หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
นักล่าภูสอยดาว สักครั้งในชีวิตกับความตุดยอดดดดด :)
กระทู้สนทนา
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวภูเขา
ภูสอยดาว
เที่ยวไทย
เดินป่า
สวัสดีครับเพื่อนๆ ผมก็จะมารีวิวการเดินทางอาหารการกิน ความลำบากในการเดิน ความสวยงามของภูสอยดาว
การเดินทางของเรา ออกเดินทางกันวันที่ 23 ก.ค 58 เวลา 22.30 น. เราเลือกเดินทางโดยรถตู้(เหมาเอาครับเพราะคนเยอะ)
ทริปนี้มีนักล่าภูสอยดาวด้วยกัน12คน ก็เพื่อนกันในมหาลัย ถึงพิษณุโลกประมาณ 7โมงเช้าแวะกินข้าวเช้ากัน และซื้อเนื้อขึ้นไปย่างบนภู
กินข้าวกันเสดสัพก็ได้เวลาออกเดินทางไปอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว เส้นทางไม่ลำบากครับรถยนต์ส่วนตัววิ่งชิ้วเลยครับ (ผมว่าผมคิดถูกนะที่เหมารถเพราะสะดวกสะบายครับคนเยอะถ้าเป็นรถประจำทางเราต้องต่อหลายต่อ ทำให้เวลาอาจจะคาดเคลื่อนได้) และแล้วเราก็ถึงภูสอยดาวครับ ถึงเวลาบ่ายโมงตรงครับ เสียค่าเข้าคนล่ะ40 บาท วันจัน-ศุกร์ ลด50% นะครับเฉพาะคนไทย ที่อุทยานมีเต้นให้เช่าครับถ้าใครขี้เกียจแบกมา แล้วก็ทำการชั่งของเพื่อจ้างลูกหาบ กิโลล่ะ35บาท พวกผมซัดไปซะ2500ขาขึ้นอย่างเดียวนะครับ ขาลงก็อีกที่นึง พอทำทุกอย่างเสดก็ได้เวลาเดินนนนน พูดล่ะเหนื่อย อุทยานเปิดให้ขึ้นแค่ 8.00- 14.00 นะครับ ต้องกะเวลาดีไหนจะเดินขึ้นอีก
ด่านแรกเราก็เจอน้ำตกภูสอยดาวก่อนเลยครับสามารถลงเล่นได้ ทางเดินขึ้นภูสอยดาวทั้งหมด6.5 กิโลเมตร ทางเดินช่วงกิโลแรกสบายๆครับ ทางเดินเห็นชัดไม่มีหลงสภาพข้างทาง ก็จะแบบเป็นป่าดิบชื้น กิโลแรกก็เล่นเอาเหนื่อยได้นะครับถ้าใครไม่เคยเดินป่า พอเดินไปสักพักก็จะถึง เนินส่งญาติ เนินนี้เล่นเอาท้อครับสมชื่อเลย ผมนี้อยากกลับบ้านเลยคิดในใจกูมาทำอะไรที่นี้ว่ะเนี้ย 555555 มาต่อด้วยเนินปราบเซียน สมชื่ออีกแหละครับเพราะ
โคตรชันเลยเดินลำบาก ถ้าทุกท่านเดินมาถึงเนินป่าก่อทุกท่านดีใจได้เลยครับ ทุกท่านมาถึงครึ่งทางแล้ว พวกเราก็แวะพักกันตลอดทางจริงๆ ที่แรกเดินตามกันติดๆหลังกระจายกันเป็นกลุ่มย่อยๆ พักหายเหนื่อยแล้วก็ลุยกันต่อ เนินต่อไปเนินเสือโคร่ง เนินนี้กว่าจะผ่านได้ตะคริวเริ่มถามหาแล้วครับ มาเป็นลูกๆ ต่อด้วยเนินมรณะเนินนี้ทางนี้แบบสุดตรีนนนนน
