วันแรก.....(4 สิงหาคม 2558) สะพานมอญ >> วัดวังก์วิเวการาม >> เจดีย์พุทธคยา >> ตลาด 5 เชื้อชาติ
ตอนเด็กๆ คุณเคยสงสัยไหม.. ว่าถนนเส้นที่เรานั่งรถผ่านในทุกๆวันนี้ ปลายทางจะสิ้นสุดที่ไหน ข้างทางเป็นยังไง มีภูเขา มีแม่น้ำ มีทุ่งนา หรือป่าว..... แล้วถ้าเป็นแบบนันจริงๆ แล้วมันจะสวยไหม...? นั้นคือความสงสัยที่มันเกิดขึ้นในสมองของผม... และก็นั้นแหละที่ทำให้ผมเป็นคนที่ชอบการเดินทางมาจนทุกวันนี้.....
สังขละบุรี ในวันที่ฝนพรำ หลังจากที่เฝ้าติดตามและก็อ่านรีวิวของหลายๆท่านที่ผ่านมา ก็เลยอยากจะขอแชร์ประสบการณ์การเดินทางในแบบฉบับของผมบ้าง หากผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ..
ผมออกเดินทางจากโคราชนะ... อาจจะแปลกๆหน่อยที่คนส่วนใหญ่แล้วการเดินทางไปจังหวัดกาญนจบุรีต้องรถไฟเท่านั้นเพื่อที่จะได้บรรยากาศแบบ ชิวๆ คูลๆ แต่ผมเวลาคงไม่อำนวยเท่าไหร่หากจะทำแบบนั้น แต่ผมก็มีวิธีชิวๆ คูลๆ ในแบบของผมเหมือนกัน ...... ผมต้องการให้ไปถึงตัวจังหวัดกาญในช่วงเช้าเพื่อที่จะได้ทันรถตู้เที่ยวแรก ในเวลา 07:30 น. รายละเอียดการเดินทาง ที่พัก เดียวผมจะทิ้งใว้ให้ด้านท้ายนะคับ......
...............................ขอเริ่มเลยนะ.................................
ชีวิตเนิบๆ... ในวันฝนพรำ ที่อำเภอ สังขละบุรี อำเภอท่ามกลางหุบเขาที่เงียบสงบ...มีแม่น้ำสามสายไหลมาบรรจบกันได้แก่ ห้วยซองกะเลีย ห้วยบีคลี่ และห้วยรันตี รวมเรียกว่า “สามประสบ” ไหลรวมกันเป็นแม่น้ำแควน้อย อำเภอสังขละบุรีเป็นอำเภอที่มีชาวมอญตั้งบ้านเรือนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก จึงสามารถพบเห็นวิถีชีวิตประเพณีเก่าแก่แบบดั้งเดิมของชาวมอญ ณ ที่แห่งนี้...................
............ ชาวบ้านอัทธยาสัยดีมาก .. เหมาะสำหรับครัยหลายๆคนที่อยากจะพักใจที่บอบช้ำ อยากจะใช้ชีวิตช้าๆ เนิบๆ #slowlife หรือสำหรับครัยที่มีใจรักการเดินทาง ที่มีแค่รองเท้าผ้าใบที่พาคุณลุยน้ำลุยโคลน กระเป๋าหนึ่งใบที่ยัดสิ่งของอำนวยความสะดวกได้ไม่มากนัก การกินอยู่ที่เรียบง่าย ทางที่เดินไม่มีบันไดเลื่อนเหมือนในห้างสรรพสินค้าต่างๆ แต่ก็นี่แหละ.... ประสบการณ์การใช้ชีวิต การใช้ชีวิตแบบเปิดโลกว้าง ที่จะทำให้คุณพบเจอสิ่งใหม่ๆในโลกนี้..
>>>> ชีวิตเนิบๆ สังขละบุรีวันที่ 1.....สะพานมอญ, วัดวังก์วิเวการาม, เจดีย์พุทธคยา, ตลาด5เชื้อชาติ
......................สะพานมอญ....................
