สายการบินเอทิฮัดสร้างมาตรฐานใหม่แห่งการเดินทางอย่างมีระดับบนเส้นทางบินระหว่างยูเออี-สิงคโปร์ ด้วยเที่ยวบินรายวันที่ให้บริการโดยเครื่องบินโบอิ้ง 787-9 ดรีมไลเนอร์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม เป็นต้นไป
เที่ยวบินที่ EY470 ออกจากกรุงอาบู ดาบี เวลา 22.00 น. ของวันเสาร์ที่ 1 สิงหาคมและลงจอดที่ท่าอากาศยานชางงีประเทศสิงคโปร์ในเวลา 10.15 น. ของวันรุ่งขึ้น ส่วนเที่ยวบินขากลับ เที่ยวบินที่ EY473 ออกจากท่าอากาศยานชางงี ในเวลา 20.10 น. ของวันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม มุ่งหน้าสู่กรุงอาบู ดาบีและไปถึงยังเมืองหลวงของยูเออี ในเวลา 23.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น
มร. เจมส์ โฮแกน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสายการบินเอทิฮัด กล่าวว่าการนำเครื่องบินดรีมไลเนอร์มาให้บริการในเส้นทางบินสิงคโปร์นั้นสะท้อนถึงความสำคัญของเส้นทางนี้ที่มีต่อสายการบินและสะท้อนคำมั่นสัญญาที่จะมอบสุดยอดประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับ
“โบอิ้ง 787-9 ดรีมไลเนอร์ของสายการบินเอทิฮัด เป็นเครื่องบินที่ออกแบบมาเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีที่สุดบนฟากฟ้า”
“ห้องโดยสารแบบเฟิร์ส สวีท บิสิเนส สตูดิโอ และอีโคโนมี สมาร์ท ซีทอันทันสมัยและล้ำยุคพร้อมให้บริการที่เปี่ยมไปด้วยความสะดวกสบายและความหรูหราเหนือระดับ อีกทั้งยังมอบประสบการณ์อีกขั้นบนเที่ยวบิน”
“สายการบินฯ ยังไม่เคยมีข้อเสนอที่น่าสนใจหรือเป็นคู่แข่งขันที่แข็งแกร่งในตลาดสิงคโปร์มาก่อนเท่าครั้งนี้”
มร. โฮแกนยังเน้นด้วยว่าตารางเที่ยวบินบนเส้นทางบินสิงคโปร์ของสายการบินฯ นั้นได้มอบการเชื่อมต่อที่ดีกว่าบนเครือข่ายของสายการบินผ่านศูนย์กลางการบิน ณ กรุงอาบู ดาบี
“เรานำเสนอความสะดวกสบายยิ่งขึ้นให้กับผู้โดยสารทั้งในยูเออีและสิงคโปร์ ด้วยเที่ยวบินที่ออกในตอนเย็นของทั้งขาเข้าและขาออก อีกทั้งยังเพิ่มการเชื่อมต่อไปยังจุดหมายปลายทางถึง 35 แห่งในกลุ่มประเทศภูมิภาคอ่าว ตะวันออกกลาง แอฟริกาและยุโรป”
“รวมไปถึงการเชื่อมต่ออันราบรื่นด้วยเครื่องบิน เอ380 ซึ่งเป็นเครื่องบินลำแรกที่เปิดตัวบนเส้นทางบินสู่ลอนดอน ให้ผู้โดยสารได้สัมผัสความหรูหราของห้องโดยสารเฟิร์ส อพาร์ทเมนท์และเดอะ เรสสิเดนซ์ ที่มีห้องโดยสารส่วนตัวขนาด 3 ห้องบนเครื่องบินพาณิชย์เป็นครั้งแรกของโลก”
โบอิ้ง 787-9 ดรีมไลเนอร์ของสายการบินเอทิฮัด สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 235 ที่นั่ง ซึ่งแบ่งเป็นห้องโดยสารชั้นเฟิร์สคลาส 8 ที่นั่ง บิสิเนสคลาส 28 ที่นั่ง และอีโคโนมีคลาส 199 ที่นั่ง อีกทั้งยังมอบความหรูหรา สะดวกสบาย ความบันเทิงและการเชื่อมต่อสื่อสารบนเที่ยวบิน แบบไม่ซ้ำใครในการบินพาณิชย์
