"งานวิวาห์อันพร่างพราว ดวงใจสุกสกาว ดวงดาวเป็นพยาน จะรักเเต่เพียงเธอ จะรักตลอดกาล ไม่มีวันห่างเธอไป..."
************
ผมไม่ได้หัวเราะดังๆเเละปรบมือจนปวดเเขนเเบบนี้มานานมาก นับตั้งเเต่ละครเวทีเรื่อง "ก่อนจะถึงบางรักซอย 9" เมื่อหลายปีที่แล้ว จนกระทั้งเมื่อค่ำวันเสาร์ที่ผ่านมาผมได้รับการ์ดเชิญให้ไปงานแต่งงานของบ่าวสาวคู่หนึ่ง ที่โรงละครเมืองไทยรัชดาลัยเธียเตอร์ ผมบอกจากใจจริงๆว่า มันเป็นงานแต่งที่ผมมีความสุขมากๆ สุขที่ได้ยิ้ม สุขที่ได้หัวเราะ และที่สำคัญคือสุขที่ได้เห็นมุมมองความรักของคนสมัยนี้อบอวนอยู่ในงานวิวาห์ที่แสนจะวุ่นวาย เพราะมันทำให้ผมได้นั่งคิดถึงความรักของคนรอบๆตัวผม ที่ละครกำลังสะท้อนภาพชีวิตของพวกเขา
นพ - "เเม้วันวานเป็นเช่นไร จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง"
สถาปนิกหนุ่มลั่นล้า หนึ่งในสมาชิกแก็งสามทหารเสียว ผู้มีอดีตเป็นชนักมากมาย เเต่นพกลับเเก้ปัญหาเหล่านั้นด้วยการวิ่งหนี เอาแต่คิดว่า เดี่ยว..ก็จัดการมันได้ เเละนพก็ใช้ชีวิตเเบบผู้ชายลั่นล้าต่อไปโดยนพเองไม่ทันคิดว่า ไอ้คำว่า เดี๋ยว ของนพเนี่ย มันไปสร้างความเจ็บปวดให้กับอีกกี่ชีวิต เเละเมื่อถึงวันที่นพคิดจะหยุด!! ปัญหาที่นพเคยวิ่งหนีเอาไว้ก็กลับมาหานพ ในวันที่คำว่า เดี๋ยวไม่สามารถใช้ได้อีกเเล้ว การเผชิญหน้ากับมันเพื่อสะสางจึงจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะปัญหาของนพเเทบทั้งหมด มันมาจากการที่นพไม่สื่อสารกับโจทก์แต่ละคนของนพ ถ้าเพียงแต่นพเลือกที่จะเผชิญหน้ากับปัญหาและเคลียย์กับมันไปตรงๆ อาจจะแก้ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าการหนี เพราะสุดท้ายมันอาจจะไม่บานปลายขนาดนี้ ผมมีเพื่อนหลายคนที่เป็นเเบบนพ ประเภทที่ เดี๋ยวค่อยคุย เดี๋ยวค่อยบอก คิดเเทนคนอื่น สุดท้ายปัญหายิ่งลุกลาม กว่าจะเเก้ไขได้ก็ต้องสูญเสียอะไรไปเยอะ แต่สำหรับนพ นพโชคดี ที่เขาได้รับโอกาสแก้ตัว เพื่อให้เขาได้รู้ว่าสิ่งที่ถูกต้องมันควรเป็นเช่นไร และผมก็เชื่อว่า นพคงไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองต้องผิดพลาดอีกเป็นครั้งที่สองเเน่นอน
ใช้ความรัก เพื่อเริ่มต้นใหม่..
สำหรับเเกงส้ม : ผมเชื่อว่าเเกงส้มคือนพ เขาทำให้เราลบภาพอโณทัยออกไปได้ เเละบทนี้เหมาะสมกับเขาจริงๆ
ดา - "ฉันเชื่อว่าความเป็นเเม่จะคอยสอนเรา..."
