สวัสดีครับ

  นานแล้วที่ไม่ได้ตั้งกระทู้ในพันทิป วันนี้ขอรีวิวยางสำหรับรถจักรยานยนต์พิกัด 250 - 300 ซีซีซัก 1 รุ่นละกันนะครับ...

* ออกตัวก่อนนะว่ารีวิวสไตล์ผมมันออกแนว Dirty world นิดๆ แต่ก็ไม่ถึงขนาดที่ว่าวิจารณ์ไม่ได้เลย และก็ไม่ได้อิงทฤษฎีอะไรมากจนเกินไปนัก แค่เอาประสบการณ์ที่เคยพบเจอจากการใช้งานจริงมาคลุกๆรวมไปด้วยพอเป็นน้ำจิ้ม ไม่ได้ขายของ ไม่ได้รับเงินใครมาเขียน เสียเงินแล้วต้องวิจารณ์สินค้าได้ ถ้าใครอ่านแล้วไม่ถูกจริต รบกวนข้ามผ่านไปได้เลยจร้าา

** เข้าหน้าฝน รถเลยไม่ได้ทำพิธีขอฝนแต่อย่างใด เขรอะสุดพลัง

*** ภาพประกอบอื่นๆที่ไม่ได้ถ่ายเอง เครดิตตามที่มีในรูปเลยครับผม

#############


   อันเนื่องมาจาก...ยางหลังไออาร์ซีสุดหนึบได้เวลาปลดประจำการ บวกกับกำลังมองหายางที่เน้นใช้งานนานๆหน่อย เลยลองหาข้อมูลจากหลายๆที่ รวมทั้งเทียบสเป็กและราคา รวมทั้งระยะทางจากบ้านไปร้าน หวยเลยมาออกที่เจ้าตัวนี้...

Pirelli Diablo Rosso ll "Radialiono"



   ด้วยความที่รสนิยมสูง ต้นทุนต่ำ อยากได้อะไรที่มันคุ้มๆและถูกใจในคราวเดียว และอยู่ในราคาที่พอเอื้อมถึง ก็มองเทียบกันอยู่ 2 รุ่น คือ Bridgestone BT-39 กับเจ้าตัวนี้ โดยถ้าตามสเป็กในกระดาษ เจ้าตัวแรกจะเป็นยางผ้าใบธรรมดา หน้ายางกว้างเกินเบอร์ที่มันควรจะเป็น(ชอบตรงนี้แหละ เลยหาคู่เปรียบเรื่องเบ่งกล้ามบนแม็กเดิมในราคาใกล้เคียงกันยากหน่อย) หน้าตาเป็นแบบนี้...



   หลายท่านในที่นี้ใช้มันเดินทางไปไหนต่อไหนมาหลายหมื่นโล คงพอทราบกิตติศัพท์ของมันอยู่ว่าดี คุ้ม ทน ใช้นานจนดอก 0% กันเลยทีเดียว

   แต่เจ้าตัวหลัง ตามสเป็กบอกว่าเป็นเรเดียล แถมราคาถูกกว่าและเพิ่งออกมาไม่นาน ดูสเป็กคร่าวๆแล้วก็น่าสนใจดี แต่ก็ยังติดใจเรื่องความกว้างของหน้ายางอยู่ เลยต้องลองพิสูจน์ด้วยตัวเองดูว่ามันจะดีหรือร้ายแค่ไหน? อย่างไร?



   สเป็กในกระดาษบอกว่าเป็นยางรุ่นที่ปรับปรุงส่วนผสมให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น ซึ่งเป็นรองตัว HR แต่ดีกว่า Sport Demon และ Sport Dragon แถมได้อานิสงค์มาจากตัว HR หลายอย่างอยู่ อันนี้ก็ต้องดูกันไปยาวๆ

(หารูปสเป็กที่ชัดสุดๆได้แค่นี้จริงๆครับ T^T)



##################


หารีวิวอ่านยากชะมัด ซื้อมารีวิวเองแมร่มเรยย

   หลังจากหาข้อมูลมาศึกษาได้ในระยะเวลาอันสั้นแล้ว ก็โทรโทรสอบถามทางร้านดูก่อน โอเค มีของ พอวันวันหยุด มีเวลา ก็วิ่งตรงไปที่ร้านตัวแทนย่านอ่อนนุช แจ้งความจำนงค์กับทางร้านไป ช่างก็แนะนำในสิ่งที่ถูกต้องให้หลายๆเรื่อง บริการดี ไม่มีท่าทีด้านลบกับลูกค้า (โดยเฉพาะสารรูปยาจกอย่างผม)



   เอารถเข้าพิท เตรียมย้ายค่าย(ยาง)ละโว๊ยย!!!