เพราะเเป็นนินสุดท้ายแล้ววัดใจกันไป แต่วิวข้างระหว่างเดินขึ้นทั้งหมด 6.5กิโล ผมของบอกเลยว่าคุ้มค่ามากนี้ยังไม่รวมกับจุดหมายเรา คือลานสน
รูปสุดท้ายผมขอสารภาพเลยว่า ผมนี้เดินจ้ำมาเป็นคนแรกผู้นำของกลุ่ม กลางทางผมก็ยังคงนำอยู่ถ้าเปรียบเทียบกับว่ายน้ำ ผมนี่ไมเคิลเฟลเลย พอเนินเสือโคร่งเท่านั้นแหละ ตะคริว-กูนี่เดินเป็นไอ้เป๋เลย มาเนินมรณะกูคลานครับ มาคนแรกถึงคนสุดท้าย
โอ้ยตายกูเล่นกล้ามมาเพื่ออะไรว่ะ นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าเล่นกล้ามไม่ได้ช่วยในการเดินป่า
ผมออกเดินตั้งแต่เวลา 13.30 น. ถึงเวลา 19.30 น. ใช้เเวลาการเดิน6ชั่วโมงเต็มเม็ดเต็มหน่วยเลยที่เดียว ตอนนแรกสกิลปากเยอะคุย คุยไว้เยอะ2ชั่วโมงก็ถึง เป็นไงล่ะหน้าแตกยับเยิน เพื่อนที่เป็นผู้กหญิงยังถึงก่อนอีก โถ่วชีวิตช่างหน้าอับอาย
พอขึ้นมาถึงลานกางเต้นท์เจ้าหน้าที่ก็กางเต้นท์ให้แล้วครับเพราะเรามาถึงมก็มืดแล้ว(เราเช่าที่อุทยานถ้าไม่เช่าเจ้าหน้าที่ก็ช่วย) ก็ได้เวลาอาบและรับประทานอาหารเย็นและเข้านอนครับ (ที่อุทยานจะมีให้แค่ห้องน้ำนะครับส่วนที่อาบน้ำก็ไปตักน้ำที่ลำธารมาอาบได้ หรือลงไปอาบเลย)
เรื่องสภาพอากาศไม่ต้องพูดถึงภูสอยดาวเค้าเที่ยวกันหน้าฝนอยู่แล้วมันก็ต้องเจอ ตอนเดินขึ้นพวกผมก็เจอแต่ไม่หนักมากเดินได้สบาย ช่วงเวลากลางคือฃนอากาศอยู่ที่ 15องศา ถือว่าเย็นสบาย ลมแรงไม่มากเท่าไหร่ โดยรวมโอเคครับ และที่บ้านเจ้าหน้าที่มีที่อำนวยความสะดวกหลายๆอย่าง มีเตาให้เช่า ทั้งเตาถ่านเตาแก๊ส ต้องซื้อกระป๋องแก๊สแยกอีกตั้งหากนะครับ เอาล่ะได้เวลานอน ราตรีสวัสดิ์พี่น้องนักล่าผู้สอยดาว
สวัสวันที่เช้าวัน 24 ก.ค 58 วันที่อากาศมีแต่หมอก หมอกจะหนาไปไหนมองอะไรแทบไม่เห็น พวกเราก็ได้แต่ภาวนาให้แดดออก ตอนเช้าเราก็ไปล้างหน้าแปรงฟันที่ลำธาร
