หลังจากที่พ่อแม่และครีมดูทีวีจบแล้วก็แยกย้ายกันเข้าห้องนอนของตัวเอง เมื่อก่อนครีมนอนห้องเดียวกับพ่อแม่ แต่ตอนนี้ครีมโตแล้วอายุ 10 ขวบ จึงย้ายมานอนอีกห้องหนึ่งคนเดียว
ห้องนอนของครีมติดวอลล์เปเปอร์ลายดอกไม้เล็ก ๆ สีครีม มีเตียง โต๊ะเขียนหนังสือ เก้าอี้ และตู้เสื้อผ้า เป็นโทนสีขาว ดูแล้วสบายตา ครีมชอบห้องนอนใหม่นี้มาก
ขณะที่แม่ใกล้จะหลับแล้ว ก็มีเสียงเคาะประตู ก๊อก ก๊อก และเสียงครีมเรียกแม่ว่า “แม่จ๋าหนูนอนไม่หลับ” แม่ลุกขึ้นเดินมาเปิดประตูแล้วพาครีมไปนอนที่ห้อง
แม่...”ยังไม่ง่วงหรอจ๊ะ”
ครีม...”แม่จ๋าหนูไม่ง่วงเลย”
แม่...”ปกติครีมของแม่พอหัวถึงหมอนก็หลับปุ๋ยเลยนี่นา”
ครีม...”ไม่รู้สิค่ะ วันนี้นอนไม่หลับ”
แม่...”งั้นเดี๋ยวแม่เล่านิทานให้ฟังมั้ย”
ครีม...”ดีค่ะ”
แม่...”ณ บ้านเล็ก ๆ หลังหนึ่งมี พ่อ แม่ ลูก และมีแม่แมวกับลูก ๆ ที่กำลังซุกซนอยู่ 2 ตัว แม่แมวจะคอยดูแลลูก ๆ อยู่ห่าง ๆ ขณะที่ลูกแมวเล่นกัน วันหนึ่งลูกแมวตัวหนึ่งปีนขึ้นไปบนต้นไม้ แล้วลงไม่ได้จึงร้องเหมียว ๆ อยู่สักพัก แม่แมวซึ่งกำลังมองดูอยู่แถวนั้นจึงปีนขึ้นไปบนต้นไม้เพื่อจะคาบลูกแมวลงมา แต่ลูกแมวก็ใช้กรงเล็บเกาะต้นไม้ไว้แน่นจนแม่แมวไม่สามารถคาบลูกแมวลงมาได้ แม่แมวไม่รู้จะทำอย่างไร จึงค่อย ๆ ไต่ต้นไม้ลงมาข้างล่าง ทันใดนั้นเองลูกแมวก็ทำตามอย่างแม่ ค่อย ๆ ไต่ต้นไม้ลงมาเองในท่าเดียวกันกับที่แม่ทำอย่างปลอดภัย นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การประพฤติตามอย่างผู้ใหญ่มักปลอดภัย หรือเดินตามหลังผู้ใหญ่หมาไม่กัด หนูเคยได้ยินมั้ยลูก”
ครีมไม่ตอบเพราะหลับไปแล้ว
วันต่อมาครีมก็มาเคาะที่ประตูแม่อีกแล้วบอกว่า “แม่จ๋าหนูนอนไม่หลับ” แม่ก็พาครีมไปนอนและเล่านิทานจนครีมนอนหลับอีกเช่นเดิม และเป็นอย่างนี้อีกหลายวัน
แม่สังสัยว่าครีมเป็นอะไรทำไมจึงนอนไม่หลับ เพราะก่อนหน้านี้ก็นอนหลับเองได้หลังจากที่ย้ายมานอนคนเดียวนานแล้ว