การตกแต่งและระบบแสงไฟบนโบอิ้ง 787-9 ดรีมไลเนอร์ของสายการบินเอทิฮัด ได้รับแรงบันดาลใจมาจากงานออกแบบแนวอาหรับร่วมสมัย ซึ่งกลมกลืนอย่างลงตัวกับอัตลักษณ์ “Facets of Abu Dhabi” (มุมมองแห่งอาบูดาบี) ของสายการบินฯ ที่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปลายปี พ.ศ. 2557
ผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาสจะได้สัมผัสห้องโดยสารสวีทอันหรูหรา แบบส่วนตัวซึ่งมาพร้อมกับที่นั่งและที่พักเท้าขนาดใหญ่หุ้มด้วยเบาะหนัง พอลโทรนา เฟรา (Poltrona Frau) ตู้เสื้อผ้าส่วนตัว ตู้แช่เย็นมินิบาร์ จอทีวีขนาด 24 นิ้ว และที่นั่งคู่ตรงกลางที่สามารถนำมารวมกันให้กลายเป็นเตียงคู่ได้ นอกจากนี้ยังมีเชฟมืออาชีพบนเที่ยวบินที่จะมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารสุดพิเศษตามต้องการ พร้อมจัดเตรียมอาหารชั้นเลิศที่สดใหม่บนเที่ยวบิน
ผู้โดยสารชั้นบิสิเนสคลาส จะได้เพลิดเพลินไปกับความสบายและพื้นที่ของห้องโดยสารบิสิเนส สตูดิโอแบบใหม่ของสายการบินฯ ซึ่งทุกที่นั่งสามารถเข้าออกทางเดินได้อย่างอิสระ เตียงนอนราบปรับยาวได้ถึง 80.5 นิ้ว และจอทีวีส่วนตัวระบบสัมผัสขนาด 18 นิ้วพร้อมหูฟังตัดเสียงรบกวน ผู้จัดการด้านอาหารและเครื่องดื่มที่คัดสรรมาจากภัตตาคารชั้นเลิศระดับโลกรับหน้าที่เป็นผู้ดูแลบริการอาหารตามสั่ง และของว่างต่าง ๆ ในชั้นบิสิเนสคลาส รวมถึงแนะนำไวน์ชั้นเลิศที่คัดสรรไว้เพื่อให้เข้ากันกับมื้ออาหารนั้น ๆ
ในส่วนของห้องโดยสารชั้นอีโคโนมีคลาส ที่นั่งที่เป็นนวัตกรรมแบบอีโคโนมี สมาร์ท ซีท จะมอบความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้นด้วยที่พักศีรษะแบบ “fixed wing” ที่เป็นเอกลักษณ์และสามารถปรับให้เหมาะสมได้ในแต่ละที่นั่ง ด้วยระยะห่างระหว่างที่นั่งถึง 32 นิ้ว ทำให้สามารถปรับเอนได้ถึง 6 นิ้ว ผู้โดยสารยังสามารถเพลิดเพลินไปกับรายการบันเทิงกว่า 750 ชั่วโมงที่เลือกได้ตามความต้องการผ่านจอทีวีความละเอียดสูงขนาด 11.1 นิ้ว ซึ่งสั่งงานผ่านจอภาพได้อย่างง่ายดายด้วยระบบสัมผัส
ผู้ที่เดินทางเป็นครอบครัวในทุกชั้นโดยสารจะได้รับการดูแลโดยพี่เลี้ยงเด็กบนเที่ยวบิน (Flying Nanny) ซึ่งเป็นหนึ่งในลูกเรือที่ได้รับการฝึกอบรมมาอย่างดี สำหรับดูแลเด็กๆ ในทุกมื้ออาหารและกิจกรรมต่างๆ
นวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อประสบการณ์การเดินทางของผู้โดยสารนั้นครบครันด้วยดีเอ็นเอของดรีมไลเนอร์ ด้วยหน้าต่างบานใหญ่ที่สุดในบรรดาเครื่องบินพาณิชย์ อากาศที่สะอาดขึ้น ความชื้นที่สูงขึ้น ความดันอากาศที่ดีขึ้นเพื่อความสะดวกสบายที่มากขึ้น ที่เก็บสัมภาระเหนือศีรษะขนาดใหญ่ ไฟแอลอีดีที่ปรับระดับได้ และเทคโนโลยีที่จะช่วยรับมือกับสภาพอากาศแปรปรวนให้การเดินทางราบรื่นยิ่งขึ้น
