สำหรับตอนที่แล้วหาอ่านได้ที่นี่ค่ะ http://ppantip.com/topic/33946557

Empathy Is a Boner Killer คือชื่อของตอนที่ 3  แปลได้คร่าวๆว่าการเข้าใจหัวอกคนอื่นทำให้เซ็กส์หดตดหาย  แต่เอ๊ะ! ใครกันที่หมดอารมณ์เพราะดันเกิดความรู้สึกเข้าใจหัวอกคนอื่นขึ้นมาอันนี้ก็ต้องติดตามดูค่ะ

จำเฮโรอีนที่ เจ๊วี นำเข้ามาและนิคกี้ขโมยเอาไปซ่อนเมื่อซีซั่นที่แล้วได้มั้ยคะ  ในซีซั่นนี้ บูใหญ่ กับ นิคกี้ พยายามหาทางกำจัดมันออกไปจากลิทช์ฟิลด์  โชคร้ายที่อุโมงค์ขนของถูกเจ๊แดงโบกปูนปิดตายไปแล้ว  ทำให้บูกับนิคกี้ต้องหาทางออกอื่นโดยการหาใครสักคนมาช่วยลักลอบขนมันออกไป  และจะมีใครเป็นตัวเลือกที่ดีไปกว่า ลูสเช็ก  แต่เฮโรอีนเจ้ากรรมดันหายไปอย่างเป็นปริศนา  ทำให้ลูสเช็กกริ้วจัด

---

ไพเพอร์ กับ อเล็กซ์  แม้ไม่ได้คืนดีกันแต่ยังคง #ตบจูบ กันต่อไป   เบอร์ดี้ ที่ปรึกษามือใหม่ไฟแรงจัดตั้งชั้นเรียนละครขึ้นซึ่งปรากฏว่าเป็นที่นิยมของบรรดาผู้ต้องขัง  เป็นผลให้ฮีลลี่อิจฉาตาร้อนผ่าว




เบอร์ดี้ ให้ผู้ต้องขังแสดงด้นสดเพื่อเสริมสร้างความเข้าอกเข้าใจผู้อื่น  กลายเป็นว่าในชั้นเรียนละครนี้เปิดโอกาสให้ไพเพอร์ได้แสดงความเสียใจในขณะเดียวกันก็ไม่เสียใจในสิ่งที่ตัวเองทำกับอเล็กซ์ #sorrynotsorry



ฉากนี้น่ารักมาก   นึกถึงฉากตู้อบผ้าขึ้นมาเชียว   คงไม่มีใครเป็นตัวแทนสีหน้าของดิฉันขณะที่ดูฉากนี้ได้เป๊ะเท่ากับโมเรลโล่อีกแล้ว




Alas, empathy is a boner killer indeed.

---

ส่วน เจ๊แดง หลังจากในตอนที่แล้วไปพบกับ ฮีลลี่ เพื่อขอถอนชื่อสามีออกจากรายชื่อเยี่ยม  แต่ไปๆมาๆกลายเป็นการระบายอารมณ์เรื่องส่วนตัวของฮีลลี่ซะงั้น  ฮีลลี่มาขอโทษเจ๊แดงแต่ก็ไม่วายขอร้องแกมบังคับให้เจ๊แดงมาทำหน้าที่ที่ปรึกษาชีวิตคู่/ล่ามแปลภาษาให้  ฮีลลี่พาเมียมาเคลียร์ปัญหาใจ    แต่ คาเทีย เมียของฮีลลี่หาว่าฮีลลี่"ตกเบ็ด"เธอทางอินเตอร์เน็ต  ผิดหวังที่ฮีลลี่ไม่ได้เป็นคนอย่างที่เธอวาดฝันไว้  เจ๊แดงอดรนทนไม่ไหวออกโรงปกป้องฮีลลี่



Um...not sure Healy is a good man, Red. A decent guy? Maybe. But he's kinda horrible with his counseling. For your own sake, please don't hook up with him. kthxbye.