หลังจากที่ทุกคนล้างหน้าล้างกันเสดได้เวลาอาหารเช้าควบอาหารเที่ยงกันแล้วครับ อาหารก็ง่ายๆครับ มาม่า โจ๊ก ข้าวกระป๋อง ปลากระป๋อง หอยลายกระป่อง อาหารสำเร็จรูป ไฮไลท์เราอยู่ที่เนื้อครับมันดูธรรมดาใช่ไหมล่ะ แต่มันพิเศษตรงที่เนื้อนี้ได้รับการหมักบ่มเป็นอย่างดีจากกระแทกตลอดทางเดินขึ้น คลุกดินคลุกทราย เป็นการรังสรรค์จากชายพีร์เดอลาครัวฮ่ะ ง่ายๆใส่รสดีหมักใส่หอมใหญ่ดับกลิ่นคราวเนื้อ โอ๊ยอร่อยยเลยดิ
55555 การทีเรียนเชฟไม่ได้ช่วยอะไร ฟู้ดโน ฟู้ดเซฟ ตอนนี้กูไม่สนใจล่ะกูหิววววววววว (อ่อลืมบอกไปพวกเราเรียนอยู่ที่วิทยาลัยดุสิตธานี กะว่าจะย้ายสาขาล่ะไปอยู่ท่องเที่ยวแทน ชอบเที่ยวกันจริง ล้อเล่นฮ่ะ
)
กินเสดพวกเราก็ออกเดินชมธรรมชาติอันสวยงามบนภูสอยดาว อ่านพันทิปมาก็เยอะนะอ่าน
ทุกกระทู้ของภูสอยดาววันนี้แหละจะได้เห็นกับตา แต่แค่ระหว่างทางที่เดินมาก็สวยมากล่ะนะยิ่งถ้าเเดดออกมองเห็นใกล้คงฟิน ยังคงภาวนาให้พระเจ้าเห็นใจ 555555555
เอาล่ะเหมือนพระเจ้าทรงเห็นใจแดดออกครับ สิ่งที่พวกเราภาวนาก็เป็นจริง เดินไปตามทางชมธรรมชาติและดื่มดัมกับธรรมชาติที่โลกได้สร้างไว้ให้เหล่ามนุษย์ได้เชยชม ผมยอมรับเลยนะที่นี่สวยจริงสมคำล่ำลือและการเดินที่สบ๊ายยสบายยหรอ 555555 ผมไปมาก็หลายที่ล่ะนะไม่ว่าจะเหลือใต้ออกตกอีสาน แต่ที่นี้มันคงธรรมชาตืที่สวยงามไว้มาก เราได้อยู่กับธรรมชาติจริงๆ ได้ใช้ชวิตแบบที่ไม่ต้องทเยอทยาน ได้อยู่แบบสงบได้อยู่กับตัวเองมากขึ้นตัดขาดจากโลกภายนอกที่วุ่นวาย และสังคมจอมปลอมต่างๆจากโซเชียล ได้เข้าใจตัวเองมากขึ้นให้ความสำคัญกับตัวเองที่เป็นอยู่ในณ.ปัจจุบัน ได้ทำตามสิ่งที่ตัวเองต้องการจริงแล้วเงินทองก็เป็นนอกกายตายไปก็หาใหม่ได้ แต่การที่เราได้ทำอะไรแบบนี้สักครั้ง มันจะสักกี่ครั้งเชียว มาคราวหน้าป่าไม้มาอาจจะเปลี่ยนไปแล้วก็ได้ เดี่ยววๆกูดราม่าอะไร ไปเรื่อยลาฃ่ะกูฮาาๆ แค่จะบอกว่ามันสวยจริง
และที่สำคัญมันคงไม่มีใครบ้าเหมือนพวกผมแน่นอน ถอดรองเท้าเดินครับมีใครเค้าทำกันก็ทำไงได้รองเท้ามันเปียก ทางเดินน้ำก็ขัง รองเท้าแตะใส่มันก็ดีดเปื้อนอีก
เดินชอมธรรมชาติกันมาสักพักใหญ่เริ่มเหนื่อย แดดออกเริ่มร้อน เหงื่อเริ่มออกได้เวลาอาบน้ำกันล่ะจากที่ไม่ได้อาบกันมาเมื่อเช้าพวกเรามันสายลุยอาบ
ในลำธารเลยซะใจดีสดชื่นด้วย น้ำนี่
โคตรเย็น