สายการบินเอทิฮัดได้สั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 787 จำนวน 2 รุ่นคือรุ่น -9 และ -10 โดยถือเป็นหนึ่งในสายการบินที่สั่งเครื่องบินรุ่นนี้มากที่สุดในโลก รวมทั้งสิ้นจำนวน 71 ลำ ปัจจุบันสายการบินฯ ให้บริการโดยเครื่องบินโบอิ้ง 787-9 ไปยังวอชิงตัน ดีซี ซูริก และบริสเบน และกำลังจะให้บริการไปยังจุดหมายปลายทางใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เมื่อสายการบินได้รับมอบเครื่องบินรุ่นดังกล่าวเข้าประจำการมากขึ้น สายการบินฯ จะได้รับมอบเครื่องบินโบอิ้ง 787 แบบ 2 ชั้นโดยสารในปี พ.ศ. 2559
เครื่องบินโบอิ้ง 787-9 แบบลำตัวกว้างเป็นเครื่องบินรุ่นที่ขยายขึ้นจากเครื่องบินแบบสองเครื่องยนต์ ทั้งพิสัยบินระยะกลางและไกลอย่างเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 โดยมีพิสัยการบิน 8,300 ไมล์มะเล ความเร็วเดินทาง 0.85 มัค ความยาว 206 ฟุตและระยะห่างระหว่างกางปีก 197 ฟุต
สายการบินเอทิฮัดเริ่มให้บริการไปยังประเทศสิงคโปร์ 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ในวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2550 และเพิ่มเป็นเที่ยวบินรายวันเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 สายการบินฯ ได้เปิดตัวห้องโดยสารเฟิร์สคลาสที่ได้รับรางวัลบนเส้นทางนี้เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2558 ดำเนินการด้วยเครื่องบินแอร์บัส เอ330-300 แบบ 3 ชั้นโดยสาร
ตารางเที่ยวบินระหว่างอาบู ดาบีและสิงคโปร์ เริ่ม 1 สิงหาคม 2558:
หมายเหตุ: เที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออกเป็นไปตามเวลาท้องถิ่น
คำบรรยายภาพ:
เที่ยวบินปฐมฤกษ์ B787-9 ดรีมไลเนอร์ เส้นทางบินอาบู ดาบี-สิงคโปร์ ของสายการบินเอทิฮัด ที่ดำเนินการด้วยหมายเลขทะเบียนเลขที่ A6-BLA ลงจอด ณ สนามบินชางงี ประเทศสิงคโปร์
ดาวน์โหลดภาพนิ่งเครื่องบิน B787-9 ดรีมไลเนอร์ ของสายการบินเอทิฮัดได้จากลิงค์ด้านล่าง:
https://www.hightail.com/download/bXBiYURBMm16NElkVU1UQw
ดาวน์โหลดภาพเคลื่อนไหวเครื่องบิน B787-9 ดรีมไลเนอร์ ของสายการบินเอทิฮัดได้จากลิงค์ด้านล่าง:
https://www.hightail.com/download/bXBiYURJQTZtNExsZThUQw
--- เกี่ยวกับสายการบินเอทิฮัด ---
สายการบินเอทิฮัดเริ่มให้บริการครั้งแรกในปีพ.ศ.2546 และในปี พ.ศ. 2557 ได้ให้บริการแก่ผู้โดยสารถึง 14.8 ล้านคน จากฐานการบินที่ อาบูดาบี สายการบินเอทิฮัดให้บริการเที่ยวบิน 1 11 เมืองจุดหมายปลายทางทางการเดินทางและการขนส่งสินค้าเดิมและที่ได้ประกาศเปิดตัวเพิ่ม ครอบคลุมตะวันออกกลาง แอฟริกา ยุโรป เอเชีย ออสเตรเลีย และอเมริกา ด้วยเครื่องบินแอร์บัสและโบอิ้งจำนวน 116 ลำ และอีกกว่า 200 ลำที่ได้ทำการสั่งซื้อ รวมถึงเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 787 จำนวน 66 ลำ เครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 777-Xจำนวน 25 ลำ เครื่องบินแอร์บัส เอ 350 จำนวน 62 ลำ และ เครื่องบินแอร์บัส เอ 380 จำนวน 7 ลำ
