สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้อง นี่เป็นกระทู้ที่ผมตั้งใจรวบรวมข้อมูลมาอย่างเต็มที่(เท่าที่จะนึกออก) และถือเป็นการต้อนรับการกลับมาของพ่อคิ้วม้วนซันจิของเรานั่นเองครับ เอาล่ะ เรามาดูความอนาถของพ่อคิ้วม้วนกันดีกว่า
ปล. บางช่วงขอเล่าข้ามไปก็แล้วกันนะครับเนื่องจากหลายคนคงรู้มาบ้างแล้ว
บทที่ 1 เชฟซันจิ
ซันจิสมัยเด็กที่เกลียดอาหารเหลือเป็นที่สุด
ซันจินั้นเกิดอยู่ที่นอร์ทบลู แต่มาเติบโตอยู่ที่อีสต์บลู ก่อนหน้าที่จะมาสร้างร้านอาหารลอยทะเลบาราติเอนั้น ซันจิเคยเป็นเด็กในห้องครัวที่เรือสำราญลำหนึ่ง แต่แล้วเรือสำราญก็ถูกกลุ่มโจรสลัดขาแดงเข้าปล้นจึงทำให้ซันจิฮึดสู้เพื่อปกป้องเรือและพลัดตกทะเลไปในที่สุด แต่ก็ได้กัปตันของกลุ่มโจรสลัดขาแดงช่วยเอาไว้เพราะมีความฝันเดียวกันนั่นก็คือการตามหาออลบลูหรือทะเลในตำนานที่มีสัตว์น้ำทุกชนิดจากทะเลทุกๆที่มารวมกัน หลังจากที่ช่วยซันจิเอาไว้ทั้งคู่ก็ลอยไปติดที่เกาะร้างแห่งหนึ่ง (มีลักษณะเหมือนเขาตะปูแหล่งท่องเที่ยวของบ้านเรา) เมื่อขึ้นไปถึงยอดเซฟก็สั่งให้ซันจะไปนั่งที่อีกฝั่งของเกาะเพื่อให้ดูเรือที่ผ่านมาพร้อมทั้งแบ่งอาหารใส่ถุงใบเล็กให้อีก 1 ใบ
ซันจิกับอาหารที่เซฟแบ่งให้ และขนมปังขึ้นราในอีก 20 วันต่อมา
เมื่อผ่านไป 20 วันอาหารก็หมดลง(เป็นเพราะพี่แกมัวแต่ร้องไห้เลยเผลอทำขนมปังก้อนสุดท้ายตกทะเลไป) ซันจิจึงต้องอดอาหารไปนานมาก จนกระทั่งทนความหิวไม่ไหวจึงคิดที่จะฆ่าเซฟเพื่อชิงอาหารมา(เลวแต่เด็กเลยวุ้ย) แต่เมื่อพุ่งเข้าไปหาสิ่งที่เจอทำให้เขาต้องอึ้ง!!! อ๊ะ... โทษๆ ต่อๆๆ... เมื่อซันจิพุ่งเข้าไปหาเซฟก็ต้องตกในเพราะว่าถุงอาหารใบใหญ่ของเซฟนั้นไม่ได้ร่อยหรอลงเลยนับตั้งแต่วันแรกที่แบ่งของกัน เมื่อซันจิเปิดเข้าไปดูในถุงจึงเห็นว่ามีแต่สมบัติเต็มไปหมด และเมื่อมองไปที่ขาของเซฟก็เห็นว่าขาดไปหนึ่งข้าง (ในส่วนนี้จะแตกต่างกันนิดหน่อยระหว่างในมังงะกับอนิเมะ ในมังงะนั้นเซฟตัดขาตัวเองมากินประทังชีวิต แต่ในอนิเมะนั้นจำเป็นต้องลดความรุนแรงลงจึงทำให้เซฟขาขาดไปตั้งแต่ดำน้ำลงทะเลลงไปช่วยซันจินั่นเอง) หลังจากนั้นทั้งสองคนก็ตัดสินใจสร้างร้านอาหารลอยทะเลบาราติเอขึ้นมาด้วยความคิดที่ว่าไม่อยากให้ใครต้องหิว(จนเกือบ)ตายเหมือนที่ตนเคยเจอมาก่อน
ร้านอาหารลอยทะเลบาราติเอ