สะพานมอญ มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สะพานอุตตมานุสรณ์ เป็นสะพานไม้ข้ามแม่น้ำซองกาเลียไปยังหมู่บ้านมอญ ถือเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย และเป็นอันดับสองของโลกรองจากสะพานไม้อูเบ็งในพม่า และเป็นสัญลักษณ์ของอำเภอสังขละบุรี เป็นสะพานแห่งศรัทธา ที่เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของชุมชนที่อาศัยอยู่ในสังขละบุรี ทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวมาสัมผัสธรรมชาติ พร้อมๆ กับการได้เห็นวิถีชีวิตชุมชนชาวมอญในแถบนี้ สิ่งที่ห้ามพลาดอีกอย่างหนึ่งก็คือการได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก กับสะพานที่เสมือนเป็นสายใยวัฒนธรรมของชาวมอญและไทยในดินแดนสุดขอบประเทศแห่งนี้
คนน้อย..ไปนะ แต่ก็นั้นแหละคับมันคือหน้าฝนและก็มันไม่ใช่วันหยุดยาวด้วย ได้บรรยากาศไปอีกแบบคับ สายฝนโปรยปรายกับสะพานไม้ที่มีมนต์เสน่ห์ของคนไทยเชื้อสายมอญพาดผ่านแม่น้ำ"ซองกาเลีย" บงบอกถึงการไม่ปิดกันเชื้อชาติวัฒนธรรมประเพณี.....
มองลงไปด้านล่างก็จะเห็นแพร้านอาหาร ที่พัก ต่างๆมากมาย... ในวันที่ผมไปอาจจะดูเงียบหน่อย.... แต่ก็สงบดีคับ..
จะบอกว่ารูปนี้เป็นแรงบัลดาลใจประจำทริปก็ได้นะ...... ..เนื่องจากว่าผมอยากได้รูปหน้าปกเฟสบุ๊คใหม่ ซึ่งหาดูรูปเก่าๆแล้วไม่มีถูกใจเลย.. ก็เลยมีความคิดว่าต้องถ่ายใหม่ หาข้อมุลหลายที่ สุดท้ายก็ได้ที่นี่ เนื่องด้วยระยะทาง เวลา สถานที่ มันลงล๊อกกัน ............. สำหรับรูปนี้ มันเป็นรูปที่บ่งบอกความเป็นตัวผมมากที่สุดแล้วละ จากเด็กบ้านอก มาสู่รั้วมหาลัยพร้อมกับเป็นนักฟุตบอล จบมาเป็นวิศวกร แล้วยังเป็นคนของประชาชนด้วย...ทุกช่วงชีวิตของผมผมไม่เคยที่วางกล้องเลย... ไปไหนผมมีเจ้านี้ไปด้วยเสมอ เรียกว่าเป็นคู่ซี้ผมเลยก็ได้.... ทีแรกผมกะว่าจะตั้งชื่อทริปนี้ว่า "แหกค่ายไปสังขละบุรี" แต่มันคงไม่ตลกเท่าไหร่.....
เดินมาถึงจุดนี้...บังเอินเจอดาราของที่นี่ด้วยนะ... "พี่เย็น" ถ้าใครที่เคยมาที่นี่หรือได้อ่านรีวิวจากหลายๆคนที่เขียนใว้ก็จะมีพี่เขาติดไปด้วยแทบจะทุกรีวิว... ผมนั่งคุยกับแกได้สักพัก ก็ขอตัว บอกพี่แกว่าจะไปวัดวังก์วิเวการามต่อ.....
สะพานลูกบวบ..เป็นสะพานแพไม้ไผ่ มีสร้างมาใช้แทนสะพานไม้ที่ถูกน้ำซัดขาดที่สองปีที่แล้ว... สวยไปอีกแบบแต่ดูเหมือนจะเริ่มเก่าแล้วละ....
ถึงจะเป็นสะพานที่ไม่ยามเท่าไหร่เมื่อเที่ยบกับระยะเวลาที่ใช้เดินข้าม...... แต่ผมใช้เวลาอยู่บนสะพานนี้ค่อนข้างที่จะนานมาก... เพื่อซึมซับคราวรู้สึก บรรยากาศ ที่เงินไม่สามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป....
.......................วัดวังก์วิเวการาม....................
