ก่อนที่จะโยงความน่ากลัวไปสู่โรคร้ายแรง อาการปวดหัวเป็นสิ่งที่เราสามารถเผชิญได้ในทุกเพศทุกวัย ซึ่งอาการปวดที่เกิดขึ้นมีรูปแบบที่แตกต่างกัน ลักษณะการปวดจะเป็นตัวบ่งชี้และแบ่งยกโรคตั้งแต่ในระดับที่ไม่อันตรายเลยไปจนถึงโรคที่มีความอันตรายสูง
โดยทั่วไปอาการปวดหัวเป็นสิ่งที่เราคุ้นชินและเพิกเฉยกับมัน นั่นเป็นเพราะอาการส่วนใหญ่มาจากโรคที่ไม่รุนแรงอย่างเช่น ไมเกรนหรืออาการปวดหัวที่มาจากการพักผ่อนน้อย ความเครียด และอื่นๆ ที่หาสาเหตุไม่ได้ ทว่าด้วยภาวะปวด “เรื้อรัง” อาจจะเป็นต้นตอของโรคร้ายที่หลายคนมองข้ามอย่าง “อาการเนื้องอกในสมอง” โรคที่สามารถสร้างผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของผู้ป่วยได้เป็นอย่างมากเลยล่ะค่ะ
อุบัติการณ์ของโรคเนื้องอกในสมองที่ไม่ควรมองข้าม
เนื่องจากโรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงอายุ ตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงวัยผู้สูงอายุ สาเหตุที่เกิดขึ้นพบได้หลากหลายปัจจัย ส่วนใหญ่ที่เดินทางมาพบแพทย์ด้วยอาการผิดปกติต่างๆ ก็มักจะมีก้อนเนื้องอกเกิดขึ้น สร้างผลกระทบต่อระบบควบคุมภายในร่างกายไปแล้ว และด้วยการหาสาเหตุที่แน่ชัดไม่ได้ ทำให้การป้องกันเป็นไปได้ยาก ผู้ป่วยไม่รู้ตัวกับความผิดปกติที่เกิดขึ้น ดังนั้นการพยายามสังเกตอาการต่างๆ ที่ดูเหมือนจะเกี่ยวพันกับการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและอาการปวดที่เกี่ยวของกับสมองก็อาจจะช่วยให้เราสามารถตรวจพบอาการเนื้องอกในสมองได้ทันก่อนจะสายเกินไป
การแบ่งประเภทของเนื้องอกในสมอง
เนื้องอกในสมองแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ เนื้องอกที่เกิดขึ้น บริเวณร่างกาย อยู่แล้ว และลุกลามมาจนถึงส่วนของสมอง กับอีกแบบคือเนื้องอกที่เกิดขึ้น บริเวณเซลล์สมอง โดยตรง สามารถแบ่งย่อยออกเป็นเนื้อร้ายและเนื้องอกทั่วไป แต่โดยส่วนใหญ่มีโอกาสน้อยมากที่จะกลายสภาพเป็นเนื้อร้าย
อาการที่พบได้ทั่วไปของโรค
ที่พบได้หลักๆ คือ “ปวดศรีษะ” ซึ่งมักจะเป็นการปวดแบบเฉพาะเจาะจง แม้โดยส่วนมากเกือบ 60 เปอร์เซ็น อาการปวดศรีษะนี้เป็นสิ่งที่ไม่อันตราย แต่หากสังเกตให้ดีในกลุ่มที่มีเนื้องอก อาการปวดจะถูกเชื่อมโยงกับการควบคุมร่างกาย ปวดต่อเนื่องติดต่อกันแบบเรื้อรังหลายสัปดาห์ หากไม่เข้ารับการตรวจรักษา
อาการจะดำเนินต่อไปตามขนาดของเนื้องอกที่ขยายตัวขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการปวดที่รุนแรง กดทับเซลล์ประสาท ส่งผลให้เกิดภาวะอ่อนแรง มือและเท้าชา ไม่สามารถทรงตัวได้ดี หน้าตาบิดเบี้ยวไปจากเดิม และบางครั้งอาการปวดก็เข้ามาแบบเฉียบพลันจนเกิดภาวะหมดสติได้
เนื่องจากโรคนี้เป็นโรคที่ไม่สามารถหาสาเหตุที่แน่ชัดได้ แถมอาการผิดปกติต่างๆ ที่เกิดขึ้นยังมีความแตกต่างกันออกไป การสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ให้มองดูที่อาการปวดศีรษะเป็นตัวหลัก หากพบว่ามันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และมีความเกี่ยวเนื่องกับการควบคุมตัวเอง ก็ควรรีบเข้ารับการตรวจจากแพทย์เพื่อหาสาเหตุและการรักษาต่อไปค่ะ
ขอบคุณที่มา
http://www.healthydeejung.com/
