ตาดูหนัง หูฟังเพลง 02
โดย โตโตโร่เพื่อนรัก อร่อยนักโตโตโร่
Little Peggy March - I Will Follow Him | Ost. Sister Act (1992, Emile Ardolino)
Whoopi Goldberg นักแสดง, พิธีกร, นักร้อง และผู้หญิงผิวสีที่ป็อปที่สุดคนหนึ่งของยุค 90 หลังจากคว้าเอารางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจาก Ghost (หนังทำเงินในปี 1990) มานอนกอดได้เพียง 2 ปี เธอก็กลับมาขยี้ความดังของตัวเองด้วยการรับบทเป็นนักร้องในบาร์ที่หนีการตามล่าของมาเฟียมาบวชเป็นซิสเตอร์ ก่อนจะจับพลัดจับผลูได้มาเป็นคนคุมวงขับร้องประสานเสียงประจำโบสถ์ ที่ร้องกันเฉื่อยแฉะ เพี้ยนแล้วเพี้ยนอีก เธอเข้ามาแปลงโฉม ชุบชีวิตให้กับวง ใส่ชีวาเข้าไปในการร้องเพลง จนวงประสานเสียงของเหล่าซิสเตอร์ประสบความสำเร็จเป็นที่ยอมรับของทุกๆคน – และตัวหนังก็ประสบความสำเร็จทั้งในแง่ของคำวิจารณ์และรายได้ อีกทั้งเพลงในหนังก็ยังถูกนำเอามาทำซ้ำแล้วซ้ำอีก กลายเป็นความอมตะไปโดยปริยาย
ที่สำคัญคือมันทำให้เพลงแนว Gospel หรือการร้องประสานเสียงในบทเพลงสรรเสริญพระเจ้า ทรงเสน่ห์และน่าฟังขึ้นเป็นกอง
ก่อนอื่นขออธิบายถึงการร้องแบบวงขับร้องประสานเสียงเสียก่อน กล่าวอย่างกระชับและรวบรัด มันคือเพลงที่ถูกร้องอย่างเป็นหมู่คณะ ร้องในไลน์ที่แตกต่างกัน ในโน้ตที่ประสานกัน อาจแบ่งเป็นกรุ๊ปๆอย่างง่ายๆ คือ สูง กลาง ต่ำ (นี่คืออย่างง่ายๆจริงๆนะ ถ้าอย่างยากๆ ให้เข้าไปอ่านตามลิงก์ที่จะแนบเอาไว้ท้ายบทความนะครับ) บางคนมักจะเข้าใจผิดว่าการร้องประสานคือมีคนร้องหลักหนึ่งคน แล้วที่เหลือคือร้องยังไงก็ได้ให้ไม่เหมือนคนร้องหลัก ซึ่งไม่ใช่นะครับ มันต้องเป็นโน้ตที่ประสานกัน จึงจะเป็นการประสานเสียง
I Will Follow Him เวอร์ชั่นในหนังนี้ แบ่งออกเป็นสองพาร์ทชัดเจน พาร์ทแรกเป็น Gospel อย่างที่เราเคยรู้จักแทบจะเต็มตัว คือยืนร้องประสานกันนิ่งๆกับเปียโน ก่อนจะส่งเข้าพาร์ทหลังที่มีดนตรีแบบฟูลแบนด์เข้ามา และการร้องประสานถูกลดทอนบทบาทลงไปเหลือแค่การซัพพอร์ตนักร้องนำ อันเป็นรูปแบบที่ดึงเอาความร่วมสมัยแบบเพลงป็อปมาเพิ่มสีสันให้กับเพลง ผสมกับการเพอร์ฟอร์ม การเต้นประกอบจังหวะ มันจึงละม้ายคล้ายจะเป็น Show Choir (ร้องประสานเสียงไปพร้อมๆกับเต้นหรือเพอร์ฟอร์ม) หรือ Musical (มีการแสดงบทบาทสมมติเข้าไปในเพลง) กลายๆ อย่างที่เด็กรุ่นหลังเคยดูในซีรีส์ฮิตเรื่อง Glee หรือหนังสาวๆๆอย่าง Pitch Perfect
