ทริป กาญจนบุรี 3 วัน 2 คืน (29-31 ก.ค.58)

สวัสดีค่ะ วันหยุดยาวที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปชาร์ตแบตที่กาญจนบุรี ไปลุยกันเลยค่ะGo!! Go!! Go!!พาพันดี๊ด๊า

เนื่องจากใกล้วันหยุดยาว เราจึงต้องรีบหาที่พักก่อน ได้ที่พักมาสองที่จองผ่าน Agoda เราจองแพริมน้ำทั้งสองคืน คืนแรก เราเลือกที่ อ.ไทรโยค คืนที่สอง อ.ทองผาภูมิ หลังจากได้ที่พัก เราก็เริ่มหาข้อมูลและเส้นทาง ซึ่งเราก็มาดูรีวิวของเพื่อน ๆ ในนี้แหละจ้า รวมถึง ดูแผนที่ท่องเที่ยวกาญฯ และใช้ Google Map คำนวณระยะทางในแต่ละจุดคร่าว ๆ


ทริปนี้ เราพึ่ง GoogleMap ล้วน ๆ ให้นำทาง เพราะเราไม่รู้ว่าจากชลฯ ไปกาญฯ ไปทางไหนดี ในเมื่อมีเทคโนโลยีอยู่ในมือก็ใช้ให้คุ้ม เรื่องหลง...ค่อยว่ากัน
เมื่อพร้อมแล้วก็เริ่มออกเดินทาง พาพันปั่นจักรยาน

เราออกเดินทางตอน ตี 5 ฝนตกบนทางด่วนหนักมาก ใจเสียเลย จะสนุกไหมนะ?

ผ่านสะพานพระรามสองแบบฟ้าหมองหม่นมาก ๆ


และแล้วเราก็มาถึงจุดหมายแรก ฝนหยุดตก ฟ้าเปิด ดีใจจัง
@วัดถ้ำเสือ มาถึงที่นี่ประมาณ 8 โมงครึ่ง องค์พระที่นี่สวยมากในความรู้สึกเรา


ขึ้นไปข้างบนจะมีพระธาตุให้สักการะได้


มุมบนนี้จะเห็นวิวแบบ 180 องศา จากมุมนี้องค์พระ กับท้องทุ่ง สวยงาม ธรรมชาติมาก


เทียบขนาดองค์พระให้เห็นกัน


เราแวะทานข้าวเช้ากันที่ร้านค้าในวัด ก๋วยเตี๋ยวต้มยำหมูมะนาวอร่อยดี เราไม่ต้องปรุงเลย ราคาก็ถูก 30 บาทเอง

จากวัดถ้ำเสื้อ เราก็ไปกันต่อที่จุดที่สอง สะพานข้ามแม่น้ำแคว

เซลฟี่ตามอัธยาศัย 555+++  นานาเชิด





เดินดูรอบ ๆ สักพัก เราก็ออกเดินทางไปยังจุดหมายต่อไป ปราสาทเมืองสิงห์

ปราสาทเมืองสิงห์ สร้างในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ยุคที่ขอมยังเรืองอำนาจ (จำได้เท่านี้ พาพันเศร้า)






ต่อไปถ้ำกระแซ ทางรถไฟสายมรณะ ตั้งแต่นี้เราตาม GPS อย่างเดียวเลย ไปตามทางหลวงชนบท ลัดเลาะผ่านไปเรื่อย ๆ



วันนี้คนยังไม่เยอะ ร้านค้าเงียบเหงามาก


เราแวะทานข้าวที่ถ้ำกระแซนี้ ดูเวลาแล้ว บ่ายสองกว่า ๆ เลยไปเช็คอินเข้าที่พักเลย
จากถ้ำกระแซเข้าที่พักไม่ไกล แค่ 2 กิโลกว่า ๆ

ที่พักคืนแรกของเรา @โยโกะริเวอร์แควรีสอร์ท





ที่นี่มีสระว่ายน้ำด้วย เด็กโข่งอยากลงน้ำมองตาละห้อย แต่ฝนตก ก็เลยไม่ได้ลง รวมถึงไม่แน่ใจสระนี่ลงได้ไหม เพราะใกล้กับที่ทานข้าวมาก


มาโซนที่พักเรา ต้องขับรถเข้าไปอีกหน่อยแล้วเดินลงไปที่แพ เราอยู่ห้องริม หลังสีฟ้านั่น


มองไปที่แม่น้ำแคว น้ำเชี่ยวมาก แห้วเรื่องเล่นน้ำไป คราวหลังเราจะได้รู้ว่าแพแบบนี้มันเล่นน้ำไม่ได้


ห้องน้ำที่นี่พูดเลยถ้าไม่ใช่แฟนกันอยู่ยากนะ เพราะเป็นกระจกใส แล้วติด Sticker แทน เวลาทำกิจกรรมส่วนตัวตอนเปิดไฟเนี่ย มันชัดเจนมาก ชัดระดับ HD แนะนำให้ปิดไฟในห้องน้ำ ความชัดเจนจะเหลือระดับ VGA


ด้วยความที่เราตาม GPS มา ไม่ได้มาตามเส้นหลัก ตกเย็นเราก็วนไป วนมา หาร้านอาหารกิน จนมาเจอร้าน ครัวอิงน้ำ อาหารป่ารสเด็ด เลยลองซะหน่อย
มาแถวนี้ก็ต้องกินปลาคังซินะ จานแรก ต้มยำปลาคัง