   แว่บแรกที่ช่างเอายางออกมาเตรียมเพื่อเปลี่ยนให้ อุ๊แม่เจ้า... เบอร์ 140 แต่หน้าบานยังกะจานดาวเทียม หน้ายางตรงเป๊ะยังกะยางรถยนต์ แปลกตาดีแท้



   ไซส์ยางที่เลือกเป็นขนาด 140/70/17 (จริงๆมีขนาด 140/60/17 ด้วย แต่ผมก็ไม่รู้หรอกว่าถ้าเอายางแก้มเตี้ยๆมาใส่กับแม็กเดิมหน้าแคบๆแล้วมันจะสวยมั้ย? เลยเลือกแก้มสูงๆไว้เผื่อหุบ(ตรรกะวิบัติสุดๆ 5555+)

   ค้นดูรูปตามเว็บที่ขายยางตัวนี้ ไม่มีรูปยางขนาด 140 ในนินจาล้อกระทะ 3.5 นิ้วให้เสิร์ชหาดูเลย  มีแต่ใส่ในรถพิกัด 300 ซีซีขนาดล้อ 4 นิ้ว มันเลยยังติดภาพยางหน้าแคบๆแก้มบีบๆอยู่



   แล้วก็คิดต่อไปอีกว่า พอยัดยางเข้าไปแล้วหน้ายางมันจะเบ่งบานเต็มซุ้มล้อแบบที่วาดฝันไว้มั้ยว๊า? (BT-39 ขนาด 130 หน้าบานเกือบๆ 140 แต่จากที่เคยเห็นรถเพื่อนใส่ Rosso ll ตัวที่สเป็ก HR ในเบอร์ 140 แล้ว แก้มมันหุบ หน้ายางแคบลงแบบเห็นได้ชัดเลย แถมลายดอกยางดูไม่เข้ากับยางไซส์นี้เอาซะเลย ห่างๆกันยังไงไม่รู้)

   ขอยืมภาพประกอบจากน้องในกลุ่มไลน์นินจานะครับ



   นั่งรอลุ้นว่าใส่แล้วจะออกมาหน้าตาเป็นยังไง (ยิ่งกว่าลุ้นหวยอีก 555+)



   รอไม่นาน ช่างก็เอาล้อกลับมาใส่คืนให้ พอประกอบล้อเข้ากับรถเท่านั้นแหละ....ว้าวว!!!!

   หน้ายางโดยรวมไม่ได้แคบลงอย่างที่คิดแฮะ



   เทียบกับไออาร์ซีเบอร์ 140 เส้นเก่าแล้วเจ้าตัวนี้กว้างกว่าพอสมควร ที่เห็นไออาร์ซีกว้างพอๆกันนั่นเพราะมันถูกถอดออกจากล้อเลยดูกว้าง แต่จริงๆตอนใส่กับล้อแล้ววัดออกมาหน้ากว้างจริงๆแค่ 130 เอง แต่เจ้าตัวใหม่นี่ วัดออกมาแล้วได้ 140 เป๊ะๆ! (ไม่ได้ถ่ายรูปตอนใช้ฟุตเหล็กทาบขอบยางสองข้างแล้วเอาตลับเมตรวัดนะครับ ทำคนเดียวเลยไม่มีมือจะถือกล้องถ่าย)



   แก้มยางที่หุบแบบพอดี โค้งมนพร้อมที่จะเล่นโค้งสบายๆ เริ่มดูมีความหวังขึ้นมาบ้างละ



   ลายยาง ตัวนี้ลายเดิมแต่ดูถี่ขึ้นกว่าตัว HR ส่วนตัวผมว่าความถี่ของลายยางประมาณนี้มันดูสวยขึ้นนะ และก็น่าจะรีดน้ำได้ดีตอนขี่บนถนนเปียกๆ



