ทริปนี้เป็นทริปที่ 2 ที่ จขกท ได้ทำการรีวิว ช่วงที่ จขกท เรียนอยู่ที่ประเทศจีน เป็นช่วงที่เที่ยวบ่อยเหลือเกิน วันนี้เลยมาทำเสนอทริปปิดเทอมภาคฤดูร้อนค่ะ ช่วงที่ร้อนที่สุดของจีน คือ ปลายมิถุนายน ถึง สิงหาคม ค่ะ เป็นช่วงที่แดดดี เที่ยวสนุก ถ่ายรูปสวย แต่สภาพหลังจากเที่ยวนี่ไม่ต้องพูดถึง ส่องกระจกทีไร รู้สึกว่าหน้าหมองคล้ำทาแป้งไม่ติด หน้าลอก บลา..... แต่ก็คุ้มค่ากับการได้ไปเปิดโลกกว้างค่ะ
ทริปนี้ จขกท เที่ยวตอนต้นเดือน ก.ค. เพราะมีเพื่อนที่ไทยอยากจะลองมาเที่ยวประเทศจีน และมีงบประมาณที่จำกัดคือ 20K โดยประมาณ ก็เลยให้จขกท ลองจัดทริปแล้วไปเที่ยวด้วยกัน เลยเกิดเป็นทริปนี้ขึ้นมาค่ะ
ทริปนี้อาจจะไม่หวือหวา เพราะเน้นเที่ยวอยากคุ้มค่า คือไปเที่ยววันหนึ่งไม่เกิน 2 สถานที่ แต่ได้ใช้เวลาอยู่กับมันนานพอสมควร เน้นซึมซับบรรยากาศ มองดูสิ่งรอบตัว เหนื่อยก็นั่งคุยกัน หาอะไรกิน เดินเล่นมองข้างทาง นั่งรถเมย์ไปเรื่อยๆ หลงบ้าง ขึ้นรถเมย์ผิดด้านบ้าง สนุกสนานเฮฮากันไป
เริ่มต้นจากการเตรียมตัว
-
แพลนสถานที่เที่ยว ตอนเลือกสถานที่เที่ยว ถือเป็นโจทย์ยากอีกอย่างหนึ่ง เพราะต้องคิดถึงหัวอกคนไม่เคยมาจีน กลัวห้องน้ำ กลัวความสกปรก จขกท ก็เลยเลือกจากความสะดวกในการเดินทาง ใกล้เมืองที่ตัวเองเรียนอยู่ แล้วที่สำคัญต้องเลือกเมืองที่เจริญนิดหนึ่ง เพราะอยากสร้างความประทับใจแรกให้เพื่อนที่เพิ่งจะเดินทางมาจีนในครั้งแรก ไม่อยากให้เค้าผวา และไม่กล้าเดินทางมาเมืองจีนอีก สรุปเลยเลือก Ningbo-Shanghai-Wuxi-Nanjing
-
การเดินทาง จขกท อยากให้เพื่อนที่มาเมืองจีนได้สัมผัสชีวิตจริงๆของคนจีน จึงเลือกใช้ขนส่งมวลชนของจีน และการเดินทางระหว่างเมืองเลือกใช้รถไฟ ดังนั้นวันนี้จึงอยากแนะนำการจองตั๋วรถไฟในเมืองจีน การจองตั๋วรถไฟในจีนหรือแม้แต่การจองตั๋วรถทัวร์ในจีนมีขึ้นตอนที่คล้ายกันก็คือ ต้องใช้พาสปอร์ตประกอบการจองตั๋วเพื่อเป็นการยืนยันตัว
