เรื่องนี้  สลิ่มศักดิ์ก็วนลูปมาอีก  ไม่รู้กี่รอบแล้ว


ปลายปี 2533  มีการประมูลสัมปทานดาวเทียม    ผลก็คือ  ทักษิณชนะการประมูล
ก็เหลือขั้นตอนการทำสัญญา

ต้นปี 2534   เกิดรัฐประหาร รสช.

คู่แข่งที่ประมูลแพ้ทักษิณ  ซึ่งมีความสนิทสนมกับ พล.อ.สุจินดา  คราประยูร   นำเรื่องเข้าร้องเรียน
ขอให้การประมูลที่ผ่านมาเป็นโมฆะ

ทักษิณจึงเข้าหาบิ๊กจ๊อด   ประธาน รสช.  เพื่อขอความเป็นธรรม

บิ๊กจ็อดพิจารณาแล้ว  เห็นว่าการประมูลไม่มีอะไรไม่ถูกต้อง  ก็เลยดึงแฟ้มคำร้องเรียนของคู่แข่งทักษิณออก
ปล่อยให้กระบวนการเดินไปตามปกติ

2534
รัฐบาลอานันท์  ปันยารชุน  เข้ามา    มีนายนุกูล  ประจวบเหมาะ  เป็น รมว.คมนาคม
นายนุกูลนี่  ถือว่าเป็นคนซื่อตรง  ไม่มีนอกมีใน  ได้รับการยอมรับและยกย่องจากทุกวงการว่าเป็นคนตรงไปตรงมา

ก็ได้เจรจาเรื่องผลประโยชน์สัมปทานกับทักษิณ   ให้ชินคอร์ปจ่ายผลประโยชน์ให้ชาติเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อย
ก็โอเค

การทำสัญญาก็สมบูรณ์

วันปล่อยไทยคม   ทักษิณก็เชิญบิ๊กจ๊อดเข้าร่วมงาน  ถือเป็นการให้เกียรติ
และเป็นที่มาของคำพูด  "ถ้าไม่มีพี่จ๊อด  ไม่มีวันนี้"



ยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา   นายอานันท์  ปันยารชุน  เคยพูดถึงทักษิณหลายครั้ง  หลายเรื่อง
แต่ไม่เคยเลยที่จะพูดเรื่องสัมปทานดาวเทียมไทยคม  เพราะไม่มีอะไรผิดปกติให้พูด




พวกสลิ่มไม่รู้  ไม่เคยสืบค้นข้อเท็จจริง  เอาแต่เชื่อมา ฟังมา  แล้วก็โง่ แชร์ แถ ไลค์ ไปวัน ๆ
ในบอร์ดแห่งนี้  มีการนำหลักฐาน  มีการบอกเล่าเรื่องราวมาหลายครั้ง  นับไม่ถ้วน
แต่สลิ่มมันก็ไม่เคยยอมรับ เพราะรับแล้วเหมือนโดนข้าวสารเสก

ก็เปลี่ยนหน้ากันมา  ไอ้นี่เอามาเล่น  โดนตอกหน้า ก็หายหัวไป   ไอ้หน้าใหม่ก็เอามาเล่นอีก   สลับหน้าไปเรื่อย
สักพัก  ก็ไอ้หน้าเดิมนั่นแหละ  วนลูปมาอีก

ทั้งปีทั้งชาติ  เหมือนไม่มีสมอง  ไม่มีสติปัญญาที่จะพิจารณาถึงข้อเท็จจริงของเรื่องราว

น่าสงสารสลิ่ม