   ยางเส้นนี้ถึงราคาจะไม่แพง แต่ก็มีใบรับประกันความเสียหายที่เกิดจากขั้นตอนการผลิตด้วยนะ ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกว่ามีประกันด้วย อืม...มีไว้ก็ดี



###########


   เอาล่ะ! หาเรื่องเหลายางหน่อย เส้นทางอ่อนนุช - รามคำแหง (วิ่งไปซื้ออะไหล่แถวร้านขุนนางแดง) แล้วก็วนกลับปากน้ำ

   สลาลมเบาๆ ขัดไขที่เคลือบหน้ายางก่อน แล้วก็วิ่งทางตรงยาวๆดู มีโค้งให้เล่นบ้างนิดหน่อย ช่วงเปิดคันเร่งตอนสลาลมมีสไลด์เบาๆให้พอตื่นเต้น พอวิ่งยาวๆจนยางร้อนแล้วก็หาพื้นคอนกรีตทดสอบแก้มยางดู อืม...มันก็หนึบดีนี่หว่า (ก็แน่ละ ยังมันยังใหม่อยู่ แต่หลังจากนี้ซัก 2-3 เดือนค่อยดูกันอีกทีว่าจะยังหนึบอยู่มั้ย?)



   ด้วยขอบยางที่พร้อมจะเล่นโค้ง มันจึงเป็นยางพาพับที่ดีอีกตัวหนึ่ง พลิกรถได้เร็ว เบาแรง ทำหน้าที่ของมันได้ดีทีเดียว แต่...

...มีช่วงนึงที่ลองขับปีนเส้นถนน ด้วยความที่ฝังใจมานานว่า ยางเรเดียลมันต้องให้เสถียรภาพที่ดี ไม่ว่อกแว่กเวลาเจอทางต่างระดับหรือปีนเส้นถนนสิฟร๊ะ ทำไมตอนเหยียบขึ้นไปบนเส้นถนนแล้วมันลื่นๆแฉลบๆ หรือเพราะยางมันยังใหม่อยู่??? (ท่านใดพอมีความรู้เกี่ยวกับยางเรเดียลกับยางผ้าใบ ช่วยเสริมความรู้หน่อยละกันนะครับ เพราะผมไม่เคยลองใช้ยางเรเดียลมาก่อนเลยจริงๆ)

   ลืมไปอีกเรื่อง ก้มลงไปดูที่แก้มยาง ปั๊มไว้ชัดเจนว่า Made in Brazil อันนี้ผมไม่ซีเรียสอะไรมากกับฐานการผลิต ขอแค่ผลิตภัณฑ์ของคุณทำออกมาได้ตามมาตรฐานที่ควรจะเป็นและใช้งานได้ดีก็พอแล้วล่ะ



   (บางคนก็อคติกับฐานการผลิตเกิ๊น เห็นว่ามาจากประเทศนู่นนี่นั่นที่ชื่อเสียงไม่ดีเด่นเท่าประเทศชั้นนำ ก็เอามาเป็นประเด็นโจมตีต่างๆนาๆ จะบอกว่า... ของอะไรก็ตามที่ผลิตจากประเทศที่ต้องการลดต้นทุนแรงงาน แต่หากรักษามาตรฐานและ QC ตามบริษัทแม่ได้ และประสิทธิภาพการใช้งานดีเหมือนเดิม ก็อย่าไปซีเรียสอะไรมาก จะพาให้จิตตกเปล่าๆ)

##########


สรุป : ผมแฮปปี้นะกับขนาดและทรงยาง รวมทั้งความหนึบที่มีมาให้สมราคาค่าตัวของมัน ยางตัวนี้เหมาะสำหรับสายทัวริ่งที่ชอบเสพโค้ง  หรือท่านที่ใช้งานในเมืองแล้วต้องซอกแซกรถติดๆ ผมว่ายางตัวนี้ค่อนข้างตอบโจทย์ แต่ถ้าอยากเล่นโค้งหรือขี่โหดๆ ศอกเช็ดพื้นในสนาม ไว้ผมมีเวลาว่างแล้วจะไปทดสอบและกลับมารีวิวให้ฟังอีกทีครับ



   จบดื้อๆแบบนี้แหละ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านครับ