อาบน้ำเสดปะแป้งสบายตัว หิวอีกแล้วอ่ดิใกล้เวลาช่วงเย็นๆล่ะ เลยทำรอบกองไฟมันซะเลยอากาศแบบนี้ บนภูสอยดาวแบบนี้ไม่มีอะไรจะฟินกว่านี้อีกแล้ว ออกแนวค่ายลูกเสือ เฮอาปาร์ตี้กันไปสนุกมากแนะนำครับถ้ามากลับเพื่อนๆ ยิ่งพาแฟนนี้รับลองประทับใจไม่รู้ลืม ลืมไม่ลงจริงทางเดินขึ้น 555555
กินข้าวกันเสดได้เวลาเดินชมธรรมชาติอีกรอบยามเย็นก็สวยไปอีกแบบ ยิ่งถ้ามาตอนดอกหงอนนาคบานเต็มๆคงสวยกว่านี้อีกหลายเท่าตัว นี้ขนาดยังบานนิดหน่อยยังสวยขนาดนี้ ตุดยอดดดดดดดดดดดด
วิวบนภูสอยดาวนี้แบบสวยมาก สวยสัสสวยชิปหาย ฟิวถ้าแบบมาเป็นคู่นี้โคตรโรแมนติกแต่มากับเพื่อนแฮะๆ เลยใช้ให้เพื่อนถ่ายรูปให้ซะเลย เท่และเฟี้ยวไปอีกคนเดียวกุก็โรแมนติกได้เว้ย
พวกเรานอนกัน2คืนนะครับ กลับเช้าวันที่25 ขาขึ้นมามันมืดแล้วเลยไม่ได้กับป้ายผู้พิชิตภูสอยดาวถ่ายขากลับก็ได้ว่ะอิอิ
การเดินทางในภูสอยดาวในครั้งนี้ผมว่ามันพิเศษกว่าทุกที่ที่ผมเคยไปคนเดียว เพราะมีเพื่อน ''เพื่อน" คำที่เรียกออกไปเพียงครั้งเดียว แต่คงความหมายเป็นนิรันดร์
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
เหยี่ยวลาว - แทร็คกิ้งภูสอยดาวเบสแคมป์หน้าหนาว(คลิป)
กระทู้นี้ไม่ได้รีวิวอะไรมานะครับ แค่จะมาแบ่งปันบรรยากาศ ภูสอยดาวที่ว่ากันว่าหน้าพีคคือหน้าฝน แต่ลองมาสัมผัสบรรยากาศหนาวหนาวดู จากสายมอกทุ่งดอกไม้เป็นฟ้าใสๆกับทุ่งหญ้าสีทองแทนละกันนะครับ อุทยานแห่งช
Mrteaback BY เหยี่ยวลาว
🍁 🍃 🍂 🌋 เมื่อหน้าฝนทำให้คนเหงา "ภูสอยดาว" คือคำตอบ 🌋🍁 🍃 🍂 #เขาไม้สน #เราเลือกภูเขา #อ้อมกอดขุนเขา ภาค1
*สวัสดีครับนักท่องเที่ยวเเละนักเดินทางทุกคน เป็นรีวิวเเรกของผมเลยที่เขียนลงPantip ถ้าไม่ชอบหรือผิดพลาดประการใดเค้าขอโทษด้วยนะครับ เชื่อเถอะว่าหลายคนมีความชอบในการท่องเที่ยวต่างกัน บางคนชอบทะเล....บาง
สมาชิกหมายเลข 1381461
สะพายเป้ตะลุยภูสอยดาว ชมดอกหงอนนาค และสายหมอก จ.อุตรดิตร์
สวัสดีค่ะ ทุกท่านๆ เมื่อทราบข่าวสารจาก FB ของเพื่อนคนหนึ่งว่า ดอกหงอนนาคบนภูสอยดาวบานแล้ว จึงวางแผนหนีเที่ยวสัก 2 คืน เลยโทรไปจองทัวร์แห่งหนึ่ง แต่ปรากฎว่าทัวร์เต็มรวด 2 อาทิตย์ ตอนนั้นผิดหวังค่ะ เพ
เเสงตะวัน
ถ้าปิด "ภูกระดึง" ถาวรตลอดไป ใครจะได้รับผลกระทบ/เดือดร้อน มากที่สุด!?
