หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[SR] Backpack โบกรถ (เชียงดาวบ้านสายหมอก-แม่กำปอง) 3คืน ชิกๆชิวๆ งบ700กว่าบาท
กระทู้รีวิว
ภาพถ่ายทิวทัศน์
Backpack
เที่ยวไทย
บันทึกนักเดินทาง
สวัสดีครับเพื่อนๆ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า เราไม่ใช่นักเดินทางนะ แต่เราแค่ชอบการเดินทาง การเดินทางของผมเริ่มต้นเพราะความอยากรู้ อยากรู้ว่ามันสวยจริงไหม มันสุดยอดอย่างที่คนล่ำลือกันรึปล่าว เมื่อเราอยากรู้แล้วเราก็เลยอยากได้คำตอบ ก็เลยเป็นคนออกหาคำตอบมันด้วยตัวเราเองนี่แหละ จะไปยากอะไร อยากจะเป็นคนสัมผัสมันด้วยตัวเอง เห็นด้วยตาตัวเอง เราก็เลยชอบออกค้นหาการเดินทางใหม่ๆอยู่เสมอ เช่น การเดินทางในครั้งนี้ก็เหมือนกับการเดินทางในทุกๆครั้งของเรา คือมีเป้าหมายว่าจะไปที่ไหน และก็เหมือนกันเช่นเดียวกับทุกๆครั้งคือ ไม่รู้ว่าจะไปยังไง ไปนอนที่ไหน กินยังไงอยู่ยังไง ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างระหว่างทาง แต่ที่รู้และมั่นใจก็คือ
ต้องสนุกมากๆแน่ๆ !!!
......ครั้งนี้ผมเลือกเดินทางไปที่จังหวัดเชียงใหม่ เป้าหมายก็คือ บ้านระเบียงดาว กับ หมู่บ้านแม่กำปอง โดยที่ตั้งงบไว้กะให้ไม่เกิน1000บาทในเวลา4วัน โดยก่อนไปก็โทไปถามที่พักที่บ้านระเบียงดาวไว้ แต่มันเต็ม แต่พวกเราตั้งเป้าว่าจะไปกันแล้ว เต็มก็เต็มดิวะ ไปตายเอาดาบหน้าเว้ย!!
กระเป๋าพร้อม คนพร้อม ใจพร้อม และเมื่อทุกอย่างพร้อมการเดินทางก็เริ่มขึ้น
เราเริ่มออกเดินทางจากพิษณุโลก โดยขึ้นรถไฟฟรีไปที่เชียงใหม่ ก็ออกคืนวันที่ 29 กรกฎาคม รถไฟออกจากสถานีเวลา 3ทุ่มกว่าๆ ก็ตั้งใจให้ไปถึงที่เชียงใหม่ประมาณเช้าๆ เพราะต้องกะเวลาเดินทางไปเชียงดาวต่อด้วย แต่เผอิญวันนี้เป็นวันที่จะหยุดยาวเข้าพรรษา คนเลยเยอะมาก รถไฟนี่ไม่ต้องพูดถึงมียืนกันบ้างและครับ
เวลาเดินรถจริงๆก็ประมาณ3ทุ่ม10 แต่รถไฟมาประมาณ3ทุ่ม40เรทหน่อยนะครับ ของฟรีอย่าบ่น 555 ระหว่างทางนี่ก็แทบไม่ได้นอนเลยครับ เพราะคนเยอะมาก ปกตินั่งรถไฟมาตอนกลางคืนยังได้นอนบ้างเพราะคนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ แต่นี่ช่วงเข้าพรรษาพอดีคนกลับบ้านกันเยอะ เลยนั่งๆยืนๆยาวๆไป
เวลาตี4เกือบตี5 ในที่สุดเราก็มาถึงสถานีรถไฟจังหวัดเชียงใหม่ ต้องบอกเลยว่าอยากประหยัดต้องอดทน ระบมไปทั้งตัวจ้าา พอมาถึงสถานีรถไฟ ก็เตรียมตัวอาบน้ำกันเลย เพื่อเตรียมตัวออกเดินทางต่อไปที่เป้าหมายของเรา Goooooo!!
