เสียดายคนตายไม่ได้เล่า 5 : โรงแรมผีนครสวรรค์

กลับมาแล้วววววว.....
เนื่องจากโดนแบนไอดีค่ะ...
เพิ่งปลดให้...เลยหายไปนาน...
จริงๆ แล้ว หลิวเล่าไปถึงตอนที่ 6 ละคะ
และตอนที่ "ปลิว" อยู่สปอยเลย ตามไปอ่านกันได้นะคะ


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

อัพเดต ตอนใหม่ๆ ที่เพจโลกสวยไปวันวันค่ะ
(กับกระทู้ปลิว ไอดีโดนแบนอีก)

++สารบัญ+++
ตอน 1 http://ppantip.com/topic/33954464
ตอน 2 http://ppantip.com/topic/33961597
ตอนที่ 3 ปลิววว
ตอนที่ 4 http://ppantip.com/topic/33977474

เผื่อว่าใครยังไม่อ่านตอนที่ 5 เลยแวะเอามาโพสให้นะคะ
รบกวนทายชื่อรร กันแบบตัวย่อ ไม่พาดพิงชื่อตรงๆนะคะ ....เดี๋ยวกระทู้ปลิวค่า

เรื่องมันเกิดขึ้นในช่วงวันหยุดยาว ปีใหม่
ครอบครัวหลิวขับรถเดินทางจากเชียงใหม่ไปกทม.
ตอนประมาณใกล้เที่ยงคืน ถึงนครสวรรค์
ก็เลยพักที่นั่นก่อน
แต่เพราะว่าเป็นช่วงเทศกาล
โรงแรมไหนก็ไม่ว่างเลยค่ะ

จนมาเจอโรงแรมหนึ่ง
ไม่ใหญ่มาก ด้านล่างเหมือนเป็นร้านอาหาร...มีบาร์ด้วย
ก็จองไปห้องนึง
บอกเลยว่าโรงแรมเงียบและมืดมาก แทบจะไม่มีคนเลยด้วยซ้ำ

พอขึ้นลิฟเท่านั้นแหละ
น้องสาวหลิวโวยวาย
บอกว่าไม่อยากพักที่นี่ เค้ารู้สึกไม่ดี
จริงๆ ตอนนั้นหลิวก็รู้สึกนะ
แต่สำหรับหลิว หลิวว่าไม่แปลก

แต่น้องหลิวนี่เป็นคนแทบไม่เคยเจอเลย
อยู่ดีดีก็ไม่อยากพักที่นี่ซะงั้น
ถึงขั้นบอกว่ายอมนอนที่รถเลย

แต่สุดท้ายไม่มีใครอนุญาติค่ะ
นางเลยจำเป็นต้องนอนที่นี่

ห้องที่จองเป็นเตียงเดี่ยวสองเตียง
พ่อแม่นอนบนเตียง
หลิวกับน้องนอนข้างล่างค่ะ

ไปถึงก็อาบน้ำนอนกันหมดเลย
น่าจะผ่านไปไม่เกิน 2 ชม.
อยู่ๆ หลิวก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา
เหมือนกับว่านอนไม่หลับน่ะค่ะ

ตื่นมานั่งสักพัก
ตาเริ่มจะปรับและชินกับความมืด
เลยมองไปที่เตียงที่พ่อนอนอยู่ค่ะ
ที่นี้ งานเข้าเลย
เห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่ง นั่งอยู่
ดูผอมโซมากๆ ไม่ใส่เสื้อ ใส่แต่กางเกงเก่าๆ ไม่มีรองเท้า

เค้านั่งอยู่ที่ปลายเท้าพ่อหลิวค่ะ
ยกมือพนมแล้วก้มไหว้ ก้มไหว้
อยู่ตรงปลายเท้าพ่อหลิวตลอดเวลาเลย

น่าสงสารมาก
คือตัวเค้าดำทะมึนแล้วผอมโซแบบเห็นซี่โครงเลยน่ะค่ะ
ก้มไหว้ ก้มไหว้ ไม่ยอมหยุดเลย

ตอนนั้นหลิวรู้ว่า โอเค เราบังเอิญไปเห็นเค้าเองแน่ๆ
โชคดีที่เค้าไม่ทันรู้ตัว
หลิวเลยต้องแกล้งเนียนลงไปนอนเหมือนเดิม
ถ้าเค้ารู้ว่าเราเห็นเดี๋ยวจะซวย

ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น..
แต่จริงๆแล้วนอนไม่หลับค่ะ

ก็นอนอย่างนั้นจนเช้า...
เผลอหลับไปเอง...
ตื่นมานี่รีบเช็คเอ้าท์ออกเลยค่ะ


มาถึงรถ
พ่อบอกว่า ต้องหาที่พักนครสวรรค์อีกวัน
เพราะว่าเมื่อคืนไม่ได้นอนค่ะ
หลิวก็ถามว่าทำไม
พ่อบอกเมื่อคืน
อยู่ดีดีก็ปวดเท้า เหมือนมีคนมานั่งทับ
ตื่นมาดู
เห็นเด็กผู้ชาย ผอมๆ..
นั่งไหว้อยู่ตรงปลายเท้า
เลยไม่กล้าทำอะไรเลย
นอนไม่หลับเลย...

