เริ่มต้นการเดินทางกับแอร์เอเชีย ที่สนามบินดอนเมือง
บินเช้าก็เลยมาถึงสนามบินย่างกุ้งเช้ามาก ด้วยความที่มาแบบไม่ได้เตรียมตัว มีไกด์บุ๊กมาเล่มเดียวกับข้อมูลที่เคยอ่านมาจากรีวิวของเพื่อนๆ เช้าขนาดนี้ หันซ้ายมองขวา ไม่รู้จะไปไหนดี เปิดไกด์บุ๊ก เจอ Downtown งั้นไปที่นี่ก่อนเลย "สุเลพญา"
ไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคลหน่อย
ออกจากเจดีย์สุเลพญา เดินมาเรื่อยๆ เจอรถโดยสารที่ขับได้ซิ่งมาก จอดไวไปไว ใครช้าอดขึ้นนะจ้ะบอกเลย
ยังคงเดินไปเรื่อยๆ ตั้งใจจะหาร้านกินข้าว เดินวนมาตามซอกซอย ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าคนที่นี่ขับรถเก่งมาก ซอยหนูดิ้นตายแค่นี้เค้าสามารถขับรถสวนกัน 2 เลนได้ บางช่วงบนนถนนซอยเดียวกัน ซ้อนกันถึง 3 เลน ไม่ได้ถ่ายรูปมานะคะ เพราะตอนนั้นคิดแค่อย่างเดียวว่า "เราจะต้องมีชีวิตรอดกลับเมืองไทย" จะไม่ยอมถูกรถบีบอัดตายอยู่ที่นี่อย่างเด็ดขาด !!
ในซอย มีร้านขายหนังสือเก่าเยอะมาก มีร้านขายอาหารเล็กๆ แบบในรูปเกือบทุกซอยเลยค่ะ
เดินวนมาประมาณ 3 ซอย ในที่สุดก็เจอร้านอาหารที่เป็นร้านแบบมีโต๊ะนั่ง มีเมนูอาหารที่เป็นภาษาอังกฤษ สั่งเมนูธรรมดามากินก่อนแล้วกันเน๊อะ ^^
กินข้าวอิ่ม ถึงเวลาไปหาโรงแรมพักแล้วค่ะ ระหว่างทางที่เดินไปเรียกแท็กซี่ให้ไปส่งโรงแรม เจอตึกทรงโบราณ สวยดีค่ะ
มาถึงโรงแรมแล้วค่ะ Olympic Hotel ที่เลือกโรงแรมนี้เพราะใกล้สนามบิน ใกล้เจดีย์ชเวดากอง แล้วก็ใกล้กับตลาดสก๊อต จากข้อมูลที่หาไว้ก่อนไป โรงแรมนี้ถือว่าโอเคที่สุดแล้วล่ะ ถ้าจองผ่านอโกด้า ราคาอยูที่คืนละ 65 ดอลล่า แต่จากประสบการณ์ส่วนตัวถ้า work-in ไปจองโดยไม่ผ่านเว็บราคาจะถูกกว่า แต่ก็ถือว่ามีความเสี่ยงสูงนะคะ ถ้าห้องเต็มขึ้นมาคงยุ่งเลยแหละ แต่เราคงเป็นคนโชคดี ห้องไม่เต็มแถมได้ค่าห้องคืนละ 55 ดอลล่า 3 คืน จ่ายไป 165 ดอลล่า ถูกกว่าจองผ่านเว็บเยอะเลย ห้องก็ไม่เลวร้าย แอร์เย็น ผ้าสะอาด ห้องน้ำเก่าไปนิดแต่สะอาดดี มีอาหารเช้าให้ด้วย บริการดีเลิศ ที่สำคัญแลกเงินที่โรงแรม เรทดีกว่าแลกที่สนามบินค่ะ
รวยในพริบตา ^^
เก็บของที่โรงแรมเสร็จก็อย่ารอช้า ไปเจดีย์ชเวดากองต่อเลยค่ะ ให้โรงแรมเรียกแท็กซี่เปิดประทุนไว้ให้ จากโรงแรมไปใช้เวลาประมาณ 20 นาทีก็ถึงล่ะ