สายการบินเอทิฮัดยังได้เข้าถือครองหุ้นในสายการบินแอร์เบอร์ลิน สายการบินแอร์เซอร์เบีย สายการบินแอร์เซเชลส์ สายการบินแอร์ลินกัส สายการบินอลิตาเลียสายการบินเจ็ท แอร์เวย์ สายการบินเวอร์จิ้น ออสเตรเลีย และอยู่ในกระบวนการเตรียมการลงทุนเข้าถือหุ้นอย่างเป็นทางการใน สายการบินเอทิฮัด รีเจียนนอลซึ่งเป็นสายการบินระดับภูมิภาคที่มีฐานอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ บริหารงานโดยสายการบินดาร์วิน และ สายการบินเอทิฮัด สายการบินแอร์เบอร์ลิน สายการบินแอร์เซอร์เบีย สายการบินแอร์เซเชลส์ สายการบินอลิตาเลีย สายการบินเอทิฮัด รีเจียนนอล สายการบินเจ็ท แอร์เวย์ และสายการบินนิกิ เป็นพันธมิตรของเอทิฮัดแอร์เวย์พาร์ทเนอร์ (Etihad Airways Partners) พันธมิตรของสายการบินครั้งใหม่ที่เป็นการรวมตัวของสายการบินต่างๆ ที่มีแนวคิดที่ตรงกัน นำเสนอทางเลือกที่มากขึ้นแก่ผู้โดยสารโดยการปรับปรุงเครือข่ายการบิน และตารางการให้บริการรวมทั้งเพิ่มสิทธิประโยชน์ในการสะสมไมล์ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชม
http://www.etihad.com
Source : Etihad
Photo : Etihad
http://www.airlinesweek.com/
Etihad พร้อมยกระดับเส้นทางบิน Singapore ด้วย Boeing 787-9 Dreamliner ลำใหม่ล่าสุด
เที่ยวบินที่ EY470 ออกจากกรุงอาบู ดาบี เวลา 22.00 น. ของวันเสาร์ที่ 1 สิงหาคมและลงจอดที่ท่าอากาศยานชางงีประเทศสิงคโปร์ในเวลา 10.15 น. ของวันรุ่งขึ้น ส่วนเที่ยวบินขากลับ เที่ยวบินที่ EY473 ออกจากท่าอากาศยานชางงี ในเวลา 20.10 น. ของวันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม มุ่งหน้าสู่กรุงอาบู ดาบีและไปถึงยังเมืองหลวงของยูเออี ในเวลา 23.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น
มร. เจมส์ โฮแกน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสายการบินเอทิฮัด กล่าวว่าการนำเครื่องบินดรีมไลเนอร์มาให้บริการในเส้นทางบินสิงคโปร์นั้นสะท้อนถึงความสำคัญของเส้นทางนี้ที่มีต่อสายการบินและสะท้อนคำมั่นสัญญาที่จะมอบสุดยอดประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับ
“โบอิ้ง 787-9 ดรีมไลเนอร์ของสายการบินเอทิฮัด เป็นเครื่องบินที่ออกแบบมาเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีที่สุดบนฟากฟ้า”
“ห้องโดยสารแบบเฟิร์ส สวีท บิสิเนส สตูดิโอ และอีโคโนมี สมาร์ท ซีทอันทันสมัยและล้ำยุคพร้อมให้บริการที่เปี่ยมไปด้วยความสะดวกสบายและความหรูหราเหนือระดับ อีกทั้งยังมอบประสบการณ์อีกขั้นบนเที่ยวบิน”
