สวัสดีครับ
สวัสดี เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ผู้มีความฝัน อยากจะติดปีกบินไม่ว่าจะกับสายการบินอะไรก็ตาม
วันนี้ขออนุญาตมาแบ่งปัน เล่าประสบการณ์ในการสมัครงานครั้งแรกในชีวิต กับสายการบิน Emirates (EK)
หลายคนคงรู้จักกันดีอยู่แล้วว่าพี่แก่เป็นสายการอันดับต้นๆของโลก มีเส้นทางบินครอบคลุมมากเกือบที่สุด และเติบโตอย่างก้าวกระโดดทุกวัน
วันนี้นอกจากจะมาแชร์ประสบการณ์ในการสมัครแล้ว ผมขอแบ่งปันแรงบันดาลใจ และเรื่องราวต่างๆที่พบระหว่างทางด้วยน่ะครับ
(ต้องขออภัยหากมีการพิมพ์ผิดพิมพ์ถูกค่อนข้างเยอะน่ะครับ ฮ่าๆ)
คิดอยู่นานเหมือนกันกว่าจะได้มีเวลานั่งพิมพ์แบบเป็นจริงเป็นจังเมื่อไหร่เพราะรอให้ทุกอย่างแน่นอนก่อนว่าได้งานแล้วจริงๆ กลัวมาพิมพ์ไว้แล้วเงิบบ !! ฮ่าๆ
***
ใครอยากอ่านเกี่ยวกับวันสมัครทันที ให้ข้ามไปอ่าน Part5 ได้เลยน่ะครับ Part1-4 เป็นการเกริ่นนำแต่เชื่อว่ามีประโยชน์
Part 1 : Time line & Location
เอาล่ะครับขอเริ่มกันด้วย Time line ตั้งแต่วันแรกถึงวันที่บริษัทโทรมาคอนเฟริมว่าได้งานน่ะครับ
Time time: Location Bangkok - Thailand @Intercontinental Hotel Bangkok
- OD: 23/5/15 (วันแรก Drop CV)
- AD: 24/5/15 (วันเริ่มการคัดเลือก)
- FI: 26/5/15 (วันสัมภาษณ์รอบสุดท้าย)
- IC: 1/6/15 (สถานะปรับเป็นสัมภาษณ์สมบรูณ์ ปล.ไม่ได้แปลว่าผ่าน)
-OH: 11/6/15 (ได้รับเมลล์แสดงความยินดีว่าผ่านการสัมภาษณ์รอบ Final เหลือแต่รอคอนเฟริมวันเริ่มงาน)
-JFIP: 1/7/15 (เริ่มกระบวนการตรวจสุขภาพ เข้าสู่ขั้นตอนการจ้าง)
-GC: 1/7/15 (DOJ: 26/11/15) - ได้รับโทรศัพย์สายตรงจากดูไบ กำหนดวันเดินทาง ที่จริงผมได้วันเดินทางเดือนกันยายน แต่มันตรงกับวันเกิดพอดีเลยขอเลื่อนไปหน่อย หน่อยทีโดนยาวเลย ฮ่าๆ แต่ก็ดีครับได้มีเวลาเตรียมตัว ส่งเพื่อนๆที่น่ารักทุกคนไปบุกดูไบก่อน
Part 2: ก่อนสมัคร Q&A (Before)
เอาหละครับ เริ่มกันเลยกับ Details ต่างๆเป็นมายังไงถึงได้มาสมัครงานกับสายการบินนี้ ?
ขออนุญาตเป็นพิธีกรถามตัวเอง เพื่อนๆจะได้เข้าใจง่าย ให้อารมณ์แบบ Q&A น่ะครับ
Q: จำกัดอายุ / ส่วนสูง-น้ำหนัก / การศึกษา / เกณฑ์ยังไงแบบไหน
A: อายุขั้นต่ำ 21 ปีครับเพราะกฏหมายการให้บริการเครื่องดื่มของ UAE
A: ส่วนสูง ไม่มีกำหนดครับ แต่ต้องเอื้อมถึงจุด 212 CM ไม่ง่ายนะครับแต่ไม่ยาก
A: น้ำหนัก ไม่มีกำหนดเช่นกันครับ แต่ต้องแข็งแรง สมบรูณ์ BMI สมส่วน จุดนี้เข้าซีเรียสมากตอนตรวจสุขภาพ ตอนแรกๆไม่เท่าไร แค่ขอให้ดูดีเป็นพอ
A: การศึกษาขั้นต่ำ ม.6 ครับ
A: คะแนนสอบอิ้ง โทๆทั้งหลายไม่ต้องมีครับ เพราะเขาจัดสอบเองทั้งหมด
Q: ทำไมถึงเลือกมาสมัคร Ek
A: เพราะสายการบินที่อยากร่วมงานด้วยจริงๆมีแค่ไม่กี่สายครับ มีแค่ TG / EK / EY ไม่ใช่เพราะเลือกมากหรือเก่ง แต่รู้สึกว่าอยากเลือกที่จะฟังเสียงของหัวใจมากกว่า เพราะ 4 ปีในมหาลัยฯเลือกเรียนในสิ่งที่ไม่ชอบมาแล้ว ตอนทำงานขอเลือกในสิ่งที่ชอบหน่อยละกัน ฮ่าาๆ
Q: ทำไมอยากทำอาชีพนี้ ทำไมต้องสจ๊วต
A: ที่จริงแล้วความฝัน และสิ่งที่ตั้งใจอยากทำจริงๆมีอยู่ 2 อย่างซึ่งต่างกันแบบสุดขั่วคือ 1.รับราชการเป็นข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ 2.สจ๊วต
Q: ฝันอย่างเป็นข้าราชการ หรือ สจ๊วต มันต่างกันมากก คิดยังไงถึงเลือก2อย่างนี้?