หลังจากเปิดร้านมาได้หลายปีพวกของลูฟี่ก็มาถึงที่ร้านโดยการทำหลังคาร้านพังโดยบังเอิญ = =” ลูฟี่จึงจำใจเป็นลูกน้องในร้านและหลังจากนั้นไม่นานกลุ่มโจรสลัดดอนครี้กก็มาบุกซันจิพยายามปกป้องร้านเต็มที่แต่ก็โดนยำซะเละลูฟี่จึงอาสาสู้แทนและทำการขับไล่ไปได้ ซันจิจึงลาออกจากร้านและร่วมเดินทางกับลูฟี่
ซันจิก้มหัวขอบคุณเซฟขาแดงก่อนออกเดินทาง
บทที่ 2 ประมวลความซวยของซันจิหลังจากร่วมกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง
ที่หมูบ้านโคโคยาชิอันเป็นบ้านเกิดของนามิ ซันจิได้เข้าสูกับเสนาธิการของกลุ่มโจรสลัดมนุษย์เงือกที่ชื่อว่าคุโรโอบิ ในขณะที่จะไปทำลายหินที่ขาลูฟี่ซันจิก็โดนจับดิ่งลงก้อนทะเลด้วยความเร็วสูงจนอวัยวะภายในบอบช้ำเป็นอย่างมาก
อวัยวะภายในของซันจิที่โดนแรงดันน้ำอัดเข้าให้จนถึงกับกระอักเลือกออกมา
หลังจากเอาชนะอาลองได้กลุ่มหมวกฟางก็เข้าสู่แกรนด์ไลน์และได้เข้าสู่เกาะแรกคือวิสกี้พีค ซันจิหลงกลโดนหญิงสาว 20 คนคอยปรนเปรอและมอมเหล้าจนหลับไปจบเกาะนี้โดยที่ไม่ได้บู๊กับชาวบ้านเลย เยี่ยมจริงๆ // จริงๆก็อนาถกันทั้งกลุ่มเว้นแค่นามิกับโซโลที่รู้ตัวตลอด
ซันจิที่โดนหญิงสาว? 20 คนมอมเหล้า
ออกจากวิสกี้พีคได้ก็เดินทางมาถึงเกาะลิตเติ้ลการ์เด้นซันจิกับโซโลแข่งกันล่าสัตว์โดยให้แข่งกันที่ความใหญ่ของสัตว์ที่ล่าได้ แต่ทว่าทุกๆคนหายไปกันหมดเหลือน้าแกคนเดียวที่เรือ น้าแกเลยตัดสินใจออกไปตามหาแต่ก็ดันไปเจอกับฐานลับของ Mr.3 และได้คุยกับพี่เข้คร็อคโคไดล์ของเรานั่นเอง พี่เข้ได้ส่งลูกน้องที่ชื่อว่าอันลัคกี้มาเช็คงานว่ากลุ่มหมวกฟางและเจ้าหญิงวีวี่ตายแล้วตามที่บอกหรือเปล่า จึงเกิดการปะทะกัน และน้าแกก็ได้บู๊ซะที... ที่เกาะนี้ซันจิได้บู๊โชว์เทพไป ครึ่งตอนถ้วน...
ซันจิที่นั่งจิบชาสบายในเฉิบในขณะที่เพื่อนๆปางตายกันหมดแล้ว
ซันจิที่ได้ปะทะกับกลุ่มอันลัคกี้ที่คร็อคโคไดล์ส่งมา(เกาะนี้ได้บู๊แค่นี้จริงๆ)
ที่เกาะดรัม นามิป่วยหนังจากไวรัสที่ติดมาจากลิตเติ้ลการ์เด้น ซันจิกับลูฟี่จึงตัดสินใจพานามิไปหาหมอคุเรฮะ(ด็อคทรีนู) ระหว่างทางก็เจอราพานกระต่ายกินเนื้อเล่นงานเข้าด้วยการทำให้หิมะถล่ม ซันจิที่เป็นห่วงนามิมากกว่าลูฟี่จึงจับลูฟี่โยนใหพ้นทางหิมะแล้วตัวเองรับแรงกระแทกซะเอง ผลคือปางตายไปเป็นภาระให้ลูฟี่แบกเพิ่มอีกคนอนาถแท้...