เพลงนี้ถูกใช้ในฉากสุดท้ายของเรื่อง วงได้มีโอกาสแสดงคอนเสิร์ตต่อหน้าโป๊ปและสาธารณชน แสดงในสิ่งซึ่งเป็นตัวตนและความชอบของวงจริงๆ ที่กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ก็ต้องผ่านด่านของอธิการ (แม็กกี้ สมิธ หรือศาสตราจารย์มักกอลนากัลนั่นเอง) ผู้ไม่ยอมรับการร้องในรูปแบบใหม่ เธอมองว่ามันเป็นการทำลายแบบแผนดั้งเดิมที่เคยเป็นมา แต่สุดท้ายเหล่าซิสเตอร์ก็ทำลายม่านที่บดบังอยู่ในความรู้สึกของอธิการได้สำเร็จ ฉะนั้นการที่วงเลือกที่จะทำครึ่งแรกของเพลงในรูปแบบเก่า อาจจะเพื่อเป็นการบอกอธิการ รวมไปถึงทุกๆคนว่า ทั้งสองแบบล้วนมีข้อดีของมัน และเราสามารถผสมมันเข้ากันได้ แถมยังทำออกมาได้ดีเสียด้วย
ดีแค่ไหนให้ดูจากรอยยิ้มที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของอธิการและผู้คนในโบสถ์ รวมไปถึงรอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าของท่านๆหลังฟังเพลงจบ ผมว่าคงยิ้มกว้างไม่ต่างกันเท่าไหร่
รูปแบบของวงขับร้องประสานเสียง -
https://th.wikipedia.org/wiki/คายกคณะ
PAGE |
โตแล้ว จะดูหนังเรื่องอะไรก็ได้ |
www.facebook.com/tohlaew
[บทความ] ตาดูหนัง หูฟังเพลง02 - Sister Act
โดย โตโตโร่เพื่อนรัก อร่อยนักโตโตโร่
Little Peggy March - I Will Follow Him | Ost. Sister Act (1992, Emile Ardolino)
Whoopi Goldberg นักแสดง, พิธีกร, นักร้อง และผู้หญิงผิวสีที่ป็อปที่สุดคนหนึ่งของยุค 90 หลังจากคว้าเอารางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจาก Ghost (หนังทำเงินในปี 1990) มานอนกอดได้เพียง 2 ปี เธอก็กลับมาขยี้ความดังของตัวเองด้วยการรับบทเป็นนักร้องในบาร์ที่หนีการตามล่าของมาเฟียมาบวชเป็นซิสเตอร์ ก่อนจะจับพลัดจับผลูได้มาเป็นคนคุมวงขับร้องประสานเสียงประจำโบสถ์ ที่ร้องกันเฉื่อยแฉะ เพี้ยนแล้วเพี้ยนอีก เธอเข้ามาแปลงโฉม ชุบชีวิตให้กับวง ใส่ชีวาเข้าไปในการร้องเพลง จนวงประสานเสียงของเหล่าซิสเตอร์ประสบความสำเร็จเป็นที่ยอมรับของทุกๆคน – และตัวหนังก็ประสบความสำเร็จทั้งในแง่ของคำวิจารณ์และรายได้ อีกทั้งเพลงในหนังก็ยังถูกนำเอามาทำซ้ำแล้วซ้ำอีก กลายเป็นความอมตะไปโดยปริยาย
ที่สำคัญคือมันทำให้เพลงแนว Gospel หรือการร้องประสานเสียงในบทเพลงสรรเสริญพระเจ้า ทรงเสน่ห์และน่าฟังขึ้นเป็นกอง