สาวสวยลูกคุณหนู ผู้อยากมีพื้นที่ชีวิตเป็นของตนเอง เพราะความรักที่ป๋ามอบให้ลูกสาวมันกระชับพื้นที่มากเกินไป รักที่เกินรักจึงทำให้ดาอึดอัด เเละเธอจึงเลือกที่จะเดินออกมาสร้างพื้นที่ของเธอเอง ดาคือภาพสะท้อนของเด็กสาวยุคใหม่ที่พ่อเเม่หวงราวไข่ในหิน หากเเต่มนุษย์ทุกคนล้วนต้องการที่จะมีชีวิตเป็นของตนเอง ดาจึงเลือกที่จะสร้างให้มีชีวิตหนึ่งขึ้นมา เพราะเธอเชื่อว่า ถ้าเธอมีลูก เธอก็จะได้เริ่มต้นมีชีวิตของเธอเองเช่นกัน ลูกจึงเป็นความอัศจรรย์ของเธอ สิ่งหนึ่งที่ผมชอบมากคือตัวละครตัวนี้จะมีความเป็นเเม่สูงมากตั้งแต่ที่เธอรู้ว่าเธอมีลูก เเม้ดาจะโกรธนพเเค่ไหน เเต่สุดท้ายดาก็เลือกที่จะรอฟังคำอธิบายจากนพเเละเธอก็เลือกครอบครัวเอาไว้ก่อนเป็นอันดับแรก และละครเวทีเรื่องนี้มันเรียลตรงนี้ ดาไม่ใช่นางเอกที่งี่เง่า เธอให้โอกาสและเธอก็เชื่อใจนพ สำหรับคนที่เกิดมาเเล้วครอบครัวไม่ได้พร้อมเหมือนคนอื่น ดาคงอยากให้ลูกเธอมีครอบครัวที่พร้อมกว่าเธอ
ใช้ความไว้ใจ เพื่อเริ่มต้นใหม่...
สำหรับเพลง : ทั้งๆที่เพลงเป็นน้องใหม่ของเวที เเละต้องต่อสู้กับบรรดาตัวพ่อตัวเเม่ ที่บอกได้เลยว่ากลุ่มนี้น่ากลัวมากกก เเม้เเต่หมู่มวลยังเเย่งซีนกลุ่มนี้ไม่ได้เลย เเต่เพลงสามารถเอาตัวละครของเธอให้อยู่รอดบนเวทีได้ ผมถือว่าเพลงสอบผ่าน
ก้อง - "เเค่ของปลอมที่ฝันหวานข้างเดียวตรงนี้ ตลอดมา.."
เกย์หนุ่มมีองค์ โจทย์สุดเเสบสันของนพ ผู้มาพร้อมกับอดีตอันเร่าร้อน!!! ผมเชื่อว่ามีหลายคนที่เคยเป็นเเบบก้อง เวลาที่เราเเอบรักใครมากๆจนเก็บไปนั่งคิด นอนคิด เเล้วยิ่งมันมีเรื่องอะไรบางอย่างที่เค้าดันทำเหมือนว่าเค้าชอบเรา มันยิ่งทำให้เรามโนไปใหญ่ ก้องก็เป็นเเบบนั้น เเละนพในโลกของก้องก็เป็นเเบบนั้น เรารู้ว่าเราฝัน เเต่เราก็อยากหลอกตัวเองกับฝันดีๆ เเต่ก็อย่างที่คุณเเม่นงว่า สุดท้ายเเล้ว ที่มโนอยู่นี่ มีความสุขดีหรือ หรือเพราะเเค่อยากอยู่ในโลกที่มโนให้นานที่สุดเท่านั้น.. ฝันดีเเค่ไหนสุดท้ายก็ต้องตื่น
ปล่อยโลกเเห่งความฝัน เพื่อเริ่มต้นใหม่
สำหรับอ็อฟ : ไม่เหนือความคาดหมายครับ เพราะคิดไว้อยู่เเล้วว่า อ็อฟเอาอยู่ ตั้งเเต่ดู ลมหายใจ เดอะมิวสิคัล ก็เฝ้ารอว่าเมื่อไหร่อ็อฟจะคืนเวที เพราะการเเสดงเเละการร้องของอ็อฟดีงาม ผมชอบอ็อฟเพราะเขาเป็นคนที่ร้องเพลงมิวสิคัลได้ฟังง่ายเเละฟังสบายเเละเพราะมาก สำหรับเรื่องนี้ ผมไม่พูดมาก เเต่คนที่ไปดูมาเเล้ว เอาเป็นว่า เข้าใจตรงกันนะ