A: ตอบแบบไม่ดราม่า ไม่พระเอกนะครับ เพราะอยากทำอะไรที่ได้ present ประเทศไทย ได้ทำให้ต่างชาติเห็นว่าคนไทยอย่างเราเนียหละมีดี
Q: ถ้า TG / EK / EY เปิดรับวันเดียวกันจะเลือกสมัครของสายการบินอะไร ?
A: ไม่ต้องคิดเลยครับ TG แน่นอน แต่คงเพราะโชคชะตากำหนด Emirates ดันเป็นสายการบินเดียวที่เปิดรับสมัครพอดี บวกกับชอบการบริหารงาน
ชอบสวัสดิการ ชอบการทำงานของบริษัทนี้เป็นทุนเดิม ก็เลยลุยยครับ ลุยมันสักตั้ง
Q: ได้ข่าวว่า เกือบจะไม่ได้มาสมัคร EK รอบวันที่ 23/5/58 แล้ว เพราะอะไร?
A: เพราะผมไม่ได้ Invite ของรอบนี้ครับ แต่ดันได้ invite รอบที่ฝรั่งเศส แต่ด้านได้ ด้านได้อายอดครับ ด้านไปเลยครับ
Q: ไม่กลัวไปแล้วโดนไล่กลับหรอ เพราะไม่มี Invite ?
A: กลัวครับ เพราะเหตุนี้หละเกือบทำให้ไม่ได้สมัคร กลัวเสียเวลาเปล่า แต่แล้ววันหนึ่งนั่งอยู่ในร้านกาแฟ เปิดๆ Ipad ดูหน้าFeedก็เจอ Quote หนึ่ง
กล้าพูดว่าเป็น Quote คำคมที่เปลี่ยนชีวิตเราไปตลอดกาล
" Try and fail but don't fail to try " แปลว่า " พยายามแล้วล้มแหลว แต่อย่าล้มแหลวที่จะพยายาม "
โอ้วววว มันกินใจ มันโดนนนนน กดจองตั๋วจาก CNX ไป BKK วันนั้นเลยและลุยเตรียมตัว เตรียมเอกสาร ลุยมันสักตั้ง ไม่ลองไม่รู้
Q: เป็นผู้ชายมาสมัครสจ๊วต ไม่กลัวคนมองว่าแปลกๆหรอ ?
A: ถ้ามันคือสิ่งที่เราชอบ ไม่เห็นต้องกลัวหรือสนใจสิ่งที่คนอื่นมองเลยครับ ส่วนตัวแล้วผมไม่มีปัญหา ถึงเขาจะเป็นอะไร เพศอะไร ทุกคนต่างมีความฝัน แล้วถ้าเรามีความฝัน ก็อย่าแคร์ครับ ตามเสียงหัวใจไปเลย เราไม่ได้ขอใครกินครับ ทำงานที่ชอบ หาเลี้ยงครอบครัว น่าภูมิใจกว่าเยอะ
ปล. เชียรทุกคนที่อยากสมัคร แต่กล้าๆกลัวๆ อยากบอกว่า สมัครเลยครับนี้อนาคตเราอย่าให้ใครมากำหนด
Part 3: ข้อมูลส่วนตัว (สำหรับคนที่อยากรู้น่ะครับ)
การศึกษา: ป.ตรี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ภาษา: ไทย - อังกฤษ (ฝรั่งเศส จีน แบบนิดๆหน่อยๆ)
ส่วนสูง: 188cm น้ำหนัก: 79-80kg
---- เป็นคนผิวเข้ม ไม่เป๊ะ ไม่perfect ไม่ได้มีอะไรดีไปกว่าคนอื่นๆเลยครับ
Part 4: เอกสารที่ใช้ในการสมัคร (ขออนุญาตยื่มรูปมาน่ะครับจะได้ เห็นกันชัดๆ)
Part 5: The first day: Drop CV - คัดกันเร็วยิ่งกว่า need for speed ไม่ถึง 2 นาทีต่อคน
วันที่ 23/5/2558
วันแรกของการสมัครระบุไว้ว่าเป็น Assignment day (ซึ่งต้องสมัครออนไลน์และได้ใบเชิญ) แต่อยู่ในรูปแบบของ Open day เพราะคนเยอะมากจึงทำได้แค่การคัดแบบ Drop CV เท่านั้นในวันแรก
ผมพักอยู่แถวๆ Central Embassy ไม่ไกลจาก Interconเท่าไร นั่งแท็กซี่ประมาณ 5 นาทีถ้ารถไม่ติด