วันหยุดวันหนึ่งขณะที่กำลังนั่งกินข้าวเช้ากันอยู่ แม่ก็ถามครีมถึงสาเหตุที่นอนไม่หลับ
แม่...”ทำไมเดี๋ยวนี้ครีมของแม่ถึงนอนไม่หลับทุกวันเลยนะ”
ครีมไม่ค่อยอยากตอบ...”ไม่รู้สิค่ะ แค่กังวลเรื่องพรุ่งนี้นิดหน่อยค่ะ”
แม่...”กังวลเรื่องอะไรจ๊ะ”
ครีม...”มีเพื่อนคนนึงชอบมาขอตังค่ะ ถ้าครีมไม่ให้เค้าบอกว่าจะหยิกค่ะ และถ้าฟ้องครูกับพ่อแม่เค้าจะตีหนูค่ะ”
แม่ถึงกับอึ้งกับคำตอบของครีม พร้อมกับคิดในใจว่า นี่ลูกเราก็โดนด้วยหรอเนี่ยเคยแต่อ่านเจอกรณีแบบนี้ในอินเตอร์เนต และส่วนใหญ่ก็แก้ไม่หายซะด้วย ทั้งบอกครู บอกพ่อแม่ของเด็กที่มาไถเงินแล้ว เด็กก็ยังคงไถเงินเพื่อนอีก ส่วนใหญ่เด็กที่โดนไถเงินต้องย้ายโรงเรียนหนีเองซะมากกว่า
แม่จึงไปปรึกษาพ่อ พ่อบอกว่าอย่างนี้ต้องใช้วิธีนุ่มนวล พ่อจึงบอกให้ครีมชวนเพื่อนคนนั้นมากินข้าวที่บ้าน
เมื่อถึงวันนัดพ่อครีมก็อาสาขับรถไปรับเพื่อนคนนี้ที่บ้าน
ครีม...”พ่อนี่แนนค่ะ”
พ่อ...”สวัสดีจ๊ะน่าตาน่ารักจังครับ”
แนน...”สวัสดีค่ะคุณพ่อครีม”
แล้วพ่อก็ขับรถพา 2 สาวมุ่งหน้าไปยังบ้านครีมซึ่งแม่กำลังทำกับข้าวอยู่
แต่ขณะที่พ่อกำลังขับรถเข้าซอยอยู่นั้น ก็มีรถมอเตอร์ไซด์คันหนึ่งมาจอดขวางทาง ทำให้พ่อต้องแตะเบรกรถกระทันหัน ทันใดนั้น คนขี่มอเตอร์ไซด์ก็ลงจากรถและเดินมาที่ประตูรถฝั่งพ่อของครีมแล้วก็ชักปืนออกมาจากกางเกง เลงปืนไปที่พ่อของครีมและพูดว่า
ผู้ร้าย...”มีเงินเท่าไหร่ส่งมาให้หมด ไม่งั้นข้าจะยิงหัวเจ้า”
พ่อ ครีม และแนนตกใจมาก พ่อรีบหยิบกระเป๋าเงินจากกระเป๋ากางเกงแล้วก็หยิบแบ๊งพัน 3 ใบให้ผู้ร้ายไป ส่วนครีมกับแนนก็จับมือกันแน่นและเกือบจะร้องไห้ แต่ไม่ทันที่ผู้ร้ายจะไปเอารถมอเตอร์ไซด์เพื่อขี่หลบหนี ก็มีเสียงคนพูดดังขึ้นว่า
ตำรวจ...”หยุดนะ นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจวางปืนซะ”
ผู้ร้าย...”วางให้โง่สิ”
แล้วผู้ร้ายก็เลงปืนและยิงไปที่ตำรวจ ปัง! ปัง!
โชคดีที่ผู้ร้ายยิงไม่โดนตำรวจ ตำรวจจึงยิงสวนไป ปัง!