ทริปนี้เราไปด้วยกันทั้งหมด5คน แต่เรานั่งรถไฟไปจากพิษณุโลกกัน3คน เลยต้องนั่งรอพี่มาจากระยองอีก2คน เพราะเรามาถึงก่อน เลยต้องนั่งรอยาวๆไป พี่จะมาถึงก็เกือบเที่ยง TT เลยกะเดินเล่นกันไปเรื่อยๆ เพื่อค่าเวลา ดีกว่านั่งอยู่เฉยๆ
เดินไปเดินมามาโผล่อีกทีประตูท่าแพเลยครับ ไกลอยู่นะจากสถานีรถไฟ ถือว่าเดินชมเมืองตอนเช้า 5555 ได้อีกฟิวนึงเหมือนกัน
พอได้เวลาพี่มาถึงเราก็ไปขึ้นรถที่อาเขตช้างเผือกครับ เพื่อหารถไปเชียงดาวกัน
ค่ารถไปเชียงดาวก็คนละ40บาท เราบอกคนรถให้ไปจอดที่โลตัสเชียงดาว เพราะแถวนั้นจะมีรถเหมาขึ้นไปบนบ้านระเบียงดาว แต่ในใจคือเราจะไม่ยอมเสียตังค่าเหมารถขึ้นไปแน่ๆ เพราะเปลืองตัง 5555 ขอ งกนิดนึง รู้สึกว่าคันละ 600 นะ (พอดีถ่ายรูปช่วงนี้มาน้อยหน่อยเลยไม่มีรูปบอกตำแหน่งเลย TT)
หลังจากพวกเรายืนคุยตกลงกันว่า เราจะไม่เหมารถไปนะ เด่วเดินไปเรื่อยๆ หารถโบกเอาข้างหน้าละกัน ก็ตกลงตามนั้น ระหว่างทางที่เดินไป เราก็บอกเห็นภูเขาทุ่งนารอบๆ โคตรฟินเลย อากาศดีๆ ฝนตกนิดๆ เดินได้เรื่อยๆเลย
แวะทานข้าวเติมพลังกันสักแปป ก่อนออกเดินต่อ ข้าวกับกับข้าว2อย่าง ก็จานละ40 บาทครับ
เดินมาได้สักพัก เราก็โบกรถไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็มีรถคันนี้จอดรับเราไปด้วย โบกรถมันไม่ยากอย่างที่คิดนะครับ มันอยู่ที่ความอดทน การพูดการจา มือไม้อ่อนเข้าไว้ครับ คนไทยเราใจดีอยู่แล้ว ^^ พอโบกจอดปุป ก็ถามว่า ลุงจะไปไหนหรอครับ แล้วถามว่าผ่านทางที่เราจะไปไหม ก็โอเคผ่าน เลยบอกว่าจะไปส่งที่วัดถ้ำเชียงดาวข้างล่างก่อนขึ้นเขา แล้วค่อยไปหารถต่อเอาเองนะ อ่าๆ โอเครครับ ได้ครับลุง (เราควรมีข้อมูลเรื่องเส้นทางไว้บ้างนะครับ พอเวลาโบกรถ จะได้รู้ว่าจะไปไหนไรยังไง )
Google Maps ก็เป็นเข็มทิศในการเดินทางที่ดีเช่นกันนะครับ
ต้องบอกว่าเป็นความโชคดีของพวกเราจริงๆ ที่เจอป้าร้านขายของแล้วได้พูดคุยกันเสร็จ ก็เดินออกไปจะขึ้นเขาปกติ แต่เดินไปได้สักพัก ก็มีรถมาจอดถามเรา ว่าจะไปดอยเชียงดาวหรอ ป้าแกบอกมา พี่จะกลับบ้านพอดี ขอบคุณสวรรค์ (ต้องบอกเลยว่า ใจดีมากๆ จะเล่าต่อก็กลัวยาว เอาเป็นว่า ใจดีมากๆๆๆละกันเนาะ )
ก่อนทางขึ้นเขาเชียงดาวก็ต้องจ่ายค่าผ่านทางอุทยานก่อน คนละ20 บาทนะครับ
ระหว่างทางขึ้นเขาก็ทำความรู้จักกับพี่ที่พาเราขึ้นมา แกชื่อพี่ชัย แกบอกไม่ต้องห่วงไม่มีที่นอน เด่วพี่จัดการให้ ผมนี่แทบกราบกันเลย ดีใจสุดๆ