วันแรกกรรมการนัดเป็นสองรอบคือรอบ 9 โมงเช้า และบ่ายโมงตรง เราเลือกไปรอบบ่ายโมงตรงเพราะไม่อยากตื่นเช้าเหตุผลส่วนตัวล้วนๆ ฮ่าาาๆ
ตื่น 10 โมงอาบน้ำเชทผม แต่งตัวพร้อม ใส่สูทพร้อม หยิบเอกสารและเริ่มออกเดินทางไป Intercon กันเลยครับ
ถึงโรงแรม 12.30น โอ้ววววววว จอชช! กลับทันป่าววะถามตัวเอง ฮ่าาาๆ คนเยอะมาก ผู้หญิงสวยๆตรึมม เดินเข้าไปในโรงแรม เดินตามป้ายบอกทางว่าไปห้องประชุมสำหรับคนที่จะมาสมัคร EK ก็เดินๆไปตามทาง ระหว่างทางก็พยายามมองหาว่ามีผู้ชายบ้างไหม จะได้เกาะๆกลุ่มไว้ แต่ผลคือหาไม่เจอเลยครับ โชคดีที่วันสมัครผมไปกับเพื่อนอีกคน ก็เลยไม่เหงาครับดีไปๆ
ถึงบริเวณหน้าห้องประชุมก็นั่งรอให้กรรมการเรียกเข้าไปในห้องครับ นั่งรอสักพัก พอได้เวลาสัก 13.05น พนักงานโรงแรมก็เดินมาต้อนพวกเราให้เขาห้องตามลำดับ ผมกับเพื่อนได้นั่งแถวเกือบหลังสุด บังเอิญพอดีได้เจอเพื่อนผู้ชายที่ตามแฟนมาสมัครอีกคนครับ คุยไปคุยมาคนเชียงใหม่เหมือนกัน
...
กรรมการมีทั้งหมด 4 สาว แบ่งเป็น 2สาวแสนสวย กับอีก 2สาวแสนนนนนนนสวยเช่นกัน แหะๆ เป็นฝรั่ง 2 และ อินเดีย(มั้ง) 2 ครับ
หัวหน้ากรรมการ สาวฝรั่งตัวสูงหน้าคม สวยแบบสุดๆเริ่มพูด บลาาาาๆๆ ตรงบลาๆนี้คือกรรมการพูดให้ฟังว่าต้องเตรียมเอกสารอะไรให้กรรมการบ้างซึ่งก็ตาม Part 4 อะนะครับ
หลังจากนั้นกรรมการให้หยิบกระดาษแผ่นเล็กๆที่ข้างห้องประชุมมากรอกเกี่ยวกับตัวเองเล็กน้อย และให้นั่งเป็นแถวเตรียมลุกมายื่น CV ที่โต๊ะกรรมการทั้ง 4 โต๊ะได้ เมื่อทุกคนพร้อมกรรมการก็บอกให้เริ่มลุกที่ละ 4 คนมายื่นเอกสารให้กรรมการได้ โชคดีที่ผมอยู่เกือบหลังสุดเลยได้เห็นอะไรดีๆเยอะ ได้เห็นว่าคนที่พร้อม ไม่พร้อม พร้อมมาก พร้อมน้อย พร้อมเกิน เป็นอย่างไรและถือโอกาสเก็บจุดอ่อนของคนก่อนหน้าเพื่อมาพัฒนาตัวเอง เห็นไหมหละครับบ แหม่ะๆไม่ใช่นั่งส่องอย่างเดียวนะครับ
แถวคิวก็เริ่มสั้นลงๆ และแล้ววววว ก็ถึงคิวของผมที่แย่กว่านั้นคือผมได้กรรมการอินเดีย ที่หน้าโหดและดุ แอบคิดไว้ในใจ อย่าเลย อย่าเลย ไม่เอาคนนี้ ไม่เอาคนนี้ จ๊ะะะะเอ้ !!!!! Next one pleaseeee...... ครับ ใช่ครับ สาวอินเดียหน้าโหดคนที่ผมนั่งภาวนาอย่าให้ได้ ดันเรียกผมให้เดิมมาส่ง CV
เอาว่ะะะ รวบรวมความกล้าทั้งหมด ลุกยืนด้วยความมั่นใจ เดินไปด้วยใจที่เหน็บหนาววววว ยิ้มมกว้างๆและยื่น CV พร้อมกับคำว่า
Good Afff............ยังไม่ทันพูดเสจ How are you tuuuday ?!?! แม่สาวอินเดียส่วนกลับอย่างเร็ว คำทักทายที่เตรียมไว้จมหายไปต่อหน้าต่อตา
แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรครับ ถามมาก็ตอบไป I'm very good thank you(ยิ้ม) กรรมการก็ถามต่อว่า คุณมีใบ invite ของรอบนี้มาด้วยหรือป่าว ?!
