13:03 04/08/2015
"อาซีฟา"ไม่กังวลตลาดหุ้นไทยผันผวน, มั่นใจราคาหุ้นวันแรก สูงกว่า IPO
กรุงเทพฯ--4 ส.ค.--รอยเตอร์
ผู้บริหารบมจ.อาซีฟา(ASEFA) ผู้ผลิต จัดจำหน่ายและติดตั้งผลิตภัณฑ์
กระจายและส่งจ่ายไฟฟ้า สวิตซ์บอร์ดไฟฟ้า รางสายไฟ โคมไฟและระบบส่องสว่าง
มั่นใจหุ้นที่จะเข้าซื้อขายในวันพรุ่งนี้(5 ส.ค.) ราคาจะสูงกว่าราคา IPO ซึ่ง
กำหนดไว้ที่ 3.70 บาท และไม่กังวลตลาดหุ้นผันผวน
ขณะที่บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 20-25% จากปีก่อน
"เราค่อนข้างมั่นใจว่า ราคาหุ้นจะยืนเหนือจองได้ เพราะบริษัทมีปัจจัย
พื้นฐานที่ดี และเสนอขายในระดับที่มีส่วนลดที่น่าสนใจ ดังนั้น ถ้าถามว่าตอนนี้
กังวลหรือไม่กับภาวะตลาดที่ปรับตัวลดลง ก็ต้องตอบว่า เลยจุดที่ต้องกังวลมาแล้ว"
นายไพบูลย์ อังคณากรกุล กรรมการผู้จัดการ ASEFA กล่าวกับผู้สื่อข่าว
ASEFA เสนอขายหุ้น IPO จำนวน 150 ล้านหุ้น โดยขายให้กับ
ประชาชนทั่วไป 140 ล้านหุ้น และอีก 10 ล้านหุ้น ขายให้แก่กรรมการ
ผู้บริหาร พนักงานของบริษัท โดยมีบล.ฟินันเซีย ไซรัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
ขณะที่ตลาดหุ้นไทยพักเที่ยง ลบ 0.64% มาที่ 1,432.82
เขากล่าวว่า บริษัทจะนำเงินทุนที่ได้จากการระดมทุน ไปชำระคืนเงิน
กู้สถาบันการเงินทั้งระยะสั้นและระยะกลาง มูลค่า 280 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้
สัดส่วนหนี้สินต่อทุนหลัง IPO เหลือราว 1 เท่า จากปัจจุบันที่ราว 2.5 เท่า
ส่วนที่เหลือ จะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
เขา กล่าววา บริษัทเป็นผู้นำในธุรกิจผลิต และจำหน่ายสวิตซ์บอร์ด
ของไทย อีกทั้งมีแนวโน้มการขยายตัวของผลระกอบการอย่างต่อเนื่อง ขณะที่
ราคาหุ้น IPO มีส่วนลดประมาณ 25% แก่นักลงทุนที่จองซื้อหุ้น
นายไพบูลย์ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้เพิ่มขึ้น 20-25% จาก
ปีก่อนที่มีราว 1.7 พันล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรสุทธิปีนี้ คาดว่าจะกลับมา
อยู่ในระดับปกติที่ราว 8% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ราว 6.5% เนื่องจากบริษัท
มีงานในมือ(backlog) สูงถึง 1.2 พันล้านบาท และคาดว่าจะรับรู้ในปีนี้
เกือบ 1 พันล้านบาท จึงน่าจะทำให้ผลประกอบการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ
อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนขยายกำลังการผลิต โดยจะใช้งบลงทุน
ราว 130 ล้านบาท สำหรับการสร้างโรงงานและซื้อเครื่องจักรด้านสายงาน
โลหะและงานประกอบไฟฟ้า เนื่องจากปัจจุบันใช้กำลังผลิตสูงถึง 70-80% แล้ว
ดังนั้น หลังขยายกำลังการผลิต ก็จะช่วยให้บริษัทมีกำลังการผลิต
เพิ่มขึ้นราว 50% ของกำลังการผลิตเดิม และคาดว่าจะรองรับความต้องการ
ของลูกค้าไปได้ในระยะเวลา 2-3 ปี
โดยปัจจุบันงานโลหะมีกำลังการผลิต อยู่ที่ 4.8 พันตันต่อปี และ
งานประกอบไฟฟ้า 1.6 หมื่นตู้ต่อปี
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนขยายสาขาด้านศูนย์จัดจำหน่ายและให้บริการ
ในต่างจังหวัด เช่น อุบลราชธานี, อุดรธานี และตาก มูลค่า 30 ล้านบาท
โดยจะเริ่มตั้งแต่ไตรมาส 3/58 และคาดว่าในช่วงกลางปี 59 จะมีสาขาใน
ต่างจังหวัด ครบ 10 สาขา จากปัจจุบันที่ยังไม่มีสาขาในต่างจังหวัด
การขยายสาขาดังกล่าว เพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุนใน
ต่างจังหวัด รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน
เขา กล่าวว่า บริษัทมีแผนหาพันธมิตรใหม่ในการร่วมกันสร้างโรงงาน
เพื่อผลิตและประกอบสินค้าต้นน้ำสำหรับต่อยอดธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการ
ศึกษาว่า จะใช้รูปแบบการร่วมทุน หรือให้เข้ามาถือหุ้นของบริษัท จึงยังไม่มี
ข้อสรุป--จบ--
(โดย วิรัช บูรณกนกธนสาร เรียบเรียง--บร--)
((wirat.buranakanokthanasan@thomsonreuters.com;
