เบื่อ ท้อ เหมือนอยู่คนเดียวในโลกที่แสนวุ่นวาย

ชอบอ่านหลายๆอย่างในพันทิป แต่ไม่กล้าตั้งกระทู้เพราะเล่นไม่ค่อยเป็น วันนี้อยากมาระบายบ้าง เราเป็นเด็กกำพร้า พ่อเมียเสียไปตั้งแต่เด็ก มีญาติเลี้ยงดู แต่ทางบ้านญาติก็มีครอบครัวมีลูกอยู่แล้ว บางทีเราก็เหมือนเป็นส่วนเกินของครอบเขา แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่าเขาเลี้ยงดูเราเป็นอย่างดี เราเจอชีวิตยิ่งกว่าละครซะอีก พ่อเรามีลูกก่อนจะมีแม่เรา แม่เราเสียชีวิตก่อนด้วยโรคมะเร็ง แล้วอีก 2 ปีพ่อเราก็เสียชีวิต ตอนนั้นเรายังเด็กมากประมาณ 7 ปี พ่อเราฝากเราไว้กับพี่สาวคนละแม่ ฝั่งพี่สาวเราก็มีลูกมีครอบครัวอยู่แล้ว เราอยู่กับพี่สาวคนละแม่อยู่ถึงประมาณม.2 มีเรื่องต่างๆมากมายเกิดขึ้นทั้งดีและไม่ดี ขอไม่เล่า แต่เรื่องที่ทำให้เราออกจากบ้านนั้น คือเรื่องสามีเค้าเจ้าชู้กับเรา แต่เราไม่เล่นด้วยและไม่บอกพี่สาว แต่พี่สาวรู้นิสัยสามีเขาอยู่แล้วด้วย ตอนนั้นเป็นวัยกำลังโตพี่สาวเขาจะไม่ให้อยู่กับสามีเขาตอนพี่สาวไม่อยู่ และพี่สาวก็บอกกับเราว่า "ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นเขาจะเลือกสามีเขา" เราก็เข้าใจเพราะคนละแม่ แต่มีวันหนึ่งทะเลาะกันแล้วพี่สาวเขาด่าแม่เรา บอกไม่ชอบแม่เราอย่างโน้นอย่างนี้ ซึ่งเรารับไม่ได้เราเลยโทรให้ญาติใกล้บ้านซึ่งเราพูดไปตอนแรกมารับ จากนั้นเราก็อยู่บ้านนั้นกับญาติ บ้านเราให้คนทำงานแถวนั้นเช่า เพราะน้าไม่ให้เราอยู่เพราะเป็นผู้หญิง เราไม่ได้ติดต่อบ้านนั้น แล้วฝั่งนั้นก็ไม่ได้สนใจเราเช่นกัน เราอยู่กับการใช้ชีวิตต่างกันมาก เพราะลูกน้าเป็นพี่เรา 1 ปีด้วยมั้ง ชีวิตเหมือนจะมีความสุขแต่ในชีวิตจริงมันไม่ใช่  เราเหมือนส่วนเกินตลอดเวลา พอจบม.6 เราก็มาเรียนและทำงานที่กรุงเทพหาเงินเรียนเอง ชีวิตกรุงเทพต่างจากชีวิตต่างจังหวัดมาก ซึ่งเราไม่เคยมาก่อน เรามากรุงเทพกับเพื่อนครั้งแรก เรากับเพื่อนหางานทำที่กรุงเทพ ประมาณ 4 เดือนพวกเราก็ทะเลาะกัน เพราะเพื่อนจะต้องไปอยู่กับญาติของเขา แต่เราไม่มีญาติ เราก็อยู่คนเดียว เราก็มีแฟนอยู่ที่บ้านนะ แต่แฟนไม่ยอมให้เรามากรุงเทพ ตอนแรกที่บ้านก็ไม่ให้เรามาเพราะกรุงเทพน่ากลัว แต่เราเป็นคนชอบเสี่ยงเราจึงให้เหตุกับน้าเรื่องเรียนแล้วก็ทำงานด้วย ทางบ้านเลยให้มา แต่เราก็แลกด้วยการทะเลาะกับแฟน เพราะคิดว่าเป็นรักวัยเรียน เราคบกับแฟนคนนั้นตั้งแต่ม.1 เพราะเป็นเพื่อนกันมาก่อน