พวงมาลัยดอกจำปาลาว
แถวๆเจดีย์ชเวดากองหาของกินง่ายค่ะ เดินข้ามมาถนนอีกฝากจะเป็นร้านอาหาร คนเยอะมาก ส่วนรสชาติ อืม คนที่ชอบทานอาหารรสจืดก็คงพอกินได้มั้ง
เม็ดมะม่วงหิมหานต์ คิดเป็นเงินไทย ถุงนี้ตกอยู่ที่ประมาณ 80 บาทเลยนะคะ ที่ซื้อเพราะชอบในความพยายามที่จะใส่ทุกภาษาลงบนซอง ไทย จีน พม่า อังกฤษ ถึงจะเขียนภาษาไทยผิด แต่ก็อ่านออก และอยากบอกว่าความพยายามของคุณประสบผลสำเร็จค่ะ อย่างน้อยก็เราคนนึงล่ะที่ซื้อ เก็บไว้กินตอนกลางคืน เผื่อหิว ^^
ยังอยู่ที่เรื่องอาหารการกิน ทริปนี้เป็นทริปที่อยู่กินธรรมดานะคะ ขอไม่เปิบพิศดาร เพราะว่าไปคนเดียว เกิดท้องเสียขึ้นมากลัวจะไม่ได้กลับบ้าน ><
นอนพักผ่อนเต็มที่ มีเรี่ยวแรงแล้ว ก็เที่ยวกันต่อเลยค่ะ ที่นี่คือจุดหมายที่วงกลมไว้ใหญ่มากบนไกด์บุ๊ก "เจดีย์โบดาทาวน์" ชมเจดีย์โบดาทาวน์ ขอพร เทพทันใจ
คนไทยไปเยอะมาก
ให้อาหารเต่า
ภาพสุดประทับใจของทริปพม่า ตอนที่ยื่นเงินให้ก็ให้แบบไม่ได้คิดอะไร แต่พอเห็นรอยยิ้มใสซื่อแบบนี้ คิดในใจอยู่อย่างเดียวว่า "คุ้มแล้วที่ได้มาที่นี่"
ออกจากเจดีย์โบดาทาวน์ เที่ยงพอดี หิวอีกแล้ว ไปหาอะไรกินที่ห้างกันเถอะค่ะ ว่าแต่ว่า ห้างอยู่ไหน ไม่รู้จัก ไม่มีข้อมูลไปเลย ไปหาข้างหน้าจริงๆค่ะ ถามพี่คนขับแท็กซี่เอา ว่าไปห้างที่อยู่ใกล้ๆตรงนี้อ่ะ แล้วก็ชี้มือไม้ไปทำเป็นว่ารู้จัก แล้วแท็กซี่ก็พามาถึงห้างนี้ Taw Win Center อยู่ใกล้กับสถานทูตไทย เพิ่งรู้จักตอนแท็กซี่พามาถึงนี่ล่ะ >< ส่วนอาหาร เหมือนเดิมค่ะ ขอไม่เปิบพิศดาร กินง่ายๆแค่พอให้ท้องอิ่มก็พอล่ะ
ไปซื้อของฝากที่ตลาดสก๊อตต่อเลยเน๊อะ ทุกอย่างก็ธรรมดา แต่มาสะดุดตาตรงตาชั่งแอปเปิ้ล นี่มันงานคลาสสิคเลยนะเนี้ยะ
เดินไปเรื่อยๆก็จะเจอแท่นสีขาวๆแบบนี้อยู่เกือบทุกป้ายรถเมล์ สงสัยมากว่ามันคืออะไร เลยแอบยืนมองอยู่นาน จนเห็นว่า สิ่งนี้คือปูนขาวที่ใช้กินหมากพลู สุดยอดไอเดียอีกล่ะ
เดินนาน เมื่อ แวะดื่มกาแฟหน่อย เมนูนี้สั่งตามโต๊ะข้างๆนะคะ รสชาติ อืมม หวานม๊ากกก หวานกว่ากาแฟโบราณบ้านเราอีก
ชั่วโมงลองของ เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึงพม่า ลองสั่งอาหารพื้นเมืองของเค้ามากิน สั่งเมนูที่คิดว่าตัวเองน่าจะกินได้ที่สุด ยำไก่แบบพม่า รสชาติเหมือนไก่ผัดเปรี้ยวหวานมากกว่า ที่สำคัญน้ำมันเยอะมาก
