** เพลินภูพิงค์ **
.......พอยามสายบ่ายหน้าพาชายหญิง
วิจรณะย่ำแคว้นแดนภูพิงค์.......................ผลประวิงฤกษ์งามพรรษานี้
๐ เลี้ยวจอดรถบถจรยุรยาตร.....................มาดองอาจหัวร่อต่อกระซี่
ขึ้นรถกอล์ฟมอบใจวางภักดี.....................คู่เคียงข้างสุดาศรีแก้วตา
๐ ละอองฝนโปรยปรายละอองรัก..............แรกประจักษ์ฉมชื่นเสน่หา
พระพายพวนพรอดพลิ้วพักตร์พิมพา.........มธุรสวาสนาวิลาวัลย์
๐ ยื่นคำนี้จากพี่คือคำร้อง.......................จิตหมายปองอรนุชสุดเฉิดฉัน
สัญจรทางสวาทไสวฤทัยพลัน.................ไหล่แตะแขนโอบถันรัญจวนใจ
๐ ไฮเดนเยียครามทาบระนาบจิต..............ดูโศภิตเอกลักษณ์คลั่กกลีบใส
สัญญารักเรียมถอนท่อนเดนไกล..............มอบหัวใจไร้ขามความเกรงกลัว
๐ โอ้เทียนหยดหยดเทียนเวียนเผื่อหรือ.....สัญญาคือหยดรักสลักสลัว
หยาดหยดซึ้งตรึงหทัยวิไลชัวร์................ไร้มั่วซั่วหยดเรี่ยราดกลางดิน
๐ มองกล้วยไม้คาคร่าวสกาวสวย..............ดั่งเธออวยสมพรรักถวิล
แสนสุขสมพลิ้วไหวโบกใบบิน..................จนภุมรินหวั่นไหวใจดอมดม
๐ มัตสยาปลาคาร์ฟระนาบล้ำ...................ว่ายทวนน้ำคลอเคลียสนิทสนม
ชื่นฤทัยหาใดปานหวานภิรมย์...................ภูพิงค์สมสวนสวรรค์ไท้เมืองแมน
๐โอ้กุหลาบภูพิงค์ไยยามนี้......................พเยียกลี่ช้ำชอกถลอกแสน
ฤาอกหักเพราะพิษร้างนิราศแดน..............ไม่เหมือนแม้นสัญลักษณ์ความภักดี
๐ ถึงเปลี่ยนสีเพียงรูปจูบไม่หอม...............ภู่ผึ้งตอมเกสรมธุศรี
เปรียบภายนอกอาจชอกช้ำคาวราคี...........แต่ในมีคุณค่าหวานใช่หวานเอียน
๐ รักเร่เร่รักร้างกลางไศล........................สง่าไพรพงสัณฑ์สวรรค์เสถียร
ชูช่อนิ่งพักพิงใจแวะเวียน.......................เร่มาเขียนคำรักเน้นหนักรอย
๐ มองเถาวัลย์พันคาคบไม้สูง..................มอสเฟิร์นยูงแย้มหยดชื้นฉ่ำย้อย
ตะวันแสงแยงพงพุ่มไพรดอย..................ละอองฝอยน้ำค้างพร่างกระเซ็น
๐ จิ้งจกน้ำอินทนนท์คงหลงป่า................มาดจังก้าในตู้กระจกเห็น
เพลินทิวดอยสูงกว่าสรรลำเค็ญ...............ด้วยความเย็นดอยสูงสง่าดง
๐ เห็นสระน้ำเค้าสูบน้ำเกือบแห้ง.............ขออย่าแหนงแคลงใจพิศวง
ทำทุกปีปีละครั้งปล่อยน้ำลง...................สมประสงค์สะอาดปราศขุ่นใน
๐ หมอกเจ้าเอ๋ยลอยเชยเคยละเมียด........เสียงกบเขียดซ่านเซ้งวังเวงไหว
อยากโอบรัดกายสมรแม่อ่อนไท้..............ซบอกไซ้ดังม่านหมอกละเลียดโลม
๐ รอยสลักไม้สักเสาสูงใหญ่...................คงความนัยรุจิเรขสังเขปโฉม
สามสี่ต้นประดับสวนล้วนประโคม............ท้าแสงโสมเดือนดาวสะพราวตา
๐ กลิ่นหอมโชยระรื่นตื่นตาเขิน...............ด้วยวาฟเฟิลหลากรสเสน่หา
หอมรำเพยเชยชื่นดาษดื่นดา.................ไส้เผือกหาลองลิ้มพออิ่มครัน
๐ บุปผชาติแมกไม้มายทิวเขา.................ตะวันเงาพาดพฤกษาไพรสัณฑ์
สุมาลีสีพรรณรายเรียงกัน.......................ดุจสวรรค์ภาคพิภพจบแดนดิน
๐ ยามนี้ฟ้าอัมพรซ่อนแสงสี....................งามขจีทิฆัมพรนกโผผิน
เธอกับฉันคงมั่นตราบฟ้าดิน....................สวรรค์สิ้นก็ไม่ร้างสร่างรักเลย ฯ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้...พอดีเมื่อสองสัปดาห์ก่อน มีโอกาสได้พาภรรยาและเพื่อนๆไปแอ่วภูพิงค์มาครับ...