ผู้ร้ายล้มตัวลง ตำรวจรีบเข้าไปจับตัวแล้วยึดปืนทันที ที่ขาของผู้ร้ายมีเลือดไหลนอง ตำรวจยิงปืนไปที่ขาของคนร้ายเท่านั้นเอง
แล้วพ่อก็ขับรถพาครีมกับแนนไปที่บ้านครีม ซึ่งแม่ทำกับข้าวเสร็จนานแล้วรออยู่ เมื่อถึงบ้านครีมกับแนนก็ช่วยกันเล่าเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นอย่างตื่นเต้นและยังคงมีอาการตกใจอยู่ให้แม่ฟัง แม่ฟังเสร็จก็ให้ทุกคนไปทานข้าว
ขณะที่ทานข้าวกันอยู่นั้นพ่อก็บอกกับแนนว่า
พ่อ...”แนนเห็นแล้วใช่ไหมครับ คนที่ปล้นของคนอื่นจะได้รับโทษอย่างไร ต้องถูกตำรวจจับใช่ไหมครับ ตอนนี้แนนยังเด็กอยู่ แนนขอเงินเพื่อนแล้วขู่จะทำร้ายร่างกายถ้าไม่ให้ ก็เหมือนกับการปล้นนะครับ และถ้าแนนโตขึ้นแล้วทำแบบนี้แนนก็จะถูกตำรวจจับเข้าคุกนะ”
พ่อหันไปยิ้มให้แม่สำหรับแผนการที่สำเร็จลุล่วงลงด้วยดี หลังจากวันนั้น แนนก็ไม่ขอเงินครีมอีกเลย แม่เล่าแผนการให้ครีมฟังทั้งหมดว่า พ่อมีเพื่อนเป็นตำรวจเลยให้ช่วยมาแสดงละครให้หน่อย ผู้ร้ายก็เป็นเพื่อนที่ทำงานพ่อเอง แล้วเลือดที่ไหลก็เป็นแค่น้ำหวาน ไม่ใช่เลือดจริง
พอถึงเวลานอนเมื่อหัวถึงหมอนครีมก็นอนหลับปุ๋ยเองทุกวัน ไม่ได้มาเรียกแม่อีกเลย.
-:- นิทาน แม่จ๋าหนูนอนไม่หลับ -:-
หลังจากที่พ่อแม่และครีมดูทีวีจบแล้วก็แยกย้ายกันเข้าห้องนอนของตัวเอง เมื่อก่อนครีมนอนห้องเดียวกับพ่อแม่ แต่ตอนนี้ครีมโตแล้วอายุ 10 ขวบ จึงย้ายมานอนอีกห้องหนึ่งคนเดียว
ห้องนอนของครีมติดวอลล์เปเปอร์ลายดอกไม้เล็ก ๆ สีครีม มีเตียง โต๊ะเขียนหนังสือ เก้าอี้ และตู้เสื้อผ้า เป็นโทนสีขาว ดูแล้วสบายตา ครีมชอบห้องนอนใหม่นี้มาก
ขณะที่แม่ใกล้จะหลับแล้ว ก็มีเสียงเคาะประตู ก๊อก ก๊อก และเสียงครีมเรียกแม่ว่า “แม่จ๋าหนูนอนไม่หลับ” แม่ลุกขึ้นเดินมาเปิดประตูแล้วพาครีมไปนอนที่ห้อง
แม่...”ยังไม่ง่วงหรอจ๊ะ”
ครีม...”แม่จ๋าหนูไม่ง่วงเลย”
แม่...”ปกติครีมของแม่พอหัวถึงหมอนก็หลับปุ๋ยเลยนี่นา”
ครีม...”ไม่รู้สิค่ะ วันนี้นอนไม่หลับ”
แม่...”งั้นเดี๋ยวแม่เล่านิทานให้ฟังมั้ย”
ครีม...”ดีค่ะ”