---

ส่วน คาปูโต ก็ต้องรับมือกับปัญหาที่ว่าเรือนจำใกล้จะปิดตัวลงในไม่ช้านี้  ลูกน้องบางคนอย่างเช่นผู้คุมฟอร์ด(ผู้คุมที่ดิฉันรำคาญที่สุด)เริ่มรู้ระแคะระคายแม้คาปูโตปฏิเสธในคราวแรกแต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับ  คาปูโตจนตรอกถึงขนาดโทรไปหานาตาลี ฟิกเกอโรอา อดีตผู้ช่วยพัศดี/คู่อริ/คู่ขาคราวเดียว  เผื่อว่าฟิกจะช่วยพูดกับ เจสัน ผู้เป็นสามีที่ตอนนี้ชนะการเลือกตั้งได้เป็นวุฒิสมาชิกให้หาช่องทางช่วยลิทช์ฟิลด์  แต่ฟิกบอกหมดวาระแล้วฉันไม่สน คาปูโตเลยงัดไม้ตายขู่ว่าจะเปิดโปงสามีเก้งของนาง  ฟิกเลยรีบแจ้นมาหาพร้อมข้อเสนอจากบรรษัทแห่งหนึ่งที่กำลังมองหาซื้อเรือนจำและบอกให้คาปูโตลองติดต่อดู

---

วกกลับมาที่เรื่องของนิคกี้และเฮโรอีนซึ่งเป็นหัวใจหลักของตอนนี้  นิคกี้อ้างว่าเฮโรอีนถูกขโมยไป  แต่แท้จริงแล้วเจ้าหล่อนเป็นคนขโมยเอาไปซ่อนเองเพราะยังตัดใจไม่ขาด   โชคร้ายที่ซ่อนไม่มิดชิดพอ  สองสาวสิงห์ยาไอซ์ประจำแผนกซักผ้า ลีแอนน์และแองจี้ ไปเจอเข้า   ฮัลเลลูย่าห์ป้านอร์ม่าทรงโปรด!!





นิคกี้จึงวิ่งไปหาลูสเช็กให้ช่วย  เพราะถ้าขืนปล่อยไปมีหวังรู้ถึงผู้คุมคนอื่นแน่และจะพากันซวยหมด




ย้อนอดีตไปตอนที่นิคกี้ยังใช้ยาอยู่  นิคกี้มาจากครอบครัวที่ร่ำรวยแต่ขาดความอบอุ่น  เธอจึงทำตัวเป็นเด็กมีปัญหาให้ผู้เป็นแม่ต้องเหนื่อยใจตลอด  จนในท้ายที่สุดต้องมาจบลงที่คุก





มาริลีน มอนโรอาจบอกว่าเพชรคือเพื่อนแท้ของหญิงสาว  แต่สำหรับนิคกี้ นิโคลส์เฮโรอีนคือรักแท้ในชีวิตของเธอ  เมื่อลูสเช็กยึดยาคืนมาจากพวกสิงห์ยาไอซ์ได้แล้วและลักลอบนำออกจากเรือนจำเพื่อนำไปขายได้สำเร็จ  ลูสเช็กหารู้ไม่ว่านิคกี้แอบจิ๊กไว้ถุงนึงเก็บไว้ดูต่างหน้า  ลีแอนน์กับแองจี้อยากแก้เผ็ดลูสเช็กที่มาฮุบยาไป  สองสาวเลยเที่ยวกระต๊ากไปทั่วว่ามียาอยู่ที่แผนกไฟฟ้า  ข่าวนี้รู้ไปถึงหูคาปูโต  คาปูโตจึงพาผู้คุมไปค้นที่แผนกไฟฟ้าและที่โต๊ะของลูสเช็ก  ปรากฏว่าเจอห่อยาที่นิคกี้ซ่อนไว้ในลิ้นชักของเขา   ลูสเช็กงงมากไม่รู้ว่ามันมาได้ยังไงรีบโบ้ยความผิดให้นิคกี้   คาปูโตไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่แต่ไม่อยากต้องจัดการปัญหาผู้คุมนำยาเสพติดเข้าเรือนจำอีก  จึงสั่งให้จับตัวนิคกี้ไปโดยไม่ทำการสอบสวนใดๆและส่งไปยังคุกหนักที่ตีนเขาทันที



So long, wild child.