ผัดฉ่าปลาคัง เราชอบจานนี้มาก อร่อยดี


คะน้าน้ำมันหอย

แล้วก็ข้าวเปล่า น้ำดื่ม น้ำแข็ง รวมเบ็ดเสร็จ หมดไป 375 บาทจ้า ถูกมาก และได้เยอะมาก ๆ

อิ่มแปล้แล้วก็กลับมาที่พัก มันเงียบมาก ห้องที่ใกล้ ๆ กับเรามีแค่ 1 ห้อง แต่ก็เหมือนไม่อยู่เลย ตอนเช้าเช็คเอาท์ถามเค้า ถึงได้รู้ว่า ทั้งรีสอร์ท มีพักแค่ 2 ห้องเองจ้า แหม...เหมารีสอร์ทนะเราคราวนี้

ปาร์ตี้กันสองคนแบบเหงา ๆ ด้วยแตงโมที่ซื้อมาจากปราสาทเมืองสิงห์ ลูกโต หวานฉ่ำแค่ 20 บาทเอง นั่งกันซักพักฝนก็ตก พระพิรุณแรงดีจริง ๆ


ตื่นเช้ามาทานข้าวเช้าเกือบ 8 โมง เพราะทีแรกกะจะยกเลิกไปสังขละฯ มาดูอาหารเช้าที่นี่กัน อร่อยมากพูดเลย


เช็คเอาท์  9 โมงกว่า ๆ ทริปนี้ เราเอาน้องมะลิมิราจไปจ้า


หลังจากลังเล เราก็ตัดสินใจไปสังขละฯกัน ก็ไหน ๆ ก็มาแล้ว ไปต่อกันเลย

เส้นสังขละฯ ทางจะประมาณนี้ เราว่าก็โอเคนะ ถนนดี มีทางชั้นเป็นบางช่วง แต่ทางมันแคบแค่ขับสวนกันได้ และเป็นแบบนี้ยาวไป ร้อยกว่ากิโลฯ  แต่เราว่าไม่โหดเท่าภูทับเบิก เราว่าเส้นนั้น มีโค้งหักศอก และทางชันน่ากลัวกว่าเยอะ



11 โมงกว่า ๆ เราก็มาถึงสังขละฯ เราไปจุดชมวิวสะพานไม้ ที่เทศบาลเค้าจัดไว้



สะพานแพที่ใช้งานตอนที่สะพานขาดยังอยู่ แม่น้ำแห้งมากช่วงนี้


จากนี้เราจะลงเรือเที่ยวชมวัดกัน วัดเดียว 300 ถ้า 3 วัด 500 เราเลือกไป 3 วัด เค้าคิดเหมาลำ ลำละ 500 ถ้าไปหลายคนก็หารกันได้ ด้วยความที่ปีนี้น้ำแห้งมาก เค้าบอกว่าวัดโผล่มาให้เราชมมากกว่าทุกปี


ไกด์น้อยคอยแนะนำสถานที่ อยู่ ป.2 เอง ช่วยพ่อทำงาน เป็นเด็กดีมาก พ่อขับเรือ ลูกพาไปชมสถานที่


วัดแรก เค้าบอกวัดนี้ ปกติลงไม่ได้ น้ำจะอยู่ปริ่ม ๆ ข้างบน ปีนี้แล้ง เลยได้ลงดูได้





วัดที่สอง ต้องเดินขึ้นไปจากฝั่งทางชื้นแฉะเพราะฝนตก ก่อนขึ้นไป จะมีเด็กขายดอกไม้ ธูปเทียน กำละ 10 บาทเอง






วัดที่สาม วัดนี้เป็นวัดเก่าที่หลวงพ่ออุตมะเคยจำวัด เป็นโบสถ์เก่า เป็นหอระฆัง เป็นกุฏิ

กุฏิหลวงพ่อ

โบสถ์


ผนังโบสถ์เมื่อก่อนเป็นพระติดไว้ตรงผนัง ตอนนี้แกะย้ายไปที่ใหม่แล้ว



เราทานเที่ยงแถวนั้นแล้วไปด่านเจดีย์สามองค์ต่อ เจอแม่ชีน้อยข้ามถนน



ได้เวลาออกจากสังขละฯ บ่ายสาม ระหว่างทาง เราแวะจุดชมวิวป้อมปี่ เกือบสี่โมง



ถึงที่พัก @นาคาคีรี รีสอร์ทแอนด์สปา เช็คอิน เกือบห้าโมงครึ่ง

สระว่ายน้ำสวยดี

ห้องอาหาร



ที่นี่ใกล้น้ำพุร้อนหินดาด เราจึงมาแช่น้ำร้อนออนเซ็นกัน ที่รีสอร์ทก็มีให้แช่นะ


แช่เสร็จ หาข้าวกินแนะนำร้านนี้เลยอร่อยมากๆๆๆ ครัวสหรัฐอาหารป่ารสเด็ด
ผัดเผ็ดกระดูกอ่อนขมิ้นขาว

แกงป่าปลาคัง เด็ดที่สุด แนะนำเลย

ไก่ทอดเกลือ

ยำรวม

มื้อนี่หมดไป 410 บาท


บรรยากาศยามเช้า


จากนั่นเราก็เช็คเอาท์และแวะไปชมเขื่อน

และน้ำตกไทรโยคใหญ่

จากนั้นก็เดินทางกลับ สรุปค่าใช้จ่ายดังนี้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่