นั่งรถไปสักพัก ต้องบอกเลยว่าทางโหดพอสมควร ขึ้นยากมาก ทางเล็ก ฝนตกถนนเล่ะอีก มอไซด์นี่ถ้าไม่ใช่คนในพื้นที่ ผมไม่แนะนำให้เช่าขึ้นไปเลยครับ เพราะทางยากจริงๆ พอลงจากรถ ตาเรานี่เบิกแทบถล่น สวยมาก ฟ้าเปิดพอดี ทำให้เห็นหมอกฝนจางๆ ตัดผ่านภูเขา โอ้ย ถ่ายรูปเก่งแค่ไหน ก็ไม่เท่าตาเห็นหรอกครับ จิงๆ
หลังจากนั้นพวกเราก็ถ่ายรูป ยืนเสพย์อากาศ จนลืมไปว่า อ้าวเห้ย เรายังไม่มีที่นอนเลย พี่ชัย พี่ชัย หายไปไหน ตายๆ นอนไหนวะเนี่ยยย !!!
และสุดท้ายเราก็ได้ที่พักของพี่พล เพื่อนของพี่ชัยนั่นเอง วิวบริเวณบ้านสายหมอกครับ พี่พลเจ้าของบอกว่า ตอนหน้าหนาวระเบียงตรงนี้ หมอกจะเยอะมากอยู่ใต้เท้าเราพอดี เหมือนยืนอยู่บนหมอกเลย พูดขนาดนี้อยากจะกลับไปอีกรอบจริงๆตอนหน้าหนาว
บริเวณรอบๆ รีสอร์ท ไม่อยากจะลงรูปเยอะ อยากให้ได้ไปสัมผัสด้วยตัวเอง ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
ได้ที่พัก แล้วเราก็นั่งคุยกันไปเรื่อยๆ สักแปปก็มีน้ำขาวมาให้เรากิน โอ่โห้ สุดๆเลย ใครไปอย่าลืมซื้อกินนะครับ ที่ร้านค้าหน้าปากทางมีขาย บอกมาซื้อ ดาวลอย แค่นั้น จบ 5555
ให้ที่พักแล้ว พี่ๆยังใจดีหุงข้าวมาให้เรากินอีก มันคือการเที่ยวที่มีความสุขมาก แม้จะลำบากในการมานิดหน่อย แต่เห็นอย่างนี้มันหายเหนื่อยครับ
สวัสดีเช้าที่สดใสครับ วันนี้ตอนเช้ามืดฝนตก เลยทำให้อดดูหมอกเลย แต่ก็อากาศดีมากๆ อีกวันนึงเลยครับ อยากอยู่ที่นี่ต่ออีกเป็นเดือนเลย แต่เราต้องไปต่อเพราะเรามีเป้าหมายอีกที่ คือหมู่บ้านแม่กำปอง
ก่อนเราเตรียมตัวจะลงกลับไปในเมืองเพื่อไปต่อแม่กำปอง เราเห็ยพี่พลกะลังปูหญ้าอยู่ เราเลยลงไปช่วยกันปู ทำให้พี่เขาแค่นี้ยังไม่เทียบกับน้ำใจที่พี่เขามีให้พวกเราเลยครับ เป็นการปูหญ้าท่ามกลางบรรยากาศดีๆ ถ้าใครได้ไปเที่ยวบ้านสายหมอก ละเห็นหญ้าพวกนี้ ถ่ายรูปมาอวดกันบ้างนะครับ 55555
หลังจากปูหญ้าเสร็จ อะไรเสร็จ ไหว้ขอบคุณพี่พลเป็นการใหญ่เสร็จเรียบร้อย เราก็โทหาพี่ชัย เพราะเมื่อวานพี่ชัยบอกว่าจะมารับพารับกลับไปส่งข้างล่างอีก อะไรจะใจดีขนาดนั้น
ระหว่างรอพี่ชัยมารับ ไปนั่งรอที่ร้านค้า ชาวบ้าน นั่งกินเหล้าดอยกันอยู่ เลยชวนเราจัดต่ออีก โอ้ย จะไม่กินก็จะดูเป็นการเสียน้ำใจ 5555 ขาอ่อนแทบจะลงเขาไม่ได้กันทีเดียว