วัดวังก์วิเวการาม หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า "วัดหลวงพ่ออุตตมะ" นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของอำเภอสังขละบุรีแล้ว ยังเป็นวัดที่ถือว่ามีความสำคัญมากสำหรับคนพื้นถิ่น และเป็นศูนย์รวมจิตใจของผู้คนหลายเชื้อชาติที่อาศัยอยู่ในอำเภอสังขละบุรี ทั้งชาวไทย และกะเหรี่ยง โดยเฉพาะสำหรับชาวไทยเชื้อสายมอญ ที่เปรียบหลวงพ่ออุตตมะเป็น "เทพเจ้าแห่งชาวมอญ" วัดวังก์วิเวการาม จึงเกิดจากพลังศรัทธาที่มีต่อหลวงพ่อ และเป็นวัดที่เคยเป็นที่จำพรรษาของ "หลวงพ่ออุตตมะ" วัดจึงเป็นเสมือนตัวแทนหลวงพ่อ และเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับชาวมอญ ในการประกอบพิธีกรรมตามประเพณีของมอญ และจัดงานอื่นๆ
ด้านในมีหุ่นขี้ผึ่งหล่วงพ่ออุตตมะ..ใว้ให้ชาวบ้านหรือนักท่องเที่ยวได้กราบใหว้บูชา ..... ผมถือว่าโชคดีมากมาครั้งนี้คนไม่เยอะเท่าไหร่... ก็เลยได้มีโอกาศเข้าไปไหว้หวงพ่อ... ได้ขอพรจากท่าน...
............................เจดีย์พุทธคยา...........................
พระเจดีย์พุทธคยา เป็นปูชนียสถานที่สำคัญคู่กับวัดวังก์วิเวการาม เป็นเจดีย์องค์ใหญ่นี้ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใกล้ริมฝั่งแม่น้ำ มีสีเหลืองทอง สามารถมองเห็นได้จากแม่น้ำซองกาเลีย ภายในองค์เจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จึงเป็นเจดีย์ที่มีผู้คนมาสักการะ บูชาองค์เจดีย์ที่เสมือนเป็นสัญลักษณ์ทางพุทธศาสนา เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต เจดีย์พุทธคยายังเป็นศูนย์กลางในการประกอบพิธีในวันสำคัญทางพุทธศาสนาและงานเทศกาลเช่น งานวันสงกรานต์
กำแพงรอบเจดีย์ที่กำลังสร้างใหม่... ในแบบฉบับของชาวมอญ สร้างเสร็จผมว่าคงสวยน่าดู.
เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านศรัทธา... เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตรใจ.... ทำให้ที่นี้มีเสน่ห์ มีมนต์ขลัง ... ที่ยากจะอธิบาย...
..................จุดชมวิว.....................
จุดนี้ผมกลับมาจากเจดีย์พุทธคยา...ก็เลยแวะหน่อย ไหนๆก็เปียกแล้ว เปียกอีกหน่อยคงไม่เป็นไรมั้ง.... ที่นี่กางเต็นฟรีนะคับ.. แต่ต้องเตรียมเต็นมาเอง สำหรับ Backpacker ทั้งหลายก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร มีไฟฟ้าให้ด้วย..
ผมก็ได้ใช้เวลาอยู่ที่นี่น่าจะ 20 นาทีได้ ผมยืนเพื่อที่จะซึมซับกับบรรยากาศ ไม่รู้นะ สำหรับผมแล้วการที่ได้ใช้ชีวิตแบบนี้แบบเปิดโลกว้างมันเป็นอะไรที่....... แบบว่ามันใช่อะ. นี่แหละคือตัวเรา ตัวตนของผมเอง... ในตอนที่คุณยังไม่มีภาระ ยังไม่มีครอบครัว.. คุณลองถามตัวคุณดูสิ... ว่า...... คุณเคยไปที่ไหนมาบ้าง? คุณทำอะไรที่มันท้าทายในชีวิตคุณมาบ้างแล้วหรือยัง? คุณรู้จักโลกนี้มากพอหรือยัง?... "" ผมว่ามันเป็นสิ่งที่คุณควรทำก่อนที่คุณจะใช้ชีวิตคู่นะ.... """
มุมนี้ถ่ายมาจากสะพานปูน....ที่รถวิ่งผ่าน
มุมนี้จากสามประสบ รีสอร์ท .... ที่ที่ผมตั้งใจจะมารับประทานมื้อค่ำที่นี่ แต่เนื่องด้วยเนื้อตัวที่เปียกป้อน.. เกรงใจโต๊ะข้าง และก็พนักงานร้านด้วย... ก็เลยไม่ดีกว่า แล้วผมก็ตัดสินใจไปตลาด.......