เเจน - "กอดเเน่นเเค่ไหน ถ้าคนไม่มีใจ กอดให้ตายก็ไปอยู่ดี...ดีออก"
ไกด์สาวสุดซ่า โจทย์สุดจิตของนพ ผู้มาพร้อมกับความสะพรึงในชุดเจ้าสาวสีดำ!! เพราะรักใครก็รักมาก มากจนไม่รู้ว่าเค้าจะรักเราได้อย่างที่เรารักเค้าหรือเปล่า เเจนจึงเป็นภาพสะท้อนของผู้หญิงที่แสดงความรักด้วยการกอด ยิ่งเเน่น เเปลว่ายิ่งรักมาก ยิ่งกอดบ่อยๆเเปลว่ายิ่งรักมากมาก หากเเต่เเจนไม่มีวันรู้ว่าหัวใจของคนที่เธอกอด มันกำลังสวนทาง ยิ่งแน่น นพยิ่งล้า ยิ่งเติมเต็มกลับยิ่งห่างหาย สุดท้าย กอดให้ตายนพก็ทิ้งเธอไปอยู่ดี ผมชอบตัวละครตัวนี้ที่สุด เพราะแจนเป็นตัวละครที่โครตจะน่าสงสารเลย เธอไม่เคยรู้เหตุผลการจากไปของนพ เธออยู่กับภาพฝันของชายหนุ่มคนรักที่บอกจะกลับมา วันแล้ววันเล่า.. จนมันเเปรเปลี่ยนเป็นความแค้น และเมื่อวันที่คำตอบของคำถามมาถึง แจนก็จำต้องยอมปล่อยอ้อมกอดนั้น แม้แจนจะเจ็บปวดทั้งน้ำตา แต่คนมันไม่มีใจ แม้ทำดีให้ตาย กอดด้วยรักเพียงใด กอดกันไว้ยังไง แต่สุดท้ายไม่มีหัวใจก็ไม่ต้องการ ...
ปล่อยอ้อมกอด เพื่อเริ่มต้นใหม่..
สำหรับพัดชา : ผมคิดว่าพัดชาจะเล่นเป็นหญิงสาวโรคจิต ที่ดาร์คสุดๆ เเต่พอมาดู .. เฮ้ย พัดชาตีความเเบบนี้หรอ ไม่ใช่ไม่ชอบนะ เเต่ชอบมากกก เธอเก่งมากที่สร้างตัวละครเเจนออกมาเป็นเเบบนี้ เพราะการที่เเจนจะอยู่บนเวทีกับอีกสองโจทก์โดยไม่โดนกลบ เเจนจะต้องเป็นผู้หญิงเเบบนี้ พัดชาทำให้เรารู้สึกเหมือนดูความรักเชี่ยๆที่ผ่านไปนานเเล้ว เเล้วเอามานึกถึง มันมีทั้งขำเเละมีทั้งเจ็บปวด เเต่สุดท้าย เราก็ต้องการเเค่ความสะใจ ดีออก!!
โบนัท - "ดั่งฝันร้ายที่คอยตอกย้ำ น่าอัศจรรย์รันทด เหลือเกิน"
เพื่อนสาวเเดนไกล โจทย์สุดเเค้นของนพ ผู้มาพร้อมกับพยานรักที่ใกล้คลอด!!! เพราะความผิดพลาดเกิดขึ้นกับคนเราได้เสมอ โบนัทจึงเป็นดังภาพสะท้อนความผิดพลาดเพียงชั่วครู่ของคนสมัยนี้ มันเป็นความผิดพลาดที่พร้อมจะเปลี่ยนชีวิตไปทั้งชีวิต แต่เหนือสิ่งอื่นใด โบนัทยังสะท้อนภาพของผู้หญิงยุคใหม่ที่เชื่อว่า แม้ไม่มีพ่อก็สามารถเลี้ยงลูกได้ และการที่เธอแบกท้องมางานแต่งนพ ก็เพื่อที่จะถามคำถามที่นพไม่เคยมีคำตอบให้เธอ..