หลงรักที่นี่มากๆครับ ไม่ใช่แค่เพียงอากาศดีวิวดีอย่างเดียว น้ำใจของคนที่นี้ จัดว่าดีกว่าอากาศหรือวิว อีกครับ เป็นความประทับใจที่พวกผมจะไม่มีวันลืมกันเลยครับ พวกพี่ๆ ดูแลพวกเราเหมือนญาติเหมือนเรารู้จักกันมานาน ขอบคุณกี่สิบครั้งก็คงไม่เพียงพอครับ อยากให้ทุกคนได้ไปสัมผัสด้วยตัวเองครับ ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ ขอฝากบ้านสายหมอก รีสอร์ทของพี่พล ที่กำลังจะเปิดใหม่ด้วยนะครับ
เบอร์ติดต่อ พี่พล เจ้าของรีสอร์ท สามารถโทรถามเรื่องที่พักได้ครับ 090-7608819 รีสอร์ทอยู่ทางเข้าทางเดียวกับบ้านระเบียงดาวเลยครับ .
ค่าใช้จ่ายวันแรก
ค่าอาบน้ำ 15 บาท
ทำบุญใส่บาตรกับข้าวชุดละ 15 บาท
ข้าวเช้า 30 บาท
ค่ารถแดง2รอบ 50 บาท
ค่ารถเชียงดาว 40บาท
ซาลาเปา 15 บาท
ค่าของกินเตรียมขึ้นเขา 70 บาท
วันแรกรวม
190บาท
ชื่อสินค้า:
บ้านระเบียงดาว บ้านสายหมอก แม่กำปอง
คะแนน:
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
รถ vios ขึ้นดอยอ่างขางไหวมั้ยคะ
เริ่มต้นจากเส้นทางแม่จันเชียงรายไปฝางค่ะ ที่คิดไว้คืออยากขึ้นทางฝาง แล้วลงทางอรุโนทัย เพราะจะไปเที่ยวในเมืองเชียงใหม่ต่อ รถวีออส2014 เดินทางไปแค่2คน รถพอจะไหวมั้ยคะ เคยแค่ติดรถกระบะ
สมาชิกหมายเลข 8502413
ภูชี้ดาว…ทะเลหมอกสีขาวสุดขอบฟ้า
ภูชี้ดาว…ทะเลหมอกสีขาวสุดขอบฟ้า หลังลงจากรถบริการนำขึ้นยอดภูชี้ดาว พี่พลขับเจ้าของพื้นที่บอกกับเราอย่างเป็นกันเองว่า ต้องเดินขึ้นไปอีกประมาณสองร้อยเมตร ก็จะถึงจุดชมวิว ยอ
คน ฟ้า ป่า น้ำ
ชวนเที่ยว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
เสาร์-อาทิตย์นี้ ( 27 สิงหาคม - 28 สิงหาคม 2559 ) ใครว่างไม่รู้จะไปเที่ยวไหนดี มาเที่ยวเชียงดาว กันไหมครับ ผมจะนั่งรถไฟฟรี จากกรุงเทพ ไปเชียงใหม่ แล้ว ไปเช่ามอเตอร์ไซด์ ที่เชียงใหม่ ขี่ไปเชียงดาว ระยะ
สมาชิกหมายเลข 1415661
พักผ่อนชิวๆ ชมดาว ชมวิวดอยหลวงเชียงดาว ณ บ้านดอยหมอก จ.เชียงดาว
นี่เป็นกระทู้แรก หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะค่ะ เวลาจะไปเที่ยวที่ไหนหรือจะไปทำอะไรก็จะมาอ่านรีวิวของคนอื่น ทำให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากเลยค่ะ เลยอยากจะขอบคุณ เว็บ pantip และสมาชิกคนอื่นๆ
MUMOO_KOY
จากบ้านระเบียงดาว อ.เชียงดาว ไป บ้านแม่กำปอง อ.แม่ออน ไกลกันมั้ย? กูรูเชียงใหม่แนะนำด้วยคะ
คือ มีแพลนจะเดินทางจากกรุงเทพ ไปเชียงใหม่ 5 วัน 4 คืน ดังนี้คะ 1.วันแรก นอนที่ เก๊าไม้ล้านนา อ.ฮอด 2.วันที่สอง ออกเดินทางไป บ้านระเบียงดาว อ.เชียงดาว 3.วันที่สาม จากเชียงดาว ไปนอนที่ บ้านแม่กำปอง อ.แม