.......................ตลาด 5 เชื้อชาติ...................
จอดรถได้ก็ตรงเข้าไปเลยคับ....รู้สึกว่าจะหิว ด้วยกลิ่นเครื่องเทศลอยมาเข้าจมูกเต็มๆแบบนี้.....
ต้องทำเวลาหน่อยละคับ.... เหมือนว่าพี่เรนจะมาจัดคอนเสิร์ตชุดใหญ่ที่นี่..... มืดมาเลยคับ.. อะไรง่ายๆก็ขว้าใส่ปากไปก่อน..ละกัน.
จิงๆ แล้วผมอยากกินเจ้านี่นะ...."หมูจุ่มพม่า" เขาบอกว่าเป็นของขึ้นชื่อที่นี่ มาแล้วต้องได้กิน ไม่ได้กินถือว่ามาไม่ถึง สังขละบุรี ... แต่วันนี้ผมคงพลาดแล้วละ ... .... ขืนถ้านั่งคงได้จุ่มน้ำฝนกินแน่.... ผมเดินวนหนึ่งรอบก็พร้อมกับชิมร้านนั้นร้านนี้.. อิ่มแบบไม่ทันคิดเลยว่าจะกินอะไรดี...... ก็เลยซื้อลูกชิ้นปิ้งกลับที่พักป้องกันหิวตอนดึก
ถึงห้องก็รีบอาบน้ำสระผมเลยคับ....เดียวจะไม่สบาย ขอจบทริปวันนี้ (4 สิงหาคม 2558) ก่อนนะ พรุ้งนี้มีหน้าที่ต้องลุยต่อ.... สำหรับคืนนี้หลับฝันดีนะคับ... ใครที่ว่างๆ ก็มาเข้าฝันผมบ้างนะ... สำหรับสาวๆ ไม่ต้องฝันถึงผมนะ เพราะว่า.. "ผมไม่อยากเป็นแค่คนในฝันของคุณหรอก" ..... ง้อวววว...วว ... หลับฝันดีคับ
[CR] สังขละบุรีในวันที่ฝนพรำ Backpacker By PCK
ตอนเด็กๆ คุณเคยสงสัยไหม.. ว่าถนนเส้นที่เรานั่งรถผ่านในทุกๆวันนี้ ปลายทางจะสิ้นสุดที่ไหน ข้างทางเป็นยังไง มีภูเขา มีแม่น้ำ มีทุ่งนา หรือป่าว..... แล้วถ้าเป็นแบบนันจริงๆ แล้วมันจะสวยไหม...? นั้นคือความสงสัยที่มันเกิดขึ้นในสมองของผม... และก็นั้นแหละที่ทำให้ผมเป็นคนที่ชอบการเดินทางมาจนทุกวันนี้.....
สังขละบุรี ในวันที่ฝนพรำ หลังจากที่เฝ้าติดตามและก็อ่านรีวิวของหลายๆท่านที่ผ่านมา ก็เลยอยากจะขอแชร์ประสบการณ์การเดินทางในแบบฉบับของผมบ้าง หากผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ..
ผมออกเดินทางจากโคราชนะ... อาจจะแปลกๆหน่อยที่คนส่วนใหญ่แล้วการเดินทางไปจังหวัดกาญนจบุรีต้องรถไฟเท่านั้นเพื่อที่จะได้บรรยากาศแบบ ชิวๆ คูลๆ แต่ผมเวลาคงไม่อำนวยเท่าไหร่หากจะทำแบบนั้น แต่ผมก็มีวิธีชิวๆ คูลๆ ในแบบของผมเหมือนกัน ...... ผมต้องการให้ไปถึงตัวจังหวัดกาญในช่วงเช้าเพื่อที่จะได้ทันรถตู้เที่ยวแรก ในเวลา 07:30 น. รายละเอียดการเดินทาง ที่พัก เดียวผมจะทิ้งใว้ให้ด้านท้ายนะคับ......