เมื่อถึงปราสาท วาโปลูก็มาบุกซันจิได้ช่วยลูฟี่ด้วยลูกเตะอันทรงพลังและได้สู้กับลูกน้องของวาโปลูนิดหน่อยก่อนจะโดนหมอคุเรฮะ(ด็อคทรีนู) กระทืบเข้าให้ สรุปที่เกาะดรัมซันจิได้บู๊กับชาวบ้านประมาณ 2-4 นาที....
เนื่องจากเกาะนี้อนาถจัดรูปเลยเยอะหน่อยไล่ตามเลขเลยเด้อ
1. ลูฟี่ที่แบกนามิกับซันจิเจอกับฝูงราพานก่อนที่หิมะจะถล่ม
2. หลังจากโชว์หล่อไปแล้วซันจิก็จมหิมะแล้วไหลไปด้วย
3. ลูฟี่ที่แบกนามิกับซันจิที่บาดเจ็บและได้บังเอิญช่วยราพานที่จมหิมะเหมือนกัน
4. ลูฟี่แบกนามิไว้ที่หลังและคาบซันจิปีนเขาไปหาหมอ
5. ช็อปเปอร์ที่เจอซันจิในสภาพร่อแร่ กระดูกซี่โครงหัก 6 ซี่ แถมด้วยกระดูกสันหลังที่ร้าวอีก
6. หลังจากที่ช่วยลูฟี่แล้วและเตรียมไปบู๊ต่อแต่โดนหมอคุเรฮะ(ด็อคทรีนู) หยุดไว้ซะก่อน เป็นอันจบเกาะดรัม
ที่อลาบัสต้าเพื่อนๆคนอื่นต่างพากันแยกย้ายเข้าเมืองไปและได้สู้โชว์เทพกันไปคนละ 2-3 ตอน ซันจิของเราเองก็ได้บู๊เช่นเดียวกันโดยคู่ปรับคือ Mr.2 บอนเคร นั่นเอง โดยการต่อสู้ของ 2 คนนี้กินเวลายาวนานถึง..... 1 ตอนถ้วนครับท่านนนนนน
ซันจิ และ Mr.2 ดวลลูกเตะครั้งสุดท้าย
หลังจากที่หลบหนีทหารเรือที่อลาบัสต้าได้แล้วกลุ่มหมวกฟางก็เดินทางไปยังเกาะจายาและได้ขึ้นไปที่เกาะแห่งท้องฟ้านั่นเอง ในตอนที่สู้กับเทพคุ้มกฏนั้นซันจิลูฟี่อุซปก็เอาชนะมาได้และได้ไปสมทบกับนามิที่เรือแมรี่จากนั้นจึงได้ทำการวางแผนเพื่อไปหาเมืองขุมทอง ระหว่างที่เดินทางนั้นก็อดเอเนลูก็ได้มาปรากฏที่เรือซันจิได้โจมตีเอเนลูแต่ไม่โดนเลยแม้แต่น้อยแถมโดนช็อตจนเกรียมแถมมาอีกต่างหาก นี่คือจุดเริ่มต้นในการหายตัวไปเป็นจำนวนหลายๆตอนของซันจิและคนที่โดนหางเลขไปด้วยเป็นคนแรกคือพ่อจมูกยาวอุซปนั่นเอง
ซันจิที่โดนช็อตจนเกรียมไปก่อนเพื่อนและอุซปที่โดนหางเลขไปด้วยในการดูแลของโคนิส
หลังจากลงมาจากเกาะแห่งท้องฟ้าแล้วก็ได้ไปถึงเกาะลองริงลองแลนด์และได้เจอกับกลุ่มโจรสลัดฟ็อกซี่จึงได้เกิดการแข่งเดวี่แบล็คไฟท์ขึ้น (อันนี้ลูฟี่อยากเล่นเองล้วนๆเลยลากคนในกลุ่มมาซวยด้วย)
ในเกมส์แรกเป็นการแข่งพายเรือซันจิได้จับคู่กับลูฟี่ และกติกาคือให้สร้างเรือขึ้นด้วยถึงไม้ 3 ถึงเท่านั้น และนี้คือเรือของซันจิ...