งานขนมพื้นเมืองต้องมา อันนี้พอกินได้ค่ะ รสชาติคล้ายๆขนมกล้วยบ้านเรา
อีกเมนูที่สั่งตามโต๊ะรอบข้าง เห็นขายดีจัง ก๋วยเตี๊ยวเต้าเจี้ยว มีแต่เส้นกับเต้าเจี้ยวโรยหน้าจริงๆ ที่สำคัญ บนโต๊ะไม่มีเครื่องปรุงรส >_<
สรุปว่าสั่งมากินหลายอย่าง แต่กินได้อย่างละนิด สงสัยมื้อนี้ต้องกลับไปกินขนมปังที่พกมาจากเมืองไทย ไปค่ะ ไม่ต้องกลัวหลง เดินๆตามเค้าไปนี่แหละ โดยเฉพาะตอนข้ามถนนนี่เรียกได้ว่าเสียวสยอง เพราะการข้ามที่นี่ไม่มีไฟแดง หาจังหวะเอา มีช่วงไหนเดินได้เดินเลย อย่ารีรอ ถ้ารีรอ ชีวิตอาจไม่รอดก้ได้นะ ><! เรารีรอ เราเลยต้องเกาะตามก้นคนพื้นที่ไปแบบเนียนๆ
ถึงโรงแรมล่ะ คืนนี้แอปเปิ้ลกู้ชีพแท้ๆ พรุ่งนี้ก็เดินทางกลับแล้ว เดี๋ยวค่อยไปหาอะไรอร่อยๆกินที่บ้านเราเน๊อะ ^^
จบทริปแบกเป้เที่ยวพม่าแล้วนะคะ จริงๆเรื่องราวมีเยอะกว่านี้มาก อันนี้เป็นรีวิวย้อนหลัง
อารมณ์ร่วมตอนเขียนบรรยายเลยไม่มากเท่าที่ควร ไปพม่าครั้งนี้ ความตื่นเต้นกลับอยู่ที่การได้ไปคนเดียว
ได้เห็น ได้เรียนรู้ชีวิตู้คน ได้เห็นวัฒนธรรมที่แตกต่าง ได้เห็นน้ำใจดีๆของคนพม่า
พม่า ไม่ได้เป็นอย่างมุมร้ายที่เราเคยจินตนาการไว้ เที่ยวพม่าไม่อันตรายอย่างที่คิด
สรุปค่าใช้จ่ายทริปพม่า
รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดเป็นเงินไทย 13,482 บาท ค่ะ
เงินจ๊าดคิดเป็น 404,400 จ๊าด
ค่าทำพาสสปอตเล่มใหม่ 1000 บาท
ค่าทำวีซ่า 810 บาท
ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ 2439 บาท
ค่าใช้จ่ายในการเตรียมเดินทางที่ไทย 4249 บาท
ค่าใช้จ่ายที่พม่าวันแรก รวม 205,600 จ๊าด เงินไทย 6854 บาท
ค่าแท็กซี่จากสนามบินไปเจดีย์สุเลพญา 7000 จ๊าด
ค่าเข้าชมเจดีสุเลพญา 2 ดอลล่า
ค่าข้าวผัด + น้ำเปล่า อาหารมื้อเช้า 2500 จ๊าด
ค่าแทกซี่จากสุเลพญาไปหาโรงแรมที่พักแถวชเวดากอง 2000 จ๊าด
ค่าโรงแรม 165 ดอลล่า
ค่าแทกซี่จากโรงแรมไปเจดีย์ชเวดากอง 1500 จ๊าด
ค่าเข้าเจดีย์ชเวดากอง (ขึ้นลิฟท์) 3000 จ๊าด
ค่าซื้อถุงใส่รองเท้า 100 จ๊าด
ค่าซื้อหยกของฝากที่เชวดากอง 20,000 จ๊าด
ค่าขนมปัง น้ำ 500 จ๊าด
ค่าแท็กซี่จากชเวดากองกลับโรงแรม 2000 จ๊าด
ค่าใช้จ่ายที่พม่าวันที่สอง รวม 31500 จ๊าด เงินไทย 1050 บาท