ชีวิตเนิบๆ... ในวันฝนพรำ ที่อำเภอ สังขละบุรี อำเภอท่ามกลางหุบเขาที่เงียบสงบ...มีแม่น้ำสามสายไหลมาบรรจบกันได้แก่ ห้วยซองกะเลีย ห้วยบีคลี่ และห้วยรันตี รวมเรียกว่า “สามประสบ” ไหลรวมกันเป็นแม่น้ำแควน้อย อำเภอสังขละบุรีเป็นอำเภอที่มีชาวมอญตั้งบ้านเรือนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก จึงสามารถพบเห็นวิถีชีวิตประเพณีเก่าแก่แบบดั้งเดิมของชาวมอญ ณ ที่แห่งนี้...................
............ ชาวบ้านอัทธยาสัยดีมาก .. เหมาะสำหรับครัยหลายๆคนที่อยากจะพักใจที่บอบช้ำ อยากจะใช้ชีวิตช้าๆ เนิบๆ #slowlife หรือสำหรับครัยที่มีใจรักการเดินทาง ที่มีแค่รองเท้าผ้าใบที่พาคุณลุยน้ำลุยโคลน กระเป๋าหนึ่งใบที่ยัดสิ่งของอำนวยความสะดวกได้ไม่มากนัก การกินอยู่ที่เรียบง่าย ทางที่เดินไม่มีบันไดเลื่อนเหมือนในห้างสรรพสินค้าต่างๆ แต่ก็นี่แหละ.... ประสบการณ์การใช้ชีวิต การใช้ชีวิตแบบเปิดโลกว้าง ที่จะทำให้คุณพบเจอสิ่งใหม่ๆในโลกนี้..
>>>> ชีวิตเนิบๆ สังขละบุรีวันที่ 1.....สะพานมอญ, วัดวังก์วิเวการาม, เจดีย์พุทธคยา, ตลาด5เชื้อชาติ
สะพานมอญ มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สะพานอุตตมานุสรณ์ เป็นสะพานไม้ข้ามแม่น้ำซองกาเลียไปยังหมู่บ้านมอญ ถือเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย และเป็นอันดับสองของโลกรองจากสะพานไม้อูเบ็งในพม่า และเป็นสัญลักษณ์ของอำเภอสังขละบุรี เป็นสะพานแห่งศรัทธา ที่เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของชุมชนที่อาศัยอยู่ในสังขละบุรี ทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวมาสัมผัสธรรมชาติ พร้อมๆ กับการได้เห็นวิถีชีวิตชุมชนชาวมอญในแถบนี้ สิ่งที่ห้ามพลาดอีกอย่างหนึ่งก็คือการได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก กับสะพานที่เสมือนเป็นสายใยวัฒนธรรมของชาวมอญและไทยในดินแดนสุดขอบประเทศแห่งนี้
คนน้อย..ไปนะ แต่ก็นั้นแหละคับมันคือหน้าฝนและก็มันไม่ใช่วันหยุดยาวด้วย ได้บรรยากาศไปอีกแบบคับ สายฝนโปรยปรายกับสะพานไม้ที่มีมนต์เสน่ห์ของคนไทยเชื้อสายมอญพาดผ่านแม่น้ำ"ซองกาเลีย" บงบอกถึงการไม่ปิดกันเชื้อชาติวัฒนธรรมประเพณี.....
มองลงไปด้านล่างก็จะเห็นแพร้านอาหาร ที่พัก ต่างๆมากมาย... ในวันที่ผมไปอาจจะดูเงียบหน่อย.... แต่ก็สงบดีคับ..