เรือ ”ช่างหัวมันเถอะ” ของซันจิและลูฟี่
เกมส์ที่สองเป็นการแข่งยัดบอลลงห่วงยาง ที่ชื่อว่าคล็อกกี้ริง ซันจิจับคู่กับโซโลและคนที่ซวยได้รับตำแหน่งบอลแมนก็คือซันจินั่นเองแถมยังซันจิยังโดนใบเหลืองในการแข่งเนื่องจากโมโหที่ประท้วงกรรมการแล้วกรรมการไม่สนใจเลยเตะรองเท้าอัดแม่ม 555555555
บอลแมนซันจิกับการได้รับใบเหลืองหลังจากการประท้วง
ที่เหลือก็ไม่มีอะไรน่าอนาถแล้วขอข้ามไปที่ เอนิเอสล็อบบี้เลยนะครับ
ทีเอนิเอสล็อบบี้ CP9 คนแรกที่เจอคือแคลิเฟอร์อดีตเลขาของไอซเบิร์กนั่นเอง แต่ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษเลยปฏิญาณเอาไว้ว่าจะไม่ทำร้ายผู้หญิงโดยเด็ดขาด ผลคือแพ้ไปตามระเบียบ
ซันจิที่โดนพลังจากผลอาวะอาวะของแคลิเฟอร์เข้าไป
หลังจากที่อ่างน้ำร้องที่เป็นผลพวงจากการต่อสู้ของนามิกับแคลิเฟอร์หล่นใส่ซันจิก็ฟื้นคืนชีพอย่างสมบูรณ์และได้ไปช่วยโซโรกับโซเงคิงที่กำลังแย่อยู่โดยการสู้กับจาบรา CP9 ที่กินผลอินุอินุโมเดลวูล์ฟ เข้าไปและเอาชนะมาได้ หลังจากนั้นก็ไปถึงสะพานแห่งความลังเลและหายตัวไปปิดประตูแห่งความยุติธรรมอีกเกือบ 10 ตอน สรุปแล้วซันจิได้บู๊กับ CP9 ไปทั้งสิ้น 1.5 ตอนถ้วน... //แคลิเฟอร์ 0.5 จาบรา 1
ซันจิใช้เดียเบิ้ลจั๊มป์ซัดใส่จาบราเต็มเรงก่อนจะเอาชนะมาได้
หลังจากกลับมาที่วอเตอร์เซเว่นอีกครั้ง กลุ่มหมวกฟางทุกคนก็ได้รับการตั้งค่าหัวจากรัฐบาล ซันจิได้รับค่าหัว 70 ล้านเบรีจากการที่โค่น CP9 ได้ แต่ตอนที่ช่างภาพมาถ่ายรูปนั้นดันลืมเอาฝาปิดหน้าเลนส์ออกจึงไม่ได้ภาพไปเลยวาดมือแทน น่าสงสารรรรรรร 555555555
รูปในใบประกาศจับของซันจิและใบหน้าอันภูมิใจ? ที่ได้เห็นหน้าตัวเองในใบประกาศจับ
เมื่อไปถึงธริลเลอร์บาร์ค ซันจิโดนชิงเงาไปก่อนชาวบ้านเขาอีกแล้วและก็โดนเอาไปทิ้งไว้ที่เรือพร้อมๆกับลูฟี่และโซโล แถมซอมบี้ของซันจิเองก็ดันเป็นเพนกวิ้นหน้าหมาซะงั้นอ่อนแอซะไม่มี น่าสงสารแท้ 555555555555 // มาถึงซีซั่นนี้ยังดีหน่อยที่ได้ร่วมบู๊กับเขาบ้างแต่ดันมาหลุดเพราะไปบ้าจี้ประกอบร่างกับแฟรงกี้นี่แหละ