เอาแล้วสิครับ คิดในใจกุโดนไล่ออกจากห้องแน่ๆเพราะไม่มี invite ของรอบนี้ แต่ก็ตอบไปแบบตรงๆครับว่า "ไม่มีครับ" แต่ผมสมัครออนไลน์เอาไว้แล้วนะ อิอิ ตรง อิอิ นี้เติมเองนะครับไม่ได้พูด กรรมการก็ถามต่ออย่างรวดเร็วประดุจว่ากำลังวิ่งโอลิมปิคอยู่อย่างไงอย่างงั้น tell me what you are doing right now ? ผมก็ตอบไปครับว่าตอนนี้ผมกำลังทำ Part time เป็น customer service staff เพราะเพิ่งเรียนจบได้ไม่นานเท่าไร
หลังจากนั้นกรรมการก็เขียนเลข 644 ลงในกระดาษขาวๆเล็กใบหนึ่ง พร้อมบอกว่า This is your number, and if you're shortlisted your number will be announce อารมณ์ว่าถ้าเธอโชคดีได้รับเลือกเราจะประกาศเลขของคุณเอาไว้ที่หน้าห้องในอีกประมาณ 1 ชม
ทันใดนั้นไม่รู้ผีอะไรเจาะปากให้พูดหยอกกรรมการไปว่า โอเคค So this is my lucky number right? you'll be my lucky angel
กรรมการก็ยิ้มให้แล้วหัวเราะนิดๆ ก็รู้สึกดีขึ้นมาหน่อยว่า เออออออ อย่างน้อยก็ทำให้เขายิ้มได้ ฮ่าาาาๆ
.......
หลังจากรอผลประมาณ 1 ชม กรรมการเรียกให้พวกเราเข้ามาฟังการประกาศผลในห้องแทนการติดประกาศ
กรรมการสาวแสนสวย พูดเบอร์ของคนที่ผ่านเข้ารอบต่อไป ที่ละเบอร์ๆแล้วให้กลับบ้านได้ เจอกันอีกทีรอบถัดไปในวันพรุ่งนี้
ซึ่งทำให้เรารู้ว่าในวันนี้มีคนมาถึงเกือบๆ 800คน เป็นผู้ชาย 10คน
ประกาศไป ประกาศมากรรมการก็เว้นเลข 550กว่าถึง 690ไว้ ทำเอาผมรู้สึกว่ากรูตกรอบแน่ๆ แต่แล้วกรรมการก็บอกว่าทุกคนในช่วงเลขนี้ให้รอในห้องก่อน เพราะเลขบางคนซ้ำกัน เราจะต้องประกาศเป็นชื่อแทน ห๊ะ !!!! อะไรนะะ !!! ประกาศเป็นชื่อ ตอนนี้คือไม่ได้กลัวตกแล้วแต่อายยยมากกว่า ฮ่าาๆ
กรรมการก็ประกาศๆไปจนเหลือแค่ประมาณ 20 คนในห้อง ผมนั่งปรบมือให้เพื่อนๆที่ผ่านเข้ารอบทุกคนเพราะแต่ละคนสวยและดูพร้อมจริงๆ แต่แล้ววว
ทันใดนั้น เสียงสวรรค์จากกรรมการก็ดังขึ้น!! กรรมการพูดชื่อผม ห๊ะอะไรนะะ ผมก็เลยยกมือแล้วบอกว่า It's me
Congrats you pass to the next round !!!
รู้สึกได้ทันทีว่า ตัวลอยขึ้นจากเก้าอี้ ลุกขึ้นยิ้มแล้วบอกว่า Thank you เดินออกจากห้องแบบลอยๆ มึนๆ ใช่ครับ ผมผ่านรอบบแรกกก !!
ซึ่งมีผู้ชายผ่านรอบนี้แค่ 3 คน รู้สึกดีมากครับ รู้สึกว่าเราคงเสียดายมากถ้าเลือกที่จะไม่มาสมัครในวันนี้เพียงเพราะเราไม่มี invite ของรอบนี้เหมือนคนอื่น
