
แต่การยอมทิ้งผลเมื่อเจอกับทีมแข็งแกร่งกว่านั้น เป็นเรื่องที่ต้องขบคิดกว่าการพนันม้าแข่ง
เพราะแฟนบอลย่อมหวังจะเห็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุดเจอกับทีมที่แข็งแกร่ง
ทางหนึ่งเมื่อออมกำลัง โอกาสที่ผลจะออกมามีแพ้กับเสมอมากกว่าชนะ
แต่การได้หนึ่งหรือศูนย์แต้มเพื่อโอกาสได้สามแต้มในสถานการณืได้เปรียบอย่างการเล่นเป็นเจ้าบ้านนั้นน่าเย้ายวน
สามหรือสี่แต้มจากสองเกมย่อมดีกว่าศูนย์แต้มจากสองเกม
เมื่อแสดงออกว่าไม่ใช้กำลังเต็มที่ ผู้ติดตามทีมย่อมไม่พอใจ
ทั้งฟุตบอลมีโอกาสอกผลถึงสามหน้า และทีมตรงข้ามไม่ใช่ม้าแข่ง จึงสามารถมีกำลังฮึดขึ้นมา
โอกาสที่จะได้ศูนย์แต้มจากสองเกมก็มี
ผลจากนัดแรกแม้สุพรรณบุรีจะพยายามอย่างเต็มที่ เล่นเกมตามแผนการ วิ่งลืมตายจนตะคริวกินครึ่งทีม
สุดท้ายสุพรรณก็ไม่สามารถต้านทานกำลังของบุรีรัมย์ได้ จึงไม่มีแต้มกลับมา
และทั้งฟอร์มการเล่นกับบทสัมพาษณ์ที่ไม่ระมัดระวังของโค๊ช ทำให้แฟนบอลที่ติดตามไม่พอใจอย่างมาก
ผลแพ้ชนะโค๊ชอาจคิดไว้ แต่ปฏิกิริยาของแฟนบอลนั้นน่าจะไม่ใช่สิ่งที่โค๊ชคาดคิดไว้
ฟุตบอลไม่ใช่สงคราม กีฬาคือความบันเทิงไม่ใช่การฆ่าฟัน ผู้ชมต้องการความบันเทิง
นั่นเป็นสิ่งทีสุพรรณและทุกทีมในลีกต้องพึงระลึกเสมอ
แต่ผมคิดว่าแม่ทัพของสุพรรณบุรี เลือกผลในระยะยาวมากกว่าระยะสั้น
ฟุตบอลลีกเป็นสงครามยาวหนึ่งปี มีการแข่งขัน 34 ครั้ง ไม่ใช่แข่งม้า 3 ครั้ง
สุพรรณบุรีกล้ำกลืนความพ่ายแพ้เพื่อสามวันข้างหน้า และอีกสามเดือนข้างหน้า
หากมีเกมที่โอกาสชนะสูงเพียงนัดเดียว ผมก็เชื่อว่าโค๊ชเลือกจะไขว่คว้าเพื่อให้ขวัญกำลังใจของทีมกลับมา
แม้จะไม่ได้หนึ่งแต้มจากบุรีรัมย์ แต่สามแต้มจากเกมในบ้าน เป็นสามแต้มที่สำคัญมาก
และแม่ทัพของสุพรรณบุรีไม่ใช่ผู้ไร้เกียรติ แต่เป็นผู้ที่พยายามต่อสู้เพื่อผลลัพท์ในอีกสามเดือนข้างหน้า
ผมหวังว่าการเสี่ยงดวงครั้งนี้จะทำให้สุพรรณบุรีฟื้นขึ้นมาได้อีกครั้ง
และหวังว่าแฟนบอลสุพรรณบุรีจะยังศรัทธาติดตามต่อไป.....ถึงโค๊ชแกจะปากพาจนแบบนั้นก็เถอะนะ