นักล่าภูสอยดาว สักครั้งในชีวิตกับความตุดยอดดดดด :)

สวัสดีครับเพื่อนๆ ผมก็จะมารีวิวการเดินทางอาหารการกิน ความลำบากในการเดิน ความสวยงามของภูสอยดาวเพี้ยนออกทริป
       
         การเดินทางของเรา ออกเดินทางกันวันที่ 23 ก.ค 58 เวลา 22.30 น. เราเลือกเดินทางโดยรถตู้(เหมาเอาครับเพราะคนเยอะ)
ทริปนี้มีนักล่าภูสอยดาวด้วยกัน12คน ก็เพื่อนกันในมหาลัย ถึงพิษณุโลกประมาณ 7โมงเช้าแวะกินข้าวเช้ากัน และซื้อเนื้อขึ้นไปย่างบนภู
กินข้าวกันเสดสัพก็ได้เวลาออกเดินทางไปอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว เส้นทางไม่ลำบากครับรถยนต์ส่วนตัววิ่งชิ้วเลยครับ (ผมว่าผมคิดถูกนะที่เหมารถเพราะสะดวกสะบายครับคนเยอะถ้าเป็นรถประจำทางเราต้องต่อหลายต่อ ทำให้เวลาอาจจะคาดเคลื่อนได้) และแล้วเราก็ถึงภูสอยดาวครับ ถึงเวลาบ่ายโมงตรงครับ เสียค่าเข้าคนล่ะ40 บาท วันจัน-ศุกร์ ลด50% นะครับเฉพาะคนไทย ที่อุทยานมีเต้นให้เช่าครับถ้าใครขี้เกียจแบกมา แล้วก็ทำการชั่งของเพื่อจ้างลูกหาบ กิโลล่ะ35บาท พวกผมซัดไปซะ2500ขาขึ้นอย่างเดียวนะครับ ขาลงก็อีกที่นึง พอทำทุกอย่างเสดก็ได้เวลาเดินนนนน พูดล่ะเหนื่อย อุทยานเปิดให้ขึ้นแค่  8.00- 14.00 นะครับ ต้องกะเวลาดีไหนจะเดินขึ้นอีก







       ด่านแรกเราก็เจอน้ำตกภูสอยดาวก่อนเลยครับสามารถลงเล่นได้ ทางเดินขึ้นภูสอยดาวทั้งหมด6.5 กิโลเมตร  ทางเดินช่วงกิโลแรกสบายๆครับ ทางเดินเห็นชัดไม่มีหลงสภาพข้างทาง ก็จะแบบเป็นป่าดิบชื้น กิโลแรกก็เล่นเอาเหนื่อยได้นะครับถ้าใครไม่เคยเดินป่า พอเดินไปสักพักก็จะถึง เนินส่งญาติ เนินนี้เล่นเอาท้อครับสมชื่อเลย ผมนี้อยากกลับบ้านเลยคิดในใจกูมาทำอะไรที่นี้ว่ะเนี้ย 555555 มาต่อด้วยเนินปราบเซียน สมชื่ออีกแหละครับเพราะ ยิ้มโคตรชันเลยเดินลำบาก ถ้าทุกท่านเดินมาถึงเนินป่าก่อทุกท่านดีใจได้เลยครับ ทุกท่านมาถึงครึ่งทางแล้ว พวกเราก็แวะพักกันตลอดทางจริงๆ ที่แรกเดินตามกันติดๆหลังกระจายกันเป็นกลุ่มย่อยๆ พักหายเหนื่อยแล้วก็ลุยกันต่อ เนินต่อไปเนินเสือโคร่ง เนินนี้กว่าจะผ่านได้ตะคริวเริ่มถามหาแล้วครับ มาเป็นลูกๆ ต่อด้วยเนินมรณะเนินนี้ทางนี้แบบสุดตรีนนนนน
เพราะเเป็นนินสุดท้ายแล้ววัดใจกันไป แต่วิวข้างระหว่างเดินขึ้นทั้งหมด 6.5กิโล ผมของบอกเลยว่าคุ้มค่ามากนี้ยังไม่รวมกับจุดหมายเรา คือลานสน                                                                                                                                                              เพี้ยนชนะเลิศ















รูปสุดท้ายผมขอสารภาพเลยว่า ผมนี้เดินจ้ำมาเป็นคนแรกผู้นำของกลุ่ม กลางทางผมก็ยังคงนำอยู่ถ้าเปรียบเทียบกับว่ายน้ำ ผมนี่ไมเคิลเฟลเลย พอเนินเสือโคร่งเท่านั้นแหละ ตะคริว-กูนี่เดินเป็นไอ้เป๋เลย มาเนินมรณะกูคลานครับ มาคนแรกถึงคนสุดท้าย
โอ้ยตายกูเล่นกล้ามมาเพื่ออะไรว่ะ นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าเล่นกล้ามไม่ได้ช่วยในการเดินป่า ร้องไห้
เต่าเอือมเม่าเหม่อเม่าติดดอยเม่าตกใจ