ค่าแทกซี่จากโรงแรมไปโบตาตาว เทพทันใจ 2000 จ๊าด
ค่าเข้าโบตาตาว 3 ดอลล่า
ค่าทำบุญบริจาคตามศรัทธา 2000 จ๊าด
ให้เงินเด็ก 500 จ๊าด
ซื้ออาหารเลี้ยงเต่า 500 จ๊าด
ค่าแทกซี่จากโบตาตาวไปห้าง ตาววินเซ็นเตอร์ 3000 จ๊าด
ค่าอาหารที่ร้าน i berry 3500 จ๊าด
ค่าซื้อของพื้นเมืองฝากที่บ้าน 4000 จ๊าด
ค่ารถจากตาววินเซ็นเตอร์ ไปตลาดโบโจ๊ะหรือสก๊อตมาเก็ต 2000 จ๊าด
ค่าซื้อทานาคา 3000 จ๊าด
ค่าซื้อแอปเปิ้ล 5000 จ๊าด
ค่ารถกลับโรงแรม 3000 จ๊าด
ค่าใช้จ่ายที่พม่าวันที่สาม รวม 38500 จ๊าด เงินไทย 1284 บาท
ค่ารถเที่ยวชมรอบเมือง 5000 จ๊าด
ค่าซื้อของฝากที่ตลาดโบโจ๊ะ 30,000 จ๊าด
ค่าอาหารที่ตลาดโบ๊โจ๊ะ 3500 จ๊าด
ตอนกลับไม่เสียค่ารถเพราะเดินเอา มันไม่ไกลมากค่ะ
รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดเป็นเงินไทย 13,482 บาท ค่ะ
คิดเป็นเงินจ๊าดใช้ไป 404,400 จ๊าด
แพงแค่ค่าโรงแรมอย่างเดียวค่ะ เพราะอิ๋วจ่ายคนเดียว
ถ้ามีเพื่อนไปด้วย ช่วยกันแชร์ค่าที่พักประมาณ 3 คน
ค่าใช้จ่ายจะถูกลงมาก ลองดูค่าใช้จ่ายในแต่ละวันของอิ๋วค่ะ
ใช้แค่วันละพันกว่าบาทเท่านั้นเอง
สรุปรายจ่ายเผื่อเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังคิดจะไปเที่ยวพม่าค่ะ
[CR] รีวิว แบกเป้ลุยเดี่ยว เที่ยวย่างกุ้ง
เริ่มต้นการเดินทางกับแอร์เอเชีย ที่สนามบินดอนเมือง
บินเช้าก็เลยมาถึงสนามบินย่างกุ้งเช้ามาก ด้วยความที่มาแบบไม่ได้เตรียมตัว มีไกด์บุ๊กมาเล่มเดียวกับข้อมูลที่เคยอ่านมาจากรีวิวของเพื่อนๆ เช้าขนาดนี้ หันซ้ายมองขวา ไม่รู้จะไปไหนดี เปิดไกด์บุ๊ก เจอ Downtown งั้นไปที่นี่ก่อนเลย "สุเลพญา"
ไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคลหน่อย
ออกจากเจดีย์สุเลพญา เดินมาเรื่อยๆ เจอรถโดยสารที่ขับได้ซิ่งมาก จอดไวไปไว ใครช้าอดขึ้นนะจ้ะบอกเลย
ยังคงเดินไปเรื่อยๆ ตั้งใจจะหาร้านกินข้าว เดินวนมาตามซอกซอย ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าคนที่นี่ขับรถเก่งมาก ซอยหนูดิ้นตายแค่นี้เค้าสามารถขับรถสวนกัน 2 เลนได้ บางช่วงบนนถนนซอยเดียวกัน ซ้อนกันถึง 3 เลน ไม่ได้ถ่ายรูปมานะคะ เพราะตอนนั้นคิดแค่อย่างเดียวว่า "เราจะต้องมีชีวิตรอดกลับเมืองไทย" จะไม่ยอมถูกรถบีบอัดตายอยู่ที่นี่อย่างเด็ดขาด !!