คือเห็นคนเดียวกับที่หลิวเห็นเลยนะค่ะ
แล้วน้องหลิวก็บอกว่า
ที่จะโวยวายกลับก็เพราะแบบนั้นแหละ

ตอนขึ้นลิฟมา
มีผู้หญิงคนนึงขึ้นมาด้วย...
ดีที่เค้าเข้ามาในลิฟไม่ได้ ไม่รู้ทำไม
กลัวมาก....
สรุป  คืนนั้นเจอหนักกันหมดค่ะ
ยกเว้นแม่หลิวคนเดียวที่ไม่เจออะไร

คือเรียกว่าเข็ดกันเลยค่ะ
แบบว่าจากนั้นมา ไม่กล้าไปนอนที่ไหนแบบนั้นอีกเลย

หลังจากวันนั้น...
ก็ไปเล่าให้เพื่อนฟัง
เพราะเพื่อนเป็นคนนครสวรรค์น่ะค่ะ
หลิวก็จำโรงแรมไม่ได้

จำได้แค่ตามที่เล่าไปน่ะค่ะ
แต่เพื่อนบอกว่า น่าจะเป็นโรงแรมนึง
เคยเป็นข่าวดังมาก แล้วเค้าก็เล่าว่าที่นี่เฮี้ยนด้วย
เพราะมีวัยรุ่นฆ่ากันตาย
อายุประมาณ 15-17 นี่แหละค่ะ

ซึ่งหลิวว่าน่าจะใช่เด็กคนนั้น
หลิวคิดว่าการที่เค้าต้องทำอย่างนั้นเพราะเค้ามาขอส่วนบุญน่ะค่ะ
ตายก่อนหมดอายุขัย
ไปไหนก็ไม่ได้
รูปร่างเลยผอมโซ อดอยาก
คงเพราะไม่มีใครทำบุญให้
น่าสงสารมากค่ะ...

เป็นอีกวิญญาณหนึ่งที่เจอ...
ถ้าเค้าฆ่ากันตายจริง จะว่าตายโหงก็น่าจะใช่นะคะ
วิญญาณตนนี้ มาอารมณ์เดียวกับที่เพชรบูรณ์
แต่ของเพชรบูรณ์ พอสัมผัสได้ว่าบาปเค้าไม่ได้หนักมาก....
เค้าแค่ตายเพราะอุบัติเหตุ
และรูปร่างเค้าไม่ได้ดูแย่อะไรขนาดนั้น

แต่กับเด็กวัยรุ่นคนนี้รู้เลยว่า
บาปเค้าคงจะหนักมากเหมือนกันค่ะ
เค้าดูทรมานมาก
ลองคิดดูสภาพวิญญาณที่ต้องก้มไหว ก้มไหว้ทั้งคืนเพื่อขอบุญ
เหมือนเค้าสิ้นหนทางแล้วจริงๆ

และหลิวคิดว่าโรงแรมนี้ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ
คนไปพักอาจจะไม่มีด้วย..
แบบนั้นเค้ายิ่งขอบุญจากใครไม่ได้เลย

จะสื่อกับคนก็นับว่ายากแล้ว
เค้าถึงผอมโซขนาดนั้นน่ะค่ะ

อยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องเตือนใจ สำหรับทุกๆคนน่ะค่ะ
หลิวไม่รู้ว่าเด็กคนนั้นเค้าทำอะไรไว้ก่อนตาย
ถึงได้ติดอยู่แบบนั้น....

วิญญาณไม่สามารถสร้างบุญเองได้นะคะ
ถ้าเรายังทำได้ ก็ทำไปเถอะค่ะ
ทำอะไรอยากให้มีสติ อย่าใช้อารมณ์ชั่ววูบ
เราไม่รู้ว่าโลกหลังความตายมีจริงมั้ย

แต่ถ้าตายแล้วต้องเป็นแบบนั้น
หลิวบอกเลยว่าเป็นอะไรที่ทรมานมาก

หลิวเห็นยังหดหู่แทนเลยค่ะ
ปกติกับวิญญาณบางตน เราทำบุญให้
เราจะรู้ว่าคงพอช่วยเค้าได้

แต่กับวิญญาณเด็กคนนี้...
มันรู้สึกว่าช่วยได้น้อยมากเลยค่ะ...
หลิวไม่รู้เลยว่ากรรมอะไร ที่ตามเค้าหนักขนาดนั้น...
แต่สุดท้ายเราก็ทำดีที่สุดแล้วค่ะ
เค้าก็ต้องใช้กรรมของเค้าต่อไป...

