สวัสดีครับ....ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนว่า ไม่ได้ตั้งกระทู้บ่อยๆหรือเข้ามาตอบมากนัก
ส่วนมากจะเข้ามาส่องอย่างเดียว พอดีเห็นกระทู้เกี่ยวกับโรงแรมผีสิง เลยอยากเล่าประสบการณ์ของตัวเองบ้างครับ
ผมมีเพื่อนสนิทอยู่ 2 คน เป็นผู้หญิง 1 คน ชาย 1 คน เพื่อป้องกันการสับสน ผมแทนตัวเองว่า A แทนเพื่อนผู้ชายอีกคนว่า B แทนเพื่อนผู้หญิงว่า C ละกัน ช่วงเรียนจบใหม่ๆพวกเรามีความตั้งใจที่จะไปเที่ยว จ.เชียงใหม่ โดยจุดเริ่มต้นการเดินทางออกสตาร์ทที่ จ.นครสวรรค์ครับ เพราะคุณ C เป็นคนนครสรรค์ ถึงวันที่นัดเจอกันก็พูดคุยกันตามปกติ ทานอาหารกัน พอถึงช่วงเย็นเพื่อนก็พาผมกับนาย B ไปเปิดโรงแรมนอน เพราะไม่สะดวกที่จะพักที่บ้านพวกผมก็ ok ช่วงนั้น จ.นครสวรรค์มีงานอะไรสักอย่างทำให้โรงแรมเต็ม ตระเวนหาจนมาได้ห้องพักที่โรงแรมค่อนข้างเก่าแห่งหนึ่งอยู่กลางใจเมือง ( ออกตัวไว้ก่อนนะครับว่าไม่ใช่โรงแรมผีแขกในตำนาน )
โรงแรมนี้ค่อนข้างเก่าบรรยากาศอึมครึมมาก แต่สภาพโดยรวมยังดูดีอยู่ ห้องพักสะอาดใช้ได้ พวกผมได้เปิดห้องเตียงคู่ไว้เพราะ C จะเข้ามาพักด้วยเพื่อความสะดวกในการเดินทางต่อตอนเช้า โรงแรมนี้เป็นตึกเหลี่ยมๆ สูงประมาณ 2-3 ชั้นครับ ตั้งอยู่ริมถนนเลย ข้างนอกแปะกระจกสีดำทั้งตึก ผมแปลกใจมากระหว่างขับรถเข้ามาจะเห็นศาลเจ้าอยู่บนดาดฟ้าตึกโรงแรมด้วยแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร...............คืนนั้นเจ้า B ขอตัวออกไปข้างนอกกับเพื่อน ผมก็ไม่ยักรู้ว่ามันมีเพื่อนที่นี่ด้วยจะชวนผม กับ C ไปด้วยแต่ผมกับ C ก็ปฏิเสธเพราะขี้เกียจออกไปข้างนอกแล้ว เหลือเราสองคนอยู่ในห้องตามลำพัง มันเป็นโอกาสของผมแล้ว......................................................................
เฮ้ย.....ไม่ใช่แล้ว 555 เพื่อนๆที่อ่านอยู่อย่าคิดแบบนั้นนะครับ อิอิ
ผมกับ C นั่งคุยเล่นกัน กินขนมไป ดูทีวีไป เวลาผ่านไปเกือบ 3 ทุ่ม มีเสียงมาเคาะประตู
เฮ้ย A สงสัย เจ้า B กลับมาแล้ว C รีบวิ่งไปเปิดประตู แต่มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น C กระโดดมาหาผมอย่างไว ตัวสั่น เสียงสั่น
ผมตกใจมาก ถามก็ไม่ยอมบอก ชี้ไปที่ประตูอย่างเดียว ผมก็กลัวนะ แต่อยากรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น จึงเดินไปที่ประตูแล้วส่องที่ตาแมว วินาทีนั้น ผมช็อคมากๆภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า มันคืออะไรก็ไม่รู้ยืนห่างๆอยู่หน้าห้อง เป็นเงาสีดำๆ หัวโตๆ แขนยาวๆ โยกไปโยกมา ผมกระโดดกลับมากอด C เราทั้งคู่ขวัญกระเจิงจะร้องให้ออกมาอยู่แล้ว สักครู่มีเสียงเจ้า B ตะโกนเรียก เปิดประตูให้หน่อย