ในซอย มีร้านขายหนังสือเก่าเยอะมาก มีร้านขายอาหารเล็กๆ แบบในรูปเกือบทุกซอยเลยค่ะ
เดินวนมาประมาณ 3 ซอย ในที่สุดก็เจอร้านอาหารที่เป็นร้านแบบมีโต๊ะนั่ง มีเมนูอาหารที่เป็นภาษาอังกฤษ สั่งเมนูธรรมดามากินก่อนแล้วกันเน๊อะ ^^
กินข้าวอิ่ม ถึงเวลาไปหาโรงแรมพักแล้วค่ะ ระหว่างทางที่เดินไปเรียกแท็กซี่ให้ไปส่งโรงแรม เจอตึกทรงโบราณ สวยดีค่ะ
มาถึงโรงแรมแล้วค่ะ Olympic Hotel ที่เลือกโรงแรมนี้เพราะใกล้สนามบิน ใกล้เจดีย์ชเวดากอง แล้วก็ใกล้กับตลาดสก๊อต จากข้อมูลที่หาไว้ก่อนไป โรงแรมนี้ถือว่าโอเคที่สุดแล้วล่ะ ถ้าจองผ่านอโกด้า ราคาอยูที่คืนละ 65 ดอลล่า แต่จากประสบการณ์ส่วนตัวถ้า work-in ไปจองโดยไม่ผ่านเว็บราคาจะถูกกว่า แต่ก็ถือว่ามีความเสี่ยงสูงนะคะ ถ้าห้องเต็มขึ้นมาคงยุ่งเลยแหละ แต่เราคงเป็นคนโชคดี ห้องไม่เต็มแถมได้ค่าห้องคืนละ 55 ดอลล่า 3 คืน จ่ายไป 165 ดอลล่า ถูกกว่าจองผ่านเว็บเยอะเลย ห้องก็ไม่เลวร้าย แอร์เย็น ผ้าสะอาด ห้องน้ำเก่าไปนิดแต่สะอาดดี มีอาหารเช้าให้ด้วย บริการดีเลิศ ที่สำคัญแลกเงินที่โรงแรม เรทดีกว่าแลกที่สนามบินค่ะ
รวยในพริบตา ^^
เก็บของที่โรงแรมเสร็จก็อย่ารอช้า ไปเจดีย์ชเวดากองต่อเลยค่ะ ให้โรงแรมเรียกแท็กซี่เปิดประทุนไว้ให้ จากโรงแรมไปใช้เวลาประมาณ 20 นาทีก็ถึงล่ะ
พวงมาลัยดอกจำปาลาว
แถวๆเจดีย์ชเวดากองหาของกินง่ายค่ะ เดินข้ามมาถนนอีกฝากจะเป็นร้านอาหาร คนเยอะมาก ส่วนรสชาติ อืม คนที่ชอบทานอาหารรสจืดก็คงพอกินได้มั้ง
เม็ดมะม่วงหิมหานต์ คิดเป็นเงินไทย ถุงนี้ตกอยู่ที่ประมาณ 80 บาทเลยนะคะ ที่ซื้อเพราะชอบในความพยายามที่จะใส่ทุกภาษาลงบนซอง ไทย จีน พม่า อังกฤษ ถึงจะเขียนภาษาไทยผิด แต่ก็อ่านออก และอยากบอกว่าความพยายามของคุณประสบผลสำเร็จค่ะ อย่างน้อยก็เราคนนึงล่ะที่ซื้อ เก็บไว้กินตอนกลางคืน เผื่อหิว ^^
ยังอยู่ที่เรื่องอาหารการกิน ทริปนี้เป็นทริปที่อยู่กินธรรมดานะคะ ขอไม่เปิบพิศดาร เพราะว่าไปคนเดียว เกิดท้องเสียขึ้นมากลัวจะไม่ได้กลับบ้าน ><
นอนพักผ่อนเต็มที่ มีเรี่ยวแรงแล้ว ก็เที่ยวกันต่อเลยค่ะ ที่นี่คือจุดหมายที่วงกลมไว้ใหญ่มากบนไกด์บุ๊ก "เจดีย์โบดาทาวน์" ชมเจดีย์โบดาทาวน์ ขอพร เทพทันใจ
คนไทยไปเยอะมาก
ให้อาหารเต่า
ภาพสุดประทับใจของทริปพม่า ตอนที่ยื่นเงินให้ก็ให้แบบไม่ได้คิดอะไร แต่พอเห็นรอยยิ้มใสซื่อแบบนี้ คิดในใจอยู่อย่างเดียวว่า "คุ้มแล้วที่ได้มาที่นี่"