สมาชิกหมายเลข 2178477
ที่พักดอยหลวงเชียงดาว ระเบียงดาวเต็ม เหลือแต่เต้นท์ พักที่ไหนดี
ที่พักดอยหลวงเชียงดาว ระเบียงดาวเต็ม พักที่ไหนดี ที่อื่นๆโทรไปก่อบ้านเต็มค่ะ เหลือแต่เต้นท์ - เลยบอกรบกวนถามว่า นอนเต้นท์ที่ไหนดี วิวสวยๆ ระเบียงดาว สายหมอก ลีซูโฮมสเตย์ วิวดอยหลวง หมอกตะวัน หรือที
สมาชิกหมายเลข 4084756
กุมมือคนแปลกหน้านั่งรถไฟฟรีไป "บ้านระเบียงดาว"
สวัดดีค่ะจำเราได้หรือป่าวกระทู้นี้เป็นกระทู้ที่2ของเราแล้วน่ะ:* กระทู้แรกของเรา กุมมือแฟนนั่งรถไฟฟรีหนีไป 'เกาะเต่า" ไง ติ๊กต๊อกติ๊กต๊อกใครอ่านไปแล้วมั้งฝากด้วยน่ะค่ะ http://ppantip.com/topic/340
Lonely-planeteer
Green Season กับ แม่กำปอง - เชียงดาว
แม่กำปอง ในหน้าฝนยังคงมีเสน่ห์ในตัวเอง ถึงแม้ผู้คนจะไม่เยอะเท่าหน้าหนาวแต่ก็ดีไปอย่างคือไม่ต้องแย่งถ่ายรูป ไม่ต้องแย่งกิน มองไปทางไหนก็มีแต่ความเขียวชะอุ่ม อากาศที่เย็นตลอดทั้งปี พอฝนตกลงมาก็ทำให้อุณห
saneko
เชียงดาว-แม่กำปอง-บ้านแม่กลางหลวง 1,800 บาท 5คืน 6วัน
สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาอวดความลำบากปนกับความสุขที่สุดจะฟินของเราค่ะ หลังจากที่เราได้ติดตามอ่านกระทู้ในพันทิพมามากมายหลายกระทู้ จนความอยากมันมีมากกว่าความกลัวแล้วค่ะ ความคึกคะนองก็เริ่มเดือดประทุ จากที
mlkiss
นั่งชิว ชมหมอก พักสมอง ปล่อยใจ ที่บ้านระเบียงดาว
บ้านระเบียงดาว อ. เชียงดาว จ. เชียงใหม่ กับภาพโฮมสเตย์ไม้แบบเรียบง่าย มีระเบียงชมวิวดอยหลวงเชียงดาวที่มองเห็นได้จากบ้านพัก ทุกครั้งที่เห็นภาพบรรยากาศบ้านระเบียงดาวของคนอื่น ฉันแอบอิจฉาในใจเล็กๆได้แต่บ
ToOmMee_991
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ภาพถ่ายทิวทัศน์
Backpack
เที่ยวไทย
บันทึกนักเดินทาง
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 401
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[SR] Backpack โบกรถ (เชียงดาวบ้านสายหมอก-แม่กำปอง) 3คืน ชิกๆชิวๆ งบ700กว่าบาท
......ครั้งนี้ผมเลือกเดินทางไปที่จังหวัดเชียงใหม่ เป้าหมายก็คือ บ้านระเบียงดาว กับ หมู่บ้านแม่กำปอง โดยที่ตั้งงบไว้กะให้ไม่เกิน1000บาทในเวลา4วัน โดยก่อนไปก็โทไปถามที่พักที่บ้านระเบียงดาวไว้ แต่มันเต็ม แต่พวกเราตั้งเป้าว่าจะไปกันแล้ว เต็มก็เต็มดิวะ ไปตายเอาดาบหน้าเว้ย!!