จะบอกว่ารูปนี้เป็นแรงบัลดาลใจประจำทริปก็ได้นะ...... ..เนื่องจากว่าผมอยากได้รูปหน้าปกเฟสบุ๊คใหม่ ซึ่งหาดูรูปเก่าๆแล้วไม่มีถูกใจเลย.. ก็เลยมีความคิดว่าต้องถ่ายใหม่ หาข้อมุลหลายที่ สุดท้ายก็ได้ที่นี่ เนื่องด้วยระยะทาง เวลา สถานที่ มันลงล๊อกกัน ............. สำหรับรูปนี้ มันเป็นรูปที่บ่งบอกความเป็นตัวผมมากที่สุดแล้วละ จากเด็กบ้านอก มาสู่รั้วมหาลัยพร้อมกับเป็นนักฟุตบอล จบมาเป็นวิศวกร แล้วยังเป็นคนของประชาชนด้วย...ทุกช่วงชีวิตของผมผมไม่เคยที่วางกล้องเลย... ไปไหนผมมีเจ้านี้ไปด้วยเสมอ เรียกว่าเป็นคู่ซี้ผมเลยก็ได้.... ทีแรกผมกะว่าจะตั้งชื่อทริปนี้ว่า "แหกค่ายไปสังขละบุรี" แต่มันคงไม่ตลกเท่าไหร่.....
เดินมาถึงจุดนี้...บังเอินเจอดาราของที่นี่ด้วยนะ... "พี่เย็น" ถ้าใครที่เคยมาที่นี่หรือได้อ่านรีวิวจากหลายๆคนที่เขียนใว้ก็จะมีพี่เขาติดไปด้วยแทบจะทุกรีวิว... ผมนั่งคุยกับแกได้สักพัก ก็ขอตัว บอกพี่แกว่าจะไปวัดวังก์วิเวการามต่อ.....
สะพานลูกบวบ..เป็นสะพานแพไม้ไผ่ มีสร้างมาใช้แทนสะพานไม้ที่ถูกน้ำซัดขาดที่สองปีที่แล้ว... สวยไปอีกแบบแต่ดูเหมือนจะเริ่มเก่าแล้วละ....
ถึงจะเป็นสะพานที่ไม่ยามเท่าไหร่เมื่อเที่ยบกับระยะเวลาที่ใช้เดินข้าม...... แต่ผมใช้เวลาอยู่บนสะพานนี้ค่อนข้างที่จะนานมาก... เพื่อซึมซับคราวรู้สึก บรรยากาศ ที่เงินไม่สามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป....
วัดวังก์วิเวการาม หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า "วัดหลวงพ่ออุตตมะ" นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของอำเภอสังขละบุรีแล้ว ยังเป็นวัดที่ถือว่ามีความสำคัญมากสำหรับคนพื้นถิ่น และเป็นศูนย์รวมจิตใจของผู้คนหลายเชื้อชาติที่อาศัยอยู่ในอำเภอสังขละบุรี ทั้งชาวไทย และกะเหรี่ยง โดยเฉพาะสำหรับชาวไทยเชื้อสายมอญ ที่เปรียบหลวงพ่ออุตตมะเป็น "เทพเจ้าแห่งชาวมอญ" วัดวังก์วิเวการาม จึงเกิดจากพลังศรัทธาที่มีต่อหลวงพ่อ และเป็นวัดที่เคยเป็นที่จำพรรษาของ "หลวงพ่ออุตตมะ" วัดจึงเป็นเสมือนตัวแทนหลวงพ่อ และเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับชาวมอญ ในการประกอบพิธีกรรมตามประเพณีของมอญ และจัดงานอื่นๆ
ด้านในมีหุ่นขี้ผึ่งหล่วงพ่ออุตตมะ..ใว้ให้ชาวบ้านหรือนักท่องเที่ยวได้กราบใหว้บูชา ..... ผมถือว่าโชคดีมากมาครั้งนี้คนไม่เยอะเท่าไหร่... ก็เลยได้มีโอกาศเข้าไปไหว้หวงพ่อ... ได้ขอพรจากท่าน...
พระเจดีย์พุทธคยา เป็นปูชนียสถานที่สำคัญคู่กับวัดวังก์วิเวการาม เป็นเจดีย์องค์ใหญ่นี้ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใกล้ริมฝั่งแม่น้ำ มีสีเหลืองทอง สามารถมองเห็นได้จากแม่น้ำซองกาเลีย ภายในองค์เจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จึงเป็นเจดีย์ที่มีผู้คนมาสักการะ บูชาองค์เจดีย์ที่เสมือนเป็นสัญลักษณ์ทางพุทธศาสนา เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต เจดีย์พุทธคยายังเป็นศูนย์กลางในการประกอบพิธีในวันสำคัญทางพุทธศาสนาและงานเทศกาลเช่น งานวันสงกรานต์
กำแพงรอบเจดีย์ที่กำลังสร้างใหม่... ในแบบฉบับของชาวมอญ สร้างเสร็จผมว่าคงสวยน่าดู.
เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านศรัทธา... เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตรใจ.... ทำให้ที่นี้มีเสน่ห์ มีมนต์ขลัง ... ที่ยากจะอธิบาย...
จุดนี้ผมกลับมาจากเจดีย์พุทธคยา...ก็เลยแวะหน่อย ไหนๆก็เปียกแล้ว เปียกอีกหน่อยคงไม่เป็นไรมั้ง.... ที่นี่กางเต็นฟรีนะคับ.. แต่ต้องเตรียมเต็นมาเอง สำหรับ Backpacker ทั้งหลายก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร มีไฟฟ้าให้ด้วย..
ผมก็ได้ใช้เวลาอยู่ที่นี่น่าจะ 20 นาทีได้ ผมยืนเพื่อที่จะซึมซับกับบรรยากาศ ไม่รู้นะ สำหรับผมแล้วการที่ได้ใช้ชีวิตแบบนี้แบบเปิดโลกว้างมันเป็นอะไรที่....... แบบว่ามันใช่อะ. นี่แหละคือตัวเรา ตัวตนของผมเอง... ในตอนที่คุณยังไม่มีภาระ ยังไม่มีครอบครัว.. คุณลองถามตัวคุณดูสิ... ว่า...... คุณเคยไปที่ไหนมาบ้าง? คุณทำอะไรที่มันท้าทายในชีวิตคุณมาบ้างแล้วหรือยัง? คุณรู้จักโลกนี้มากพอหรือยัง?... "" ผมว่ามันเป็นสิ่งที่คุณควรทำก่อนที่คุณจะใช้ชีวิตคู่นะ.... """
มุมนี้ถ่ายมาจากสะพานปูน....ที่รถวิ่งผ่าน
มุมนี้จากสามประสบ รีสอร์ท .... ที่ที่ผมตั้งใจจะมารับประทานมื้อค่ำที่นี่ แต่เนื่องด้วยเนื้อตัวที่เปียกป้อน.. เกรงใจโต๊ะข้าง และก็พนักงานร้านด้วย... ก็เลยไม่ดีกว่า แล้วผมก็ตัดสินใจไปตลาด.......
จอดรถได้ก็ตรงเข้าไปเลยคับ....รู้สึกว่าจะหิว ด้วยกลิ่นเครื่องเทศลอยมาเข้าจมูกเต็มๆแบบนี้.....
ต้องทำเวลาหน่อยละคับ.... เหมือนว่าพี่เรนจะมาจัดคอนเสิร์ตชุดใหญ่ที่นี่..... มืดมาเลยคับ.. อะไรง่ายๆก็ขว้าใส่ปากไปก่อน..ละกัน.
จิงๆ แล้วผมอยากกินเจ้านี่นะ...."หมูจุ่มพม่า" เขาบอกว่าเป็นของขึ้นชื่อที่นี่ มาแล้วต้องได้กิน ไม่ได้กินถือว่ามาไม่ถึง สังขละบุรี ... แต่วันนี้ผมคงพลาดแล้วละ ... .... ขืนถ้านั่งคงได้จุ่มน้ำฝนกินแน่.... ผมเดินวนหนึ่งรอบก็พร้อมกับชิมร้านนั้นร้านนี้.. อิ่มแบบไม่ทันคิดเลยว่าจะกินอะไรดี...... ก็เลยซื้อลูกชิ้นปิ้งกลับที่พักป้องกันหิวตอนดึก
ถึงห้องก็รีบอาบน้ำสระผมเลยคับ....เดียวจะไม่สบาย ขอจบทริปวันนี้ (4 สิงหาคม 2558) ก่อนนะ พรุ้งนี้มีหน้าที่ต้องลุยต่อ.... สำหรับคืนนี้หลับฝันดีนะคับ... ใครที่ว่างๆ ก็มาเข้าฝันผมบ้างนะ... สำหรับสาวๆ ไม่ต้องฝันถึงผมนะ เพราะว่า.. "ผมไม่อยากเป็นแค่คนในฝันของคุณหรอก" ..... ง้อวววว...วว ... หลับฝันดีคับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น