"มาทำงานที่ฝรั่งเศสช่วงหน้าร้อน ถ้ามีเวลาก็อยากไปเที่ยวทุ่งลาเวนเดอร์จัง"
คิดแบบนี้มาหลายครั้ง มีโอกาสแวะไปมาแล้วรอบนึงเมื่อสองสามปีที่แล้วแถว Aix-en-Provence แต่ตอนนั้นลาเวนเดอร์ยังไม่บานเต็มทุ่ง เสียดายมากๆ
รอบนี้เลยขอลองใหม่ ถึงแม้จะรู้ดีว่าต้องลุ้น...เพราะอากาศร้อนมากในปีนี้ และกว่าจะทำงานเสร็จ จได้ไปก็ต้นเดือนสิงหาพอดี โดยส่วนใหญ่เค้าจะเก็บเกี่ยวหมดก่อนที่เราจะไปดู ต้องลุ้นกันค่ะ ภาวนาเล็กๆให้ยังคงหลงเหลือทุ่งกว้างสีม่วงตอนต้นเดือนนี้
เพื่อนท่านไหนว่างๆ ตามมาเยี่ยมเยียนได้ที่ facebook เพจ A REMARKABLE JOURNEY นะคะ
https://www.facebook.com/ARemarkableJourney/
IG: aremarkablejourney
++++++ The Lavender Road Trip ++++++
ก่อนที่จะไปเที่ยว ต้องทำงานทุกวัน ทุกวันๆจะเดินชมหย่อมเล็กแถวออฟฟิศให้เพลินตาไปก่อน
ซื้อแผนที่แถบนั้นเก็บไว้ศึกษาเส้นทาง นอกจากนี้เจอข้อมูลน่าสนใจใน
http://www.moveyouralps.com/en/routes-de-la-lavande
เป็นเส้นทางของทุ่งลาเวนเดอร์นะคะ
จะเห็นว่าแต่ละเมือง จะมีแถบสีบอกว่าเก็บเกี่ยวช่วงไหน ไล่จากสีม่วงอ่อนที่จะเก็บเกี่ยวก่อนใคร ไปจนถึงสีม่วงเข้มที่เก็บเกี่ยวช้าที่สุด
จากแผนที่ในเว็บ บอกเวลาคร่าวๆไว้ว่า ทุ่งลาเวนเดอร์ที่เมืองไหน จะบานเมื่อไหร่และเก็บเกี่ยววันสุดท้ายช่วงไหนบ้าง
เจ้าถนนลาเวนเดอร์ครอบคลุมเมืองใหญ่หลายเมืองมากๆ เรียกว่าถ้าจะขับให้ทั่วจริงๆ คงต้องหลายวัน
เนื่องจากเราต้องเดินทางไปเมื่องอื่นต่อ เลยตัดสินใจไปค้นหาทุ่งลาเวนเดอร์กันที่เมืองที่เราเดินทางไปถึงเร็วที่สุด ก็คือแถวๆเมือง Crest, Die และ Chamaloc โดยเมืองที่สามนี้ เป็นเมืองที่น่าจะเก็บเกี่ยวช้าที่สุดด้วย ว่ากันว่าบางทีอาจจะเลทไปจนถึงกลางเดือนสิงหาคม
ต้องลุ้นและภาวนาตลอดการเดินทาง
The Lavender Road Trip is starting....