แม่...”ณ บ้านเล็ก ๆ หลังหนึ่งมี พ่อ แม่ ลูก และมีแม่แมวกับลูก ๆ ที่กำลังซุกซนอยู่ 2 ตัว แม่แมวจะคอยดูแลลูก ๆ อยู่ห่าง ๆ ขณะที่ลูกแมวเล่นกัน วันหนึ่งลูกแมวตัวหนึ่งปีนขึ้นไปบนต้นไม้ แล้วลงไม่ได้จึงร้องเหมียว ๆ อยู่สักพัก แม่แมวซึ่งกำลังมองดูอยู่แถวนั้นจึงปีนขึ้นไปบนต้นไม้เพื่อจะคาบลูกแมวลงมา แต่ลูกแมวก็ใช้กรงเล็บเกาะต้นไม้ไว้แน่นจนแม่แมวไม่สามารถคาบลูกแมวลงมาได้ แม่แมวไม่รู้จะทำอย่างไร จึงค่อย ๆ ไต่ต้นไม้ลงมาข้างล่าง ทันใดนั้นเองลูกแมวก็ทำตามอย่างแม่ ค่อย ๆ ไต่ต้นไม้ลงมาเองในท่าเดียวกันกับที่แม่ทำอย่างปลอดภัย นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การประพฤติตามอย่างผู้ใหญ่มักปลอดภัย หรือเดินตามหลังผู้ใหญ่หมาไม่กัด หนูเคยได้ยินมั้ยลูก”
ครีมไม่ตอบเพราะหลับไปแล้ว
วันต่อมาครีมก็มาเคาะที่ประตูแม่อีกแล้วบอกว่า “แม่จ๋าหนูนอนไม่หลับ” แม่ก็พาครีมไปนอนและเล่านิทานจนครีมนอนหลับอีกเช่นเดิม และเป็นอย่างนี้อีกหลายวัน
แม่สังสัยว่าครีมเป็นอะไรทำไมจึงนอนไม่หลับ เพราะก่อนหน้านี้ก็นอนหลับเองได้หลังจากที่ย้ายมานอนคนเดียวนานแล้ว
วันหยุดวันหนึ่งขณะที่กำลังนั่งกินข้าวเช้ากันอยู่ แม่ก็ถามครีมถึงสาเหตุที่นอนไม่หลับ
แม่...”ทำไมเดี๋ยวนี้ครีมของแม่ถึงนอนไม่หลับทุกวันเลยนะ”
ครีมไม่ค่อยอยากตอบ...”ไม่รู้สิค่ะ แค่กังวลเรื่องพรุ่งนี้นิดหน่อยค่ะ”
แม่...”กังวลเรื่องอะไรจ๊ะ”
ครีม...”มีเพื่อนคนนึงชอบมาขอตังค่ะ ถ้าครีมไม่ให้เค้าบอกว่าจะหยิกค่ะ และถ้าฟ้องครูกับพ่อแม่เค้าจะตีหนูค่ะ”
แม่ถึงกับอึ้งกับคำตอบของครีม พร้อมกับคิดในใจว่า นี่ลูกเราก็โดนด้วยหรอเนี่ยเคยแต่อ่านเจอกรณีแบบนี้ในอินเตอร์เนต และส่วนใหญ่ก็แก้ไม่หายซะด้วย ทั้งบอกครู บอกพ่อแม่ของเด็กที่มาไถเงินแล้ว เด็กก็ยังคงไถเงินเพื่อนอีก ส่วนใหญ่เด็กที่โดนไถเงินต้องย้ายโรงเรียนหนีเองซะมากกว่า
แม่จึงไปปรึกษาพ่อ พ่อบอกว่าอย่างนี้ต้องใช้วิธีนุ่มนวล พ่อจึงบอกให้ครีมชวนเพื่อนคนนั้นมากินข้าวที่บ้าน
เมื่อถึงวันนัดพ่อครีมก็อาสาขับรถไปรับเพื่อนคนนี้ที่บ้าน
ครีม...”พ่อนี่แนนค่ะ”
พ่อ...”สวัสดีจ๊ะน่าตาน่ารักจังครับ”
แนน...”สวัสดีค่ะคุณพ่อครีม”