รู้สึกดีที่จะได้มีโอกาสพิสูจความสามารถให้กรรมการเห็น
** พิมพ์มายาววขนาดนี้ แต่บอกได้เลยน่ะครับว่าด่านนี้ใช้เวลาเพียงแค่ไม่ถึง 2 นาทีต่อคน !
จบไปสำหรับวันแรก กรรมการนัดให้มาในวันถัดไป วัน Assignment day วันสัมภาษณ์จริงๆในวันที่ 24 ซึ่งคือวันถัดไปนั้นเอง -
เดินทางกลับที่พักแบบลอยยๆ เพราะไม่อยากจะเชื่อว่าคนธรรมดาๆอย่างเราจะทำได้
Part 6: Assignment day วันที่ 2 / สัมภาษณ์จริง โหดจริง หนักจริง
วันนี้ครับ คือวันจริง การคัดเลือกในตำนานของ Emirates
คัดออกเหมือนเลือกกุ้งที่หัวหลุดจาก แมคโค
To be Continue ........... ติดตามกันต่อนะค้าบบบบ
ตะลุย Emirates Airline รอบกรุงเทพฯ 23/5/2015 (Version.ผู้ชาย)
สวัสดี เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ผู้มีความฝัน อยากจะติดปีกบินไม่ว่าจะกับสายการบินอะไรก็ตาม
วันนี้ขออนุญาตมาแบ่งปัน เล่าประสบการณ์ในการสมัครงานครั้งแรกในชีวิต กับสายการบิน Emirates (EK)
หลายคนคงรู้จักกันดีอยู่แล้วว่าพี่แก่เป็นสายการอันดับต้นๆของโลก มีเส้นทางบินครอบคลุมมากเกือบที่สุด และเติบโตอย่างก้าวกระโดดทุกวัน
วันนี้นอกจากจะมาแชร์ประสบการณ์ในการสมัครแล้ว ผมขอแบ่งปันแรงบันดาลใจ และเรื่องราวต่างๆที่พบระหว่างทางด้วยน่ะครับ
(ต้องขออภัยหากมีการพิมพ์ผิดพิมพ์ถูกค่อนข้างเยอะน่ะครับ ฮ่าๆ)
คิดอยู่นานเหมือนกันกว่าจะได้มีเวลานั่งพิมพ์แบบเป็นจริงเป็นจังเมื่อไหร่เพราะรอให้ทุกอย่างแน่นอนก่อนว่าได้งานแล้วจริงๆ กลัวมาพิมพ์ไว้แล้วเงิบบ !! ฮ่าๆ
*** ใครอยากอ่านเกี่ยวกับวันสมัครทันที ให้ข้ามไปอ่าน Part5 ได้เลยน่ะครับ Part1-4 เป็นการเกริ่นนำแต่เชื่อว่ามีประโยชน์
Part 1 : Time line & Location
เอาล่ะครับขอเริ่มกันด้วย Time line ตั้งแต่วันแรกถึงวันที่บริษัทโทรมาคอนเฟริมว่าได้งานน่ะครับ
Time time: Location Bangkok - Thailand @Intercontinental Hotel Bangkok
- OD: 23/5/15 (วันแรก Drop CV)
- AD: 24/5/15 (วันเริ่มการคัดเลือก)
- FI: 26/5/15 (วันสัมภาษณ์รอบสุดท้าย)
- IC: 1/6/15 (สถานะปรับเป็นสัมภาษณ์สมบรูณ์ ปล.ไม่ได้แปลว่าผ่าน)
-OH: 11/6/15 (ได้รับเมลล์แสดงความยินดีว่าผ่านการสัมภาษณ์รอบ Final เหลือแต่รอคอนเฟริมวันเริ่มงาน)
-JFIP: 1/7/15 (เริ่มกระบวนการตรวจสุขภาพ เข้าสู่ขั้นตอนการจ้าง)
-GC: 1/7/15 (DOJ: 26/11/15) - ได้รับโทรศัพย์สายตรงจากดูไบ กำหนดวันเดินทาง ที่จริงผมได้วันเดินทางเดือนกันยายน แต่มันตรงกับวันเกิดพอดีเลยขอเลื่อนไปหน่อย หน่อยทีโดนยาวเลย ฮ่าๆ แต่ก็ดีครับได้มีเวลาเตรียมตัว ส่งเพื่อนๆที่น่ารักทุกคนไปบุกดูไบก่อน
Part 2: ก่อนสมัคร Q&A (Before)
เอาหละครับ เริ่มกันเลยกับ Details ต่างๆเป็นมายังไงถึงได้มาสมัครงานกับสายการบินนี้ ?
ขออนุญาตเป็นพิธีกรถามตัวเอง เพื่อนๆจะได้เข้าใจง่าย ให้อารมณ์แบบ Q&A น่ะครับ
Q: จำกัดอายุ / ส่วนสูง-น้ำหนัก / การศึกษา / เกณฑ์ยังไงแบบไหน
A: อายุขั้นต่ำ 21 ปีครับเพราะกฏหมายการให้บริการเครื่องดื่มของ UAE
A: ส่วนสูง ไม่มีกำหนดครับ แต่ต้องเอื้อมถึงจุด 212 CM ไม่ง่ายนะครับแต่ไม่ยาก
A: น้ำหนัก ไม่มีกำหนดเช่นกันครับ แต่ต้องแข็งแรง สมบรูณ์ BMI สมส่วน จุดนี้เข้าซีเรียสมากตอนตรวจสุขภาพ ตอนแรกๆไม่เท่าไร แค่ขอให้ดูดีเป็นพอ
A: การศึกษาขั้นต่ำ ม.6 ครับ
A: คะแนนสอบอิ้ง โทๆทั้งหลายไม่ต้องมีครับ เพราะเขาจัดสอบเองทั้งหมด
Q: ทำไมถึงเลือกมาสมัคร Ek
A: เพราะสายการบินที่อยากร่วมงานด้วยจริงๆมีแค่ไม่กี่สายครับ มีแค่ TG / EK / EY ไม่ใช่เพราะเลือกมากหรือเก่ง แต่รู้สึกว่าอยากเลือกที่จะฟังเสียงของหัวใจมากกว่า เพราะ 4 ปีในมหาลัยฯเลือกเรียนในสิ่งที่ไม่ชอบมาแล้ว ตอนทำงานขอเลือกในสิ่งที่ชอบหน่อยละกัน ฮ่าาๆ
Q: ทำไมอยากทำอาชีพนี้ ทำไมต้องสจ๊วต
A: ที่จริงแล้วความฝัน และสิ่งที่ตั้งใจอยากทำจริงๆมีอยู่ 2 อย่างซึ่งต่างกันแบบสุดขั่วคือ 1.รับราชการเป็นข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ 2.สจ๊วต
Q: ฝันอย่างเป็นข้าราชการ หรือ สจ๊วต มันต่างกันมากก คิดยังไงถึงเลือก2อย่างนี้?