“สายการบินฯ ยังไม่เคยมีข้อเสนอที่น่าสนใจหรือเป็นคู่แข่งขันที่แข็งแกร่งในตลาดสิงคโปร์มาก่อนเท่าครั้งนี้”
มร. โฮแกนยังเน้นด้วยว่าตารางเที่ยวบินบนเส้นทางบินสิงคโปร์ของสายการบินฯ นั้นได้มอบการเชื่อมต่อที่ดีกว่าบนเครือข่ายของสายการบินผ่านศูนย์กลางการบิน ณ กรุงอาบู ดาบี
“เรานำเสนอความสะดวกสบายยิ่งขึ้นให้กับผู้โดยสารทั้งในยูเออีและสิงคโปร์ ด้วยเที่ยวบินที่ออกในตอนเย็นของทั้งขาเข้าและขาออก อีกทั้งยังเพิ่มการเชื่อมต่อไปยังจุดหมายปลายทางถึง 35 แห่งในกลุ่มประเทศภูมิภาคอ่าว ตะวันออกกลาง แอฟริกาและยุโรป”
“รวมไปถึงการเชื่อมต่ออันราบรื่นด้วยเครื่องบิน เอ380 ซึ่งเป็นเครื่องบินลำแรกที่เปิดตัวบนเส้นทางบินสู่ลอนดอน ให้ผู้โดยสารได้สัมผัสความหรูหราของห้องโดยสารเฟิร์ส อพาร์ทเมนท์และเดอะ เรสสิเดนซ์ ที่มีห้องโดยสารส่วนตัวขนาด 3 ห้องบนเครื่องบินพาณิชย์เป็นครั้งแรกของโลก”
โบอิ้ง 787-9 ดรีมไลเนอร์ของสายการบินเอทิฮัด สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 235 ที่นั่ง ซึ่งแบ่งเป็นห้องโดยสารชั้นเฟิร์สคลาส 8 ที่นั่ง บิสิเนสคลาส 28 ที่นั่ง และอีโคโนมีคลาส 199 ที่นั่ง อีกทั้งยังมอบความหรูหรา สะดวกสบาย ความบันเทิงและการเชื่อมต่อสื่อสารบนเที่ยวบิน แบบไม่ซ้ำใครในการบินพาณิชย์
การตกแต่งและระบบแสงไฟบนโบอิ้ง 787-9 ดรีมไลเนอร์ของสายการบินเอทิฮัด ได้รับแรงบันดาลใจมาจากงานออกแบบแนวอาหรับร่วมสมัย ซึ่งกลมกลืนอย่างลงตัวกับอัตลักษณ์ “Facets of Abu Dhabi” (มุมมองแห่งอาบูดาบี) ของสายการบินฯ ที่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปลายปี พ.ศ. 2557
ผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาสจะได้สัมผัสห้องโดยสารสวีทอันหรูหรา แบบส่วนตัวซึ่งมาพร้อมกับที่นั่งและที่พักเท้าขนาดใหญ่หุ้มด้วยเบาะหนัง พอลโทรนา เฟรา (Poltrona Frau) ตู้เสื้อผ้าส่วนตัว ตู้แช่เย็นมินิบาร์ จอทีวีขนาด 24 นิ้ว และที่นั่งคู่ตรงกลางที่สามารถนำมารวมกันให้กลายเป็นเตียงคู่ได้ นอกจากนี้ยังมีเชฟมืออาชีพบนเที่ยวบินที่จะมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารสุดพิเศษตามต้องการ พร้อมจัดเตรียมอาหารชั้นเลิศที่สดใหม่บนเที่ยวบิน
ผู้โดยสารชั้นบิสิเนสคลาส จะได้เพลิดเพลินไปกับความสบายและพื้นที่ของห้องโดยสารบิสิเนส สตูดิโอแบบใหม่ของสายการบินฯ ซึ่งทุกที่นั่งสามารถเข้าออกทางเดินได้อย่างอิสระ เตียงนอนราบปรับยาวได้ถึง 80.5 นิ้ว และจอทีวีส่วนตัวระบบสัมผัสขนาด 18 นิ้วพร้อมหูฟังตัดเสียงรบกวน ผู้จัดการด้านอาหารและเครื่องดื่มที่คัดสรรมาจากภัตตาคารชั้นเลิศระดับโลกรับหน้าที่เป็นผู้ดูแลบริการอาหารตามสั่ง และของว่างต่าง ๆ ในชั้นบิสิเนสคลาส รวมถึงแนะนำไวน์ชั้นเลิศที่คัดสรรไว้เพื่อให้เข้ากันกับมื้ออาหารนั้น ๆ