ปล่อยวางความผิดพลาด เพื่อเริ่มต้นใหม่..
สำหรับจิ๊บ : เป็นอีกหนึ่งนักเเสดงสาวมากความสามารถที่ดูจะกลายเป็นขาประจำของรัชดาลัยไปเเล้ว ผมชอบการเเสดงเเละการร้องของเธอ มันชัดถ้อยชัดคำ เเละมันเต็มไปด้วยอินเนอร์ เธอเล่นเธอร้องเป็นตัวละคร เวลาจิ๊บเล่นเราจึงไม่รู้ว่านี่คือจิ้บ เเต่นี่คือคนที่เธอสวมบทอยู่ หวังนะว่าวันหนึ่งจิ๊บจะเป็นนางเอกเต็มๆสักเรื่อง
วันสละโสด ยังมีอีกหลายตัวละคร หลายมุมมองที่ถูกสะท้อนให้เราได้ขบคิด มุมมองความรักของบางคนงดงาม ในขณะที่ของบางคนก็เเสนว้าวุ่นใจ เเต่ท้ายที่สุดเเล้ว เมื่อถึงวันหนึ่งที่เราได้เริ่มต้นชีวิตคู่ เราจะพบว่าความรักล้วนต้องการการเรียนรู้ เพื่อเข้าใจ เเละเติบโต บนหนทางเเห่งความรับผิดชอบ เพราะทางนั้นมันไม่ได้มีเเค่ เราสองคน เเต่มันยังมีอีกหลายสิ่งที่พร้อมจะเข้ามาทดสอบหัวใจของกันเเละกัน...
"เริ่มต้นชีวิตใช้ชีวิตเพื่อเข้าใจกันเเละกัน
เริ่มต้นความรักใช้ความรักเพื่อถักทอเส้นใยรักให้ผูกพัน
จงเริ่มต้นครอบครัวที่ฝัน เริ่มต้นจากวันนี้
เริ่มต้นถนนของชีวิตที่สุดเเสนไกล
สองคนจะกุมมือเคียงข้างไป ต่อให้พบ กับวันที่ร้ายดีเเค่ไหน...
จงยังมีกันเเละกัน เริ่มต้นชีวิตคู่สู่หนทางสดใส..."
"วันสละโสดกับโจทก์เก่าๆ" : ละครเวทีอารมณ์ดี้ดี ที่ใครๆก็บอกว่ามันดีออก!!! (Spoil)
ผมไม่ได้หัวเราะดังๆเเละปรบมือจนปวดเเขนเเบบนี้มานานมาก นับตั้งเเต่ละครเวทีเรื่อง "ก่อนจะถึงบางรักซอย 9" เมื่อหลายปีที่แล้ว จนกระทั้งเมื่อค่ำวันเสาร์ที่ผ่านมาผมได้รับการ์ดเชิญให้ไปงานแต่งงานของบ่าวสาวคู่หนึ่ง ที่โรงละครเมืองไทยรัชดาลัยเธียเตอร์ ผมบอกจากใจจริงๆว่า มันเป็นงานแต่งที่ผมมีความสุขมากๆ สุขที่ได้ยิ้ม สุขที่ได้หัวเราะ และที่สำคัญคือสุขที่ได้เห็นมุมมองความรักของคนสมัยนี้อบอวนอยู่ในงานวิวาห์ที่แสนจะวุ่นวาย เพราะมันทำให้ผมได้นั่งคิดถึงความรักของคนรอบๆตัวผม ที่ละครกำลังสะท้อนภาพชีวิตของพวกเขา