ผมออกเดินตั้งแต่เวลา 13.30 น.  ถึงเวลา 19.30 น.  ใช้เเวลาการเดิน6ชั่วโมงเต็มเม็ดเต็มหน่วยเลยที่เดียว ตอนนแรกสกิลปากเยอะคุย คุยไว้เยอะ2ชั่วโมงก็ถึง เป็นไงล่ะหน้าแตกยับเยิน เพื่อนที่เป็นผู้กหญิงยังถึงก่อนอีก โถ่วชีวิตช่างหน้าอับอาย ร้องไห้

พอขึ้นมาถึงลานกางเต้นท์เจ้าหน้าที่ก็กางเต้นท์ให้แล้วครับเพราะเรามาถึงมก็มืดแล้ว(เราเช่าที่อุทยานถ้าไม่เช่าเจ้าหน้าที่ก็ช่วย) ก็ได้เวลาอาบและรับประทานอาหารเย็นและเข้านอนครับ (ที่อุทยานจะมีให้แค่ห้องน้ำนะครับส่วนที่อาบน้ำก็ไปตักน้ำที่ลำธารมาอาบได้ หรือลงไปอาบเลย)

เรื่องสภาพอากาศไม่ต้องพูดถึงภูสอยดาวเค้าเที่ยวกันหน้าฝนอยู่แล้วมันก็ต้องเจอ ตอนเดินขึ้นพวกผมก็เจอแต่ไม่หนักมากเดินได้สบาย ช่วงเวลากลางคือฃนอากาศอยู่ที่  15องศา ถือว่าเย็นสบาย ลมแรงไม่มากเท่าไหร่ โดยรวมโอเคครับ และที่บ้านเจ้าหน้าที่มีที่อำนวยความสะดวกหลายๆอย่าง มีเตาให้เช่า ทั้งเตาถ่านเตาแก๊ส ต้องซื้อกระป๋องแก๊สแยกอีกตั้งหากนะครับ เอาล่ะได้เวลานอน ราตรีสวัสดิ์พี่น้องนักล่าผู้สอยดาวเพี้ยนฝันดี

    สวัสวันที่เช้าวัน 24  ก.ค 58 วันที่อากาศมีแต่หมอก หมอกจะหนาไปไหนมองอะไรแทบไม่เห็น พวกเราก็ได้แต่ภาวนาให้แดดออก ตอนเช้าเราก็ไปล้างหน้าแปรงฟันที่ลำธาร





หลังจากที่ทุกคนล้างหน้าล้างกันเสดได้เวลาอาหารเช้าควบอาหารเที่ยงกันแล้วครับ อาหารก็ง่ายๆครับ มาม่า โจ๊ก ข้าวกระป๋อง ปลากระป๋อง หอยลายกระป่อง อาหารสำเร็จรูป ไฮไลท์เราอยู่ที่เนื้อครับมันดูธรรมดาใช่ไหมล่ะ แต่มันพิเศษตรงที่เนื้อนี้ได้รับการหมักบ่มเป็นอย่างดีจากกระแทกตลอดทางเดินขึ้น คลุกดินคลุกทราย เป็นการรังสรรค์จากชายพีร์เดอลาครัวฮ่ะ ง่ายๆใส่รสดีหมักใส่หอมใหญ่ดับกลิ่นคราวเนื้อ โอ๊ยอร่อยยเลยดิยิ้ม 55555 การทีเรียนเชฟไม่ได้ช่วยอะไร ฟู้ดโน ฟู้ดเซฟ ตอนนี้กูไม่สนใจล่ะกูหิววววววววว (อ่อลืมบอกไปพวกเราเรียนอยู่ที่วิทยาลัยดุสิตธานี กะว่าจะย้ายสาขาล่ะไปอยู่ท่องเที่ยวแทน ชอบเที่ยวกันจริง ล้อเล่นฮ่ะ อมยิ้ม07 )









กินเสดพวกเราก็ออกเดินชมธรรมชาติอันสวยงามบนภูสอยดาว อ่านพันทิปมาก็เยอะนะอ่านยิ้มทุกกระทู้ของภูสอยดาววันนี้แหละจะได้เห็นกับตา แต่แค่ระหว่างทางที่เดินมาก็สวยมากล่ะนะยิ่งถ้าเเดดออกมองเห็นใกล้คงฟิน ยังคงภาวนาให้พระเจ้าเห็นใจ 555555555








