ก่อนหน้านี้ Inside Out มีกระแสกวาดคำชื่นชมจากทุกสำนักที่ต่างประเทศ แถมรายได้ก็กระฉูดอย่างมาก จากที่ดูตัวอย่างแล้วก็คิดว่าน่าดูแล้วนะ  แต่แบบนี้ก็ยิ่งทำให้ความคาดหวังสูงยิ่งกว่าเดิมอีก

"จะเป็นไง ถ้าความรู้สึกของเรา มีความรู้สึก"  นี่คือไอเดียของเรื่องนี้เลย  ซึ่งพอดูจนจบก็ต้องบอกว่า Pixar  ทำได้อีกแล้ว  คิดพล็อตและไอเดียสุดติ่งขนาดนี้ออกมาได้อย่างไร

ถึงแม้หนังจะมีดีไซน์เป็นการ์ตูน สีสันสดใส แต่ก็อย่าให้หน้าหนังหลอกได้ว่าเป็นหนังการ์ตูนทั่วๆไปนะ  เพราะหนังเรื่องนี้  ผมคิดว่า  เด็กๆดูก็อาจจะสนุกในระดับนึง พอเข้าใจเรื่องทั้งหมดนั้นแหละ  แต่สำหรับผู้ใหญ่แล้ว มันน่าจะ โดนใจและเข้าใจ ได้มากกว่าเลยแหละ

การแบ่งแยกอารมณ์ของมนุษย์ ออกด้วยสีและบุคลิก ทำให้ง่ายต่อความเข้าใจ  หนังใช้เวลาไม่นานในการอธิบายตรงจุดนี้  หลังจากนั้น คนดูจะเก็ตได้เองว่า ความรู้สึกนึกคิดต่างๆที่มันทำหน้าที่อยู่ในตัวเรานั้น  มันเชื่อมต่อกันกับเราได้อย่างไร  ซึ่งตรงนี้แหละที่ถือว่าเป็น ไพ่เด็ดของเรื่องนี้เลย  มันจะทำให้เราดูไป ก็นึกเทียบกับตัวเราเองไปตลอดทั้งเรื่อง  มันสนุกตรงนี้แหละ   ที่หยิบเอาเหตุการณ์บางอย่างที่คนทั่วไปก็น่าจะทำ มาใส่ลงไปในหนัง  โดยที่เราไม่รู้หรอกว่า เป็นเพราะเจ้าตัวอารมณ์ความรู้สึกพวกนี้แหละที่เป็นตัวบงการ

ในแง่การดูเพื่อความบันเทิง ถือว่าสนุกและเฮฮาใช้ได้เลย ไม่มีช่วงไหนอืดอาดหรือน่าเบื่อแม้แต่นิด เพราะเนื้อเรื่องน่าติดตามเอาใจช่วยตัวละครตลอดทาง  แต่ถ้าจะดูกันแบบคิดลึกๆถึงความหมายที่ซ่อนเอาไว้ ก็จะยิ่งรู้สึกอินกับหนังมากยิ่งขึ้นเข้าไปอีก  มีหลายฉากที่น่าประทับใจ  มีหลายตัวละครที่ทำให้นึกถึงอะไรที่เคยลืมไปแล้ว

ต้องชื่นชมทีมสร้างเรื่องนี้เลย ที่ทุ่มเทเขียนบทและออกแบบ จนมันเป็นหนังที่สวยงามน่าจดจำเอามากๆ  ตั้งใจว่าจะไม่เสียน้ำตาให้กับเรื่องนี้แล้วนะ แต่บทสรุปของเรื่องนี้มันร้ายกาจยิ่งนัก  หลงกลติดกับดักของ Pixar เข้าเต็มๆจนได้อ่ะ    

หนังเรื่องนี้ จะทำให้เรา รู้จักตัวเองมากขึ้น  คิดถึงอะไรต่างๆที่เคยลืมไปแล้วได้มากขึ้น  และเชื่อว่า คุณจะเข้าใจใน "อารมณ์ต่างๆของตัวเองมากขึ้น"

ปล.หนังเปิดเรื่องชื่อ Lava เป็นหนังสั้นที่โคตรโรแมนติค(อีกแล้ว) เพลงเพราะมาก ชอบสุดๆ แค่เรื่องนี้ก็คุ้มค่าตั๋วแล้วอ่ะ พูดจริง

10/10