ทำไมรถยนตร์ชอบแซงซ้ายตรงไหล่ทาง ? ผมเกือบตายมาหมาดๆ

เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ผมปั่นจักรยานจากจังหวัดตากเพื่อไปยังนครสวรรค์
ตลอดทางโอเคครับจนผ่านมาถึงกำแพงเพชรช่วง สลกบาตร  ถนนช่วงนั้นมีการปิดทำทางฝั่งนึง
จึงเหลือเปิดให้วิ่งแค่ฝั่งเดียว โดยแบ่งคนละเลนในขาไปและขากลับ

ผมปั่นบนไหล่ทางตามปรกติ ซึ่งไหล่ทางไม่ได้กว้างอะไรแต่ก็โอเค พยายามชิดซ้ายทำตัวลีบๆ
ไม่ไปขวางทางใคร

จุดสังเกตุที่ผมเห็น การจราจรหนาแน่นแต่ไม่ติดขัดคือรถไหลลื่นไปเรื่อยๆ แค่ไม่ได้เร็วสะใจแบบ
ในหนังแต่วิ่ง 40-50 ได้สบายๆ

สิ่งที่ผมเริ่มเห็นว่าไม่โอเคคือ มีรถยนตร์หลายคันมากทุกประเภทครับ ทั้งรถเก๋ง รถตู้ รถกระบะ
แซงซ้ายวิ่งบนไหล่ทาง  เพื่อหาช่องกลับเข้าถนนข้างหน้า  ทีนี้รถก็หนาแน่นอยู่แล้ว
มันก็วิ่งป่วนกันไปใหญ่ เพราะแซงซ้ายไปก็หาช่องกลับเข้าถนนไม่ได้ โดนรถที่วิ่งมาอย่างถูกต้อง
บีบแตรด่า บางคันที่แซงซ้ายตะโกนด่ากลับ ชูนิ้วกลางใส่รถที่วิ่งมาอย่างถูกต้องก็มี

ผมรู้ตัวว่าไม่โอเค แต่สภาวะนั้นทำอะไรไม่ได้ ลองจอดโบกรถหลายๆคันแล้ว ก็ไม่มีคันไหนยอมจอดรับ
จำใจฝืนปั่นไปเรื่อยในรูปแบบชิดซ้ายมากถึงมากที่สุด ผมปั่นห่างจากของถนนแค่สิบเซ็นต์
ขอบถนนลงไปเป็นคูน้ำแห้งๆ

มีรถแซงซ้ายผ่านหน้าร่วมสิบคันได้ แต่ส่วนใหญ่ยังหลีกให้พ้นผมก่อนแล้วแซงซ้าย
ผมก็พยายามปั่นช้าๆ ทำตัวลีบมากถึงมากที่สุด ไม่ให้เกะกะใคร

แต่จู่ๆ เห็นกำแพงสีเทาๆ มาขนาบด้านขวาชนิดที่เรียกว่าใกล้มาก น่าจะราวๆ สิบห้าถึงยี่สิบเซ็นต์
และมาค่อนข้างเร็วดูจากรูปทรงเดาว่าน่าจะเป็นรถกระบะ  ต่อให้พยายามคุมสติมากแค่ไหนก็ตกใจได้ครับ
ผมหักหลบออกไปทางซ้าย จากที่ชิดซ้ายแทบตกขอบถนนอยู่แล้ว ก็หลุดขอบถนน จักรยานไหลลงไป
ที่ร่องคูน้ำอย่างรวดเร็ว ดีว่าผมดีดตัวกระโดดออกจากจักรยานทันเลยไหลลงไปไม่เยอะ

พอตั้งสติได้ผมรีบขึ้นมาดูว่าอะไรเป็นอะไร รถกระบะคันนั้นรีบหนีหายตัวไปเรียบร้อย
ตรวจเช็คร่างกาย ข้อมือขวาเจ็บจนจับแฮนด์ปั่นไกลๆลำบาก คิดว่าไปไม่ถึงนครสวรรค์แน่ๆ
ทั้งที่อยู่อีกแค่ 50 กิโลแค่นั้นเอง