ถ้าปิด ไม่ให้ท่องเที่ยว ให้เป็นผืนป่าอนุรักษ์อย่างเดียว - ช้างป่า ได้ประโยชน์ - แล้ว มนุษย์/ผู้คนในภาคส่วนใด ที่จะได้รับผลกระทบ เดือดร้อน มากที่สุด? ...นักท่องเที่ยว ว่าไง? ...เจ้าหน้าที่ ผู้ดูแลอ
สมาชิกหมายเลข 6916554
ด่วน! ปิดภูกระดึงชั่วคราว หวั่นช้างป่าตกมันทำร้ายนักท่องเที่ยว ตั้งแต่ 13 ธันวาคม 2567 เป็นต้นไป
สั่งปิด “ภูกระดึง” ชั่วคราว หวั่นช้างป่าตกมัน ทำร้ายนักท่องเที่ยว จากกรณีที่มีช้างป่าทำร้ายนักท่องเที่ยวจนเสียชีวิตบนภูกระดึงเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ
ใช้เพื่อแสดงตัวตนเท่านั้น
ช้างมันขึ้นไปบนภูกระดึงได้ยังไงครับ
เข้าใจว่า โดยภูมิประเทศแล้ว ภูกระดึงมันเป็นภูเขาที่ด้านบนมันเป็นที่ราบขนาดใหญ่ แต่จุดที่จะขึ้นไปที่ราบด้านบน (หลังแป) มันก็ต้องอาศัยการปีนขึ้นไป บางจุดเป็นบันไดด้วยซ้ำไป พอดีเห็นข่าวช้างป่ากำลั
Alessandro
ปีนป่ายเขาไปกับสายหมอกกลางป่าสน ++ ภูสอยดาว ++ (ฉบับทัวร์เถื่อน ฉิ่ง ฉับ)
ใครเค้าเที่ยวป่าเที่ยวเขาหน้าฝนกัน !!! นั่นสินะ ใครจะไป เฉอะแฉะ เปียก ลื่น มันจะดีหรอออออ?? ดีสิ ... คิดถึงเขา ไปหาเขากัน ^^ เค้าเล่าว่าที่นี่ ... เส้นทางโหดมาก เค้าเล่าว่าที่นี่ ... มีลานสนสวยมาก
เรามันชะนีอินดี้
พิชิตยอดเขาเทวดา บนเส้นทางศึกษาธรรมชาติ น้ำตกตะเพินคี่น้อย น้ำตกตะเพินคี่ใหญ่ อุทยานแห่งชาติพุเตย สุพรรณบุรี
ปลายฝน ต้นหนาว ฤดูล่าทะเลหมอก เริ่มขึ้นแล้ว จะพาเพื่อนๆ ไปพิชิต ยอดเขาเทวดา เขาที่สูงที่สุดของจังหวัดสุพรรณบุรี ที่เรียกได้ว่าเป็น หลังคาเมืองสุพรรณ ใครจะไปคิดว่าสุพรรณบุรีก็มีทะเลหมอกที่ให้ฟีลเหมือนภ
สมาชิกหมายเลข 1186370
ภูสอยดาวปะล่ะ (ตอน:เกือบแย่เพราะแพ้ตัวคุ่น)
🔺🔺PHU SOI DAO🔺🔺 "ภูสอยดาวปะล่ะ".. ทริปนี้เกิดจากประโยคชักชวนสั้นๆที่เราลองชวนแบบขำๆ.... และคนที่ใจรักธรรมชาติเหมือนกันก็ตอบตกลงอย่างไม่ยากเย็น.. การเดินทางของเรากำลังจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง
พี่ผัก
พิชิต ลานสนภูสอยดาว อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว อุตรดิตถ์
ช่วงหน้าฝนแบบนี้ เส้นทางเดินป่า ยอดฮิตคงหนีไม่พ้น ภูสอยดาว ดินแดนสวรรค์บนดินแห่ง ทะเลทุ่งดอกหงอนนาค และ ป่าสนสามใบ อยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว มี แลนด์มาร์ค 2 จุด ได้แก่ ลานสนภูสอยดาว และ ยอด 210
สมาชิกหมายเลข 1186370
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวภูเขา
ภูสอยดาว
เที่ยวไทย
เดินป่า
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 12
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
นักล่าภูสอยดาว สักครั้งในชีวิตกับความตุดยอดดดดด :)
การเดินทางของเรา ออกเดินทางกันวันที่ 23 ก.ค 58 เวลา 22.30 น. เราเลือกเดินทางโดยรถตู้(เหมาเอาครับเพราะคนเยอะ)
ทริปนี้มีนักล่าภูสอยดาวด้วยกัน12คน ก็เพื่อนกันในมหาลัย ถึงพิษณุโลกประมาณ 7โมงเช้าแวะกินข้าวเช้ากัน และซื้อเนื้อขึ้นไปย่างบนภู
กินข้าวกันเสดสัพก็ได้เวลาออกเดินทางไปอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว เส้นทางไม่ลำบากครับรถยนต์ส่วนตัววิ่งชิ้วเลยครับ (ผมว่าผมคิดถูกนะที่เหมารถเพราะสะดวกสะบายครับคนเยอะถ้าเป็นรถประจำทางเราต้องต่อหลายต่อ ทำให้เวลาอาจจะคาดเคลื่อนได้) และแล้วเราก็ถึงภูสอยดาวครับ ถึงเวลาบ่ายโมงตรงครับ เสียค่าเข้าคนล่ะ40 บาท วันจัน-ศุกร์ ลด50% นะครับเฉพาะคนไทย ที่อุทยานมีเต้นให้เช่าครับถ้าใครขี้เกียจแบกมา แล้วก็ทำการชั่งของเพื่อจ้างลูกหาบ กิโลล่ะ35บาท พวกผมซัดไปซะ2500ขาขึ้นอย่างเดียวนะครับ ขาลงก็อีกที่นึง พอทำทุกอย่างเสดก็ได้เวลาเดินนนนน พูดล่ะเหนื่อย อุทยานเปิดให้ขึ้นแค่ 8.00- 14.00 นะครับ ต้องกะเวลาดีไหนจะเดินขึ้นอีก
ด่านแรกเราก็เจอน้ำตกภูสอยดาวก่อนเลยครับสามารถลงเล่นได้ ทางเดินขึ้นภูสอยดาวทั้งหมด6.5 กิโลเมตร ทางเดินช่วงกิโลแรกสบายๆครับ ทางเดินเห็นชัดไม่มีหลงสภาพข้างทาง ก็จะแบบเป็นป่าดิบชื้น กิโลแรกก็เล่นเอาเหนื่อยได้นะครับถ้าใครไม่เคยเดินป่า พอเดินไปสักพักก็จะถึง เนินส่งญาติ เนินนี้เล่นเอาท้อครับสมชื่อเลย ผมนี้อยากกลับบ้านเลยคิดในใจกูมาทำอะไรที่นี้ว่ะเนี้ย 555555 มาต่อด้วยเนินปราบเซียน สมชื่ออีกแหละครับเพราะ โคตรชันเลยเดินลำบาก ถ้าทุกท่านเดินมาถึงเนินป่าก่อทุกท่านดีใจได้เลยครับ ทุกท่านมาถึงครึ่งทางแล้ว พวกเราก็แวะพักกันตลอดทางจริงๆ ที่แรกเดินตามกันติดๆหลังกระจายกันเป็นกลุ่มย่อยๆ พักหายเหนื่อยแล้วก็ลุยกันต่อ เนินต่อไปเนินเสือโคร่ง เนินนี้กว่าจะผ่านได้ตะคริวเริ่มถามหาแล้วครับ มาเป็นลูกๆ ต่อด้วยเนินมรณะเนินนี้ทางนี้แบบสุดตรีนนนนน
เพราะเเป็นนินสุดท้ายแล้ววัดใจกันไป แต่วิวข้างระหว่างเดินขึ้นทั้งหมด 6.5กิโล ผมของบอกเลยว่าคุ้มค่ามากนี้ยังไม่รวมกับจุดหมายเรา คือลานสน