แล้วพ่อก็ขับรถพา 2 สาวมุ่งหน้าไปยังบ้านครีมซึ่งแม่กำลังทำกับข้าวอยู่
แต่ขณะที่พ่อกำลังขับรถเข้าซอยอยู่นั้น ก็มีรถมอเตอร์ไซด์คันหนึ่งมาจอดขวางทาง ทำให้พ่อต้องแตะเบรกรถกระทันหัน ทันใดนั้น คนขี่มอเตอร์ไซด์ก็ลงจากรถและเดินมาที่ประตูรถฝั่งพ่อของครีมแล้วก็ชักปืนออกมาจากกางเกง เลงปืนไปที่พ่อของครีมและพูดว่า
ผู้ร้าย...”มีเงินเท่าไหร่ส่งมาให้หมด ไม่งั้นข้าจะยิงหัวเจ้า”
พ่อ ครีม และแนนตกใจมาก พ่อรีบหยิบกระเป๋าเงินจากกระเป๋ากางเกงแล้วก็หยิบแบ๊งพัน 3 ใบให้ผู้ร้ายไป ส่วนครีมกับแนนก็จับมือกันแน่นและเกือบจะร้องไห้ แต่ไม่ทันที่ผู้ร้ายจะไปเอารถมอเตอร์ไซด์เพื่อขี่หลบหนี ก็มีเสียงคนพูดดังขึ้นว่า
ตำรวจ...”หยุดนะ นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจวางปืนซะ”
ผู้ร้าย...”วางให้โง่สิ”
แล้วผู้ร้ายก็เลงปืนและยิงไปที่ตำรวจ ปัง! ปัง!
โชคดีที่ผู้ร้ายยิงไม่โดนตำรวจ ตำรวจจึงยิงสวนไป ปัง!
ผู้ร้ายล้มตัวลง ตำรวจรีบเข้าไปจับตัวแล้วยึดปืนทันที ที่ขาของผู้ร้ายมีเลือดไหลนอง ตำรวจยิงปืนไปที่ขาของคนร้ายเท่านั้นเอง
แล้วพ่อก็ขับรถพาครีมกับแนนไปที่บ้านครีม ซึ่งแม่ทำกับข้าวเสร็จนานแล้วรออยู่ เมื่อถึงบ้านครีมกับแนนก็ช่วยกันเล่าเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นอย่างตื่นเต้นและยังคงมีอาการตกใจอยู่ให้แม่ฟัง แม่ฟังเสร็จก็ให้ทุกคนไปทานข้าว
ขณะที่ทานข้าวกันอยู่นั้นพ่อก็บอกกับแนนว่า
พ่อ...”แนนเห็นแล้วใช่ไหมครับ คนที่ปล้นของคนอื่นจะได้รับโทษอย่างไร ต้องถูกตำรวจจับใช่ไหมครับ ตอนนี้แนนยังเด็กอยู่ แนนขอเงินเพื่อนแล้วขู่จะทำร้ายร่างกายถ้าไม่ให้ ก็เหมือนกับการปล้นนะครับ และถ้าแนนโตขึ้นแล้วทำแบบนี้แนนก็จะถูกตำรวจจับเข้าคุกนะ”
พ่อหันไปยิ้มให้แม่สำหรับแผนการที่สำเร็จลุล่วงลงด้วยดี หลังจากวันนั้น แนนก็ไม่ขอเงินครีมอีกเลย แม่เล่าแผนการให้ครีมฟังทั้งหมดว่า พ่อมีเพื่อนเป็นตำรวจเลยให้ช่วยมาแสดงละครให้หน่อย ผู้ร้ายก็เป็นเพื่อนที่ทำงานพ่อเอง แล้วเลือดที่ไหลก็เป็นแค่น้ำหวาน ไม่ใช่เลือดจริง
พอถึงเวลานอนเมื่อหัวถึงหมอนครีมก็นอนหลับปุ๋ยเองทุกวัน ไม่ได้มาเรียกแม่อีกเลย.