สถาปนิกหนุ่มลั่นล้า หนึ่งในสมาชิกแก็งสามทหารเสียว ผู้มีอดีตเป็นชนักมากมาย เเต่นพกลับเเก้ปัญหาเหล่านั้นด้วยการวิ่งหนี เอาแต่คิดว่า เดี่ยว..ก็จัดการมันได้ เเละนพก็ใช้ชีวิตเเบบผู้ชายลั่นล้าต่อไปโดยนพเองไม่ทันคิดว่า ไอ้คำว่า เดี๋ยว ของนพเนี่ย มันไปสร้างความเจ็บปวดให้กับอีกกี่ชีวิต เเละเมื่อถึงวันที่นพคิดจะหยุด!! ปัญหาที่นพเคยวิ่งหนีเอาไว้ก็กลับมาหานพ ในวันที่คำว่า เดี๋ยวไม่สามารถใช้ได้อีกเเล้ว การเผชิญหน้ากับมันเพื่อสะสางจึงจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะปัญหาของนพเเทบทั้งหมด มันมาจากการที่นพไม่สื่อสารกับโจทก์แต่ละคนของนพ ถ้าเพียงแต่นพเลือกที่จะเผชิญหน้ากับปัญหาและเคลียย์กับมันไปตรงๆ อาจจะแก้ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าการหนี เพราะสุดท้ายมันอาจจะไม่บานปลายขนาดนี้ ผมมีเพื่อนหลายคนที่เป็นเเบบนพ ประเภทที่ เดี๋ยวค่อยคุย เดี๋ยวค่อยบอก คิดเเทนคนอื่น สุดท้ายปัญหายิ่งลุกลาม กว่าจะเเก้ไขได้ก็ต้องสูญเสียอะไรไปเยอะ แต่สำหรับนพ นพโชคดี ที่เขาได้รับโอกาสแก้ตัว เพื่อให้เขาได้รู้ว่าสิ่งที่ถูกต้องมันควรเป็นเช่นไร และผมก็เชื่อว่า นพคงไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองต้องผิดพลาดอีกเป็นครั้งที่สองเเน่นอน
ใช้ความรัก เพื่อเริ่มต้นใหม่..
สำหรับเเกงส้ม : ผมเชื่อว่าเเกงส้มคือนพ เขาทำให้เราลบภาพอโณทัยออกไปได้ เเละบทนี้เหมาะสมกับเขาจริงๆ
สาวสวยลูกคุณหนู ผู้อยากมีพื้นที่ชีวิตเป็นของตนเอง เพราะความรักที่ป๋ามอบให้ลูกสาวมันกระชับพื้นที่มากเกินไป รักที่เกินรักจึงทำให้ดาอึดอัด เเละเธอจึงเลือกที่จะเดินออกมาสร้างพื้นที่ของเธอเอง ดาคือภาพสะท้อนของเด็กสาวยุคใหม่ที่พ่อเเม่หวงราวไข่ในหิน หากเเต่มนุษย์ทุกคนล้วนต้องการที่จะมีชีวิตเป็นของตนเอง ดาจึงเลือกที่จะสร้างให้มีชีวิตหนึ่งขึ้นมา เพราะเธอเชื่อว่า ถ้าเธอมีลูก เธอก็จะได้เริ่มต้นมีชีวิตของเธอเองเช่นกัน ลูกจึงเป็นความอัศจรรย์ของเธอ สิ่งหนึ่งที่ผมชอบมากคือตัวละครตัวนี้จะมีความเป็นเเม่สูงมากตั้งแต่ที่เธอรู้ว่าเธอมีลูก เเม้ดาจะโกรธนพเเค่ไหน เเต่สุดท้ายดาก็เลือกที่จะรอฟังคำอธิบายจากนพเเละเธอก็เลือกครอบครัวเอาไว้ก่อนเป็นอันดับแรก และละครเวทีเรื่องนี้มันเรียลตรงนี้ ดาไม่ใช่นางเอกที่งี่เง่า เธอให้โอกาสและเธอก็เชื่อใจนพ สำหรับคนที่เกิดมาเเล้วครอบครัวไม่ได้พร้อมเหมือนคนอื่น ดาคงอยากให้ลูกเธอมีครอบครัวที่พร้อมกว่าเธอ
ใช้ความไว้ใจ เพื่อเริ่มต้นใหม่...