เอาล่ะเหมือนพระเจ้าทรงเห็นใจแดดออกครับ สิ่งที่พวกเราภาวนาก็เป็นจริง เดินไปตามทางชมธรรมชาติและดื่มดัมกับธรรมชาติที่โลกได้สร้างไว้ให้เหล่ามนุษย์ได้เชยชม ผมยอมรับเลยนะที่นี่สวยจริงสมคำล่ำลือและการเดินที่สบ๊ายยสบายยหรอ  555555   ผมไปมาก็หลายที่ล่ะนะไม่ว่าจะเหลือใต้ออกตกอีสาน แต่ที่นี้มันคงธรรมชาตืที่สวยงามไว้มาก เราได้อยู่กับธรรมชาติจริงๆ ได้ใช้ชวิตแบบที่ไม่ต้องทเยอทยาน ได้อยู่แบบสงบได้อยู่กับตัวเองมากขึ้นตัดขาดจากโลกภายนอกที่วุ่นวาย และสังคมจอมปลอมต่างๆจากโซเชียล ได้เข้าใจตัวเองมากขึ้นให้ความสำคัญกับตัวเองที่เป็นอยู่ในณ.ปัจจุบัน  ได้ทำตามสิ่งที่ตัวเองต้องการจริงแล้วเงินทองก็เป็นนอกกายตายไปก็หาใหม่ได้ แต่การที่เราได้ทำอะไรแบบนี้สักครั้ง มันจะสักกี่ครั้งเชียว มาคราวหน้าป่าไม้มาอาจจะเปลี่ยนไปแล้วก็ได้ เดี่ยววๆกูดราม่าอะไร ไปเรื่อยลาฃ่ะกูฮาาๆ แค่จะบอกว่ามันสวยจริง













และที่สำคัญมันคงไม่มีใครบ้าเหมือนพวกผมแน่นอน ถอดรองเท้าเดินครับมีใครเค้าทำกันก็ทำไงได้รองเท้ามันเปียก ทางเดินน้ำก็ขัง รองเท้าแตะใส่มันก็ดีดเปื้อนอีก เพี้ยนโบ๊ะหน้า

















เดินชอมธรรมชาติกันมาสักพักใหญ่เริ่มเหนื่อย แดดออกเริ่มร้อน เหงื่อเริ่มออกได้เวลาอาบน้ำกันล่ะจากที่ไม่ได้อาบกันมาเมื่อเช้าพวกเรามันสายลุยอาบยิ้มในลำธารเลยซะใจดีสดชื่นด้วย น้ำนี่ยิ้มโคตรเย็น





อาบน้ำเสดปะแป้งสบายตัว หิวอีกแล้วอ่ดิใกล้เวลาช่วงเย็นๆล่ะ เลยทำรอบกองไฟมันซะเลยอากาศแบบนี้ บนภูสอยดาวแบบนี้ไม่มีอะไรจะฟินกว่านี้อีกแล้ว ออกแนวค่ายลูกเสือ เฮอาปาร์ตี้กันไปสนุกมากแนะนำครับถ้ามากลับเพื่อนๆ ยิ่งพาแฟนนี้รับลองประทับใจไม่รู้ลืม ลืมไม่ลงจริงทางเดินขึ้น 555555







กินข้าวกันเสดได้เวลาเดินชมธรรมชาติอีกรอบยามเย็นก็สวยไปอีกแบบ ยิ่งถ้ามาตอนดอกหงอนนาคบานเต็มๆคงสวยกว่านี้อีกหลายเท่าตัว นี้ขนาดยังบานนิดหน่อยยังสวยขนาดนี้ ตุดยอดดดดดดดดดดดด

















วิวบนภูสอยดาวนี้แบบสวยมาก สวยสัสสวยชิปหาย ฟิวถ้าแบบมาเป็นคู่นี้โคตรโรแมนติกแต่มากับเพื่อนแฮะๆ เลยใช้ให้เพื่อนถ่ายรูปให้ซะเลย เท่และเฟี้ยวไปอีกคนเดียวกุก็โรแมนติกได้เว้ย
เพี้ยนแช๊ะเพี้ยนแช๊ะ











พวกเรานอนกัน2คืนนะครับ กลับเช้าวันที่25 ขาขึ้นมามันมืดแล้วเลยไม่ได้กับป้ายผู้พิชิตภูสอยดาวถ่ายขากลับก็ได้ว่ะอิอิ อมยิ้ม36



        การเดินทางในภูสอยดาวในครั้งนี้ผมว่ามันพิเศษกว่าทุกที่ที่ผมเคยไปคนเดียว เพราะมีเพื่อน  ''เพื่อน" คำที่เรียกออกไปเพียงครั้งเดียว แต่คงความหมายเป็นนิรันดร์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่