“เป้าหมายในการวิ่งมีมากมาย แต่สักครั้งขอลองวิ่งเพื่อคนอื่นดูบ้าง มันจะเป็นยังไงนะ ^^”
เมื่อเดือน ก.ค ที่ผ่าน จขกท วางแผนจะไปร่วมแข่งงานพัทยามาราธอน ในระยะฮาล์ฟมาราธอน( 21.1 กม.)ค่ะ มีการฝึกซ้อมวิ่งระยะนี้ เป้าหมายคือทำเวลาให้ได้ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง 45 นาที ซึ่งเป็นเวลาดีที่สุดที่ จขกท เคยทำไว้ที่งาน Human run 2014 ค่ะ
แต่ก่อนวันงาน 2 อาทิตย์ จุดเปลี่ยนก็มาถึง….
ใน Facebook จะมีกลุ่มนักวิ่งรวมตัวกันในชื่อ 42.195 Club…เราจะไปมาราธอนด้วยกัน โดยมีเทพนักวิ่ง 9 นิ้ว พี่ป๊อก เป็นแกนหลักของกลุ่มนี้ เป้าหมายหลักก็เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการวิ่งให้กันละกัน และพากันไปสู่จุดหมายมาราธอน 42.195 กม.ค่ะ โดยงาน “พัทยามาราธอน” เป็นหนึ่งในสนามมาราธอนสุดหินอันเลื่องลือในกลุ่มนักวิ่ง ว่าทางวิ่งโหดเป็นเนินเล็กเนินน้อยตลอดทาง และเมื่อคุณวิ่งไปถึง กม.ที่ 37 คุณจะเจอเนินสุดชันเขาพระตำหนัก ที่ทำเอานักวิ่งหลายคนหยุดเดินหรือตะคริวขึ้นกันมาหลายรายแล้ว จากเสน่ห์สุดโหดของสนามนี้จึงทำให้นักวิ่งหลายๆคน หวังจะพิชิตระยะมาราธอนครั้งแรก และอีกหลายคนหวังที่จะทำลายสถิติเวลาเดิมของตนเองในสนามนี้
แล้วทำไม จขกท จึงลงแค่ระยะฮาล์ฟ ไม่ใช่ฟูลมาราธอนละ ?...
จริงๆ จขกท อยากลงระยะมาราธอนที่สนามพัทยานะคะ แต่เนื่องจากเดือน มิ.ย ได้ไปร่วมรายการ “ลากูน่ามาราธอน” ที่ภูเก็ต ทำเวลาไป 3 ชั่วโมง 56 นาที ซึ่งสนามภูเก็ตก็โหดไม่แพ้พัทยาเลย ทำให้ จขกท ไม่มั่นใจว่าตัวเองจะฟื้นร่างกายทันสำหรับ งานพัทยาหรือไม่ ต่อให้ใจเราอยากวิ่งแค่ไหน เราควรจะฟังเสียงของร่างกายเราด้วย การปล่อยให้ความอยากมาอยู่เหนือสภาพร่างกาย มันไม่ได้ก่อให้เกิดผลดี เราอาจจะจบแบบเจ็บ ต้องหยุดวิ่งรักษาร่างกาย หรือโชคร้าย วิ่งก็ไม่จบ แถมเจ็บอีก ดังนั้น ระยะฮาล์ฟมาราธอน หลังฟูลมาราธอน 1 เดือน ดูปลอดภัยที่สุด ณ เวลานั้น
พัทยา Marathon Pacer 4.0 ชั่วโมง ….. อุ่นใจเมื่อเราไปด้วยกัน ^^
เมื่อเดือน ก.ค ที่ผ่าน จขกท วางแผนจะไปร่วมแข่งงานพัทยามาราธอน ในระยะฮาล์ฟมาราธอน( 21.1 กม.)ค่ะ มีการฝึกซ้อมวิ่งระยะนี้ เป้าหมายคือทำเวลาให้ได้ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง 45 นาที ซึ่งเป็นเวลาดีที่สุดที่ จขกท เคยทำไว้ที่งาน Human run 2014 ค่ะ
แต่ก่อนวันงาน 2 อาทิตย์ จุดเปลี่ยนก็มาถึง….
ใน Facebook จะมีกลุ่มนักวิ่งรวมตัวกันในชื่อ 42.195 Club…เราจะไปมาราธอนด้วยกัน โดยมีเทพนักวิ่ง 9 นิ้ว พี่ป๊อก เป็นแกนหลักของกลุ่มนี้ เป้าหมายหลักก็เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการวิ่งให้กันละกัน และพากันไปสู่จุดหมายมาราธอน 42.195 กม.ค่ะ โดยงาน “พัทยามาราธอน” เป็นหนึ่งในสนามมาราธอนสุดหินอันเลื่องลือในกลุ่มนักวิ่ง ว่าทางวิ่งโหดเป็นเนินเล็กเนินน้อยตลอดทาง และเมื่อคุณวิ่งไปถึง กม.ที่ 37 คุณจะเจอเนินสุดชันเขาพระตำหนัก ที่ทำเอานักวิ่งหลายคนหยุดเดินหรือตะคริวขึ้นกันมาหลายรายแล้ว จากเสน่ห์สุดโหดของสนามนี้จึงทำให้นักวิ่งหลายๆคน หวังจะพิชิตระยะมาราธอนครั้งแรก และอีกหลายคนหวังที่จะทำลายสถิติเวลาเดิมของตนเองในสนามนี้
แล้วทำไม จขกท จึงลงแค่ระยะฮาล์ฟ ไม่ใช่ฟูลมาราธอนละ ?...
จริงๆ จขกท อยากลงระยะมาราธอนที่สนามพัทยานะคะ แต่เนื่องจากเดือน มิ.ย ได้ไปร่วมรายการ “ลากูน่ามาราธอน” ที่ภูเก็ต ทำเวลาไป 3 ชั่วโมง 56 นาที ซึ่งสนามภูเก็ตก็โหดไม่แพ้พัทยาเลย ทำให้ จขกท ไม่มั่นใจว่าตัวเองจะฟื้นร่างกายทันสำหรับ งานพัทยาหรือไม่ ต่อให้ใจเราอยากวิ่งแค่ไหน เราควรจะฟังเสียงของร่างกายเราด้วย การปล่อยให้ความอยากมาอยู่เหนือสภาพร่างกาย มันไม่ได้ก่อให้เกิดผลดี เราอาจจะจบแบบเจ็บ ต้องหยุดวิ่งรักษาร่างกาย หรือโชคร้าย วิ่งก็ไม่จบ แถมเจ็บอีก ดังนั้น ระยะฮาล์ฟมาราธอน หลังฟูลมาราธอน 1 เดือน ดูปลอดภัยที่สุด ณ เวลานั้น