รูปสุดท้ายผมขอสารภาพเลยว่า ผมนี้เดินจ้ำมาเป็นคนแรกผู้นำของกลุ่ม กลางทางผมก็ยังคงนำอยู่ถ้าเปรียบเทียบกับว่ายน้ำ ผมนี่ไมเคิลเฟลเลย พอเนินเสือโคร่งเท่านั้นแหละ ตะคริว-กูนี่เดินเป็นไอ้เป๋เลย มาเนินมรณะกูคลานครับ มาคนแรกถึงคนสุดท้าย
โอ้ยตายกูเล่นกล้ามมาเพื่ออะไรว่ะ นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าเล่นกล้ามไม่ได้ช่วยในการเดินป่า
ผมออกเดินตั้งแต่เวลา 13.30 น. ถึงเวลา 19.30 น. ใช้เเวลาการเดิน6ชั่วโมงเต็มเม็ดเต็มหน่วยเลยที่เดียว ตอนนแรกสกิลปากเยอะคุย คุยไว้เยอะ2ชั่วโมงก็ถึง เป็นไงล่ะหน้าแตกยับเยิน เพื่อนที่เป็นผู้กหญิงยังถึงก่อนอีก โถ่วชีวิตช่างหน้าอับอาย
พอขึ้นมาถึงลานกางเต้นท์เจ้าหน้าที่ก็กางเต้นท์ให้แล้วครับเพราะเรามาถึงมก็มืดแล้ว(เราเช่าที่อุทยานถ้าไม่เช่าเจ้าหน้าที่ก็ช่วย) ก็ได้เวลาอาบและรับประทานอาหารเย็นและเข้านอนครับ (ที่อุทยานจะมีให้แค่ห้องน้ำนะครับส่วนที่อาบน้ำก็ไปตักน้ำที่ลำธารมาอาบได้ หรือลงไปอาบเลย)
เรื่องสภาพอากาศไม่ต้องพูดถึงภูสอยดาวเค้าเที่ยวกันหน้าฝนอยู่แล้วมันก็ต้องเจอ ตอนเดินขึ้นพวกผมก็เจอแต่ไม่หนักมากเดินได้สบาย ช่วงเวลากลางคือฃนอากาศอยู่ที่ 15องศา ถือว่าเย็นสบาย ลมแรงไม่มากเท่าไหร่ โดยรวมโอเคครับ และที่บ้านเจ้าหน้าที่มีที่อำนวยความสะดวกหลายๆอย่าง มีเตาให้เช่า ทั้งเตาถ่านเตาแก๊ส ต้องซื้อกระป๋องแก๊สแยกอีกตั้งหากนะครับ เอาล่ะได้เวลานอน ราตรีสวัสดิ์พี่น้องนักล่าผู้สอยดาว
สวัสวันที่เช้าวัน 24 ก.ค 58 วันที่อากาศมีแต่หมอก หมอกจะหนาไปไหนมองอะไรแทบไม่เห็น พวกเราก็ได้แต่ภาวนาให้แดดออก ตอนเช้าเราก็ไปล้างหน้าแปรงฟันที่ลำธาร
หลังจากที่ทุกคนล้างหน้าล้างกันเสดได้เวลาอาหารเช้าควบอาหารเที่ยงกันแล้วครับ อาหารก็ง่ายๆครับ มาม่า โจ๊ก ข้าวกระป๋อง ปลากระป๋อง หอยลายกระป่อง อาหารสำเร็จรูป ไฮไลท์เราอยู่ที่เนื้อครับมันดูธรรมดาใช่ไหมล่ะ แต่มันพิเศษตรงที่เนื้อนี้ได้รับการหมักบ่มเป็นอย่างดีจากกระแทกตลอดทางเดินขึ้น คลุกดินคลุกทราย เป็นการรังสรรค์จากชายพีร์เดอลาครัวฮ่ะ ง่ายๆใส่รสดีหมักใส่หอมใหญ่ดับกลิ่นคราวเนื้อ โอ๊ยอร่อยยเลยดิ 55555 การทีเรียนเชฟไม่ได้ช่วยอะไร ฟู้ดโน ฟู้ดเซฟ ตอนนี้กูไม่สนใจล่ะกูหิววววววววว (อ่อลืมบอกไปพวกเราเรียนอยู่ที่วิทยาลัยดุสิตธานี กะว่าจะย้ายสาขาล่ะไปอยู่ท่องเที่ยวแทน ชอบเที่ยวกันจริง ล้อเล่นฮ่ะ )
กินเสดพวกเราก็ออกเดินชมธรรมชาติอันสวยงามบนภูสอยดาว อ่านพันทิปมาก็เยอะนะอ่านทุกกระทู้ของภูสอยดาววันนี้แหละจะได้เห็นกับตา แต่แค่ระหว่างทางที่เดินมาก็สวยมากล่ะนะยิ่งถ้าเเดดออกมองเห็นใกล้คงฟิน ยังคงภาวนาให้พระเจ้าเห็นใจ 555555555