เธอจับมือผมไว้ไม่ยอมให้เปิดประตู แต่ผมคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรแล้วเพราะได้ยินเสียงเจ้า B ชัดเจน ผมรวบรวมความกล้าไปเปิดประตู เจ้า B เดินเข้ามาแถมบ่นใหญ่เลยว่าทำไมเปิดประตูช้าเคาะเรียกตั้งนาน ผมกับ C มองหน้ากันไม่พูดอะไร เจ้า B ติดลมจะออกไปเที่ยวต่อกับเพื่อนอีก เลยเข้ามาขอกุญแจห้อง เผื่อกลับมาดึกๆ จะได้ไม่ต้องปลุกเพื่อน มันเข้าห้องน้ำแล้วก็เดินออกจากห้องไปทิ้งความกลัว ความสงสัย ให้ผมกับ C เป็นอย่างมาก เราสองคนแทบจะไม่คุยกันเลย มองหน้ากันด้วยความกลัว มันเกิดอะไรขึ้น เครียดจนเพลียแยกย้ายกันไปนอน
เวลาผ่านไปเกือบตีหนึ่ง ผมงัวเงียตื่นเพราะได้ยินเสียงเปิดประตูห้องผมถามไปว่า กลับมาแล้วหรอแต่เงียบไม่มีคำตอบ เจ้า B เดินตรงเข้ามานอนข้างๆผม ผมเคลิ้มหลับไปแต่ก็ต้องตกใจตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกหนักๆเหมือนโดนทับ ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าคือเจ้า B นอนคร่อมตัวผมอยู่ จ้องตาผม พูดภาษาแปลกๆใส่ผม แล้วยิ้มให้อีก ผมเหวอเลย ตอนแรกคิว่ามันเมาแต่ไม่ใช่แล้ว ผมรีบหลับตาไม่กล้ามอง แต่หูยังได้ยินเสียงพูดภาษาแปลกๆอยู่ตลอดเวลา จนเงียบไป แล้วเจ้า B มันก็ล้มตัวลงไปนอนข้างๆผม
ผมสวดมนต์ในใจจนเผลอหลับไปอีกครั้ง ตอนเช้า C ปลุกผมกับเจ้า B อาบน้ำแต่งตัวเพื่อเตรียมเดินทางต่อ บรรยากาศตอนนั้นดีขึ้นแล้วแต่ผมกับ C ยังรู้สึกกล้าๆกลัวๆเจ้า B อยู่ ทริปนั้นเราไปเที่ยวเชียงใหม่อยู่หลายวัน ไปวัดไหว้พระจนสบายใจ เที่ยวต่อได้จนลืมกลัวเรื่องที่โรงแรมนั้นแล้ว พอกลับมาจากเชียงใหม่ แยกย้ายกันกลับบ้านผมจึงค่อยเล่าเรื่องนี้ให้ B ฟัง เจ้า B ตกใจใหญ่เลยรีบไปทำบุญยกใหญ่
ผมกับเพื่อนๆ นานๆ จะมีโอกาสเจอกันอีก ก็ยังคุยเรื่องนี้กันอยู่เลย เฮ้ย A,B ตอนนี้โรงแรมนั้นปิดกิจการแล้วนะ ทำไมปิดอ่ะผมถามต่อ C บอกว่าไม่รู้ดิแต่ตอนนี้ชั้นล่างของโรงแรมปรับปรุงซอยห้องให้เช่าหน้าร้าน แต่ก็ไม่วายโดนผีหลอกตามๆกันกลางวันยังเคยโดนเลยเพราะเพื่อนของ C ไปเช่าเปิดร้านที่นั่นเจอผีหลอกจนต้องเลิกเช่า ที่ให้ แก 2 คน ไปพักตอนนั้นเพราะหาห้องไม่ได้ คืนนั้นตอนเจ้า B คร่อมผมอยู่ C ก็เห็นแต่กลัวมากรีบคลุมโปง ผมก็ว่าไป แหม...ไม่คิดจะช่วยกันเลยนะ เจ้า B มันเลยแซวเล่น อดจับผมทำเมียเลย ผีไม่น่ารีบออก ฮากันใหญ่เลย เรื่องนี้ผ่านมาหลายปีแล้วครับ นึกถึงทีไรยังจำเหตุการณ์นี้ได้ตลอด พิมพ์ไปขนลุกไป
