วันนี้เราขอถือโอกาสเเนะนำให้เพื่อนชาวพันทิปได้ทำความรู้จักกับทุ่งลาเวนเดอร์ในประเทศฝรั่งเศสกันมากขึ้น จริงๆแล้ว เจ้าดอกไม้สีม่วงนี้ขึ้นได้หลายที่ในประเทศฝรั่งเศสค่ะ เเต่พื้นที่ที่เหมาะที่สุด คือ เเถบโพรวองซ์ ประเทศฝรั่งเศสนั่นเอง
เราเองยังไม่เคยไปสัมผัสด้วยตัวเองค่ะ เเต่มีโอกาสได้ฟังเรื่องราวจากผู้บริหารชาวฝรั่งเศส เลยถือโอกาสนี้เอามาเล่าทุกคนได้ฟังกัน ผู้บริหารของเรามีญาติอยู่ที่เมืองโพรวองซ์ค่ะ ตอนเด็กๆเลยมีโอกาสเเวะเวียนไปที่เเค้วนนี้บ่อยๆ
เขาเล่าให้ฟังว่าถ้าย้อนกลับไปสัก 20 ก่อน ทุ่งลาเวนเดอร์ไม่ได้เป็นที่นิยมมากเท่าในปัจจุบัน น้อยคนที่จะให้ความสนใจกับทุ่งดอกไม้นี้ เเม้เเต่ในปัจจุบัน ชาวฝรั่งเศสบางคนยังไม่ค่อยอินกับทุ่งลาเวนเดอร์กันเลยด้วยซ้ำ จะมีก็เเต่ชาวพื้นเมืองที่มีวิถีชีวิตผูกพันกับทุ่งลาเวนเดอร์
การเดินทางไปทุ่งลาเวนเดอร์ที่สะดวกที่สุด คือ การนั่งรถไฟไปลงที่เมือง Aix-en-Provence ซึ่งตั้งอยู่ในเเคว้นโพรวองซ์ จากนั้นเช่ารถขับ หรือซื้อทัวร์ไปล่วงหน้าค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะว่าทุ่งลาเวนเดอร์ส่วนใหญ่ไม่ได้ตั้งอยู่ในตัวเมือง แถมยังไม่ค่อยมีรถประจำทางผ่านด้วย
อย่างที่บอกว่าดอกลาเวนเดอร์มีขึ้นให้เห็นได้หลายๆที่ในประเทศฝรั่งเศส ไม่เเปลกค่ะถ้าจะเคยเดินเล่นในสวนสาธารณะที่ปารีสเเล้วเจอดอกไม้สีม่วงๆที่มีกลิ่มหอม เเต่ถ้าอยากเห็นเป็นทุ่งบานสะพรั่ง ต้องโพรวองซ์เท่านั้นค่ะ
3 ที่หลักในโพรวองซ์ที่ควรจดลงลิสต์ คือ Luberon, Valensole Plateau, และ Sault Plateau
จากคำบอกเล่าของผู้บริหาร เขามาค่ะว่าที่ Luberon ดูเหมือนจะเป็นที่นิยมมากที่สุดในบรรดาทุ่งลาเวนเดอร์ในเมืองโพรวองซ์ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เนื่องมากจากว่าในพื้นที่ของ Luberon นั้นมีหมู่บ้านสวยๆตั้งอยู่ เช่น Gordes, Lourmarin, Bonnieux และ Banon เป็นต้น เเต่ถ้าพูดถึงความเเน่นของสีม่วงก็อาจจะเเพ้ Valensole และ Sault อยู่นิดหน่อย
อีกที่ที่พลาดไม่ได้เมือมาถึง Luberon คือ การไปถ่ายรูปทุ่งลาเวนเดอร์ที่ด้านข้างสำนักสงฆ์หรือโบสถ์ Sénanque (Abbaye de Sénanque) โบสถ์นี้สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 และยังใช้เป็นที่อยู่ของบาทหลวงมาจนถึงปัจจุบัน เพิ่มเติมอีกนิด ทุ่งลาเวนเดอร์ที่เห็นอยู่ จริงๆก็เป็นทุ่งลาเวนเดอร์ที่ได้รับการดูแลจากบากหลวงที่อาศัยอยู่ที่นี่นั่นเอง
มาต่อกันที่ Valensole โดยปกติเเล้วช่วงเวลาเก็บเกี่ยวลาเวนเดอร์ในพื้นที่ Valensole Plateau คือวันที่ 20 กรกฎาคมของทุกปี (อาจมีการเปลี่ยนแปลง)
สำหรับใครที่มาเที่ยวดูลาเวนเดอร์ในช่วงปลายกรกฎาคมหรือต้นสิงหาคม ผู้บริหารของเราเเนะนำมาค่ะว่าให้ไปที่ทางเหนือของเเถบบทิวเขา Vaucluse ซึ่งล้อมรอบหมู่บ้านของเมือง Sault และ Aurel อยู่นั่นเอง
ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการไปดูลาเวนเดอร์ เราลิสต์มาให้เเล้วค่ะ ตามนี้เลย
Luberon - ตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนไปจนถึงกลางเดือนกรกฎาคม
Valensole Plateau - ตลอดเดือนกรกฎาคม
Sault Plateau - ตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมถึงกลางเดือนสิงหาคม
นอกจากสีสันที่สวยงามแล้ว ดอกลาเวนเดอร์ยังมีสรรพคุณในการบรรเทาโรคด้วยค่ะ เเต่ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าดอกลาเวนเดอร์ที่เราเห็นกันนี่ มีอยู่สองสายพันธุ์หลักๆค่ะ คือ ดอกลาเวนเดอร์แท้ๆ (lavande "vraie" หรือ true lavender หรือ lavandula angustifolia) และลาเวนเดอร์ลูกผสม (lavandin หรือ lavandula intermedia)
ลาเวนเดอร์แท้ๆ จะปลูกบนเนินเขาที่มีความสูง 700 เมตร ซึ่งเป็นเนินเขาที่สูงที่สุดในโพรวองซ์ ลาเวนเดอร์แท้ๆจะสามารถนำมาผลิตน้ำมันสกัดที่เข้มข้นและมีคุณภาพสูง สามารถนำไปผลิตเป็นน้ำหอม ผลิตภัณฑ์อาบน้ำต่างๆได้ ส่วนลาเวนเดอร์พันธุ์ผสมซึ่งจะมีกลิ่นที่หอมรุนเเรงจนเรียกว่าฉุน ดังนั้นก็คงไม่แปลกที่จะพูดว่าลาเวนเดอร์แท้มีสรรพคุณดีกว่าในการช่วยบรรเทาเเละผ่อนคลาย รวมไปถึงการฆ่าเชื่อโรค ต้านความเจ็บปสด ลดอาการปวดศรีษะ บรรเทาความกังวล ช่วยให้นอนหลับสบาย รวมไปถึงลดอาการเจ็บปวดจากการเเพ้หรือแมลงสัตว์กัดต่อย
ตลอดฤดูร้อย หลายหมู่บ้านในโพรวองซ์จะมีการจัดงานเฉลิฉลองการเก็บเกี่ยวดอกลาเวนเดอร์ ซึ่งในงานเทศกาลเฉลิฉลองนี้จะประกอบไปด้วยการเต้นรำ คอนเสิร์ต เกมส์ งานแสดงสินค้าเพื้นเมืองเเละตลาดต่างๆ การเข้าร่วมงานเทศกาลก็นับว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ซึมซับวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวเมืองโพรวองซ์
ช่วงเวลาของเทศกาลลาเวนเดอร์นั้นจะจัดในช่วงเดือนกรกฎาคมไปจนถึงกลางเดือนสิงหาคม เทศกาลที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ เทศกาลของเมือง Valensole (จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม ไปจนถึงวันที่ 20 กรกฎาคม) เทศกาล Dignes les Bains (จัดขึ้นในช่วงต้นเดือนสิงหาคม) และ Sault (จัดขึ้นประมาณวันที่ 15 สิงหาคม)
ปีนี้อาจจะช้าไปหน่อยสำหรับการเตรียมตัว เเต่ถ้าใครสนใจก็รีบจองตั๋วเเล้วเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับปีหน้าเลยค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติม เข้าไปตามกันได้ที่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.obonparis.com/th/magazine/lavender-in-provence-1
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.obonparis.com/th/magazine/lavender-fields-of-valensole
"ม่วงฉ่ำใจในทุ่งลาเวนเดอร์ โพรวองซ์"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้