[CR] ไปให้ไกล ไปให้นาน (ตอนที่ 1): ล่อง Lake Como แล้วโผล่บน Balcony of Italy

Ciao!

การเดินทางครั้งนี้ ริเริ่มจากความต้องการปลดปล่อยหลังจากช่วงเวลาที่พวกเราใช้ในห้องเรียนร่วมกันมา
จำไม่ได้แน่ชัดว่าเหตุผลกลใด แต่อิตาลีคือที่หมายหลักที่เราเลือก
ก่อนจะมองหาประเทศข้างเคียงอย่างสวิสเซอร์แลนด์และกรีซ
สมาชิกในทริปก็เหมือนระดมกันมาแบบงงๆ แต่ดูแล้วน่าจะอยู่รอดกันได้จนจบทริป จึงตกลงปลงใจ.. ไปกันเถอะ

ไปให้ไกล ไปให้นาน
ตอนที่ 1 ทะเลสาบโคโม (Lake Como) - ระเบียงอิตาลี (Balcony of Italy): http://ppantip.com/topic/34051845
ตอนที่ 2 ก้าวแรกสู่สวิสเซอร์แลนด์ สายน้ำมรกต (Verzasca River) – หมู่บ้านกลางหุบเขา Grindelwald: http://ppantip.com/topic/34064577
ตอนที่ 3 สบตา Jungfrau: http://ppantip.com/topic/34389450




อิตาลีเป็นประเทศที่มีหลายแห่งหลายมุมที่น่าสนใจ แต่เนื่องจากไฟลท์เราลงที่มิลาน
เราจึงเริ่มการเดินทางครั้งนี้ด้วยทะเลสาบที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของอิตาลี Lake Como ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของมิลานค่ะ
ทะเลสาบแห่งนี้ สามารถเช่ารถขับไปใช้เวลาราวชั่วโมงนิดๆ หรือจะนั่งรถไฟไปลงที่ Como Nord Lago หรือ Lecco ก็ได้
(ดูตาราง+จองได้ที่นี่เลยค่ะ: http://www.trenitalia.com)
ทะเลสาบจะมีรูปร่างเหมือนตัว Y กลับหัว มีเมืองสามเมืองล้อมรอบคือ Menaggio Bellagio และ Varenna
ซึ่งมีเรือล่องทะเลสาบพาเที่ยวได้ทั้งสามเมือง (ตรวจสอบตารางเรือได้ที่ http://www.navigazionelaghi.it)





เราเลือกใช้รถเช่าเป็นพาหนะคู่ใจในการเดินทางครั้งนี้ค่ะ ส่วนที่พักเราจองที่ Balcone Fiorito
อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 2-3 กิโลเมตร ใกล้กับโซนหมู่บ้านที่ชื่อ Croce
David เจ้าของที่พัก เป็นหนุ่มอารมณ์ดีขาวสก็อตที่ย้ายมาอยู่ที่เมืองนี้กับคุณแม่
ทั้งสองคนน่ารักและใจดีมาก ที่พักก็สะอาดและสบายค่ะ
การได้รุ้จักพูดคุยกับ David ในเช้าวันแรกที่มาถึง ชวนให้เรารู้สึกว่า
Menaggio และ Lake Como คงมีดีอยู่ไม่น้อยเลย ถึงทำให้ครอบครัวนี้ยอมจากบ้านมาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่นี่แทน



เราเริ่มเช้าวันแรกด้วยการเดินออกกำลังกายไปยังจุดชมวิวใกล้ที่พักที่ชื่อว่า La Crocetta ค่ะ
ที่นี่เคยเป็นแนวป้องกันของชายแดนอิตาลีจากทหารเยอรมันเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
ตลอดทางก็เลยจะเห็นสนามเพลาะซึ่งมีลักษณะคล้ายคูเล็กๆทอดยาวไปตามทาง และเมื่อไปถึงด้านบนที่มีแท่นบูชาและไม้กางเขนตั้งอยู่
ก็จะพบกับจุดชมวิวที่ทำให้มองเห็นเมือง Menaggio ทั้งเมือง กำลังโอบกอดทะเลสาบอยู่อย่างอบอุ่น
เทียบกับเวลาเดินขึ้น-ลงรวมประมาณ 30 นาทีแล้ว ก็นับว่าคุ้มค่าอยู่ไม่น้อยเลยล่ะค่ะ



ด้วยเวลาที่จำกัด เราเลือกจะนั่งเรือไปเที่ยว Bellagio เมืองสีสดที่รออยู่อีกฝั่งหนึ่งของทะเลสาบ
หลังอาหารเช้า เราจึงมุ่งหน้าไปยังท่าเรือ Menaggio (อยู่ข้างโรงแรม Grand Hotel Menaggio)
เพื่อนั่งเรือข้ามฟากไปยัง Bellagio ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงเราก็ไปถึงที่หมาย







เมื่อเรือจอดเทียบท่า เราเดินเลียบชายฝั่งขึ้นไปตาม Salita Serbelloni
บันไดที่ขนาบข้างด้วยร้านอาหาร ร้านไอศกรีม และร้านขายของที่น่าสนใจมากมาย
เดินเล่นถ่ายรูปกันอยู่พักหนึ่ง เราก็เลือก Ristorante Bilacus เป็นที่ฝากท้องสำหรับมื้อเที่ยง
ที่นี่เสิร์ฟอาหารอิตาเลียนทั่วไป แต่ที่ดึงดูดคือที่นั่งบนระเบียง ที่ให้นั่งกินไปชิวไปชมเมืองไปค่ะ