สภาพหลังจากโดนชิงเงาและซอมบี้ของซันจิ
หลังจากที่ได้สติคืนมาก็ดันมารู้ว่านามิถูกจับตัวไปเลยตามไปช่วยและได้อึ้งหนักไปใหญ่ที่ผลปิศาจที่ตัวเองอยากได้(ไว้ถ้ำมอง) นั้นโดนชิงไปแล้ว พลังที่ว่าคือพลังล่องหนของอับซาลอมนั่นเอง แกเลยโมโหจัดเล่นกระทืบซะเฮียอับซาลอมเดี้ยงไปเลยทีเดียว ใช้เวลากระทืบไป 1 ตอนถ้วนอีกแล้ว 555555
เพลิงแห่งความแค้นที่ของซันจิเมื่อรู้ว่าผลปิศาจที่ตัวเองอยากได้(ไว้ถ้ำมอง) ไปอยู่กับคนอื่นซะแล้ว
ขอเเสดงความยินดีที่ซันจิได้กลับมาโลดเเล่นในการ์ตูนอีกครั้งหลังจากหายไป 65 ตอน
ปล. บางช่วงขอเล่าข้ามไปก็แล้วกันนะครับเนื่องจากหลายคนคงรู้มาบ้างแล้ว
บทที่ 1 เชฟซันจิ
ซันจินั้นเกิดอยู่ที่นอร์ทบลู แต่มาเติบโตอยู่ที่อีสต์บลู ก่อนหน้าที่จะมาสร้างร้านอาหารลอยทะเลบาราติเอนั้น ซันจิเคยเป็นเด็กในห้องครัวที่เรือสำราญลำหนึ่ง แต่แล้วเรือสำราญก็ถูกกลุ่มโจรสลัดขาแดงเข้าปล้นจึงทำให้ซันจิฮึดสู้เพื่อปกป้องเรือและพลัดตกทะเลไปในที่สุด แต่ก็ได้กัปตันของกลุ่มโจรสลัดขาแดงช่วยเอาไว้เพราะมีความฝันเดียวกันนั่นก็คือการตามหาออลบลูหรือทะเลในตำนานที่มีสัตว์น้ำทุกชนิดจากทะเลทุกๆที่มารวมกัน หลังจากที่ช่วยซันจิเอาไว้ทั้งคู่ก็ลอยไปติดที่เกาะร้างแห่งหนึ่ง (มีลักษณะเหมือนเขาตะปูแหล่งท่องเที่ยวของบ้านเรา) เมื่อขึ้นไปถึงยอดเซฟก็สั่งให้ซันจะไปนั่งที่อีกฝั่งของเกาะเพื่อให้ดูเรือที่ผ่านมาพร้อมทั้งแบ่งอาหารใส่ถุงใบเล็กให้อีก 1 ใบ
เมื่อผ่านไป 20 วันอาหารก็หมดลง(เป็นเพราะพี่แกมัวแต่ร้องไห้เลยเผลอทำขนมปังก้อนสุดท้ายตกทะเลไป) ซันจิจึงต้องอดอาหารไปนานมาก จนกระทั่งทนความหิวไม่ไหวจึงคิดที่จะฆ่าเซฟเพื่อชิงอาหารมา(เลวแต่เด็กเลยวุ้ย) แต่เมื่อพุ่งเข้าไปหาสิ่งที่เจอทำให้เขาต้องอึ้ง!!! อ๊ะ... โทษๆ ต่อๆๆ... เมื่อซันจิพุ่งเข้าไปหาเซฟก็ต้องตกในเพราะว่าถุงอาหารใบใหญ่ของเซฟนั้นไม่ได้ร่อยหรอลงเลยนับตั้งแต่วันแรกที่แบ่งของกัน เมื่อซันจิเปิดเข้าไปดูในถุงจึงเห็นว่ามีแต่สมบัติเต็มไปหมด