เขารู้เรื่องเราทุกเรื่อง ให้กำลังใจเราตอนไม่มีใคร เป็นแฟนคนแรกด้วยถามว่าเราเขาไหม ตอนนั้นเราคิดแค่เป็นรักในวัยเรียนเป็นเพื่อน เราอาจจะไม่รู้จักคำว่ารักด้วยซ้ำ ตอนเราทะเลาะกับเพื่อนยังมีเขาโทรมาเป็นห่วงตลอด เราทะเลาะกันหนักมากตอนมากรุงเทพใหม่ๆ แต่เราก็ยังคุยกัน แต่ด้วยระยะทาง ทำให้เราทะเลาะกันบ่อยขึ้น เขาเป็นคนหน้าตาดีแล้วนิสัยเจ้าชู้ เราพอจะรู้อยู่แล้วแต่เค้ามีเวลาให้เราตลอดเราเลยไม่อะไรมากตอนแรก แต่เพื่อนที่บ้านก็โทรมาว่าเลิกกันแล้วหรอ เห็นเขาไปกับผญ.คนอื่น เราสองคนเริ่มทะเลาะกันมากขึ้น จนห่างกันไป เราเลือกที่จะห่างจากเขาเองเพราะที่บ้านน้าก็ไม่อยากให้เราคบกับเขาด้วยเรื่องหลายอย่าง จากนั้นเราก็ตั้งใจเรียนและทำงาน มีบางครั้งเราอยากมีแฟน อยากมีคนคุยตอนเราเหงา และท้อมาก จะบอกที่บ้านก็ไม่ได้ ถึงบอกความรู้มันก็ได้เหมือนพ่อแม่ของเราจริง เหมือนไม่มีคนเข้าใจเราเลย พอจะมีแฟน ก็เจอแต่ผช.ที่ไม่จริงใจ หวังแต่เรื่องอย่างว่า เราไม่กล้าคบใคร ไม่กล้าบอกใครเรื่องครอบครัว เราอยากเจอคนที่จริงใจ เคียงข้างเรา พร้อมจะดูแลเรา เราคิดมาตลอดชีวิตเราดีกว่าคนที่อยู่ในสถานเด็กกำพร้า  มีทุกอย่างที่พ่อแม่สร้างไว้ให้ มีเพื่อนแต่ก็เหมือนไม่มี เพราะไม่สามารถเล่าทุกอย่างได้ ผิดหวังเพราะเพื่อนหลายๆเรื่อง ใครจริงใจมาเราจริงใจตอบ แต่ใครร้ายมาเราก็ร้ายตอบเหมือนกัน เราเป็นคนเหมือนแรง  แต่ในความจริงไม่ใช่เลย ทุกวันนี้เหมือนอยู่คนเดียวบนโลก มีบางช่วงเบื่อ ท้อมาก ส่วนเรื่องแฟนเราเป็นคนไม่ถึงกับขี้เหร่ ไม่ได้สวย ก็มีเข้ามาบ้าง แต่ไม่เคยจริงใจเลย เราไม่ชอบคุยทางโทรสัพด้วยแหละเราเบื่อมั้ง มีพี่ผช.ที่ทำงานคนหนึ่งผู้ว่า "เราเหมาะเป็นของเล่นให้ผช.ควงเล่น" เราคิดว่าจำเป็นด้วยหรอ ใครไม่จริงใจมาเราถอยอย่างเดียว

#ที่บ้านญาติเราก็กลับทุกปีนะ แต่กลับไปทุกครั้งมีความสุขมาก
#ส่วนบ้านพี่สาวเราคิดว่ายังไงเขาก็เลี้ยงเรามาเจอกันก็ไหว้ แต่ไม่ได้สนิทกัน
#แฟนคนแรกเราก็ยังเป็นเพื่อนกันในเฟสด้วย ถ้าให้กลับไปคบกันความรู้สึกไม่เหมือนเดิมแน่ มีความทรงจำดีๆด้วยกันพอแล้ว
#ขอบคุณมากสำหรับคนอ่านที่มาฟังเรื่องระบายจากเรา
#ชีวิตเราต้องเดินต่อไป ทุกวันนี้พยายามคิดบอก จนเป็นบ้าแร้ว 555 สู้ๆสำหรับทุกคนที่หมดกำลังใจ
#มาเห็นข้อความที่ระบายลงไปยาวมาก 555 ขออภัยหากเขียนคำผิด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่