A: ตอบแบบไม่ดราม่า ไม่พระเอกนะครับ เพราะอยากทำอะไรที่ได้ present ประเทศไทย ได้ทำให้ต่างชาติเห็นว่าคนไทยอย่างเราเนียหละมีดี
Q: ถ้า TG / EK / EY เปิดรับวันเดียวกันจะเลือกสมัครของสายการบินอะไร ?
A: ไม่ต้องคิดเลยครับ TG แน่นอน แต่คงเพราะโชคชะตากำหนด Emirates ดันเป็นสายการบินเดียวที่เปิดรับสมัครพอดี บวกกับชอบการบริหารงาน
ชอบสวัสดิการ ชอบการทำงานของบริษัทนี้เป็นทุนเดิม ก็เลยลุยยครับ ลุยมันสักตั้ง
Q: ได้ข่าวว่า เกือบจะไม่ได้มาสมัคร EK รอบวันที่ 23/5/58 แล้ว เพราะอะไร?
A: เพราะผมไม่ได้ Invite ของรอบนี้ครับ แต่ดันได้ invite รอบที่ฝรั่งเศส แต่ด้านได้ ด้านได้อายอดครับ ด้านไปเลยครับ
Q: ไม่กลัวไปแล้วโดนไล่กลับหรอ เพราะไม่มี Invite ?
A: กลัวครับ เพราะเหตุนี้หละเกือบทำให้ไม่ได้สมัคร กลัวเสียเวลาเปล่า แต่แล้ววันหนึ่งนั่งอยู่ในร้านกาแฟ เปิดๆ Ipad ดูหน้าFeedก็เจอ Quote หนึ่ง
กล้าพูดว่าเป็น Quote คำคมที่เปลี่ยนชีวิตเราไปตลอดกาล
" Try and fail but don't fail to try " แปลว่า " พยายามแล้วล้มแหลว แต่อย่าล้มแหลวที่จะพยายาม "
โอ้วววว มันกินใจ มันโดนนนนน กดจองตั๋วจาก CNX ไป BKK วันนั้นเลยและลุยเตรียมตัว เตรียมเอกสาร ลุยมันสักตั้ง ไม่ลองไม่รู้
Q: เป็นผู้ชายมาสมัครสจ๊วต ไม่กลัวคนมองว่าแปลกๆหรอ ?
A: ถ้ามันคือสิ่งที่เราชอบ ไม่เห็นต้องกลัวหรือสนใจสิ่งที่คนอื่นมองเลยครับ ส่วนตัวแล้วผมไม่มีปัญหา ถึงเขาจะเป็นอะไร เพศอะไร ทุกคนต่างมีความฝัน แล้วถ้าเรามีความฝัน ก็อย่าแคร์ครับ ตามเสียงหัวใจไปเลย เราไม่ได้ขอใครกินครับ ทำงานที่ชอบ หาเลี้ยงครอบครัว น่าภูมิใจกว่าเยอะ
ปล. เชียรทุกคนที่อยากสมัคร แต่กล้าๆกลัวๆ อยากบอกว่า สมัครเลยครับนี้อนาคตเราอย่าให้ใครมากำหนด
Part 3: ข้อมูลส่วนตัว (สำหรับคนที่อยากรู้น่ะครับ)
การศึกษา: ป.ตรี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ภาษา: ไทย - อังกฤษ (ฝรั่งเศส จีน แบบนิดๆหน่อยๆ)
ส่วนสูง: 188cm น้ำหนัก: 79-80kg
---- เป็นคนผิวเข้ม ไม่เป๊ะ ไม่perfect ไม่ได้มีอะไรดีไปกว่าคนอื่นๆเลยครับ
Part 4: เอกสารที่ใช้ในการสมัคร (ขออนุญาตยื่มรูปมาน่ะครับจะได้ เห็นกันชัดๆ)
Part 5: The first day: Drop CV - คัดกันเร็วยิ่งกว่า need for speed ไม่ถึง 2 นาทีต่อคน
วันที่ 23/5/2558
วันแรกของการสมัครระบุไว้ว่าเป็น Assignment day (ซึ่งต้องสมัครออนไลน์และได้ใบเชิญ) แต่อยู่ในรูปแบบของ Open day เพราะคนเยอะมากจึงทำได้แค่การคัดแบบ Drop CV เท่านั้นในวันแรก
ผมพักอยู่แถวๆ Central Embassy ไม่ไกลจาก Interconเท่าไร นั่งแท็กซี่ประมาณ 5 นาทีถ้ารถไม่ติด