แล้ววันเดินทางก็มาถึงค่ะ เลิกงานวันศุกร์ เก็บกระเป๋าเดินทางให้พร้อม วันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม ล้อหมุน
ถึงจะรู้ว่ามีหวังเพียงน้อยนิด เพราะหลายเมืองเค้าเก็บเกี่ยวกันไปแล้ว แต่ยังไงก็ยังอยากไป ขอแค่ขับไปท่ามกลางท้องทุ่งก็ยังดี
ที่สำคัญกว่านั้นคือ พยากรณ์อากาศวันนี้ "ฝนตก" !!! ช่วยลุ้นกันหน่อยนะคะ
กว่าจะได้ออกจากบ้านและฝ่ารถติด เพราะเป็นวันที่คนฝรั่งเศสก็หยุดงานกันหมด อารมณ์เทศกาลวันหยุดยาว รถติดบนทางด่วน เคลื่อนที่ได้ช้ามาก
เรามาถึงเมือง Crest ก็บ่ายสามครึ่งแล้วค่ะ
ขับรถหาTourist Information Center(Office de Tourisme) ในเมือง Crest เพื่อจะไปถามหาทุ่งลาเวนเดอร์ที่คาดว่าจะยังไม่เก็บเกี่ยว
เจ้าหน้าที่บอกว่า ส่วนใหญ่เก็บไปหมดแล้วนะ แต่ว่าเมื่ออาทิตย์ที่แล้วที่เมือง Chamaloc ยังไม่เก็บ ลองไปดูได้ แต่เค้าก็ไม่แน่ใจ
ไหนๆก็มาแล้ว เจอไม่เจอไม่สำคัญ ขอให้ได้ผ่านทุ่งที่เก็บไปแล้วก็ยังดี
ขับรถหาตามเส้นทาง ที่วางไว้ .....ตลอดเส้นทางจาก Crest ไป Die ไม่เจอเลย
คือมาตามหาทุ่งลาเวนเดอร์ ป่านนี้ยังไม่เจอ ระหว่างทางเจอทุ่งทานตะวัน (Champs de Tournesol)เต็มไปหมด
คนพามาเลยบอกว่า "ทุ่งลาเวนเดอร์จะเจอไหมไม่รู้ แต่ทุ่งเหลืองเนี่ยเจอแน่ ถ่ายก่อนเลยไหม"
เหอะ!!! เอาวะ!!!
อารมณ์เหมือนเดินเล่นทุ่งทานตะวันแถวสระบุรีบ้านเรา
ขับไปจนใกล้ถึงเมือง Chamaloc ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆไม่ไกลจาก Die ยิ่งขับไป ฝนก็เริ่มตกปรอยๆ ความหวังยิ่งริบหรี่ ไม่เห็นทุ่งสีม่วงที่ไหนเลย เศร้ามาก ทั้งๆที่ทำใจมาแล้ว
กำลังจะตัดสินใจกลับกันแล้ว แต่เอ๊ะ ม่วงๆสองหย่อมไกลๆนั่นอะไร ขับวนกลับมาซิ ขับวนกลับจนมาเห็นป้ายบอกว่า "ที่นี่มีทุ่งและโรงงานสกัดเล็กๆ สามารถให้เข้าชมได้" เลยแวะเข้าไปดู
แล้วในที่สุด....ก็เจอทุ่งสุดท้ายในแถบ 3 เมืองทางเหนือของ Lavender Road ค่ะ
ทุ่งนี้ที่ถึงแม้จะตัดไปเกือบหมด เจ้าของบอกว่าเหลือไว้นิดหน่อยให้สวยงาม (ก็สองหย่อมสุดท้ายที่เห็นไกลๆนั่นแหละ)
เจ้าของทุ่งลาเวนเดอร์ เล่าเรื่องราวการปลูกและการเก็บเกี่ยว ตลอดจนการเอาลาเวนเดอร์มาสกัดน้ำมัน พาเดินชมโรงงานเล็กๆที่รับช่วงต่อมาจากครอบครัว เจ้าของเล่าว่า ปีนี้ทุ่งของเค้าออกดอกน้อย เก็บเกี่ยวได้ไม่เยอะเพราะอากาศไม่ค่อยดี ถ้าลงใต้ไปอีกหน่อยจะดีกว่านี้มาก