มาถึงขั้นตอนการจองตั๋วรถไฟ จขกท ต้องจองตั๋วรถไฟเพื่อนั่งจาก Ningbo-Shanghai Shanghai-Wuxi Wuxi-Nanjing และ Nanjing-Shanghai โดยการจองตั๋วทั้งหมด เป็นการจองผ่านอินเตอร์เน็ต www.12306.cn ซึ่งสามารถจองได้ก่อนวันเดินทาง 20 วัน เมื่อจองเรียบร้อยแล้วระบบจะส่งหมายเลขBooking มาให้ทางอีเมลล์ และพอถึงวันเดินทางเราก็ไปยื่นพาสปอร์ตและแจ้งหมายเลขบุ๊คกิ้งที่เค้าเตอร์ขายตั๋วได้เลยค่ะ สามารถไปรับตั๋วที่สถานีรถไฟไหนก็ได้
ทริคในการจอง
ในบางครั้ง จะมีรถไฟขบวนที่ขึ้นต้นด้วยตัว G และรถไฟที่ขึ้นต้นด้วยตัว D ที่ออกในเวลาไล่เลี่ยกัน และใช้เวลาในการเดินทางต่างกันประมาณ 10-15 นาที ถ้าไม่รีบมาก สามารถรอได้ จขกท แนะนำให้เลือกขบวนที่ขึ้นต้นด้วยตัว D เนื่องจากมีราคาที่ถูกกว่า
-
ที่พัก สามารถหาได้จากเว็ปbooking ทั่วไป ซึ่งในเมืองจีนนิยมจองผ่าน www.ctrip.com เนื่องจากเป็นการจองก่อนจ่ายที่หลัง และราคาค่าห้องถูกกว่าbookingรายอื่นๆ นอกจากนี้ยังสามารถเก็บแต้มมาขอส่วนลดในการจองครั้งต่อไปได้ค่ะ
เริ่มเดินทาง
ก่อนไปรับเพื่อนที่จะมาถึงเซี่ยงไฮ้ในตอนบ่าย จขกท ก็ใช้เวลาอย่างคุ้มค่าด้วยการนั่งรถเมย์ประมาณ 1 ชั่วโมงเพื่อไปเที่ยว Ningbo History Museum
Ningbo History Museumเป็นพิพิธภัณฑ์ที่แสดงถึงความเป็นมาของเมือง Ningbo และวิถีชีวิตคนของในสมัยก่อน ตัวอาคารได้แรงบรรดาลใจมาจาก ภูเขา น้ำ และมหาสมุทร ข้างในจัดนิทรรศการได้น่าสนใจดีค่ะ
หลังจากเดินดูจนพอใจ ก็ได้เวลาขึ้นรถไฟไปเซี่ยงไฮ้แล้ว....
แบกเป้เที่ยวจีน Ningbo-Shanghai- Wuxi-Nanjing ฤดูร้อน
ทริปนี้ จขกท เที่ยวตอนต้นเดือน ก.ค. เพราะมีเพื่อนที่ไทยอยากจะลองมาเที่ยวประเทศจีน และมีงบประมาณที่จำกัดคือ 20K โดยประมาณ ก็เลยให้จขกท ลองจัดทริปแล้วไปเที่ยวด้วยกัน เลยเกิดเป็นทริปนี้ขึ้นมาค่ะ
ทริปนี้อาจจะไม่หวือหวา เพราะเน้นเที่ยวอยากคุ้มค่า คือไปเที่ยววันหนึ่งไม่เกิน 2 สถานที่ แต่ได้ใช้เวลาอยู่กับมันนานพอสมควร เน้นซึมซับบรรยากาศ มองดูสิ่งรอบตัว เหนื่อยก็นั่งคุยกัน หาอะไรกิน เดินเล่นมองข้างทาง นั่งรถเมย์ไปเรื่อยๆ หลงบ้าง ขึ้นรถเมย์ผิดด้านบ้าง สนุกสนานเฮฮากันไป
เริ่มต้นจากการเตรียมตัว