ในส่วนของห้องโดยสารชั้นอีโคโนมีคลาส ที่นั่งที่เป็นนวัตกรรมแบบอีโคโนมี สมาร์ท ซีท จะมอบความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้นด้วยที่พักศีรษะแบบ “fixed wing” ที่เป็นเอกลักษณ์และสามารถปรับให้เหมาะสมได้ในแต่ละที่นั่ง ด้วยระยะห่างระหว่างที่นั่งถึง 32 นิ้ว ทำให้สามารถปรับเอนได้ถึง 6 นิ้ว ผู้โดยสารยังสามารถเพลิดเพลินไปกับรายการบันเทิงกว่า 750 ชั่วโมงที่เลือกได้ตามความต้องการผ่านจอทีวีความละเอียดสูงขนาด 11.1 นิ้ว ซึ่งสั่งงานผ่านจอภาพได้อย่างง่ายดายด้วยระบบสัมผัส
ผู้ที่เดินทางเป็นครอบครัวในทุกชั้นโดยสารจะได้รับการดูแลโดยพี่เลี้ยงเด็กบนเที่ยวบิน (Flying Nanny) ซึ่งเป็นหนึ่งในลูกเรือที่ได้รับการฝึกอบรมมาอย่างดี สำหรับดูแลเด็กๆ ในทุกมื้ออาหารและกิจกรรมต่างๆ
นวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อประสบการณ์การเดินทางของผู้โดยสารนั้นครบครันด้วยดีเอ็นเอของดรีมไลเนอร์ ด้วยหน้าต่างบานใหญ่ที่สุดในบรรดาเครื่องบินพาณิชย์ อากาศที่สะอาดขึ้น ความชื้นที่สูงขึ้น ความดันอากาศที่ดีขึ้นเพื่อความสะดวกสบายที่มากขึ้น ที่เก็บสัมภาระเหนือศีรษะขนาดใหญ่ ไฟแอลอีดีที่ปรับระดับได้ และเทคโนโลยีที่จะช่วยรับมือกับสภาพอากาศแปรปรวนให้การเดินทางราบรื่นยิ่งขึ้น
สายการบินเอทิฮัดได้สั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 787 จำนวน 2 รุ่นคือรุ่น -9 และ -10 โดยถือเป็นหนึ่งในสายการบินที่สั่งเครื่องบินรุ่นนี้มากที่สุดในโลก รวมทั้งสิ้นจำนวน 71 ลำ ปัจจุบันสายการบินฯ ให้บริการโดยเครื่องบินโบอิ้ง 787-9 ไปยังวอชิงตัน ดีซี ซูริก และบริสเบน และกำลังจะให้บริการไปยังจุดหมายปลายทางใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เมื่อสายการบินได้รับมอบเครื่องบินรุ่นดังกล่าวเข้าประจำการมากขึ้น สายการบินฯ จะได้รับมอบเครื่องบินโบอิ้ง 787 แบบ 2 ชั้นโดยสารในปี พ.ศ. 2559
เครื่องบินโบอิ้ง 787-9 แบบลำตัวกว้างเป็นเครื่องบินรุ่นที่ขยายขึ้นจากเครื่องบินแบบสองเครื่องยนต์ ทั้งพิสัยบินระยะกลางและไกลอย่างเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 โดยมีพิสัยการบิน 8,300 ไมล์มะเล ความเร็วเดินทาง 0.85 มัค ความยาว 206 ฟุตและระยะห่างระหว่างกางปีก 197 ฟุต
สายการบินเอทิฮัดเริ่มให้บริการไปยังประเทศสิงคโปร์ 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ในวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2550 และเพิ่มเป็นเที่ยวบินรายวันเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 สายการบินฯ ได้เปิดตัวห้องโดยสารเฟิร์สคลาสที่ได้รับรางวัลบนเส้นทางนี้เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2558 ดำเนินการด้วยเครื่องบินแอร์บัส เอ330-300 แบบ 3 ชั้นโดยสาร