วันแรกกรรมการนัดเป็นสองรอบคือรอบ 9 โมงเช้า และบ่ายโมงตรง เราเลือกไปรอบบ่ายโมงตรงเพราะไม่อยากตื่นเช้าเหตุผลส่วนตัวล้วนๆ ฮ่าาาๆ
ตื่น 10 โมงอาบน้ำเชทผม แต่งตัวพร้อม ใส่สูทพร้อม หยิบเอกสารและเริ่มออกเดินทางไป Intercon กันเลยครับ
ถึงโรงแรม 12.30น โอ้ววววววว จอชช! กลับทันป่าววะถามตัวเอง ฮ่าาาๆ คนเยอะมาก ผู้หญิงสวยๆตรึมม เดินเข้าไปในโรงแรม เดินตามป้ายบอกทางว่าไปห้องประชุมสำหรับคนที่จะมาสมัคร EK ก็เดินๆไปตามทาง ระหว่างทางก็พยายามมองหาว่ามีผู้ชายบ้างไหม จะได้เกาะๆกลุ่มไว้ แต่ผลคือหาไม่เจอเลยครับ โชคดีที่วันสมัครผมไปกับเพื่อนอีกคน ก็เลยไม่เหงาครับดีไปๆ
ถึงบริเวณหน้าห้องประชุมก็นั่งรอให้กรรมการเรียกเข้าไปในห้องครับ นั่งรอสักพัก พอได้เวลาสัก 13.05น พนักงานโรงแรมก็เดินมาต้อนพวกเราให้เขาห้องตามลำดับ ผมกับเพื่อนได้นั่งแถวเกือบหลังสุด บังเอิญพอดีได้เจอเพื่อนผู้ชายที่ตามแฟนมาสมัครอีกคนครับ คุยไปคุยมาคนเชียงใหม่เหมือนกัน
...
กรรมการมีทั้งหมด 4 สาว แบ่งเป็น 2สาวแสนสวย กับอีก 2สาวแสนนนนนนนสวยเช่นกัน แหะๆ เป็นฝรั่ง 2 และ อินเดีย(มั้ง) 2 ครับ
หัวหน้ากรรมการ สาวฝรั่งตัวสูงหน้าคม สวยแบบสุดๆเริ่มพูด บลาาาาๆๆ ตรงบลาๆนี้คือกรรมการพูดให้ฟังว่าต้องเตรียมเอกสารอะไรให้กรรมการบ้างซึ่งก็ตาม Part 4 อะนะครับ
หลังจากนั้นกรรมการให้หยิบกระดาษแผ่นเล็กๆที่ข้างห้องประชุมมากรอกเกี่ยวกับตัวเองเล็กน้อย และให้นั่งเป็นแถวเตรียมลุกมายื่น CV ที่โต๊ะกรรมการทั้ง 4 โต๊ะได้ เมื่อทุกคนพร้อมกรรมการก็บอกให้เริ่มลุกที่ละ 4 คนมายื่นเอกสารให้กรรมการได้ โชคดีที่ผมอยู่เกือบหลังสุดเลยได้เห็นอะไรดีๆเยอะ ได้เห็นว่าคนที่พร้อม ไม่พร้อม พร้อมมาก พร้อมน้อย พร้อมเกิน เป็นอย่างไรและถือโอกาสเก็บจุดอ่อนของคนก่อนหน้าเพื่อมาพัฒนาตัวเอง เห็นไหมหละครับบ แหม่ะๆไม่ใช่นั่งส่องอย่างเดียวนะครับ
แถวคิวก็เริ่มสั้นลงๆ และแล้ววววว ก็ถึงคิวของผมที่แย่กว่านั้นคือผมได้กรรมการอินเดีย ที่หน้าโหดและดุ แอบคิดไว้ในใจ อย่าเลย อย่าเลย ไม่เอาคนนี้ ไม่เอาคนนี้ จ๊ะะะะเอ้ !!!!! Next one pleaseeee...... ครับ ใช่ครับ สาวอินเดียหน้าโหดคนที่ผมนั่งภาวนาอย่าให้ได้ ดันเรียกผมให้เดิมมาส่ง CV
เอาว่ะะะ รวบรวมความกล้าทั้งหมด ลุกยืนด้วยความมั่นใจ เดินไปด้วยใจที่เหน็บหนาววววว ยิ้มมกว้างๆและยื่น CV พร้อมกับคำว่า
Good Afff............ยังไม่ทันพูดเสจ How are you tuuuday ?!?! แม่สาวอินเดียส่วนกลับอย่างเร็ว คำทักทายที่เตรียมไว้จมหายไปต่อหน้าต่อตา
แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรครับ ถามมาก็ตอบไป I'm very good thank you(ยิ้ม) กรรมการก็ถามต่อว่า คุณมีใบ invite ของรอบนี้มาด้วยหรือป่าว ?!