กระเป๋าพร้อม คนพร้อม ใจพร้อม และเมื่อทุกอย่างพร้อมการเดินทางก็เริ่มขึ้น
เราเริ่มออกเดินทางจากพิษณุโลก โดยขึ้นรถไฟฟรีไปที่เชียงใหม่ ก็ออกคืนวันที่ 29 กรกฎาคม รถไฟออกจากสถานีเวลา 3ทุ่มกว่าๆ ก็ตั้งใจให้ไปถึงที่เชียงใหม่ประมาณเช้าๆ เพราะต้องกะเวลาเดินทางไปเชียงดาวต่อด้วย แต่เผอิญวันนี้เป็นวันที่จะหยุดยาวเข้าพรรษา คนเลยเยอะมาก รถไฟนี่ไม่ต้องพูดถึงมียืนกันบ้างและครับ
เวลาเดินรถจริงๆก็ประมาณ3ทุ่ม10 แต่รถไฟมาประมาณ3ทุ่ม40เรทหน่อยนะครับ ของฟรีอย่าบ่น 555 ระหว่างทางนี่ก็แทบไม่ได้นอนเลยครับ เพราะคนเยอะมาก ปกตินั่งรถไฟมาตอนกลางคืนยังได้นอนบ้างเพราะคนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ แต่นี่ช่วงเข้าพรรษาพอดีคนกลับบ้านกันเยอะ เลยนั่งๆยืนๆยาวๆไป
เวลาตี4เกือบตี5 ในที่สุดเราก็มาถึงสถานีรถไฟจังหวัดเชียงใหม่ ต้องบอกเลยว่าอยากประหยัดต้องอดทน ระบมไปทั้งตัวจ้าา พอมาถึงสถานีรถไฟ ก็เตรียมตัวอาบน้ำกันเลย เพื่อเตรียมตัวออกเดินทางต่อไปที่เป้าหมายของเรา Goooooo!!
ทริปนี้เราไปด้วยกันทั้งหมด5คน แต่เรานั่งรถไฟไปจากพิษณุโลกกัน3คน เลยต้องนั่งรอพี่มาจากระยองอีก2คน เพราะเรามาถึงก่อน เลยต้องนั่งรอยาวๆไป พี่จะมาถึงก็เกือบเที่ยง TT เลยกะเดินเล่นกันไปเรื่อยๆ เพื่อค่าเวลา ดีกว่านั่งอยู่เฉยๆ
เดินไปเดินมามาโผล่อีกทีประตูท่าแพเลยครับ ไกลอยู่นะจากสถานีรถไฟ ถือว่าเดินชมเมืองตอนเช้า 5555 ได้อีกฟิวนึงเหมือนกัน
พอได้เวลาพี่มาถึงเราก็ไปขึ้นรถที่อาเขตช้างเผือกครับ เพื่อหารถไปเชียงดาวกัน
ค่ารถไปเชียงดาวก็คนละ40บาท เราบอกคนรถให้ไปจอดที่โลตัสเชียงดาว เพราะแถวนั้นจะมีรถเหมาขึ้นไปบนบ้านระเบียงดาว แต่ในใจคือเราจะไม่ยอมเสียตังค่าเหมารถขึ้นไปแน่ๆ เพราะเปลืองตัง 5555 ขอ งกนิดนึง รู้สึกว่าคันละ 600 นะ (พอดีถ่ายรูปช่วงนี้มาน้อยหน่อยเลยไม่มีรูปบอกตำแหน่งเลย TT)