ทำความรู้จักกับ “อาการเนื้องอกในสมอง” กับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้ในทุกเพศทุยวัย
ก่อนที่จะโยงความน่ากลัวไปสู่โรคร้ายแรง อาการปวดหัวเป็นสิ่งที่เราสามารถเผชิญได้ในทุกเพศทุกวัย ซึ่งอาการปวดที่เกิดขึ้นมีรูปแบบที่แตกต่างกัน ลักษณะการปวดจะเป็นตัวบ่งชี้และแบ่งยกโรคตั้งแต่ในระดับที่ไม่อันตรายเลยไปจนถึงโรคที่มีความอันตรายสูง
โดยทั่วไปอาการปวดหัวเป็นสิ่งที่เราคุ้นชินและเพิกเฉยกับมัน นั่นเป็นเพราะอาการส่วนใหญ่มาจากโรคที่ไม่รุนแรงอย่างเช่น ไมเกรนหรืออาการปวดหัวที่มาจากการพักผ่อนน้อย ความเครียด และอื่นๆ ที่หาสาเหตุไม่ได้ ทว่าด้วยภาวะปวด “เรื้อรัง” อาจจะเป็นต้นตอของโรคร้ายที่หลายคนมองข้ามอย่าง “อาการเนื้องอกในสมอง” โรคที่สามารถสร้างผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของผู้ป่วยได้เป็นอย่างมากเลยล่ะค่ะ
อุบัติการณ์ของโรคเนื้องอกในสมองที่ไม่ควรมองข้าม
เนื่องจากโรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงอายุ ตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงวัยผู้สูงอายุ สาเหตุที่เกิดขึ้นพบได้หลากหลายปัจจัย ส่วนใหญ่ที่เดินทางมาพบแพทย์ด้วยอาการผิดปกติต่างๆ ก็มักจะมีก้อนเนื้องอกเกิดขึ้น สร้างผลกระทบต่อระบบควบคุมภายในร่างกายไปแล้ว และด้วยการหาสาเหตุที่แน่ชัดไม่ได้ ทำให้การป้องกันเป็นไปได้ยาก ผู้ป่วยไม่รู้ตัวกับความผิดปกติที่เกิดขึ้น ดังนั้นการพยายามสังเกตอาการต่างๆ ที่ดูเหมือนจะเกี่ยวพันกับการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและอาการปวดที่เกี่ยวของกับสมองก็อาจจะช่วยให้เราสามารถตรวจพบอาการเนื้องอกในสมองได้ทันก่อนจะสายเกินไป
การแบ่งประเภทของเนื้องอกในสมอง
เนื้องอกในสมองแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ เนื้องอกที่เกิดขึ้น บริเวณร่างกาย อยู่แล้ว และลุกลามมาจนถึงส่วนของสมอง กับอีกแบบคือเนื้องอกที่เกิดขึ้น บริเวณเซลล์สมอง โดยตรง สามารถแบ่งย่อยออกเป็นเนื้อร้ายและเนื้องอกทั่วไป แต่โดยส่วนใหญ่มีโอกาสน้อยมากที่จะกลายสภาพเป็นเนื้อร้าย
อาการที่พบได้ทั่วไปของโรค
ที่พบได้หลักๆ คือ “ปวดศรีษะ” ซึ่งมักจะเป็นการปวดแบบเฉพาะเจาะจง แม้โดยส่วนมากเกือบ 60 เปอร์เซ็น อาการปวดศรีษะนี้เป็นสิ่งที่ไม่อันตราย แต่หากสังเกตให้ดีในกลุ่มที่มีเนื้องอก อาการปวดจะถูกเชื่อมโยงกับการควบคุมร่างกาย ปวดต่อเนื่องติดต่อกันแบบเรื้อรังหลายสัปดาห์ หากไม่เข้ารับการตรวจรักษา
อาการจะดำเนินต่อไปตามขนาดของเนื้องอกที่ขยายตัวขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการปวดที่รุนแรง กดทับเซลล์ประสาท ส่งผลให้เกิดภาวะอ่อนแรง มือและเท้าชา ไม่สามารถทรงตัวได้ดี หน้าตาบิดเบี้ยวไปจากเดิม และบางครั้งอาการปวดก็เข้ามาแบบเฉียบพลันจนเกิดภาวะหมดสติได้
เนื่องจากโรคนี้เป็นโรคที่ไม่สามารถหาสาเหตุที่แน่ชัดได้ แถมอาการผิดปกติต่างๆ ที่เกิดขึ้นยังมีความแตกต่างกันออกไป การสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ให้มองดูที่อาการปวดศีรษะเป็นตัวหลัก หากพบว่ามันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และมีความเกี่ยวเนื่องกับการควบคุมตัวเอง ก็ควรรีบเข้ารับการตรวจจากแพทย์เพื่อหาสาเหตุและการรักษาต่อไปค่ะ
ขอบคุณที่มา http://www.healthydeejung.com/