ทำไมถึงมาเป็น...หรืออยากเป็นนักเขียนกันครับ...ส่วนผมก็มีเหตุผลที่อยากเป็นอยู่นะ...

กระทู้คำถาม
เหตุผลของผมค่อนข้างจะซับซ้อนหน่อยนึง...คือ...ผมว่าปัจจุบันนี้สังคมเรามันเสื่อมลงไปเยอะอ่ะครับ...คนเราทุกวันนี้ไม่ค่อยอยากทำดีกัน...เท่าที่เห็นๆจากการสังเกตคนรู้จักเพื่อนร่วมงานอะไรแบบนี้...เอาตัวเองให้รอดก่อนผิดถูกดีชั่วอะไรไว้คิดทีหลัง...ทำนองนั้น...ความจริงสิ่งที่ควรเป็นคือ...ถ้ารู้ว่าสิ่งที่ทำมันชั่วถึงแม้มันจะทำให้เรารอด...มันก็ไม่ควรทำถูกไหมครับ...อันนี้คือกรณีที่รู้ดีรู้ชั่วนะครับ...แต่ที่ผมอยากจะพูดจริงๆคือ...คนบางส่วนมันแย่กว่านั้นครับ...มันไม่รู้แม้กระทั่งอะไรคือดีอะไรคือชั่ว...อะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ...ผมว่าสังคมเรามันกำลังจะไปถึงจุดนั้นแล้ว...เอาตรงๆเลยผมห่วงอนาคตลูกหลานอ่ะนะ...ไม่รู้ดีรู้ชั่วกันแล้วนี่...แบบ...สุดตีนอ่ะ...<br>
เขียนมาซะยาวยังไม่เข้าประเด็นเลย...ด้วยเหตุที่กล่าวมาเมื่อกี้...มันน่าจะมีสาเหตุมาจาก...คนรุ่นใหม่เค้าไม่ค่อยเชื่อคำสอนของศาสนากันแล้ว...ให้ความสำคัญเป็นลำดับท้ายๆหรืออาจจะไม่ให้ความสำคัญเลย...ก็เป็นได้...แล้วเค้าเชื่อใครล่ะ???...เค้าเชื่อดาราเชื่อไอดอลเค้าครับ...ต้องเป็นคนสวยต้องเป็นคนหล่อ...เป็นคนเด่นดังเค้าถึงจะเชื่อ...ไอดอลเค้าทำอะไรนั่นคือถูกไปหมด...ให้อาหารปลาทะเลผิดกฎหมายชัดๆ...เค้ายังบอกว่าไอดอลเค้าถูกเลย...นี่แค่ให้อาหารปลาทะเลนะ...ถ้าไปข่มขืนสาวหรือฆ่าคนตาย...ผมเชื่อว่ามีคนเข้าข้างแน่ๆ...แล้วสังคมเรามันจะเป็นยังไงต่อไป...<br>
ทั้งหมดนี้คือสาเหตุที่ผมอยากเขียนนิยาย...หลายคนอาจจะยังงงๆ...ว่ามันเกี่ยวอะไรกัน...คือผมมีความคิดว่า...นิยายมันคือชีวิตคน...นิยายที่มีพระเอกดีๆนางเอกดีๆ...มันสามารถสอนคนให้รู้ว่าอะไรคือดีอะไรคือชั่ว...ถ้าเด็กๆรุ่นใหม่หรือใครก็ตามแต่...ได้อ่านนิยายดีๆตัวเอกดีๆแล้วอินไปกับมัน...ลุ้นไปจิ้นไปกับพระเอกนางเอก...หรืออาจจะมีตัวเอกในเรื่องเป็นไอดอลไปเลย...เค้าก็ต้องอยากเลียนแบบไอดอลเค้า...ไอดอลเค้าทำอะไรเค้าก็ต้องเข้าข้าง...สรุปง่ายๆว่าผมอยากสร้างไอดอลที่เด็กๆควรจะเอาอย่าง...ผมตั้งใจไว้อย่างนั้น...ผมไม่ได้ทำเพื่อเงินหรืออะไร...ไม่ได้คิดว่าเขียนแล้วจะรวยได้เงินเยอะๆ...เปล่าเลย...ไม่ได้คิดอย่างนั้น...ผมมีงานประจำทำอยู่แล้ว...ผมอยู่ของผมได้...แต่ถ้าเขียนแล้วได้ตังค์เพิ่มผมก็เอานะ...อย่าว่าแต่ชอบงานผมแล้วจ่ายตังค์ซื้องานผมเลย...อยู่ดีๆเอาตังค์มาให้ผมเฉยๆ...ผมก็เอา...ผมไม่ปฏิเสธหรอกเงินน่ะ...<br>
นิยายที่ผมเขียนก็ได้แรงบันดาลใจจากตรงนี้แหละ...ตัวเอกผมต้องการให้เป็นคนธรรมดา...ไม่ได้เอาหล่อแบบเทพบุตร...เพราะต้องการให้คนอ่านมองเรื่องของจิตใจและการกระทำมากกว่าหน้าตา...ประมาณว่าคนธรรมดาก็เป็นพระเอกได้...ให้ดูดีดูเจ๋งที่นิสัยอ่ะ...พระเอกผมเลยออกมาแบบดิบเถื่อน...ส่วนเรื่องติสท์นี่เอานิสัยแฟนมาใส่(555+)...แฟนผมเป็นผู้หญิงห้าวๆลุยๆติสท์ๆ...เป็นตัวละครที่ยากมากมิติเยอะ...เพราะเอานิสัยผู้หญิงที่เหมือนผู้ชายมาใส่ผู้ชาย...มันทับซ้อนเรื่องอารมณ์เยอะ...<br>
อย่าว่างั้นงี้ผมเก็บข้อมูลเยอะมากนะสำหรับนิยายเรื่องแรกในชีวิต...ผมอ่านสามก๊กจบในเก้าวัน...เพื่อเป็นแนวการวางพล็อต...ผมปลอมตัวเป็นผู้หญิงให้ผู้ชายจีบในแชทโซเชียลต่างๆ...เพื่อเก็บข้อมูล...แอบอัดเสียงข้างบ้านทะเลาะกัน...เพื่อนั่งวิเคราะห์...ว่าเค้าด่าอะไรกัน...ด่ายังไงใช้คำแบบไหน...คนถูกด่าตอบว่าอะไร...นั่งดูคลิปรถชนกันเพื่อวิเคราะห์โมเมนตัม...รวมถึงอ่านงานของพวกคุณๆที่มาโพสด้วย...เซิร์ทหานามปากกาพวกคุณทางกูเกิล...อ่านงานแรกๆที่พวกคุณเขียน...แต่ผมจะเน้นในจุดที่ผมสงสัย...เช่นการเปลี่ยนฉาก...การตัดเรื่อง...บทสนทนาอะไรทำนองนี้...แต่ทั้งหลายทั้งปวงผมก็ต้องประยุกต์...ให้เหมาะกับสำนวนหรือวิธีคิดของผม...เพราะอ่านสิบคนก็สิบเทคนิค...เอาแค่การวางโครงกระดาษ...วางฟรอนต์...ตัวเอียงตัวหนา...นักเขียนแต่ละคนยังต่างกันเลย...<br>
สรุปว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ...สำหรับการเขียนนิยายสักเรื่อง...แต่ผมจะทำให้ออกมาดีที่สุด...เป็นตัวเองมากสุด...<br>
<br>
ปล. ว่าจะเขียนสั้นๆแต่ล่อซะยาวเลย...555+
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่