               








หลังอาหารเที่ยง เรานั่งเรือรอบบ่ายไปลงที่ Lenno เพื่อตามรอย James Bond ไปชม Villa del Balbianello ค่ะ
จริงๆแล้วถ้าใครอยากเข้าถึงวิลลาแบบเท่ๆ ก็สามารถเช่า taxi boat ไปจอดหน้าวิลลา แบบใน Casino Royale ได้เลย
ค่าเรือ 7 ยูโรต่อคน แต่เราเลือกที่จะเดินเท้าชมธรรมชาติขึ้นไป
ใช้เวลาประมาณ 25 นาทีเดินผ่านเส้นทางที่ร่มรื่นก็ไปถึงวิลลาได้เช่นกันค่ะ



ที่หน้าทางเข้าวิลลาจะมีบูธเก็บเงิน เลือกได้ว่าจะซื้อแบบชมทั้งวิลลาและสวน หรือเฉพาะสวน
(เช็คเวลาเปิด-ปิดและค่าเข้าได้ที่ http://www.visitfai.it/villadelbalbianello/)
เราเลือกเข้าชมเฉพาะบริเวณสวน แต่หากใครที่สนใจการจัดแสดงห้องต่างๆและของสะสมจากสองศตวรรษก่อน
ก็ไม่ควรพลาดที่จะซื้อตั๋วแบบรวมวิลลาเข้าไปด้วยค่ะ

               

เหตุผลใหญ่ๆที่จูงใจคนมาที่นี่ คือวิลลาแห่งนี้ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง Star Wars และ Casino Royale
แต่จริงๆแล้วตัวของวิลลาและสวนเองก็ถือว่าสวยมากจนต้องใช้เวลาชั่วโมงสองชั่วโมงที่นี่ เดินชมไม้ดัด ไม้ประดับ
ซึมซับบรรยากาศอันร่มรื่น ชื่นชมรูปปั้นสวยๆที่เรียงรายอยู่ตลอดทาง
เราใช้เวลาเดินเล่นพักผ่อนหย่อนก้นนั่งอยู่ราวๆชั่วโมง ก่อนจะไปเล่นสนุกโบกมือให้คนที่นั่งเรือผ่านไปมาที่ริมหน้าผา
จนอิ่มหนำสำราญกับบรรยากาศแล้ว เราจึงเดินกลับไปยังท่าเรือที่ Lenno เพื่อนั่งเรือกลับไปเอารถที่จอดไว้ที่ Menaggio



               

ขึ้นจากท่าเรือก็เป็นเวลาเย็นแล้ว เราแวะไปยัง Piazza Giuseppe Garibaldi
มื้อเย็นเป็นอาหารเบาๆที่ร้านริมทาง นั่งดูชาว Menaggio เดินไปเดินมา พบปะพูดคุย
ก็เป็นบรรยากาศที่ชิวดีและคงหาไม่ได้ที่เมืองไทย



เนื่องจากตอนที่ไปเป็นช่วงเริ่มต้นซัมเมอร์ พระอาทิตย์เลยจะตกช้ากว่าปกติ
กลางวันนั้นยาวนานกว่ากลางคืน กว่าแสงสุดท้ายจะลาขอบฟ้าก็เกือบสามทุ่ม คิดซะว่าโชคดีที่ได้ใช้เวลาเที่ยวจนคุ้ม
เราเลยขับรถมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายสุดท้าย Balcone d'Italia (Balcony of Italy)
จุดชมวิวบริเวณชายแดนอิตาลีที่ทำให้เห็นทะเลสาบ Lugano และฝั่งสวิสเซอร์แลนด์แบบพาโนรามาค่ะ



ทางเส้นนี้อาจจะขับลำบากสักนิด เพราะเป็นทางสายรองที่ลัดเลาะตามเขา
คดเคี้ยวในบางช่วง แต่ก็ไม่ถึงกับอันตรายจนน่ากลัวนักค่ะ
ใช้เวลาประมาณชั่วโมงนิดๆก็ไปถึง ดั้นด้นกันมาไกลขนาดนี้แต่ก็ถือว่าคุ้มเกินคุ้ม
บางครั้งอะไรที่มีค่า.. ก็ต้องแลกมาด้วยความพยายามบ้างเป็นธรรมดา
พระอาทิตย์ตกที่ระเบียงนั้น สวยจนไม่อยากกะพริบตาจริงๆ
อ้อ.. เตือนกันนิดนึงว่าลมข้างบนแรงและหนาวมากนะคะ
อย่าลืมพกเสื้ออุ่นๆ หรือไม่ก็เบียร์เย็นๆ ไปช่วยคลายหนาวระหว่างรอชมแสงสุดท้ายกันด้วย







นี่แค่วันแรกของทริปนะคะ บอกแล้วว่า.. ไปไกล ไปนาน และไปคุ้มจริงๆ
ตอนนี้ขอกลับที่พักเพื่อตุนแรงไว้สำหรับการข้ามไปสู่อีกประเทศในวันพรุ่งนี้

--------------------------

FB: https://www.facebook.com/ggonjourney
IG: ggonjourney
ชื่อสินค้า:   Lake Como, Italy
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่