ยังเข้าใจผิดกันอยู่เลยครับ

สเปนมองว่าวัฒนธรรมการนอนพักกลางวันหรือที่เรียกกันว่า  "Siesta"  นั้นกำลังเป็นปัญหามากขึ้นทุกที   รัฐบาลจึงให้มีการทำวิจัยซึ่งแสดงให้เห็นถึงผลกระทบต่อชีวิตครอบครัวที่หัวหน้าครอบครัวกลับบ้านดึกหลังสามทุ่ม    ทำให้มีเวลากับลูกๆ น้อย  และกว่าจะเสร็จการกินอาหารมื้อเย็นและเข้านอนได้ก็จะเลยเวลาเที่ยงคืนหรือตีหนึ่งไปแล้วเป็นอย่างน้อย    การที่มีเวลานอนกลางคืนไม่พอเพียงส่งผลให้การทำงานอยู่ในภาวะง่วงงุนและขาดสมาธิ   แม้แต่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุในงานในอัตราสูง       เป็นที่รู้กันว่าเวลานอนกลางวันไม่สามารถชดเชยเวลานอนกลางคืนตามปกติได้

เวลาทำงานที่แตกต่างกับประเทศอื่นๆ ทำให้การติดต่องานประสบอุปสรรคและมีผลเสียหาย

นอกจากนั้นแล้ว   แม้ว่าชาวสเปนจะมีชั่วโมงทำงานเฉลี่ยสูงกว่าชั่วโมงทำงานของประทศยุโรปเหนือ   แต่ผลผลิตกลับต่ำกว่าและส่งผลเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ที่สเปนตามหลังประเทศอุตสาหกรรมใหญ่ๆ ยุโรปทั้งหลาย

จึงเป็นที่มาของการเปลี่ยนแปลงแก้ไขกฏหมายเวลาทำงานของราชการสเปนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2006 เป็นต้นมา   ที่ลดเวลาพักกลางวันลงมาเหลือ 1 ชั่วโมงเหมือนๆ กับประเทศยุโรปอื่นๆ ทั่วไป

เวลาทำงานใหม่ปัจจุบันเป็นดังนี้คือ  09.00-12.00  และ  13.00-18.00 (รวมชั่วโมงทำงาน 8 ชั่วโมง)

จากเวลาทำงานเดิม 9.00-14.00  และ  17.00-20.00

รัฐบาลสเปนหวังว่าการนำร่องการเปลี่ยนแปลงเวลาทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐทั้งหมดนี้จะเป็นส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในธุรกิจเอกชนตามมาด้วย    ซึ่งก็เป็นไปเช่นนั้น     ปัจจุบันนี้ห้างสรรพสินค้าและซุปเปอร์มาเก็ตสเปนในเมืองใหญ่ๆ เปิดทำการตลอดโดยไม่มีการปิดพักกลางวัน   สำหรับบริษัทข้ามชาติและอุตสาหกรรมใหญ่ๆ นั้นมีเวลาทำการปกติปิดพักกลางวัน 1 ชั่วโมง   และแม้แต่วัฒนธรรมจากอเมริกาที่พักกลางวันเหลือแค่ครึ่งชั่วโมงหรือ 40 นาทีนั้นก็กำลังมีเทรนด์เกิดตามมาขึ้นเรื่อยๆ

ตลาดหุ้นเมืองมาดริดเปิดทำการระหว่าง 9.00-17.30   เปิดตลอดโดยไม่มีปิดช่วงเที่ยง

ปัจจุบันการพักกลางวันของสเปนและเมืองทางใต้รอบๆ ริมทะเลเมดิเตอร์เรนียนนั้นยังกระทำกันอยู่ในหมู่กรรมกร  คนงานภาคเกษตรกรรมหรือ
พนักงงานที่ใช้แรงงาน   และ ธุรกิจระดับเล็กเท่านั้น