สำหรับเพลง : ทั้งๆที่เพลงเป็นน้องใหม่ของเวที เเละต้องต่อสู้กับบรรดาตัวพ่อตัวเเม่ ที่บอกได้เลยว่ากลุ่มนี้น่ากลัวมากกก เเม้เเต่หมู่มวลยังเเย่งซีนกลุ่มนี้ไม่ได้เลย เเต่เพลงสามารถเอาตัวละครของเธอให้อยู่รอดบนเวทีได้ ผมถือว่าเพลงสอบผ่าน
เกย์หนุ่มมีองค์ โจทย์สุดเเสบสันของนพ ผู้มาพร้อมกับอดีตอันเร่าร้อน!!! ผมเชื่อว่ามีหลายคนที่เคยเป็นเเบบก้อง เวลาที่เราเเอบรักใครมากๆจนเก็บไปนั่งคิด นอนคิด เเล้วยิ่งมันมีเรื่องอะไรบางอย่างที่เค้าดันทำเหมือนว่าเค้าชอบเรา มันยิ่งทำให้เรามโนไปใหญ่ ก้องก็เป็นเเบบนั้น เเละนพในโลกของก้องก็เป็นเเบบนั้น เรารู้ว่าเราฝัน เเต่เราก็อยากหลอกตัวเองกับฝันดีๆ เเต่ก็อย่างที่คุณเเม่นงว่า สุดท้ายเเล้ว ที่มโนอยู่นี่ มีความสุขดีหรือ หรือเพราะเเค่อยากอยู่ในโลกที่มโนให้นานที่สุดเท่านั้น.. ฝันดีเเค่ไหนสุดท้ายก็ต้องตื่น
ปล่อยโลกเเห่งความฝัน เพื่อเริ่มต้นใหม่
สำหรับอ็อฟ : ไม่เหนือความคาดหมายครับ เพราะคิดไว้อยู่เเล้วว่า อ็อฟเอาอยู่ ตั้งเเต่ดู ลมหายใจ เดอะมิวสิคัล ก็เฝ้ารอว่าเมื่อไหร่อ็อฟจะคืนเวที เพราะการเเสดงเเละการร้องของอ็อฟดีงาม ผมชอบอ็อฟเพราะเขาเป็นคนที่ร้องเพลงมิวสิคัลได้ฟังง่ายเเละฟังสบายเเละเพราะมาก สำหรับเรื่องนี้ ผมไม่พูดมาก เเต่คนที่ไปดูมาเเล้ว เอาเป็นว่า เข้าใจตรงกันนะ
ไกด์สาวสุดซ่า โจทย์สุดจิตของนพ ผู้มาพร้อมกับความสะพรึงในชุดเจ้าสาวสีดำ!! เพราะรักใครก็รักมาก มากจนไม่รู้ว่าเค้าจะรักเราได้อย่างที่เรารักเค้าหรือเปล่า เเจนจึงเป็นภาพสะท้อนของผู้หญิงที่แสดงความรักด้วยการกอด ยิ่งเเน่น เเปลว่ายิ่งรักมาก ยิ่งกอดบ่อยๆเเปลว่ายิ่งรักมากมาก หากเเต่เเจนไม่มีวันรู้ว่าหัวใจของคนที่เธอกอด มันกำลังสวนทาง ยิ่งแน่น นพยิ่งล้า ยิ่งเติมเต็มกลับยิ่งห่างหาย สุดท้าย กอดให้ตายนพก็ทิ้งเธอไปอยู่ดี ผมชอบตัวละครตัวนี้ที่สุด เพราะแจนเป็นตัวละครที่โครตจะน่าสงสารเลย เธอไม่เคยรู้เหตุผลการจากไปของนพ เธออยู่กับภาพฝันของชายหนุ่มคนรักที่บอกจะกลับมา วันแล้ววันเล่า.. จนมันเเปรเปลี่ยนเป็นความแค้น และเมื่อวันที่คำตอบของคำถามมาถึง แจนก็จำต้องยอมปล่อยอ้อมกอดนั้น แม้แจนจะเจ็บปวดทั้งน้ำตา แต่คนมันไม่มีใจ แม้ทำดีให้ตาย กอดด้วยรักเพียงใด กอดกันไว้ยังไง แต่สุดท้ายไม่มีหัวใจก็ไม่ต้องการ ...