แล้วลาเวนเดอร์เนี่ยมันมีหลายชนิด แต่ละชนิดจะออกดอกไม่เหมือนกัน แผ่กิ่งก้านคนละแบบ ส่งผลให้ความสวยของท้องทุ่งจะต่างกันด้วย
แล้วเวลาเก็บเกี่ยวบางชนิดเอารถตัดเข้าไปเก็บใส่ถังมาเลย แต่บางชนิดตัดแล้วต้องมีคนไปมัดเป็นช่อบูเก้เอามาทำให้แห้งอีกทีก่อนสกัดน้ำมัน
เจ้าของเล่าอย่างสนุกสนาน เปิดเครื่องไม้เครื่องมือให้ดูทุกจุดเหมือนเราไปดูงานเลย สนุกดีค่ะ
ไม่ได้เห็นทุ่งม่วงๆกว้างสุดลูกหูลูกตา แต่ก็ประทับใจไม่น้อย เอาไว้รอบหน้า จะมาให้ตรงช่วงที่สวยที่สุด แบบไม่ต้องลุ้นเหมือนรอบนี้
ก่อนจะบอกลากันด้วยการซื้อของฝากกลับบ้านไปฝากแม่ เพราะแม่ชอบน้ำมันลาเวนเดอร์มาก เจอที่ไหนต้องลอง
วันนี้หมดเวลา ไม่สามารถขับลงไปทางตอนใต้กว่านี้เพื่อไปค้นหาทุ่งสีม่วงที่เหลือต่อไปได้
แต่ความสนุกไม่ได้อยู่ที่จุดหมายปลายทางใช่ไหมคะ เราคิดว่ามันสนุกตั้งแต่การเริ่มออกเดินทางและตลอดเส้นทางที่ผ่านมาแล้ว
เอาไว้มีโอกาสรอบหน้า จะวางแผนดีๆให้ตรงช่วงที่ลาเวนเดอร์บานแล้วสวยที่สุด และไม่ต้องลุ้นจนหัวใจเต้นแรงเหมือนรอบนี้
โดยเจ้าของทุ่งท่านนี้บอกไว้ว่า ให้โทรมาก่อนได้เลย จะเตรียมการต้องรับอย่างดี
จบ Lavender Road Trip แบบไม่เจอทุ่งสุดลูกหูลูกตาอย่างที่คาดไว้ แต่ก็สุขใจไม่น้อยเลยค่ะ
เพื่อนๆท่านไหนที่ไปมาแล้ว เอารูปมาอวดให้อิจฉากันหน่อยนะคะ เห็นหลายท่านเจอทุ่งสีม่วงสวยมาก เดี๋ยวจะไปตามรอยในปีถัดไปค่ะ
เที่ยวให้สนุกทุกคนนะคะ
A REMARKABLE JOURNEY
[CR] [A Remarkable Journey] ขับรถตามหาทุ่งลาเวนเดอร์ในวันฝนตก ++ Routes de la Lavande
"มาทำงานที่ฝรั่งเศสช่วงหน้าร้อน ถ้ามีเวลาก็อยากไปเที่ยวทุ่งลาเวนเดอร์จัง"
คิดแบบนี้มาหลายครั้ง มีโอกาสแวะไปมาแล้วรอบนึงเมื่อสองสามปีที่แล้วแถว Aix-en-Provence แต่ตอนนั้นลาเวนเดอร์ยังไม่บานเต็มทุ่ง เสียดายมากๆ
รอบนี้เลยขอลองใหม่ ถึงแม้จะรู้ดีว่าต้องลุ้น...เพราะอากาศร้อนมากในปีนี้ และกว่าจะทำงานเสร็จ จได้ไปก็ต้นเดือนสิงหาพอดี โดยส่วนใหญ่เค้าจะเก็บเกี่ยวหมดก่อนที่เราจะไปดู ต้องลุ้นกันค่ะ ภาวนาเล็กๆให้ยังคงหลงเหลือทุ่งกว้างสีม่วงตอนต้นเดือนนี้
เพื่อนท่านไหนว่างๆ ตามมาเยี่ยมเยียนได้ที่ facebook เพจ A REMARKABLE JOURNEY นะคะ
https://www.facebook.com/ARemarkableJourney/
IG: aremarkablejourney
++++++ The Lavender Road Trip ++++++