และเมื่อมองไปที่ขาของเซฟก็เห็นว่าขาดไปหนึ่งข้าง (ในส่วนนี้จะแตกต่างกันนิดหน่อยระหว่างในมังงะกับอนิเมะ ในมังงะนั้นเซฟตัดขาตัวเองมากินประทังชีวิต แต่ในอนิเมะนั้นจำเป็นต้องลดความรุนแรงลงจึงทำให้เซฟขาขาดไปตั้งแต่ดำน้ำลงทะเลลงไปช่วยซันจินั่นเอง) หลังจากนั้นทั้งสองคนก็ตัดสินใจสร้างร้านอาหารลอยทะเลบาราติเอขึ้นมาด้วยความคิดที่ว่าไม่อยากให้ใครต้องหิว(จนเกือบ)ตายเหมือนที่ตนเคยเจอมาก่อน
หลังจากเปิดร้านมาได้หลายปีพวกของลูฟี่ก็มาถึงที่ร้านโดยการทำหลังคาร้านพังโดยบังเอิญ = =” ลูฟี่จึงจำใจเป็นลูกน้องในร้านและหลังจากนั้นไม่นานกลุ่มโจรสลัดดอนครี้กก็มาบุกซันจิพยายามปกป้องร้านเต็มที่แต่ก็โดนยำซะเละลูฟี่จึงอาสาสู้แทนและทำการขับไล่ไปได้ ซันจิจึงลาออกจากร้านและร่วมเดินทางกับลูฟี่
บทที่ 2 ประมวลความซวยของซันจิหลังจากร่วมกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง
ที่หมูบ้านโคโคยาชิอันเป็นบ้านเกิดของนามิ ซันจิได้เข้าสูกับเสนาธิการของกลุ่มโจรสลัดมนุษย์เงือกที่ชื่อว่าคุโรโอบิ ในขณะที่จะไปทำลายหินที่ขาลูฟี่ซันจิก็โดนจับดิ่งลงก้อนทะเลด้วยความเร็วสูงจนอวัยวะภายในบอบช้ำเป็นอย่างมาก
หลังจากเอาชนะอาลองได้กลุ่มหมวกฟางก็เข้าสู่แกรนด์ไลน์และได้เข้าสู่เกาะแรกคือวิสกี้พีค ซันจิหลงกลโดนหญิงสาว 20 คนคอยปรนเปรอและมอมเหล้าจนหลับไปจบเกาะนี้โดยที่ไม่ได้บู๊กับชาวบ้านเลย เยี่ยมจริงๆ // จริงๆก็อนาถกันทั้งกลุ่มเว้นแค่นามิกับโซโลที่รู้ตัวตลอด
ออกจากวิสกี้พีคได้ก็เดินทางมาถึงเกาะลิตเติ้ลการ์เด้นซันจิกับโซโลแข่งกันล่าสัตว์โดยให้แข่งกันที่ความใหญ่ของสัตว์ที่ล่าได้ แต่ทว่าทุกๆคนหายไปกันหมดเหลือน้าแกคนเดียวที่เรือ น้าแกเลยตัดสินใจออกไปตามหาแต่ก็ดันไปเจอกับฐานลับของ Mr.3 และได้คุยกับพี่เข้คร็อคโคไดล์ของเรานั่นเอง พี่เข้ได้ส่งลูกน้องที่ชื่อว่าอันลัคกี้มาเช็คงานว่ากลุ่มหมวกฟางและเจ้าหญิงวีวี่ตายแล้วตามที่บอกหรือเปล่า จึงเกิดการปะทะกัน และน้าแกก็ได้บู๊ซะที... ที่เกาะนี้ซันจิได้บู๊โชว์เทพไป ครึ่งตอนถ้วน...