- แพลนสถานที่เที่ยว ตอนเลือกสถานที่เที่ยว ถือเป็นโจทย์ยากอีกอย่างหนึ่ง เพราะต้องคิดถึงหัวอกคนไม่เคยมาจีน กลัวห้องน้ำ กลัวความสกปรก จขกท ก็เลยเลือกจากความสะดวกในการเดินทาง ใกล้เมืองที่ตัวเองเรียนอยู่ แล้วที่สำคัญต้องเลือกเมืองที่เจริญนิดหนึ่ง เพราะอยากสร้างความประทับใจแรกให้เพื่อนที่เพิ่งจะเดินทางมาจีนในครั้งแรก ไม่อยากให้เค้าผวา และไม่กล้าเดินทางมาเมืองจีนอีก สรุปเลยเลือก Ningbo-Shanghai-Wuxi-Nanjing
- การเดินทาง จขกท อยากให้เพื่อนที่มาเมืองจีนได้สัมผัสชีวิตจริงๆของคนจีน จึงเลือกใช้ขนส่งมวลชนของจีน และการเดินทางระหว่างเมืองเลือกใช้รถไฟ ดังนั้นวันนี้จึงอยากแนะนำการจองตั๋วรถไฟในเมืองจีน การจองตั๋วรถไฟในจีนหรือแม้แต่การจองตั๋วรถทัวร์ในจีนมีขึ้นตอนที่คล้ายกันก็คือ ต้องใช้พาสปอร์ตประกอบการจองตั๋วเพื่อเป็นการยืนยันตัว
มาถึงขั้นตอนการจองตั๋วรถไฟ จขกท ต้องจองตั๋วรถไฟเพื่อนั่งจาก Ningbo-Shanghai Shanghai-Wuxi Wuxi-Nanjing และ Nanjing-Shanghai โดยการจองตั๋วทั้งหมด เป็นการจองผ่านอินเตอร์เน็ต www.12306.cn ซึ่งสามารถจองได้ก่อนวันเดินทาง 20 วัน เมื่อจองเรียบร้อยแล้วระบบจะส่งหมายเลขBooking มาให้ทางอีเมลล์ และพอถึงวันเดินทางเราก็ไปยื่นพาสปอร์ตและแจ้งหมายเลขบุ๊คกิ้งที่เค้าเตอร์ขายตั๋วได้เลยค่ะ สามารถไปรับตั๋วที่สถานีรถไฟไหนก็ได้
ทริคในการจอง
ในบางครั้ง จะมีรถไฟขบวนที่ขึ้นต้นด้วยตัว G และรถไฟที่ขึ้นต้นด้วยตัว D ที่ออกในเวลาไล่เลี่ยกัน และใช้เวลาในการเดินทางต่างกันประมาณ 10-15 นาที ถ้าไม่รีบมาก สามารถรอได้ จขกท แนะนำให้เลือกขบวนที่ขึ้นต้นด้วยตัว D เนื่องจากมีราคาที่ถูกกว่า
- ที่พัก สามารถหาได้จากเว็ปbooking ทั่วไป ซึ่งในเมืองจีนนิยมจองผ่าน www.ctrip.com เนื่องจากเป็นการจองก่อนจ่ายที่หลัง และราคาค่าห้องถูกกว่าbookingรายอื่นๆ นอกจากนี้ยังสามารถเก็บแต้มมาขอส่วนลดในการจองครั้งต่อไปได้ค่ะ
เริ่มเดินทาง
ก่อนไปรับเพื่อนที่จะมาถึงเซี่ยงไฮ้ในตอนบ่าย จขกท ก็ใช้เวลาอย่างคุ้มค่าด้วยการนั่งรถเมย์ประมาณ 1 ชั่วโมงเพื่อไปเที่ยว Ningbo History Museum
Ningbo History Museumเป็นพิพิธภัณฑ์ที่แสดงถึงความเป็นมาของเมือง Ningbo และวิถีชีวิตคนของในสมัยก่อน ตัวอาคารได้แรงบรรดาลใจมาจาก ภูเขา น้ำ และมหาสมุทร ข้างในจัดนิทรรศการได้น่าสนใจดีค่ะ
หลังจากเดินดูจนพอใจ ก็ได้เวลาขึ้นรถไฟไปเซี่ยงไฮ้แล้ว....