ออกจากเจดีย์โบดาทาวน์ เที่ยงพอดี หิวอีกแล้ว ไปหาอะไรกินที่ห้างกันเถอะค่ะ ว่าแต่ว่า ห้างอยู่ไหน ไม่รู้จัก ไม่มีข้อมูลไปเลย ไปหาข้างหน้าจริงๆค่ะ ถามพี่คนขับแท็กซี่เอา ว่าไปห้างที่อยู่ใกล้ๆตรงนี้อ่ะ แล้วก็ชี้มือไม้ไปทำเป็นว่ารู้จัก แล้วแท็กซี่ก็พามาถึงห้างนี้ Taw Win Center อยู่ใกล้กับสถานทูตไทย เพิ่งรู้จักตอนแท็กซี่พามาถึงนี่ล่ะ >< ส่วนอาหาร เหมือนเดิมค่ะ ขอไม่เปิบพิศดาร กินง่ายๆแค่พอให้ท้องอิ่มก็พอล่ะ
ไปซื้อของฝากที่ตลาดสก๊อตต่อเลยเน๊อะ ทุกอย่างก็ธรรมดา แต่มาสะดุดตาตรงตาชั่งแอปเปิ้ล นี่มันงานคลาสสิคเลยนะเนี้ยะ
เดินไปเรื่อยๆก็จะเจอแท่นสีขาวๆแบบนี้อยู่เกือบทุกป้ายรถเมล์ สงสัยมากว่ามันคืออะไร เลยแอบยืนมองอยู่นาน จนเห็นว่า สิ่งนี้คือปูนขาวที่ใช้กินหมากพลู สุดยอดไอเดียอีกล่ะ
เดินนาน เมื่อ แวะดื่มกาแฟหน่อย เมนูนี้สั่งตามโต๊ะข้างๆนะคะ รสชาติ อืมม หวานม๊ากกก หวานกว่ากาแฟโบราณบ้านเราอีก
ชั่วโมงลองของ เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึงพม่า ลองสั่งอาหารพื้นเมืองของเค้ามากิน สั่งเมนูที่คิดว่าตัวเองน่าจะกินได้ที่สุด ยำไก่แบบพม่า รสชาติเหมือนไก่ผัดเปรี้ยวหวานมากกว่า ที่สำคัญน้ำมันเยอะมาก
งานขนมพื้นเมืองต้องมา อันนี้พอกินได้ค่ะ รสชาติคล้ายๆขนมกล้วยบ้านเรา
อีกเมนูที่สั่งตามโต๊ะรอบข้าง เห็นขายดีจัง ก๋วยเตี๊ยวเต้าเจี้ยว มีแต่เส้นกับเต้าเจี้ยวโรยหน้าจริงๆ ที่สำคัญ บนโต๊ะไม่มีเครื่องปรุงรส >_<
สรุปว่าสั่งมากินหลายอย่าง แต่กินได้อย่างละนิด สงสัยมื้อนี้ต้องกลับไปกินขนมปังที่พกมาจากเมืองไทย ไปค่ะ ไม่ต้องกลัวหลง เดินๆตามเค้าไปนี่แหละ โดยเฉพาะตอนข้ามถนนนี่เรียกได้ว่าเสียวสยอง เพราะการข้ามที่นี่ไม่มีไฟแดง หาจังหวะเอา มีช่วงไหนเดินได้เดินเลย อย่ารีรอ ถ้ารีรอ ชีวิตอาจไม่รอดก้ได้นะ ><! เรารีรอ เราเลยต้องเกาะตามก้นคนพื้นที่ไปแบบเนียนๆ
ถึงโรงแรมล่ะ คืนนี้แอปเปิ้ลกู้ชีพแท้ๆ พรุ่งนี้ก็เดินทางกลับแล้ว เดี๋ยวค่อยไปหาอะไรอร่อยๆกินที่บ้านเราเน๊อะ ^^
จบทริปแบกเป้เที่ยวพม่าแล้วนะคะ จริงๆเรื่องราวมีเยอะกว่านี้มาก อันนี้เป็นรีวิวย้อนหลัง
อารมณ์ร่วมตอนเขียนบรรยายเลยไม่มากเท่าที่ควร ไปพม่าครั้งนี้ ความตื่นเต้นกลับอยู่ที่การได้ไปคนเดียว
ได้เห็น ได้เรียนรู้ชีวิตู้คน ได้เห็นวัฒนธรรมที่แตกต่าง ได้เห็นน้ำใจดีๆของคนพม่า