ตารางเที่ยวบินระหว่างอาบู ดาบีและสิงคโปร์ เริ่ม 1 สิงหาคม 2558:
หมายเหตุ: เที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออกเป็นไปตามเวลาท้องถิ่น
คำบรรยายภาพ:
เที่ยวบินปฐมฤกษ์ B787-9 ดรีมไลเนอร์ เส้นทางบินอาบู ดาบี-สิงคโปร์ ของสายการบินเอทิฮัด ที่ดำเนินการด้วยหมายเลขทะเบียนเลขที่ A6-BLA ลงจอด ณ สนามบินชางงี ประเทศสิงคโปร์
ดาวน์โหลดภาพนิ่งเครื่องบิน B787-9 ดรีมไลเนอร์ ของสายการบินเอทิฮัดได้จากลิงค์ด้านล่าง:
https://www.hightail.com/download/bXBiYURBMm16NElkVU1UQw
ดาวน์โหลดภาพเคลื่อนไหวเครื่องบิน B787-9 ดรีมไลเนอร์ ของสายการบินเอทิฮัดได้จากลิงค์ด้านล่าง:
https://www.hightail.com/download/bXBiYURJQTZtNExsZThUQw
--- เกี่ยวกับสายการบินเอทิฮัด ---
สายการบินเอทิฮัดเริ่มให้บริการครั้งแรกในปีพ.ศ.2546 และในปี พ.ศ. 2557 ได้ให้บริการแก่ผู้โดยสารถึง 14.8 ล้านคน จากฐานการบินที่ อาบูดาบี สายการบินเอทิฮัดให้บริการเที่ยวบิน 1 11 เมืองจุดหมายปลายทางทางการเดินทางและการขนส่งสินค้าเดิมและที่ได้ประกาศเปิดตัวเพิ่ม ครอบคลุมตะวันออกกลาง แอฟริกา ยุโรป เอเชีย ออสเตรเลีย และอเมริกา ด้วยเครื่องบินแอร์บัสและโบอิ้งจำนวน 116 ลำ และอีกกว่า 200 ลำที่ได้ทำการสั่งซื้อ รวมถึงเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 787 จำนวน 66 ลำ เครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 777-Xจำนวน 25 ลำ เครื่องบินแอร์บัส เอ 350 จำนวน 62 ลำ และ เครื่องบินแอร์บัส เอ 380 จำนวน 7 ลำ
สายการบินเอทิฮัดยังได้เข้าถือครองหุ้นในสายการบินแอร์เบอร์ลิน สายการบินแอร์เซอร์เบีย สายการบินแอร์เซเชลส์ สายการบินแอร์ลินกัส สายการบินอลิตาเลียสายการบินเจ็ท แอร์เวย์ สายการบินเวอร์จิ้น ออสเตรเลีย และอยู่ในกระบวนการเตรียมการลงทุนเข้าถือหุ้นอย่างเป็นทางการใน สายการบินเอทิฮัด รีเจียนนอลซึ่งเป็นสายการบินระดับภูมิภาคที่มีฐานอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ บริหารงานโดยสายการบินดาร์วิน และ สายการบินเอทิฮัด สายการบินแอร์เบอร์ลิน สายการบินแอร์เซอร์เบีย สายการบินแอร์เซเชลส์ สายการบินอลิตาเลีย สายการบินเอทิฮัด รีเจียนนอล สายการบินเจ็ท แอร์เวย์ และสายการบินนิกิ เป็นพันธมิตรของเอทิฮัดแอร์เวย์พาร์ทเนอร์ (Etihad Airways Partners) พันธมิตรของสายการบินครั้งใหม่ที่เป็นการรวมตัวของสายการบินต่างๆ ที่มีแนวคิดที่ตรงกัน นำเสนอทางเลือกที่มากขึ้นแก่ผู้โดยสารโดยการปรับปรุงเครือข่ายการบิน และตารางการให้บริการรวมทั้งเพิ่มสิทธิประโยชน์ในการสะสมไมล์ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชม
http://www.etihad.com
Source : Etihad
Photo : Etihad
http://www.airlinesweek.com/