โรงแรมผี..........ที่นครสวรรค์
ส่วนมากจะเข้ามาส่องอย่างเดียว พอดีเห็นกระทู้เกี่ยวกับโรงแรมผีสิง เลยอยากเล่าประสบการณ์ของตัวเองบ้างครับ
ผมมีเพื่อนสนิทอยู่ 2 คน เป็นผู้หญิง 1 คน ชาย 1 คน เพื่อป้องกันการสับสน ผมแทนตัวเองว่า A แทนเพื่อนผู้ชายอีกคนว่า B แทนเพื่อนผู้หญิงว่า C ละกัน ช่วงเรียนจบใหม่ๆพวกเรามีความตั้งใจที่จะไปเที่ยว จ.เชียงใหม่ โดยจุดเริ่มต้นการเดินทางออกสตาร์ทที่ จ.นครสวรรค์ครับ เพราะคุณ C เป็นคนนครสรรค์ ถึงวันที่นัดเจอกันก็พูดคุยกันตามปกติ ทานอาหารกัน พอถึงช่วงเย็นเพื่อนก็พาผมกับนาย B ไปเปิดโรงแรมนอน เพราะไม่สะดวกที่จะพักที่บ้านพวกผมก็ ok ช่วงนั้น จ.นครสวรรค์มีงานอะไรสักอย่างทำให้โรงแรมเต็ม ตระเวนหาจนมาได้ห้องพักที่โรงแรมค่อนข้างเก่าแห่งหนึ่งอยู่กลางใจเมือง ( ออกตัวไว้ก่อนนะครับว่าไม่ใช่โรงแรมผีแขกในตำนาน )
โรงแรมนี้ค่อนข้างเก่าบรรยากาศอึมครึมมาก แต่สภาพโดยรวมยังดูดีอยู่ ห้องพักสะอาดใช้ได้ พวกผมได้เปิดห้องเตียงคู่ไว้เพราะ C จะเข้ามาพักด้วยเพื่อความสะดวกในการเดินทางต่อตอนเช้า โรงแรมนี้เป็นตึกเหลี่ยมๆ สูงประมาณ 2-3 ชั้นครับ ตั้งอยู่ริมถนนเลย ข้างนอกแปะกระจกสีดำทั้งตึก ผมแปลกใจมากระหว่างขับรถเข้ามาจะเห็นศาลเจ้าอยู่บนดาดฟ้าตึกโรงแรมด้วยแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร...............คืนนั้นเจ้า B ขอตัวออกไปข้างนอกกับเพื่อน ผมก็ไม่ยักรู้ว่ามันมีเพื่อนที่นี่ด้วยจะชวนผม กับ C ไปด้วยแต่ผมกับ C ก็ปฏิเสธเพราะขี้เกียจออกไปข้างนอกแล้ว เหลือเราสองคนอยู่ในห้องตามลำพัง มันเป็นโอกาสของผมแล้ว......................................................................
เฮ้ย.....ไม่ใช่แล้ว 555 เพื่อนๆที่อ่านอยู่อย่าคิดแบบนั้นนะครับ อิอิ
ผมกับ C นั่งคุยเล่นกัน กินขนมไป ดูทีวีไป เวลาผ่านไปเกือบ 3 ทุ่ม มีเสียงมาเคาะประตู
เฮ้ย A สงสัย เจ้า B กลับมาแล้ว C รีบวิ่งไปเปิดประตู แต่มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น C กระโดดมาหาผมอย่างไว ตัวสั่น เสียงสั่น
ผมตกใจมาก ถามก็ไม่ยอมบอก ชี้ไปที่ประตูอย่างเดียว ผมก็กลัวนะ แต่อยากรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น จึงเดินไปที่ประตูแล้วส่องที่ตาแมว วินาทีนั้น ผมช็อคมากๆภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า มันคืออะไรก็ไม่รู้ยืนห่างๆอยู่หน้าห้อง เป็นเงาสีดำๆ หัวโตๆ แขนยาวๆ โยกไปโยกมา ผมกระโดดกลับมากอด C เราทั้งคู่ขวัญกระเจิงจะร้องให้ออกมาอยู่แล้ว สักครู่มีเสียงเจ้า B ตะโกนเรียก เปิดประตูให้หน่อย
