เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า..
ระหว่างที่กำลังนั่งอยู่บนรถเพื่อน ผมแอบเหลียวไปมองกระจกมองหลังที่อยู่ด้านข้าง
แล้วก็นึกไปถึงสมัยที่เพิ่งหัดขับรถใหม่ๆ ตอนนั้นครูที่สอนขับรถบอกว่า
"เวลาขับรถ... ให้มองตรงไปข้างหน้า อย่ามัวแต่หันไปสนใจกระจกมองหลัง
หรือรถที่อยู่ด้านหลัง จนลืมดูรถที่อยู่ข้างหน้า ให้เหลียวมองดูข้างหลังได้บ้าง
เวลาที่เราตัดสินใจจะเปลี่ยนเลน หรือดูว่ามีใครกำลังจะแซงเราขึ้นมารึเปล่า"
ชีวิตก็เหมือนกับการขับรถ..
ถ้าอยากมุ่งไปข้างหน้า ก็ต้องมองตรงไปข้างหน้า
แต่ทำไม หลายคนถึงยังเสียเวลาอยู่กับการมองกลับไปข้างหลัง?
เพื่อนๆเคยเสียเวลาไปกับการคิด วกไปวนมา อยู่กับเหตุการณ์ หรือเรื่องราวที่ผ่านไปแล้วรึเปล่า?
เคยนั่งกลุ้มใจ คิดไม่ตกกับสิ่งที่ทำลงไปแล้ว จนพาลเป็นกังวล จนนทำอะไรไม่ได้ไปทั้งวันรึเปล่า?
หรือ เคยมีโมเมนต์นั่งซึม เศร้า เหงาหงอย หมดอาลัยตายอยาก จมอยู่กับภาพในอดีต ที่ผ่านไปแล้ว
แต่เราเองที่ยังนึกถึงมันอยู่ตลอดเวลารึเปล่า?
บางครั้ง..เราก็เสียเวลาไปกับกระจกมองหลังของตัวเองมากเกินไป
ชีวิตก็เหมือนการขับรถ ไม่ว่าเราจะเคยเสียหลักขับไปเฉี่ยวชนใคร หรือถูกใครมาชน
สิ่งที่เราต้องทำ ก็เพียงแค่หยุดรถ ลงไปจัดการเคลียร์ปัญหานั้นให้เสร็จสิ้น
แล้วกลับขึ้นรถ ขับมุ่งตรงไปข้างหน้ายังจุดหมายปลายทางของเราต่อไป
ชีวิต..คือการมุ่งไปข้างหน้า คนที่เอาแต่พะวงกับสิ่งที่ได้ทำลงไปแล้ว
หรือเอาแต่จมอยู่กับเรื่องราวที่จบลงไปแล้ว ก็คงไม่ต่างอะไรไปกับคนที่ขับรถอยู่
แต่สายตาเอาแต่คอยเหลียวมองไปข้างหลังอยู่ตลอดเวลา
ผลสุดท้าย..คุณอาจขับรถไถลออกนอกเส้นทาง เสียหลัก
หรือชนเข้ากับสิ่งกีดขวางที่กั้นอยู่ข้างหน้า..แต่คุณมองไม่เห็น
เสียงของครูสอนขับรถดังขึ้นอีกครั้ง
“เวลาขับรถ ให้มองไปข้างหน้า”
ชีวิตก็เช่นกัน เราต้องคอยบอกตัวเองอยู่ตลอดเวลา ว่าสิ่งที่เราต้องทำ และควรทำ คือการมองไปข้างหน้า
เราอาจแอบเหลียวมองไปข้างหลังบ้างได้ ในเวลาที่เราอยากทบทวนเรื่องราวในอดีต
หรือเวลาที่เราต้องตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง การได้มองย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ที่ผ่านมา ก็อาจช่วยให้เรา
ตัดสินใจทำอะไรได้ถูกต้องขึ้น หรือเราอาจมองไปข้างหลัง เพื่อทบทวนความผิดพลาดในอดีต
และคอยระวังอันตราย ว่าความผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้นนั้น จะต้องไม่เกิดขึ้นซ้ำอีก
เราแอบเหลียวมองไปข้างหลังได้ แต่ไม่ใช่เอาแต่จดจ้องอยู่กับมัน จนทำให้ชีวิต..เสียหลัก
ชีวิตคือการมุ่งไปข้างหน้า ไม่ว่าเราจะพร้อม หรือไม่ก็ตาม
อย่าเสียเวลาไปกับการนั่งมองกระจกมองหลังอยู่เลย
อย่าให้สิ่งที่ผ่านไปแล้ว มีค่ากว่าสิ่งที่กำลังจะมาถึง
เรากลับไปแก้ไขเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้วไม่ได้ แต่เราสามารถป้องกันไม่ให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นซ้ำอีกได้
เราเปลี่ยนแปลงเรื่องราวเลวร้ายในอดีตไม่ได้ แต่เราทำวันนี้ พรุ่งนี้ ให้เป็นวันที่ดีที่สุดของเราได้
กระจกมองหลัง..มีไว้ให้เรา คอย"ระวัง"สิ่งที่อยู่ข้างหลัง
ไม่ได้มีไว้ให้เรา "สนใจ" อยู่แต่กับสิ่งที่อยู่ด้านหลัง
คนที่เอาแต่นั่งจ้องกระจกมองหลัง จะมีก็แต่คนที่กำลังขับรถ..ถอยไปข้างหลังเท่านั้นล่ะ
เพื่อนๆว่าจริงรึเปล่า?