หลังจากพวกเรายืนคุยตกลงกันว่า เราจะไม่เหมารถไปนะ เด่วเดินไปเรื่อยๆ หารถโบกเอาข้างหน้าละกัน ก็ตกลงตามนั้น ระหว่างทางที่เดินไป เราก็บอกเห็นภูเขาทุ่งนารอบๆ โคตรฟินเลย อากาศดีๆ ฝนตกนิดๆ เดินได้เรื่อยๆเลย
แวะทานข้าวเติมพลังกันสักแปป ก่อนออกเดินต่อ ข้าวกับกับข้าว2อย่าง ก็จานละ40 บาทครับ
เดินมาได้สักพัก เราก็โบกรถไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็มีรถคันนี้จอดรับเราไปด้วย โบกรถมันไม่ยากอย่างที่คิดนะครับ มันอยู่ที่ความอดทน การพูดการจา มือไม้อ่อนเข้าไว้ครับ คนไทยเราใจดีอยู่แล้ว ^^ พอโบกจอดปุป ก็ถามว่า ลุงจะไปไหนหรอครับ แล้วถามว่าผ่านทางที่เราจะไปไหม ก็โอเคผ่าน เลยบอกว่าจะไปส่งที่วัดถ้ำเชียงดาวข้างล่างก่อนขึ้นเขา แล้วค่อยไปหารถต่อเอาเองนะ อ่าๆ โอเครครับ ได้ครับลุง (เราควรมีข้อมูลเรื่องเส้นทางไว้บ้างนะครับ พอเวลาโบกรถ จะได้รู้ว่าจะไปไหนไรยังไง )
Google Maps ก็เป็นเข็มทิศในการเดินทางที่ดีเช่นกันนะครับ
ต้องบอกว่าเป็นความโชคดีของพวกเราจริงๆ ที่เจอป้าร้านขายของแล้วได้พูดคุยกันเสร็จ ก็เดินออกไปจะขึ้นเขาปกติ แต่เดินไปได้สักพัก ก็มีรถมาจอดถามเรา ว่าจะไปดอยเชียงดาวหรอ ป้าแกบอกมา พี่จะกลับบ้านพอดี ขอบคุณสวรรค์ (ต้องบอกเลยว่า ใจดีมากๆ จะเล่าต่อก็กลัวยาว เอาเป็นว่า ใจดีมากๆๆๆละกันเนาะ )
ก่อนทางขึ้นเขาเชียงดาวก็ต้องจ่ายค่าผ่านทางอุทยานก่อน คนละ20 บาทนะครับ
ระหว่างทางขึ้นเขาก็ทำความรู้จักกับพี่ที่พาเราขึ้นมา แกชื่อพี่ชัย แกบอกไม่ต้องห่วงไม่มีที่นอน เด่วพี่จัดการให้ ผมนี่แทบกราบกันเลย ดีใจสุดๆ
นั่งรถไปสักพัก ต้องบอกเลยว่าทางโหดพอสมควร ขึ้นยากมาก ทางเล็ก ฝนตกถนนเล่ะอีก มอไซด์นี่ถ้าไม่ใช่คนในพื้นที่ ผมไม่แนะนำให้เช่าขึ้นไปเลยครับ เพราะทางยากจริงๆ พอลงจากรถ ตาเรานี่เบิกแทบถล่น สวยมาก ฟ้าเปิดพอดี ทำให้เห็นหมอกฝนจางๆ ตัดผ่านภูเขา โอ้ย ถ่ายรูปเก่งแค่ไหน ก็ไม่เท่าตาเห็นหรอกครับ จิงๆ
หลังจากนั้นพวกเราก็ถ่ายรูป ยืนเสพย์อากาศ จนลืมไปว่า อ้าวเห้ย เรายังไม่มีที่นอนเลย พี่ชัย พี่ชัย หายไปไหน ตายๆ นอนไหนวะเนี่ยยย !!!