ที่เกาะดรัม นามิป่วยหนังจากไวรัสที่ติดมาจากลิตเติ้ลการ์เด้น ซันจิกับลูฟี่จึงตัดสินใจพานามิไปหาหมอคุเรฮะ(ด็อคทรีนู) ระหว่างทางก็เจอราพานกระต่ายกินเนื้อเล่นงานเข้าด้วยการทำให้หิมะถล่ม ซันจิที่เป็นห่วงนามิมากกว่าลูฟี่จึงจับลูฟี่โยนใหพ้นทางหิมะแล้วตัวเองรับแรงกระแทกซะเอง ผลคือปางตายไปเป็นภาระให้ลูฟี่แบกเพิ่มอีกคนอนาถแท้...
เมื่อถึงปราสาท วาโปลูก็มาบุกซันจิได้ช่วยลูฟี่ด้วยลูกเตะอันทรงพลังและได้สู้กับลูกน้องของวาโปลูนิดหน่อยก่อนจะโดนหมอคุเรฮะ(ด็อคทรีนู) กระทืบเข้าให้ สรุปที่เกาะดรัมซันจิได้บู๊กับชาวบ้านประมาณ 2-4 นาที....
1. ลูฟี่ที่แบกนามิกับซันจิเจอกับฝูงราพานก่อนที่หิมะจะถล่ม
2. หลังจากโชว์หล่อไปแล้วซันจิก็จมหิมะแล้วไหลไปด้วย
3. ลูฟี่ที่แบกนามิกับซันจิที่บาดเจ็บและได้บังเอิญช่วยราพานที่จมหิมะเหมือนกัน
4. ลูฟี่แบกนามิไว้ที่หลังและคาบซันจิปีนเขาไปหาหมอ
5. ช็อปเปอร์ที่เจอซันจิในสภาพร่อแร่ กระดูกซี่โครงหัก 6 ซี่ แถมด้วยกระดูกสันหลังที่ร้าวอีก
6. หลังจากที่ช่วยลูฟี่แล้วและเตรียมไปบู๊ต่อแต่โดนหมอคุเรฮะ(ด็อคทรีนู) หยุดไว้ซะก่อน เป็นอันจบเกาะดรัม
ที่อลาบัสต้าเพื่อนๆคนอื่นต่างพากันแยกย้ายเข้าเมืองไปและได้สู้โชว์เทพกันไปคนละ 2-3 ตอน ซันจิของเราเองก็ได้บู๊เช่นเดียวกันโดยคู่ปรับคือ Mr.2 บอนเคร นั่นเอง โดยการต่อสู้ของ 2 คนนี้กินเวลายาวนานถึง..... 1 ตอนถ้วนครับท่านนนนนน
หลังจากที่หลบหนีทหารเรือที่อลาบัสต้าได้แล้วกลุ่มหมวกฟางก็เดินทางไปยังเกาะจายาและได้ขึ้นไปที่เกาะแห่งท้องฟ้านั่นเอง ในตอนที่สู้กับเทพคุ้มกฏนั้นซันจิลูฟี่อุซปก็เอาชนะมาได้และได้ไปสมทบกับนามิที่เรือแมรี่จากนั้นจึงได้ทำการวางแผนเพื่อไปหาเมืองขุมทอง ระหว่างที่เดินทางนั้นก็อดเอเนลูก็ได้มาปรากฏที่เรือซันจิได้โจมตีเอเนลูแต่ไม่โดนเลยแม้แต่น้อยแถมโดนช็อตจนเกรียมแถมมาอีกต่างหาก นี่คือจุดเริ่มต้นในการหายตัวไปเป็นจำนวนหลายๆตอนของซันจิและคนที่โดนหางเลขไปด้วยเป็นคนแรกคือพ่อจมูกยาวอุซปนั่นเอง
หลังจากลงมาจากเกาะแห่งท้องฟ้าแล้วก็ได้ไปถึงเกาะลองริงลองแลนด์และได้เจอกับกลุ่มโจรสลัดฟ็อกซี่จึงได้เกิดการแข่งเดวี่แบล็คไฟท์ขึ้น (อันนี้ลูฟี่อยากเล่นเองล้วนๆเลยลากคนในกลุ่มมาซวยด้วย)
ในเกมส์แรกเป็นการแข่งพายเรือซันจิได้จับคู่กับลูฟี่ และกติกาคือให้สร้างเรือขึ้นด้วยถึงไม้ 3 ถึงเท่านั้น และนี้คือเรือของซันจิ...