สุดท้ายฝากไว้เท่านี้นะคะ...
ทำอะไร ไม่อยากให้ใช้อารมณ์ชั่ววูบ...
แล้วหลิวหวังว่าเรื่องที่หลิวเล่า
จะช่วยเป็นอุทาหรณ์ ให้กับวัยรุ่นคนอื่นๆ...

วัยรุ่นใจร้อนค่ะ เราใช้อารมณ์ชั่ววูบ
แต่ถ้าหากเรามีอารมร์นั้น อย่าลืมคิดถึงเด็กผู้ชายคนนี้นะคะ...

หลิวเชื่อว่า การนึกถึงเค้าเป็นอุทาหรณ์
ไม่เพียงแต่จะช่วยให้เราระงับสติอารมณ์ได้
แต่ยังจะเป็นอานิสงค์ให้กับเด็กคนนั้นด้วยค่ะ
เค้าจะได้หมดเวรหมดกรรมไวไว
เพราะเรื่องราวของเค้าเป็นอุทาหรณ์และเตือนสติให้กับผู้อื่นด้วยค่ะ
ก็เป็นบุญของเค้าไปในตัว


.....
ตอนที่ 6 ...จะเป็นเรื่องผีตายโหงนะคะ วิญญาณที่เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน...
คนที่ตายเพราะแบบนี้ เค้าจะเป็นยังไง
ติดตามได้ในตอนหน้านะคะ

จะอัพวันไหน จะแจ้งอัพเดตที่เพจ โลกสวยไปวันวันนะคะ



++++ช่วงตอบคำถาม++++
พอดีมีคำถามเข้ามาค่ะ
ถ้าเราทำบุญ แต่ปรากฏว่าคนที่เราทำบุญด้วยเป็นพระปลอม คนที่เราทำบุญให้จะได้บุญมั้ย

อันที่จริง หลิวเป็นคนไม่มีความรู้ในเรื่องนี้นะคะ
ตามหลักศาสนาหลิวเลยไม่รู้ว่ายังไง
แต่ถ้าตามประสบการณ์
เวลาเราทำบุญให้ใครน่ะค่ะ  เค้าจะได้รับบุญหรือไม่ได้รับ
มันอยู่ที่ใจของคนทำค่ะ
ถ้าใจเราให้ ไม่ว่าเราจะทำที่วัด ทำกับพระปลอม พระจริง
หรือไม่ต้องไปที่วัดเลยก็ได้ แค่อนุโมทนา แผ่เมตตาอยู่ที่บ้าน เค้าก็ดายค่ะ
ได้บุญไม่ได้บุญ อยู่ที่ใจของผู้ให้ล้วนๆ เลยค่ะ
ส่วนพระปลอม หรือการทำบุญปลอม เงินที่เค้าเอาจากเราไปและไม่ได้เอาไปทำบุญจริง
คนหลอกลวง มิจฉาชีพพวกนี้ กรรมจะตกกับเค้าเองค่ะ

บุญกับกรรมมันจะแยกกันค่ะ
บุญคือบุญ กรรมคือกรรม
เราทำกรรมไว้ ไม่มีบุญไหนมาลบล้างได้ค่ะ
นอกเสียจากว่าเจ้ากรรมนายเวรเค้าอโหสิให้เราเองน่ะค่ะ

เพราะฉะนั้น ถ้าเราอยากทำบุญ ทำไปเลยค่ะ
ไม่ต้องสนใจว่าหลอกลวง มิจฉาชีพ หรืออะไร
อยู่ที่ใจเราล้วนๆค่ะ ส่วนใครที่หาประโยชน์จากเรื่องนี้ กรรมจะตกที่ตัวเค้าเองค่ะ

คำตอบนี้มาจากประสบการณ์นะคะ ...
ไม่อยากให้เชื่อทั้งหมด แต่ให้มองเป็นการแสดงความคิดเห็นมากกว่าค่ะ
เพระาโดยส่วนตัวหลิวไม่ใช่คนที่จะเรียกว่า พุทธศาสนิกชนที่ดีสักเท่าไหร่

เข้าวัดน้อยมาก ถึงมากที่สุดค่ะ
ประมาณเจอผีที เข้าไปทำบุญทีนึงค่ะ

มีอะไรถามไว้ได้นะคะ...ถ้าตอบได้จะตอบค่ะ
แต่ไม่อยากให้คิดว่า คำตอบหลิวจะเป็นคำตอบที่ถูกต้อง...
แค่อยากให้คิดว่า เป็นเรื่องเล่าจากมุมมองของคนๆหนึ่งแค่นั้นพอค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่