และสุดท้ายเราก็ได้ที่พักของพี่พล เพื่อนของพี่ชัยนั่นเอง วิวบริเวณบ้านสายหมอกครับ พี่พลเจ้าของบอกว่า ตอนหน้าหนาวระเบียงตรงนี้ หมอกจะเยอะมากอยู่ใต้เท้าเราพอดี เหมือนยืนอยู่บนหมอกเลย พูดขนาดนี้อยากจะกลับไปอีกรอบจริงๆตอนหน้าหนาว
บริเวณรอบๆ รีสอร์ท ไม่อยากจะลงรูปเยอะ อยากให้ได้ไปสัมผัสด้วยตัวเอง ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
ได้ที่พัก แล้วเราก็นั่งคุยกันไปเรื่อยๆ สักแปปก็มีน้ำขาวมาให้เรากิน โอ่โห้ สุดๆเลย ใครไปอย่าลืมซื้อกินนะครับ ที่ร้านค้าหน้าปากทางมีขาย บอกมาซื้อ ดาวลอย แค่นั้น จบ 5555
ให้ที่พักแล้ว พี่ๆยังใจดีหุงข้าวมาให้เรากินอีก มันคือการเที่ยวที่มีความสุขมาก แม้จะลำบากในการมานิดหน่อย แต่เห็นอย่างนี้มันหายเหนื่อยครับ
สวัสดีเช้าที่สดใสครับ วันนี้ตอนเช้ามืดฝนตก เลยทำให้อดดูหมอกเลย แต่ก็อากาศดีมากๆ อีกวันนึงเลยครับ อยากอยู่ที่นี่ต่ออีกเป็นเดือนเลย แต่เราต้องไปต่อเพราะเรามีเป้าหมายอีกที่ คือหมู่บ้านแม่กำปอง
ก่อนเราเตรียมตัวจะลงกลับไปในเมืองเพื่อไปต่อแม่กำปอง เราเห็ยพี่พลกะลังปูหญ้าอยู่ เราเลยลงไปช่วยกันปู ทำให้พี่เขาแค่นี้ยังไม่เทียบกับน้ำใจที่พี่เขามีให้พวกเราเลยครับ เป็นการปูหญ้าท่ามกลางบรรยากาศดีๆ ถ้าใครได้ไปเที่ยวบ้านสายหมอก ละเห็นหญ้าพวกนี้ ถ่ายรูปมาอวดกันบ้างนะครับ 55555
หลังจากปูหญ้าเสร็จ อะไรเสร็จ ไหว้ขอบคุณพี่พลเป็นการใหญ่เสร็จเรียบร้อย เราก็โทหาพี่ชัย เพราะเมื่อวานพี่ชัยบอกว่าจะมารับพารับกลับไปส่งข้างล่างอีก อะไรจะใจดีขนาดนั้น
ระหว่างรอพี่ชัยมารับ ไปนั่งรอที่ร้านค้า ชาวบ้าน นั่งกินเหล้าดอยกันอยู่ เลยชวนเราจัดต่ออีก โอ้ย จะไม่กินก็จะดูเป็นการเสียน้ำใจ 5555 ขาอ่อนแทบจะลงเขาไม่ได้กันทีเดียว
หลงรักที่นี่มากๆครับ ไม่ใช่แค่เพียงอากาศดีวิวดีอย่างเดียว น้ำใจของคนที่นี้ จัดว่าดีกว่าอากาศหรือวิว อีกครับ เป็นความประทับใจที่พวกผมจะไม่มีวันลืมกันเลยครับ พวกพี่ๆ ดูแลพวกเราเหมือนญาติเหมือนเรารู้จักกันมานาน ขอบคุณกี่สิบครั้งก็คงไม่เพียงพอครับ อยากให้ทุกคนได้ไปสัมผัสด้วยตัวเองครับ ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ ขอฝากบ้านสายหมอก รีสอร์ทของพี่พล ที่กำลังจะเปิดใหม่ด้วยนะครับ
เบอร์ติดต่อ พี่พล เจ้าของรีสอร์ท สามารถโทรถามเรื่องที่พักได้ครับ 090-7608819 รีสอร์ทอยู่ทางเข้าทางเดียวกับบ้านระเบียงดาวเลยครับ .
ค่าใช้จ่ายวันแรก
ค่าอาบน้ำ 15 บาท
ทำบุญใส่บาตรกับข้าวชุดละ 15 บาท
ข้าวเช้า 30 บาท
ค่ารถแดง2รอบ 50 บาท
ค่ารถเชียงดาว 40บาท
ซาลาเปา 15 บาท
ค่าของกินเตรียมขึ้นเขา 70 บาท
วันแรกรวม 190บาท