ก่อนที่จะไปเที่ยว ต้องทำงานทุกวัน ทุกวันๆจะเดินชมหย่อมเล็กแถวออฟฟิศให้เพลินตาไปก่อน
ซื้อแผนที่แถบนั้นเก็บไว้ศึกษาเส้นทาง นอกจากนี้เจอข้อมูลน่าสนใจใน http://www.moveyouralps.com/en/routes-de-la-lavande
เป็นเส้นทางของทุ่งลาเวนเดอร์นะคะ
จะเห็นว่าแต่ละเมือง จะมีแถบสีบอกว่าเก็บเกี่ยวช่วงไหน ไล่จากสีม่วงอ่อนที่จะเก็บเกี่ยวก่อนใคร ไปจนถึงสีม่วงเข้มที่เก็บเกี่ยวช้าที่สุด
จากแผนที่ในเว็บ บอกเวลาคร่าวๆไว้ว่า ทุ่งลาเวนเดอร์ที่เมืองไหน จะบานเมื่อไหร่และเก็บเกี่ยววันสุดท้ายช่วงไหนบ้าง
เจ้าถนนลาเวนเดอร์ครอบคลุมเมืองใหญ่หลายเมืองมากๆ เรียกว่าถ้าจะขับให้ทั่วจริงๆ คงต้องหลายวัน
เนื่องจากเราต้องเดินทางไปเมื่องอื่นต่อ เลยตัดสินใจไปค้นหาทุ่งลาเวนเดอร์กันที่เมืองที่เราเดินทางไปถึงเร็วที่สุด ก็คือแถวๆเมือง Crest, Die และ Chamaloc โดยเมืองที่สามนี้ เป็นเมืองที่น่าจะเก็บเกี่ยวช้าที่สุดด้วย ว่ากันว่าบางทีอาจจะเลทไปจนถึงกลางเดือนสิงหาคม
ต้องลุ้นและภาวนาตลอดการเดินทาง
The Lavender Road Trip is starting....
แล้ววันเดินทางก็มาถึงค่ะ เลิกงานวันศุกร์ เก็บกระเป๋าเดินทางให้พร้อม วันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม ล้อหมุน
ถึงจะรู้ว่ามีหวังเพียงน้อยนิด เพราะหลายเมืองเค้าเก็บเกี่ยวกันไปแล้ว แต่ยังไงก็ยังอยากไป ขอแค่ขับไปท่ามกลางท้องทุ่งก็ยังดี
ที่สำคัญกว่านั้นคือ พยากรณ์อากาศวันนี้ "ฝนตก" !!! ช่วยลุ้นกันหน่อยนะคะ
กว่าจะได้ออกจากบ้านและฝ่ารถติด เพราะเป็นวันที่คนฝรั่งเศสก็หยุดงานกันหมด อารมณ์เทศกาลวันหยุดยาว รถติดบนทางด่วน เคลื่อนที่ได้ช้ามาก
เรามาถึงเมือง Crest ก็บ่ายสามครึ่งแล้วค่ะ
ขับรถหาTourist Information Center(Office de Tourisme) ในเมือง Crest เพื่อจะไปถามหาทุ่งลาเวนเดอร์ที่คาดว่าจะยังไม่เก็บเกี่ยว
เจ้าหน้าที่บอกว่า ส่วนใหญ่เก็บไปหมดแล้วนะ แต่ว่าเมื่ออาทิตย์ที่แล้วที่เมือง Chamaloc ยังไม่เก็บ ลองไปดูได้ แต่เค้าก็ไม่แน่ใจ
ไหนๆก็มาแล้ว เจอไม่เจอไม่สำคัญ ขอให้ได้ผ่านทุ่งที่เก็บไปแล้วก็ยังดี
ขับรถหาตามเส้นทาง ที่วางไว้ .....ตลอดเส้นทางจาก Crest ไป Die ไม่เจอเลย
คือมาตามหาทุ่งลาเวนเดอร์ ป่านนี้ยังไม่เจอ ระหว่างทางเจอทุ่งทานตะวัน (Champs de Tournesol)เต็มไปหมด
คนพามาเลยบอกว่า "ทุ่งลาเวนเดอร์จะเจอไหมไม่รู้ แต่ทุ่งเหลืองเนี่ยเจอแน่ ถ่ายก่อนเลยไหม"
เหอะ!!! เอาวะ!!!