ก่อนอื่นขออธิบายถึงการร้องแบบวงขับร้องประสานเสียงเสียก่อน กล่าวอย่างกระชับและรวบรัด มันคือเพลงที่ถูกร้องอย่างเป็นหมู่คณะ ร้องในไลน์ที่แตกต่างกัน ในโน้ตที่ประสานกัน อาจแบ่งเป็นกรุ๊ปๆอย่างง่ายๆ คือ สูง กลาง ต่ำ (นี่คืออย่างง่ายๆจริงๆนะ ถ้าอย่างยากๆ ให้เข้าไปอ่านตามลิงก์ที่จะแนบเอาไว้ท้ายบทความนะครับ) บางคนมักจะเข้าใจผิดว่าการร้องประสานคือมีคนร้องหลักหนึ่งคน แล้วที่เหลือคือร้องยังไงก็ได้ให้ไม่เหมือนคนร้องหลัก ซึ่งไม่ใช่นะครับ มันต้องเป็นโน้ตที่ประสานกัน จึงจะเป็นการประสานเสียง
I Will Follow Him เวอร์ชั่นในหนังนี้ แบ่งออกเป็นสองพาร์ทชัดเจน พาร์ทแรกเป็น Gospel อย่างที่เราเคยรู้จักแทบจะเต็มตัว คือยืนร้องประสานกันนิ่งๆกับเปียโน ก่อนจะส่งเข้าพาร์ทหลังที่มีดนตรีแบบฟูลแบนด์เข้ามา และการร้องประสานถูกลดทอนบทบาทลงไปเหลือแค่การซัพพอร์ตนักร้องนำ อันเป็นรูปแบบที่ดึงเอาความร่วมสมัยแบบเพลงป็อปมาเพิ่มสีสันให้กับเพลง ผสมกับการเพอร์ฟอร์ม การเต้นประกอบจังหวะ มันจึงละม้ายคล้ายจะเป็น Show Choir (ร้องประสานเสียงไปพร้อมๆกับเต้นหรือเพอร์ฟอร์ม) หรือ Musical (มีการแสดงบทบาทสมมติเข้าไปในเพลง) กลายๆ อย่างที่เด็กรุ่นหลังเคยดูในซีรีส์ฮิตเรื่อง Glee หรือหนังสาวๆๆอย่าง Pitch Perfect
เพลงนี้ถูกใช้ในฉากสุดท้ายของเรื่อง วงได้มีโอกาสแสดงคอนเสิร์ตต่อหน้าโป๊ปและสาธารณชน แสดงในสิ่งซึ่งเป็นตัวตนและความชอบของวงจริงๆ ที่กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ก็ต้องผ่านด่านของอธิการ (แม็กกี้ สมิธ หรือศาสตราจารย์มักกอลนากัลนั่นเอง) ผู้ไม่ยอมรับการร้องในรูปแบบใหม่ เธอมองว่ามันเป็นการทำลายแบบแผนดั้งเดิมที่เคยเป็นมา แต่สุดท้ายเหล่าซิสเตอร์ก็ทำลายม่านที่บดบังอยู่ในความรู้สึกของอธิการได้สำเร็จ ฉะนั้นการที่วงเลือกที่จะทำครึ่งแรกของเพลงในรูปแบบเก่า อาจจะเพื่อเป็นการบอกอธิการ รวมไปถึงทุกๆคนว่า ทั้งสองแบบล้วนมีข้อดีของมัน และเราสามารถผสมมันเข้ากันได้ แถมยังทำออกมาได้ดีเสียด้วย
ดีแค่ไหนให้ดูจากรอยยิ้มที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของอธิการและผู้คนในโบสถ์ รวมไปถึงรอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าของท่านๆหลังฟังเพลงจบ ผมว่าคงยิ้มกว้างไม่ต่างกันเท่าไหร่
รูปแบบของวงขับร้องประสานเสียง - https://th.wikipedia.org/wiki/คายกคณะ
PAGE | โตแล้ว จะดูหนังเรื่องอะไรก็ได้ | www.facebook.com/tohlaew