เอาแล้วสิครับ คิดในใจกุโดนไล่ออกจากห้องแน่ๆเพราะไม่มี invite ของรอบนี้ แต่ก็ตอบไปแบบตรงๆครับว่า "ไม่มีครับ" แต่ผมสมัครออนไลน์เอาไว้แล้วนะ อิอิ ตรง อิอิ นี้เติมเองนะครับไม่ได้พูด กรรมการก็ถามต่ออย่างรวดเร็วประดุจว่ากำลังวิ่งโอลิมปิคอยู่อย่างไงอย่างงั้น tell me what you are doing right now ? ผมก็ตอบไปครับว่าตอนนี้ผมกำลังทำ Part time เป็น customer service staff เพราะเพิ่งเรียนจบได้ไม่นานเท่าไร
หลังจากนั้นกรรมการก็เขียนเลข 644 ลงในกระดาษขาวๆเล็กใบหนึ่ง พร้อมบอกว่า This is your number, and if you're shortlisted your number will be announce อารมณ์ว่าถ้าเธอโชคดีได้รับเลือกเราจะประกาศเลขของคุณเอาไว้ที่หน้าห้องในอีกประมาณ 1 ชม
ทันใดนั้นไม่รู้ผีอะไรเจาะปากให้พูดหยอกกรรมการไปว่า โอเคค So this is my lucky number right? you'll be my lucky angel
กรรมการก็ยิ้มให้แล้วหัวเราะนิดๆ ก็รู้สึกดีขึ้นมาหน่อยว่า เออออออ อย่างน้อยก็ทำให้เขายิ้มได้ ฮ่าาาาๆ
.......
หลังจากรอผลประมาณ 1 ชม กรรมการเรียกให้พวกเราเข้ามาฟังการประกาศผลในห้องแทนการติดประกาศ
กรรมการสาวแสนสวย พูดเบอร์ของคนที่ผ่านเข้ารอบต่อไป ที่ละเบอร์ๆแล้วให้กลับบ้านได้ เจอกันอีกทีรอบถัดไปในวันพรุ่งนี้
ซึ่งทำให้เรารู้ว่าในวันนี้มีคนมาถึงเกือบๆ 800คน เป็นผู้ชาย 10คน
ประกาศไป ประกาศมากรรมการก็เว้นเลข 550กว่าถึง 690ไว้ ทำเอาผมรู้สึกว่ากรูตกรอบแน่ๆ แต่แล้วกรรมการก็บอกว่าทุกคนในช่วงเลขนี้ให้รอในห้องก่อน เพราะเลขบางคนซ้ำกัน เราจะต้องประกาศเป็นชื่อแทน ห๊ะ !!!! อะไรนะะ !!! ประกาศเป็นชื่อ ตอนนี้คือไม่ได้กลัวตกแล้วแต่อายยยมากกว่า ฮ่าาๆ
กรรมการก็ประกาศๆไปจนเหลือแค่ประมาณ 20 คนในห้อง ผมนั่งปรบมือให้เพื่อนๆที่ผ่านเข้ารอบทุกคนเพราะแต่ละคนสวยและดูพร้อมจริงๆ แต่แล้ววว
ทันใดนั้น เสียงสวรรค์จากกรรมการก็ดังขึ้น!! กรรมการพูดชื่อผม ห๊ะอะไรนะะ ผมก็เลยยกมือแล้วบอกว่า It's me
Congrats you pass to the next round !!!
รู้สึกได้ทันทีว่า ตัวลอยขึ้นจากเก้าอี้ ลุกขึ้นยิ้มแล้วบอกว่า Thank you เดินออกจากห้องแบบลอยๆ มึนๆ ใช่ครับ ผมผ่านรอบบแรกกก !!
ซึ่งมีผู้ชายผ่านรอบนี้แค่ 3 คน รู้สึกดีมากครับ รู้สึกว่าเราคงเสียดายมากถ้าเลือกที่จะไม่มาสมัครในวันนี้เพียงเพราะเราไม่มี invite ของรอบนี้เหมือนคนอื่น
รู้สึกดีที่จะได้มีโอกาสพิสูจความสามารถให้กรรมการเห็น
** พิมพ์มายาววขนาดนี้ แต่บอกได้เลยน่ะครับว่าด่านนี้ใช้เวลาเพียงแค่ไม่ถึง 2 นาทีต่อคน !
จบไปสำหรับวันแรก กรรมการนัดให้มาในวันถัดไป วัน Assignment day วันสัมภาษณ์จริงๆในวันที่ 24 ซึ่งคือวันถัดไปนั้นเอง -
เดินทางกลับที่พักแบบลอยยๆ เพราะไม่อยากจะเชื่อว่าคนธรรมดาๆอย่างเราจะทำได้
Part 6: Assignment day วันที่ 2 / สัมภาษณ์จริง โหดจริง หนักจริง
วันนี้ครับ คือวันจริง การคัดเลือกในตำนานของ Emirates
คัดออกเหมือนเลือกกุ้งที่หัวหลุดจาก แมคโค
To be Continue ........... ติดตามกันต่อนะค้าบบบบ