ก็เลยมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ หากกลอนเยิ่นเย้อยาวไปต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ...
** เพลินภูพิงค์ ** ( กลอนสุภาพ )
** เพลินภูพิงค์ **
.......พอยามสายบ่ายหน้าพาชายหญิง
วิจรณะย่ำแคว้นแดนภูพิงค์.......................ผลประวิงฤกษ์งามพรรษานี้
๐ เลี้ยวจอดรถบถจรยุรยาตร.....................มาดองอาจหัวร่อต่อกระซี่
ขึ้นรถกอล์ฟมอบใจวางภักดี.....................คู่เคียงข้างสุดาศรีแก้วตา
๐ ละอองฝนโปรยปรายละอองรัก..............แรกประจักษ์ฉมชื่นเสน่หา
พระพายพวนพรอดพลิ้วพักตร์พิมพา.........มธุรสวาสนาวิลาวัลย์
๐ ยื่นคำนี้จากพี่คือคำร้อง.......................จิตหมายปองอรนุชสุดเฉิดฉัน
สัญจรทางสวาทไสวฤทัยพลัน.................ไหล่แตะแขนโอบถันรัญจวนใจ
๐ ไฮเดนเยียครามทาบระนาบจิต..............ดูโศภิตเอกลักษณ์คลั่กกลีบใส
สัญญารักเรียมถอนท่อนเดนไกล..............มอบหัวใจไร้ขามความเกรงกลัว
๐ โอ้เทียนหยดหยดเทียนเวียนเผื่อหรือ.....สัญญาคือหยดรักสลักสลัว
หยาดหยดซึ้งตรึงหทัยวิไลชัวร์................ไร้มั่วซั่วหยดเรี่ยราดกลางดิน
๐ มองกล้วยไม้คาคร่าวสกาวสวย..............ดั่งเธออวยสมพรรักถวิล
แสนสุขสมพลิ้วไหวโบกใบบิน..................จนภุมรินหวั่นไหวใจดอมดม
๐ มัตสยาปลาคาร์ฟระนาบล้ำ...................ว่ายทวนน้ำคลอเคลียสนิทสนม
ชื่นฤทัยหาใดปานหวานภิรมย์...................ภูพิงค์สมสวนสวรรค์ไท้เมืองแมน
๐โอ้กุหลาบภูพิงค์ไยยามนี้......................พเยียกลี่ช้ำชอกถลอกแสน
ฤาอกหักเพราะพิษร้างนิราศแดน..............ไม่เหมือนแม้นสัญลักษณ์ความภักดี
๐ ถึงเปลี่ยนสีเพียงรูปจูบไม่หอม...............ภู่ผึ้งตอมเกสรมธุศรี
เปรียบภายนอกอาจชอกช้ำคาวราคี...........แต่ในมีคุณค่าหวานใช่หวานเอียน
๐ รักเร่เร่รักร้างกลางไศล........................สง่าไพรพงสัณฑ์สวรรค์เสถียร
ชูช่อนิ่งพักพิงใจแวะเวียน.......................เร่มาเขียนคำรักเน้นหนักรอย
๐ มองเถาวัลย์พันคาคบไม้สูง..................มอสเฟิร์นยูงแย้มหยดชื้นฉ่ำย้อย
ตะวันแสงแยงพงพุ่มไพรดอย..................ละอองฝอยน้ำค้างพร่างกระเซ็น
๐ จิ้งจกน้ำอินทนนท์คงหลงป่า................มาดจังก้าในตู้กระจกเห็น
เพลินทิวดอยสูงกว่าสรรลำเค็ญ...............ด้วยความเย็นดอยสูงสง่าดง
๐ เห็นสระน้ำเค้าสูบน้ำเกือบแห้ง.............ขออย่าแหนงแคลงใจพิศวง
ทำทุกปีปีละครั้งปล่อยน้ำลง...................สมประสงค์สะอาดปราศขุ่นใน
๐ หมอกเจ้าเอ๋ยลอยเชยเคยละเมียด........เสียงกบเขียดซ่านเซ้งวังเวงไหว
อยากโอบรัดกายสมรแม่อ่อนไท้..............ซบอกไซ้ดังม่านหมอกละเลียดโลม
๐ รอยสลักไม้สักเสาสูงใหญ่...................คงความนัยรุจิเรขสังเขปโฉม
สามสี่ต้นประดับสวนล้วนประโคม............ท้าแสงโสมเดือนดาวสะพราวตา
๐ กลิ่นหอมโชยระรื่นตื่นตาเขิน...............ด้วยวาฟเฟิลหลากรสเสน่หา
หอมรำเพยเชยชื่นดาษดื่นดา.................ไส้เผือกหาลองลิ้มพออิ่มครัน
๐ บุปผชาติแมกไม้มายทิวเขา.................ตะวันเงาพาดพฤกษาไพรสัณฑ์
สุมาลีสีพรรณรายเรียงกัน.......................ดุจสวรรค์ภาคพิภพจบแดนดิน
๐ ยามนี้ฟ้าอัมพรซ่อนแสงสี....................งามขจีทิฆัมพรนกโผผิน
เธอกับฉันคงมั่นตราบฟ้าดิน....................สวรรค์สิ้นก็ไม่ร้างสร่างรักเลย ฯ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้