พม่า ไม่ได้เป็นอย่างมุมร้ายที่เราเคยจินตนาการไว้ เที่ยวพม่าไม่อันตรายอย่างที่คิด
รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดเป็นเงินไทย 13,482 บาท ค่ะ
เงินจ๊าดคิดเป็น 404,400 จ๊าด
ค่าทำพาสสปอตเล่มใหม่ 1000 บาท
ค่าทำวีซ่า 810 บาท
ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ 2439 บาท
ค่าใช้จ่ายในการเตรียมเดินทางที่ไทย 4249 บาท
ค่าใช้จ่ายที่พม่าวันแรก รวม 205,600 จ๊าด เงินไทย 6854 บาท
ค่าแท็กซี่จากสนามบินไปเจดีย์สุเลพญา 7000 จ๊าด
ค่าเข้าชมเจดีสุเลพญา 2 ดอลล่า
ค่าข้าวผัด + น้ำเปล่า อาหารมื้อเช้า 2500 จ๊าด
ค่าแทกซี่จากสุเลพญาไปหาโรงแรมที่พักแถวชเวดากอง 2000 จ๊าด
ค่าโรงแรม 165 ดอลล่า
ค่าแทกซี่จากโรงแรมไปเจดีย์ชเวดากอง 1500 จ๊าด
ค่าเข้าเจดีย์ชเวดากอง (ขึ้นลิฟท์) 3000 จ๊าด
ค่าซื้อถุงใส่รองเท้า 100 จ๊าด
ค่าซื้อหยกของฝากที่เชวดากอง 20,000 จ๊าด
ค่าขนมปัง น้ำ 500 จ๊าด
ค่าแท็กซี่จากชเวดากองกลับโรงแรม 2000 จ๊าด
ค่าใช้จ่ายที่พม่าวันที่สอง รวม 31500 จ๊าด เงินไทย 1050 บาท
ค่าแทกซี่จากโรงแรมไปโบตาตาว เทพทันใจ 2000 จ๊าด
ค่าเข้าโบตาตาว 3 ดอลล่า
ค่าทำบุญบริจาคตามศรัทธา 2000 จ๊าด
ให้เงินเด็ก 500 จ๊าด
ซื้ออาหารเลี้ยงเต่า 500 จ๊าด
ค่าแทกซี่จากโบตาตาวไปห้าง ตาววินเซ็นเตอร์ 3000 จ๊าด
ค่าอาหารที่ร้าน i berry 3500 จ๊าด
ค่าซื้อของพื้นเมืองฝากที่บ้าน 4000 จ๊าด
ค่ารถจากตาววินเซ็นเตอร์ ไปตลาดโบโจ๊ะหรือสก๊อตมาเก็ต 2000 จ๊าด
ค่าซื้อทานาคา 3000 จ๊าด
ค่าซื้อแอปเปิ้ล 5000 จ๊าด
ค่ารถกลับโรงแรม 3000 จ๊าด
ค่าใช้จ่ายที่พม่าวันที่สาม รวม 38500 จ๊าด เงินไทย 1284 บาท
ค่ารถเที่ยวชมรอบเมือง 5000 จ๊าด
ค่าซื้อของฝากที่ตลาดโบโจ๊ะ 30,000 จ๊าด
ค่าอาหารที่ตลาดโบ๊โจ๊ะ 3500 จ๊าด
ตอนกลับไม่เสียค่ารถเพราะเดินเอา มันไม่ไกลมากค่ะ
รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดเป็นเงินไทย 13,482 บาท ค่ะ
คิดเป็นเงินจ๊าดใช้ไป 404,400 จ๊าด
แพงแค่ค่าโรงแรมอย่างเดียวค่ะ เพราะอิ๋วจ่ายคนเดียว
ถ้ามีเพื่อนไปด้วย ช่วยกันแชร์ค่าที่พักประมาณ 3 คน
ค่าใช้จ่ายจะถูกลงมาก ลองดูค่าใช้จ่ายในแต่ละวันของอิ๋วค่ะ
ใช้แค่วันละพันกว่าบาทเท่านั้นเอง
สรุปรายจ่ายเผื่อเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังคิดจะไปเที่ยวพม่าค่ะ