อารมณ์เหมือนเดินเล่นทุ่งทานตะวันแถวสระบุรีบ้านเรา
ขับไปจนใกล้ถึงเมือง Chamaloc ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆไม่ไกลจาก Die ยิ่งขับไป ฝนก็เริ่มตกปรอยๆ ความหวังยิ่งริบหรี่ ไม่เห็นทุ่งสีม่วงที่ไหนเลย เศร้ามาก ทั้งๆที่ทำใจมาแล้ว
กำลังจะตัดสินใจกลับกันแล้ว แต่เอ๊ะ ม่วงๆสองหย่อมไกลๆนั่นอะไร ขับวนกลับมาซิ ขับวนกลับจนมาเห็นป้ายบอกว่า "ที่นี่มีทุ่งและโรงงานสกัดเล็กๆ สามารถให้เข้าชมได้" เลยแวะเข้าไปดู
แล้วในที่สุด....ก็เจอทุ่งสุดท้ายในแถบ 3 เมืองทางเหนือของ Lavender Road ค่ะ
ทุ่งนี้ที่ถึงแม้จะตัดไปเกือบหมด เจ้าของบอกว่าเหลือไว้นิดหน่อยให้สวยงาม (ก็สองหย่อมสุดท้ายที่เห็นไกลๆนั่นแหละ)
เจ้าของทุ่งลาเวนเดอร์ เล่าเรื่องราวการปลูกและการเก็บเกี่ยว ตลอดจนการเอาลาเวนเดอร์มาสกัดน้ำมัน พาเดินชมโรงงานเล็กๆที่รับช่วงต่อมาจากครอบครัว เจ้าของเล่าว่า ปีนี้ทุ่งของเค้าออกดอกน้อย เก็บเกี่ยวได้ไม่เยอะเพราะอากาศไม่ค่อยดี ถ้าลงใต้ไปอีกหน่อยจะดีกว่านี้มาก
แล้วลาเวนเดอร์เนี่ยมันมีหลายชนิด แต่ละชนิดจะออกดอกไม่เหมือนกัน แผ่กิ่งก้านคนละแบบ ส่งผลให้ความสวยของท้องทุ่งจะต่างกันด้วย
แล้วเวลาเก็บเกี่ยวบางชนิดเอารถตัดเข้าไปเก็บใส่ถังมาเลย แต่บางชนิดตัดแล้วต้องมีคนไปมัดเป็นช่อบูเก้เอามาทำให้แห้งอีกทีก่อนสกัดน้ำมัน
เจ้าของเล่าอย่างสนุกสนาน เปิดเครื่องไม้เครื่องมือให้ดูทุกจุดเหมือนเราไปดูงานเลย สนุกดีค่ะ
ไม่ได้เห็นทุ่งม่วงๆกว้างสุดลูกหูลูกตา แต่ก็ประทับใจไม่น้อย เอาไว้รอบหน้า จะมาให้ตรงช่วงที่สวยที่สุด แบบไม่ต้องลุ้นเหมือนรอบนี้
ก่อนจะบอกลากันด้วยการซื้อของฝากกลับบ้านไปฝากแม่ เพราะแม่ชอบน้ำมันลาเวนเดอร์มาก เจอที่ไหนต้องลอง
วันนี้หมดเวลา ไม่สามารถขับลงไปทางตอนใต้กว่านี้เพื่อไปค้นหาทุ่งสีม่วงที่เหลือต่อไปได้
แต่ความสนุกไม่ได้อยู่ที่จุดหมายปลายทางใช่ไหมคะ เราคิดว่ามันสนุกตั้งแต่การเริ่มออกเดินทางและตลอดเส้นทางที่ผ่านมาแล้ว
เอาไว้มีโอกาสรอบหน้า จะวางแผนดีๆให้ตรงช่วงที่ลาเวนเดอร์บานแล้วสวยที่สุด และไม่ต้องลุ้นจนหัวใจเต้นแรงเหมือนรอบนี้
โดยเจ้าของทุ่งท่านนี้บอกไว้ว่า ให้โทรมาก่อนได้เลย จะเตรียมการต้องรับอย่างดี
จบ Lavender Road Trip แบบไม่เจอทุ่งสุดลูกหูลูกตาอย่างที่คาดไว้ แต่ก็สุขใจไม่น้อยเลยค่ะ
เพื่อนๆท่านไหนที่ไปมาแล้ว เอารูปมาอวดให้อิจฉากันหน่อยนะคะ เห็นหลายท่านเจอทุ่งสีม่วงสวยมาก เดี๋ยวจะไปตามรอยในปีถัดไปค่ะ
เที่ยวให้สนุกทุกคนนะคะ
A REMARKABLE JOURNEY
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น