อาซีฟา"ไม่กังวลตลาดหุ้นไทยผันผวน, มั่นใจราคาหุ้นวันแรก สูงกว่า IPO กรุงเทพฯ--4 ส.ค.--รอยเตอร์ @@@@@@@@@@@@@@
"อาซีฟา"ไม่กังวลตลาดหุ้นไทยผันผวน, มั่นใจราคาหุ้นวันแรก สูงกว่า IPO
กรุงเทพฯ--4 ส.ค.--รอยเตอร์
ผู้บริหารบมจ.อาซีฟา(ASEFA) ผู้ผลิต จัดจำหน่ายและติดตั้งผลิตภัณฑ์
กระจายและส่งจ่ายไฟฟ้า สวิตซ์บอร์ดไฟฟ้า รางสายไฟ โคมไฟและระบบส่องสว่าง
มั่นใจหุ้นที่จะเข้าซื้อขายในวันพรุ่งนี้(5 ส.ค.) ราคาจะสูงกว่าราคา IPO ซึ่ง
กำหนดไว้ที่ 3.70 บาท และไม่กังวลตลาดหุ้นผันผวน
ขณะที่บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 20-25% จากปีก่อน
"เราค่อนข้างมั่นใจว่า ราคาหุ้นจะยืนเหนือจองได้ เพราะบริษัทมีปัจจัย
พื้นฐานที่ดี และเสนอขายในระดับที่มีส่วนลดที่น่าสนใจ ดังนั้น ถ้าถามว่าตอนนี้
กังวลหรือไม่กับภาวะตลาดที่ปรับตัวลดลง ก็ต้องตอบว่า เลยจุดที่ต้องกังวลมาแล้ว"
นายไพบูลย์ อังคณากรกุล กรรมการผู้จัดการ ASEFA กล่าวกับผู้สื่อข่าว
ASEFA เสนอขายหุ้น IPO จำนวน 150 ล้านหุ้น โดยขายให้กับ
ประชาชนทั่วไป 140 ล้านหุ้น และอีก 10 ล้านหุ้น ขายให้แก่กรรมการ
ผู้บริหาร พนักงานของบริษัท โดยมีบล.ฟินันเซีย ไซรัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
ขณะที่ตลาดหุ้นไทยพักเที่ยง ลบ 0.64% มาที่ 1,432.82
เขากล่าวว่า บริษัทจะนำเงินทุนที่ได้จากการระดมทุน ไปชำระคืนเงิน
กู้สถาบันการเงินทั้งระยะสั้นและระยะกลาง มูลค่า 280 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้
สัดส่วนหนี้สินต่อทุนหลัง IPO เหลือราว 1 เท่า จากปัจจุบันที่ราว 2.5 เท่า
ส่วนที่เหลือ จะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
เขา กล่าววา บริษัทเป็นผู้นำในธุรกิจผลิต และจำหน่ายสวิตซ์บอร์ด
ของไทย อีกทั้งมีแนวโน้มการขยายตัวของผลระกอบการอย่างต่อเนื่อง ขณะที่
ราคาหุ้น IPO มีส่วนลดประมาณ 25% แก่นักลงทุนที่จองซื้อหุ้น
นายไพบูลย์ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้เพิ่มขึ้น 20-25% จาก
ปีก่อนที่มีราว 1.7 พันล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรสุทธิปีนี้ คาดว่าจะกลับมา
อยู่ในระดับปกติที่ราว 8% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ราว 6.5% เนื่องจากบริษัท
มีงานในมือ(backlog) สูงถึง 1.2 พันล้านบาท และคาดว่าจะรับรู้ในปีนี้
เกือบ 1 พันล้านบาท จึงน่าจะทำให้ผลประกอบการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ
อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนขยายกำลังการผลิต โดยจะใช้งบลงทุน
ราว 130 ล้านบาท สำหรับการสร้างโรงงานและซื้อเครื่องจักรด้านสายงาน
โลหะและงานประกอบไฟฟ้า เนื่องจากปัจจุบันใช้กำลังผลิตสูงถึง 70-80% แล้ว
ดังนั้น หลังขยายกำลังการผลิต ก็จะช่วยให้บริษัทมีกำลังการผลิต
เพิ่มขึ้นราว 50% ของกำลังการผลิตเดิม และคาดว่าจะรองรับความต้องการ
ของลูกค้าไปได้ในระยะเวลา 2-3 ปี
โดยปัจจุบันงานโลหะมีกำลังการผลิต อยู่ที่ 4.8 พันตันต่อปี และ
งานประกอบไฟฟ้า 1.6 หมื่นตู้ต่อปี
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนขยายสาขาด้านศูนย์จัดจำหน่ายและให้บริการ
ในต่างจังหวัด เช่น อุบลราชธานี, อุดรธานี และตาก มูลค่า 30 ล้านบาท
โดยจะเริ่มตั้งแต่ไตรมาส 3/58 และคาดว่าในช่วงกลางปี 59 จะมีสาขาใน
ต่างจังหวัด ครบ 10 สาขา จากปัจจุบันที่ยังไม่มีสาขาในต่างจังหวัด
การขยายสาขาดังกล่าว เพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุนใน
ต่างจังหวัด รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน
เขา กล่าวว่า บริษัทมีแผนหาพันธมิตรใหม่ในการร่วมกันสร้างโรงงาน
เพื่อผลิตและประกอบสินค้าต้นน้ำสำหรับต่อยอดธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการ
ศึกษาว่า จะใช้รูปแบบการร่วมทุน หรือให้เข้ามาถือหุ้นของบริษัท จึงยังไม่มี
ข้อสรุป--จบ--
(โดย วิรัช บูรณกนกธนสาร เรียบเรียง--บร--)
((wirat.buranakanokthanasan@thomsonreuters.com;