เกมส์ที่สองเป็นการแข่งยัดบอลลงห่วงยาง ที่ชื่อว่าคล็อกกี้ริง ซันจิจับคู่กับโซโลและคนที่ซวยได้รับตำแหน่งบอลแมนก็คือซันจินั่นเองแถมยังซันจิยังโดนใบเหลืองในการแข่งเนื่องจากโมโหที่ประท้วงกรรมการแล้วกรรมการไม่สนใจเลยเตะรองเท้าอัดแม่ม 555555555
ที่เหลือก็ไม่มีอะไรน่าอนาถแล้วขอข้ามไปที่ เอนิเอสล็อบบี้เลยนะครับ
ทีเอนิเอสล็อบบี้ CP9 คนแรกที่เจอคือแคลิเฟอร์อดีตเลขาของไอซเบิร์กนั่นเอง แต่ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษเลยปฏิญาณเอาไว้ว่าจะไม่ทำร้ายผู้หญิงโดยเด็ดขาด ผลคือแพ้ไปตามระเบียบ
หลังจากที่อ่างน้ำร้องที่เป็นผลพวงจากการต่อสู้ของนามิกับแคลิเฟอร์หล่นใส่ซันจิก็ฟื้นคืนชีพอย่างสมบูรณ์และได้ไปช่วยโซโรกับโซเงคิงที่กำลังแย่อยู่โดยการสู้กับจาบรา CP9 ที่กินผลอินุอินุโมเดลวูล์ฟ เข้าไปและเอาชนะมาได้ หลังจากนั้นก็ไปถึงสะพานแห่งความลังเลและหายตัวไปปิดประตูแห่งความยุติธรรมอีกเกือบ 10 ตอน สรุปแล้วซันจิได้บู๊กับ CP9 ไปทั้งสิ้น 1.5 ตอนถ้วน... //แคลิเฟอร์ 0.5 จาบรา 1
หลังจากกลับมาที่วอเตอร์เซเว่นอีกครั้ง กลุ่มหมวกฟางทุกคนก็ได้รับการตั้งค่าหัวจากรัฐบาล ซันจิได้รับค่าหัว 70 ล้านเบรีจากการที่โค่น CP9 ได้ แต่ตอนที่ช่างภาพมาถ่ายรูปนั้นดันลืมเอาฝาปิดหน้าเลนส์ออกจึงไม่ได้ภาพไปเลยวาดมือแทน น่าสงสารรรรรรร 555555555
เมื่อไปถึงธริลเลอร์บาร์ค ซันจิโดนชิงเงาไปก่อนชาวบ้านเขาอีกแล้วและก็โดนเอาไปทิ้งไว้ที่เรือพร้อมๆกับลูฟี่และโซโล แถมซอมบี้ของซันจิเองก็ดันเป็นเพนกวิ้นหน้าหมาซะงั้นอ่อนแอซะไม่มี น่าสงสารแท้ 555555555555 // มาถึงซีซั่นนี้ยังดีหน่อยที่ได้ร่วมบู๊กับเขาบ้างแต่ดันมาหลุดเพราะไปบ้าจี้ประกอบร่างกับแฟรงกี้นี่แหละ
หลังจากที่ได้สติคืนมาก็ดันมารู้ว่านามิถูกจับตัวไปเลยตามไปช่วยและได้อึ้งหนักไปใหญ่ที่ผลปิศาจที่ตัวเองอยากได้(ไว้ถ้ำมอง) นั้นโดนชิงไปแล้ว พลังที่ว่าคือพลังล่องหนของอับซาลอมนั่นเอง แกเลยโมโหจัดเล่นกระทืบซะเฮียอับซาลอมเดี้ยงไปเลยทีเดียว ใช้เวลากระทืบไป 1 ตอนถ้วนอีกแล้ว 555555