ชื่อว่า"ความหลัง" แต่ไม่เคยถูกทิ้งไว้ "ข้างหลัง"
เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า..
ระหว่างที่กำลังนั่งอยู่บนรถเพื่อน ผมแอบเหลียวไปมองกระจกมองหลังที่อยู่ด้านข้าง
แล้วก็นึกไปถึงสมัยที่เพิ่งหัดขับรถใหม่ๆ ตอนนั้นครูที่สอนขับรถบอกว่า
"เวลาขับรถ... ให้มองตรงไปข้างหน้า อย่ามัวแต่หันไปสนใจกระจกมองหลัง
หรือรถที่อยู่ด้านหลัง จนลืมดูรถที่อยู่ข้างหน้า ให้เหลียวมองดูข้างหลังได้บ้าง
เวลาที่เราตัดสินใจจะเปลี่ยนเลน หรือดูว่ามีใครกำลังจะแซงเราขึ้นมารึเปล่า"
ชีวิตก็เหมือนกับการขับรถ..
ถ้าอยากมุ่งไปข้างหน้า ก็ต้องมองตรงไปข้างหน้า
แต่ทำไม หลายคนถึงยังเสียเวลาอยู่กับการมองกลับไปข้างหลัง?
เพื่อนๆเคยเสียเวลาไปกับการคิด วกไปวนมา อยู่กับเหตุการณ์ หรือเรื่องราวที่ผ่านไปแล้วรึเปล่า?
เคยนั่งกลุ้มใจ คิดไม่ตกกับสิ่งที่ทำลงไปแล้ว จนพาลเป็นกังวล จนนทำอะไรไม่ได้ไปทั้งวันรึเปล่า?
หรือ เคยมีโมเมนต์นั่งซึม เศร้า เหงาหงอย หมดอาลัยตายอยาก จมอยู่กับภาพในอดีต ที่ผ่านไปแล้ว
แต่เราเองที่ยังนึกถึงมันอยู่ตลอดเวลารึเปล่า?
บางครั้ง..เราก็เสียเวลาไปกับกระจกมองหลังของตัวเองมากเกินไป
ชีวิตก็เหมือนการขับรถ ไม่ว่าเราจะเคยเสียหลักขับไปเฉี่ยวชนใคร หรือถูกใครมาชน
สิ่งที่เราต้องทำ ก็เพียงแค่หยุดรถ ลงไปจัดการเคลียร์ปัญหานั้นให้เสร็จสิ้น
แล้วกลับขึ้นรถ ขับมุ่งตรงไปข้างหน้ายังจุดหมายปลายทางของเราต่อไป
ชีวิต..คือการมุ่งไปข้างหน้า คนที่เอาแต่พะวงกับสิ่งที่ได้ทำลงไปแล้ว
หรือเอาแต่จมอยู่กับเรื่องราวที่จบลงไปแล้ว ก็คงไม่ต่างอะไรไปกับคนที่ขับรถอยู่
แต่สายตาเอาแต่คอยเหลียวมองไปข้างหลังอยู่ตลอดเวลา
ผลสุดท้าย..คุณอาจขับรถไถลออกนอกเส้นทาง เสียหลัก
หรือชนเข้ากับสิ่งกีดขวางที่กั้นอยู่ข้างหน้า..แต่คุณมองไม่เห็น
เสียงของครูสอนขับรถดังขึ้นอีกครั้ง
“เวลาขับรถ ให้มองไปข้างหน้า”
ชีวิตก็เช่นกัน เราต้องคอยบอกตัวเองอยู่ตลอดเวลา ว่าสิ่งที่เราต้องทำ และควรทำ คือการมองไปข้างหน้า
เราอาจแอบเหลียวมองไปข้างหลังบ้างได้ ในเวลาที่เราอยากทบทวนเรื่องราวในอดีต
หรือเวลาที่เราต้องตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง การได้มองย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ที่ผ่านมา ก็อาจช่วยให้เรา
ตัดสินใจทำอะไรได้ถูกต้องขึ้น หรือเราอาจมองไปข้างหลัง เพื่อทบทวนความผิดพลาดในอดีต
และคอยระวังอันตราย ว่าความผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้นนั้น จะต้องไม่เกิดขึ้นซ้ำอีก
เราแอบเหลียวมองไปข้างหลังได้ แต่ไม่ใช่เอาแต่จดจ้องอยู่กับมัน จนทำให้ชีวิต..เสียหลัก
ชีวิตคือการมุ่งไปข้างหน้า ไม่ว่าเราจะพร้อม หรือไม่ก็ตาม
อย่าเสียเวลาไปกับการนั่งมองกระจกมองหลังอยู่เลย
อย่าให้สิ่งที่ผ่านไปแล้ว มีค่ากว่าสิ่งที่กำลังจะมาถึง
เรากลับไปแก้ไขเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้วไม่ได้ แต่เราสามารถป้องกันไม่ให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นซ้ำอีกได้
เราเปลี่ยนแปลงเรื่องราวเลวร้ายในอดีตไม่ได้ แต่เราทำวันนี้ พรุ่งนี้ ให้เป็นวันที่ดีที่สุดของเราได้
กระจกมองหลัง..มีไว้ให้เรา คอย"ระวัง"สิ่งที่อยู่ข้างหลัง
ไม่ได้มีไว้ให้เรา "สนใจ" อยู่แต่กับสิ่งที่อยู่ด้านหลัง
คนที่เอาแต่นั่งจ้องกระจกมองหลัง จะมีก็แต่คนที่กำลังขับรถ..ถอยไปข้างหลังเท่านั้นล่ะ
เพื่อนๆว่าจริงรึเปล่า?