จักรยานไม่พังแต่ rack ติดกระเป๋าเห้นชัดๆว่าไม่รอดน็อตขาดเกือบหมดยังห้อยร่องแร่งได้อยู่
แต่ไม่สามารถใช้บรรทุกกระเป๋าได้อีกแล้ว ผมเลยฝืนเข็นมาหาร้านข้าวข้างทาง
นั่งกินข้าวสงบสติอารมณ์ก่อนครับ  อารมณ์ตอนนั้นโกรธแบบสามารถฆ่าคนได้เลย
ถ้าเจอไอ้คนขับรถเลวๆนั่นได้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรจะเกิดขึ้นในตอนนั้น

สรุปผมต้องเสีย rack ห้อยท้ายไปหนึ่งอันตัดสินใจดึงๆง้างๆไปมาให้น็อตขาดจริงๆ
เพื่อเอา rack ออกากรถได้ และสลับตำแหน่งกระเป๋าหน้าหลังใหม่ นั่งพักจนรู้สึกข้อมือหายปวดมากขึ้น
แต่พอลองปั่นใหม่ก็รู้สึกยังไม่ไหว ข้อมือปวดเกินไปเกินกว่าจะจับแฮนด์ได้แถมผมไม่ไว้วางใจ
ถนนช่วงนี้เลย

โชคดีครับได้น้าเอ๋ ชมรมกู้ภัยที่นครสวรรค์ ช่วยประสานงานประกาศบอกในกลุ่มชมรมกู้ภัย
จนได้คุณนก ผู้จัดการศูย์อีซูซุสาขาสลกบาตร จัดลูกน้องมารับและพาไปส่งยังนครสวรรค์แบบปลอดภัย
ขอบคุณมากๆครับ  

เรื่องราวตอนนั้น
https://www.facebook.com/bikeketeers/posts/1591605524437983
https://www.facebook.com/bikeketeers/posts/1591660964432439

คำถามของผมคือ

"ทำไมต้องแซงซ้ายในเมื่อรู้อยู่แล้วว่ามันอันตรายเสี่ยงกับชีวิตผู้อื่น แถมแซงซ้ายไปก็ไม่ได้ช่วยให้ตัวเองไปได้เร็วขึ้นเลย
หนำซ้ำยังช้ากว่าวิ่งไปตามเลนปรกติอีก เพราะสุดท้ายที่เห็นคือก็ไปติดออกันข้างหน้าพยายามหาช่องเข้าเลนปรกติให้ได้
แล้วก็มีปัญหาทะเลาะกับรถที่วิ่งมาอย่างถูกกฏให้เสียอารมณ์กันทั้งสองฝ่ายอีก"

ทำไมและเพื่ออะไร ?

ถ้าไม่แซงซ้ายมาผมก็ไปของผมต่อได้ ผมก็ไม่คิดจะไปปั่นเกะกะระรานขวางทางใครอยู่แล้ว
ขนาดไหล่ทางมีแต่เศษแก้วแตกจากการทิ้งขวดแบบชุ่ยๆ ผมก็ไม่ว่ายินดีปั่นบดเศษแก้วนั่น
เสี่ยงยางแตกผมก็ยอมไม่เข้าไปในเลนของรถยนตร์ให้แล้ว

แต่พวกคนขับรถทำไมต้องเข้ามาแย่งเลนไหล่ทางที่เอาไว้สำหรับกรณีฉุกเฉินเช่นจอดซ่อมรถเสีย
จักรยาน มอเตอร์ไซด์และยานพาหนะความเร็วช้าๆอื่นๆด้วย แล้วถ้าหลบไม่พ้นคุณชนคนอื่นเสียชีวิตล่ะ


ทำไมครับ ?  


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่