fun fact : เหตุผลที่ตัวละครนี้ต้องจากไปเร็วเพราะ  Natasha Lyonne ผู้ที่รับบท นิคกี้ นิโคลส์ ไปได้บทนำในซีรี่ย์แนวคอมเมดี้ที่ Amy Poehler เป็นผู้สร้าง  น่าเสียดายที่ถ่ายทำตอนแรกไปแล้วและนำไปเสนอทางช่อง NBC แต่กลับถูกปฏิเสธ  และเดาว่าจะให้กลับไป OitNB ก็คงไม่ทันเพราะบทของทั้งซีซั่น 3 เขียนร่างไว้หมดแล้ว  ใครเป็นแฟนนิคกี้ก็คงต้องภาวนากันว่าเธอจะได้กลับมาในซีซั่น 4 มั้ย  เพราะถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่านาตาชาได้เริ่มถ่ายทำซีซั่น 4 ไปบ้างเลย

---

Footnotes : ข้อมูลทั่วไปเสริมให้อีกเล็กๆน้อยๆ เพราะไหนๆในตอนนี้ก็ได้เห็น(แค่ภายนอก)ของคุกหนักซะที  หลายคนคงสงสัยว่า เอ๊ะ! มันมีหนักมีเบาด้วยเหรอ  ก็ไม่เชิงค่ะ  คุกที่สาวๆของเราอยู่นั้นเป็น minimum security เป็นคุกที่มีความเข้มงวดน้อยกว่าและมีการคุ้มกันไม่แน่นหนาเท่า maximum security และไว้สำหรับนักโทษที่มีระยะโทษจำคุกสั้นและในข้อหาที่ไม่รุนแรง  เพราะฉะนั้นเวลาที่สาวๆลิทช์ฟิลด์ของเราถูกขู่ว่าจะจับส่งไปอยู่คุกหนัก (max) จึงกลัวกันนักเพราะต้องไปอยู่ในคุกที่บรรยากาศเข้มงวดกว่า  อยู่ในห้องขังเกือบตลอดเวลาและต้องไปเจอกับบรรดานักโทษขาโหด  แถมยากที่จะถูกย้ายตัวกลับมาด้วย  เหมือนที่ซินดี้ดำเคยบอกไว้ในซีซั่นหนึ่งว่า "You go to Max, you never come back. Everybody knows that."

อีก 2 สิ่งที่เราเห็นว่าเอาไว้ใช้ขู่สาวๆของเราบ่อยๆ คือ เดี่ยว(SHU) และคาดโทษ(shot)  เดี่ยว หรือ SHU ย่อมาจาก Security Housing Unit/Special Housing Unit หรือก็คือห้องขังเดี่ยวนั่นเอง  อันนี้คงจะพอเข้าใจกันไม่ต้องอธิบาย  นังไพปส์ได้ไปนอนออกบ๊อยบ่อย  ส่วนคาดโทษหรือ shot  ไม่ได้เกี่ยวกับการโดนยิงแต่อย่างใด  แต่เป็นการลงบันทึกในประวัติความประพฤติเหมือนเป็นใบเหลือง   ไม่ค่อยมีผลโดยตรงในเวลาที่จำโทษอยู่สักเท่าไหร่  แต่จะมีผลเมื่อนักโทษเข้ารับการพิจารณาจากคณะกรรมการเพื่อปล่อยตัวก่อนกำหนด  ถ้ามีคาดโทษมากโอกาสที่จะได้รับการอนุมัติก็น้อย  หรือถ้าได้รับการอนุมัติระยะเวลาที่ต้องติดทัณฑ์บนหลังออกไปแล้วอาจจะนานขึ้น  คาดโทษมีรหัสของมันเป็นเลข 3 หลัก  มีความหนัก-เบาของโทษต่างกันเป็นระดับไป เช่นชุดที่ 100-300, 400-500 ฯลฯ  ถ้าทำผิดในชุดรหัสที่หนักก็อาจส่งผลให้โดนลงโทษเดี๋ยวนั้นเลย  เช่น อาจถูกถอนสิทธิพิเศษอย่างการห้ามเยี่ยมญาติ, ถูกส่งไปขังเดี่ยว เป็นต้น

---

ดู episode นี้จบแล้วมีความคิดเห็นอย่างไรก็เชิญคอมเม้นท์พูดคุยกันได้ตามสบายนะคะ  ไว้ค่อยคุยกันต่อในตอนหน้า