เอาล่ะเหมือนพระเจ้าทรงเห็นใจแดดออกครับ สิ่งที่พวกเราภาวนาก็เป็นจริง เดินไปตามทางชมธรรมชาติและดื่มดัมกับธรรมชาติที่โลกได้สร้างไว้ให้เหล่ามนุษย์ได้เชยชม ผมยอมรับเลยนะที่นี่สวยจริงสมคำล่ำลือและการเดินที่สบ๊ายยสบายยหรอ 555555 ผมไปมาก็หลายที่ล่ะนะไม่ว่าจะเหลือใต้ออกตกอีสาน แต่ที่นี้มันคงธรรมชาตืที่สวยงามไว้มาก เราได้อยู่กับธรรมชาติจริงๆ ได้ใช้ชวิตแบบที่ไม่ต้องทเยอทยาน ได้อยู่แบบสงบได้อยู่กับตัวเองมากขึ้นตัดขาดจากโลกภายนอกที่วุ่นวาย และสังคมจอมปลอมต่างๆจากโซเชียล ได้เข้าใจตัวเองมากขึ้นให้ความสำคัญกับตัวเองที่เป็นอยู่ในณ.ปัจจุบัน ได้ทำตามสิ่งที่ตัวเองต้องการจริงแล้วเงินทองก็เป็นนอกกายตายไปก็หาใหม่ได้ แต่การที่เราได้ทำอะไรแบบนี้สักครั้ง มันจะสักกี่ครั้งเชียว มาคราวหน้าป่าไม้มาอาจจะเปลี่ยนไปแล้วก็ได้ เดี่ยววๆกูดราม่าอะไร ไปเรื่อยลาฃ่ะกูฮาาๆ แค่จะบอกว่ามันสวยจริง
และที่สำคัญมันคงไม่มีใครบ้าเหมือนพวกผมแน่นอน ถอดรองเท้าเดินครับมีใครเค้าทำกันก็ทำไงได้รองเท้ามันเปียก ทางเดินน้ำก็ขัง รองเท้าแตะใส่มันก็ดีดเปื้อนอีก
เดินชอมธรรมชาติกันมาสักพักใหญ่เริ่มเหนื่อย แดดออกเริ่มร้อน เหงื่อเริ่มออกได้เวลาอาบน้ำกันล่ะจากที่ไม่ได้อาบกันมาเมื่อเช้าพวกเรามันสายลุยอาบในลำธารเลยซะใจดีสดชื่นด้วย น้ำนี่โคตรเย็น
อาบน้ำเสดปะแป้งสบายตัว หิวอีกแล้วอ่ดิใกล้เวลาช่วงเย็นๆล่ะ เลยทำรอบกองไฟมันซะเลยอากาศแบบนี้ บนภูสอยดาวแบบนี้ไม่มีอะไรจะฟินกว่านี้อีกแล้ว ออกแนวค่ายลูกเสือ เฮอาปาร์ตี้กันไปสนุกมากแนะนำครับถ้ามากลับเพื่อนๆ ยิ่งพาแฟนนี้รับลองประทับใจไม่รู้ลืม ลืมไม่ลงจริงทางเดินขึ้น 555555
กินข้าวกันเสดได้เวลาเดินชมธรรมชาติอีกรอบยามเย็นก็สวยไปอีกแบบ ยิ่งถ้ามาตอนดอกหงอนนาคบานเต็มๆคงสวยกว่านี้อีกหลายเท่าตัว นี้ขนาดยังบานนิดหน่อยยังสวยขนาดนี้ ตุดยอดดดดดดดดดดดด
วิวบนภูสอยดาวนี้แบบสวยมาก สวยสัสสวยชิปหาย ฟิวถ้าแบบมาเป็นคู่นี้โคตรโรแมนติกแต่มากับเพื่อนแฮะๆ เลยใช้ให้เพื่อนถ่ายรูปให้ซะเลย เท่และเฟี้ยวไปอีกคนเดียวกุก็โรแมนติกได้เว้ย
พวกเรานอนกัน2คืนนะครับ กลับเช้าวันที่25 ขาขึ้นมามันมืดแล้วเลยไม่ได้กับป้ายผู้พิชิตภูสอยดาวถ่ายขากลับก็ได้ว่ะอิอิ
การเดินทางในภูสอยดาวในครั้งนี้ผมว่ามันพิเศษกว่าทุกที่ที่ผมเคยไปคนเดียว เพราะมีเพื่อน ''เพื่อน" คำที่เรียกออกไปเพียงครั้งเดียว แต่คงความหมายเป็นนิรันดร์