เธอจับมือผมไว้ไม่ยอมให้เปิดประตู แต่ผมคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรแล้วเพราะได้ยินเสียงเจ้า B ชัดเจน ผมรวบรวมความกล้าไปเปิดประตู เจ้า B เดินเข้ามาแถมบ่นใหญ่เลยว่าทำไมเปิดประตูช้าเคาะเรียกตั้งนาน ผมกับ C มองหน้ากันไม่พูดอะไร เจ้า B ติดลมจะออกไปเที่ยวต่อกับเพื่อนอีก เลยเข้ามาขอกุญแจห้อง เผื่อกลับมาดึกๆ จะได้ไม่ต้องปลุกเพื่อน มันเข้าห้องน้ำแล้วก็เดินออกจากห้องไปทิ้งความกลัว ความสงสัย ให้ผมกับ C เป็นอย่างมาก เราสองคนแทบจะไม่คุยกันเลย มองหน้ากันด้วยความกลัว มันเกิดอะไรขึ้น เครียดจนเพลียแยกย้ายกันไปนอน
เวลาผ่านไปเกือบตีหนึ่ง ผมงัวเงียตื่นเพราะได้ยินเสียงเปิดประตูห้องผมถามไปว่า กลับมาแล้วหรอแต่เงียบไม่มีคำตอบ เจ้า B เดินตรงเข้ามานอนข้างๆผม ผมเคลิ้มหลับไปแต่ก็ต้องตกใจตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกหนักๆเหมือนโดนทับ ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าคือเจ้า B นอนคร่อมตัวผมอยู่ จ้องตาผม พูดภาษาแปลกๆใส่ผม แล้วยิ้มให้อีก ผมเหวอเลย ตอนแรกคิว่ามันเมาแต่ไม่ใช่แล้ว ผมรีบหลับตาไม่กล้ามอง แต่หูยังได้ยินเสียงพูดภาษาแปลกๆอยู่ตลอดเวลา จนเงียบไป แล้วเจ้า B มันก็ล้มตัวลงไปนอนข้างๆผม
ผมสวดมนต์ในใจจนเผลอหลับไปอีกครั้ง ตอนเช้า C ปลุกผมกับเจ้า B อาบน้ำแต่งตัวเพื่อเตรียมเดินทางต่อ บรรยากาศตอนนั้นดีขึ้นแล้วแต่ผมกับ C ยังรู้สึกกล้าๆกลัวๆเจ้า B อยู่ ทริปนั้นเราไปเที่ยวเชียงใหม่อยู่หลายวัน ไปวัดไหว้พระจนสบายใจ เที่ยวต่อได้จนลืมกลัวเรื่องที่โรงแรมนั้นแล้ว พอกลับมาจากเชียงใหม่ แยกย้ายกันกลับบ้านผมจึงค่อยเล่าเรื่องนี้ให้ B ฟัง เจ้า B ตกใจใหญ่เลยรีบไปทำบุญยกใหญ่
ผมกับเพื่อนๆ นานๆ จะมีโอกาสเจอกันอีก ก็ยังคุยเรื่องนี้กันอยู่เลย เฮ้ย A,B ตอนนี้โรงแรมนั้นปิดกิจการแล้วนะ ทำไมปิดอ่ะผมถามต่อ C บอกว่าไม่รู้ดิแต่ตอนนี้ชั้นล่างของโรงแรมปรับปรุงซอยห้องให้เช่าหน้าร้าน แต่ก็ไม่วายโดนผีหลอกตามๆกันกลางวันยังเคยโดนเลยเพราะเพื่อนของ C ไปเช่าเปิดร้านที่นั่นเจอผีหลอกจนต้องเลิกเช่า ที่ให้ แก 2 คน ไปพักตอนนั้นเพราะหาห้องไม่ได้ คืนนั้นตอนเจ้า B คร่อมผมอยู่ C ก็เห็นแต่กลัวมากรีบคลุมโปง ผมก็ว่าไป แหม...ไม่คิดจะช่วยกันเลยนะ เจ้า B มันเลยแซวเล่น อดจับผมทำเมียเลย ผีไม่น่ารีบออก ฮากันใหญ่เลย เรื่องนี้ผ่านมาหลายปีแล้วครับ นึกถึงทีไรยังจำเหตุการณ์นี้ได้ตลอด พิมพ์ไปขนลุกไป