ปล่อยอ้อมกอด เพื่อเริ่มต้นใหม่..
สำหรับพัดชา : ผมคิดว่าพัดชาจะเล่นเป็นหญิงสาวโรคจิต ที่ดาร์คสุดๆ เเต่พอมาดู .. เฮ้ย พัดชาตีความเเบบนี้หรอ ไม่ใช่ไม่ชอบนะ เเต่ชอบมากกก เธอเก่งมากที่สร้างตัวละครเเจนออกมาเป็นเเบบนี้ เพราะการที่เเจนจะอยู่บนเวทีกับอีกสองโจทก์โดยไม่โดนกลบ เเจนจะต้องเป็นผู้หญิงเเบบนี้ พัดชาทำให้เรารู้สึกเหมือนดูความรักเชี่ยๆที่ผ่านไปนานเเล้ว เเล้วเอามานึกถึง มันมีทั้งขำเเละมีทั้งเจ็บปวด เเต่สุดท้าย เราก็ต้องการเเค่ความสะใจ ดีออก!!
เพื่อนสาวเเดนไกล โจทย์สุดเเค้นของนพ ผู้มาพร้อมกับพยานรักที่ใกล้คลอด!!! เพราะความผิดพลาดเกิดขึ้นกับคนเราได้เสมอ โบนัทจึงเป็นดังภาพสะท้อนความผิดพลาดเพียงชั่วครู่ของคนสมัยนี้ มันเป็นความผิดพลาดที่พร้อมจะเปลี่ยนชีวิตไปทั้งชีวิต แต่เหนือสิ่งอื่นใด โบนัทยังสะท้อนภาพของผู้หญิงยุคใหม่ที่เชื่อว่า แม้ไม่มีพ่อก็สามารถเลี้ยงลูกได้ และการที่เธอแบกท้องมางานแต่งนพ ก็เพื่อที่จะถามคำถามที่นพไม่เคยมีคำตอบให้เธอ..
ปล่อยวางความผิดพลาด เพื่อเริ่มต้นใหม่..
สำหรับจิ๊บ : เป็นอีกหนึ่งนักเเสดงสาวมากความสามารถที่ดูจะกลายเป็นขาประจำของรัชดาลัยไปเเล้ว ผมชอบการเเสดงเเละการร้องของเธอ มันชัดถ้อยชัดคำ เเละมันเต็มไปด้วยอินเนอร์ เธอเล่นเธอร้องเป็นตัวละคร เวลาจิ๊บเล่นเราจึงไม่รู้ว่านี่คือจิ้บ เเต่นี่คือคนที่เธอสวมบทอยู่ หวังนะว่าวันหนึ่งจิ๊บจะเป็นนางเอกเต็มๆสักเรื่อง
วันสละโสด ยังมีอีกหลายตัวละคร หลายมุมมองที่ถูกสะท้อนให้เราได้ขบคิด มุมมองความรักของบางคนงดงาม ในขณะที่ของบางคนก็เเสนว้าวุ่นใจ เเต่ท้ายที่สุดเเล้ว เมื่อถึงวันหนึ่งที่เราได้เริ่มต้นชีวิตคู่ เราจะพบว่าความรักล้วนต้องการการเรียนรู้ เพื่อเข้าใจ เเละเติบโต บนหนทางเเห่งความรับผิดชอบ เพราะทางนั้นมันไม่ได้มีเเค่ เราสองคน เเต่มันยังมีอีกหลายสิ่งที่พร้อมจะเข้ามาทดสอบหัวใจของกันเเละกัน...
เริ่มต้นความรักใช้ความรักเพื่อถักทอเส้นใยรักให้ผูกพัน
จงเริ่มต้นครอบครัวที่ฝัน เริ่มต้นจากวันนี้
เริ่มต้นถนนของชีวิตที่สุดเเสนไกล
สองคนจะกุมมือเคียงข้างไป ต่อให้พบ กับวันที่ร้ายดีเเค่ไหน...
จงยังมีกันเเละกัน เริ่มต้นชีวิตคู่สู่หนทางสดใส..."