ตามความเข้าใจของดิชั้นนะคะ
1. คนดูกีฬา พวกนี้ดูจริงดูจัง ไม่ค่อยมีปากเสีย มาเพื่อดู รับความสนุกเพลิดเพลิน ดูไปตามเกมส์เข้าใจไปตามเกมส์ พวกที่เก่งดูเก่งๆมักรู้อยู่แล้วว่าจะแพ้ชนะอย่างไร ไม่ค่อยมาเกลือกกลวกกับสามกลุ่มที่เหลือ เริดๆเชิดๆดูของนางไปรู้หรือไม่รู้ตูอมภูมิไว้ก่อน จะบอกเฉพาะคนที่อยากบอกเท่านั้น
2. กองเชียร์ พวกนี้มาเพื่อเชียร์ จะอะไรยังไง กองเชียร์ทำหน้าที่ของกองเชียร์คือให้กำลังใจนักกีฬา กองเชียร์มีหลายระดับ ตั้งแต่ เชียร์เพราะชอบวอลเลย์บอล รักชาติ ไปจะถึงติ่งนักฬา ส่วนมากเป็นผู้มีความรู้ทางการกีฬา แล้วมักจะเป็นผู้ที่ปกป้องสถาบันการกีฬาแห่งประเทศเมื่อมีนักวิจารณ์ หรือโค้ชคีย์บอร์ด เกรียนเกินพอดี กองเชียร์นี่สำคัญมากเพราะต้องสู้กับหลายทาง
3.นักวิจารณ์กีฬา พวกนี้ปรมาณน้ำท่วมทุ่งผํกบุ้งจริงๆน้อยมาก จะหานักวิจารณ์ที่วิจารณ์สมเหตุสมผลมีความรู้หลักการดีๆ แล้วเข้าใจเกมส์กีฬาจนสามารถถ่ายทอด วิเคราะห์เกมส์ว่าจุดเด่นจุดด้อยเกมส์จริงๆคืออะไร โดยที่ไม่ใช้บุคลากรทางการกีฬาเป็นที่ตั้งและที่ระบาย หาได้น้อยจริง ส่วนใหญ่เป็นจะเป็นโค้ชคีย์บอร์ดที่แฝงมาวิจารณ์ นักวิจารณ์จริงๆ จะมุ่งเป้าไปที่พฤติกรรมที่ส่งผลต่อรูปเกมส์ของตัวผู้เล่น นานๆจะผ่านมาซักที หรือไม่ก็เป็นเจ้าประจำที่ทุกคนจะรู้ว่าคนนี้เชื่อถือได้ คุณด้วยแล้วสนุก ได้ความรู้จริง
4.โค้ชคีย์บอร์ด นี่พูดตรงๆ มีเยอะขึ้นเรื่อยๆ จนจะเยอะกว่ากองเชียร์แล้ว เป็นกลุ่มบุคคลที่อันตรายต่อการพัฒนาของทุกวงการจริงๆ บางคนแช่ง บางคนด่า หยาบคายมาก จะตำหนิผู้เล่น แต่หารู้ไม่ว่าคำพูดที่ออกมามันนิยามความน่าเชื่อถือของตัวผู้พูด โค้ชคีย์บอร์ดส่วนใหญ่มักจะกระหายชัยชนะ กลัวความพ่ายแพ้ ที่น่าตกใจไปกว่านั้น บางคนชมเวลาผู้เล่นชนะอวยทีสุด แต่ถ้าแพ้นี้ด่ายับ แล้วก็ชี้เป็นชี้ตายว่าจะต้องทำอย่างนั้นจะต้องแก้เกมส์อย่างนี้ ดิชั้นเป็นห่วงสภาพจิตใจกลุ่มคนเหล่านี้ค่ะ ไม่อยากให้เป็นคนที่วาดฝันไว้เกินเอื้อม โดยที่ไม่เข้าใจความเป็นไปของเกมส์กีฬา ต้องบอกก่อนว่า คนที่ทำงานในสมาคมดิชั้นเชื่อว่าไม่ใช่ผู้ที่รู้น้อยแน่นอน ทุกคนทำตามหน้าที่ของตัวเองอย่างทีสุด การแก้เกมส์หรือพลิกสถานการณ์ไม่ใช่เรื่องของความคิดหรือความรู้สึกที่นึกเอาว่าทำแบบนี้แล้วจะชนะ ทำแบบนั้นจะเห็นผลทันที่ ถ้าเห็นว่ามีการขอเวลานอก คนปกติจะเข้าใจว่านั้นคือการแก้เกมส์ แต่จะทำได้ไล่ทันไหมก็อีกเรื่อง แต่จะมีโค้ชคีย์บอร์ดมาแล้ววว ทำไมไม่แก้เกมส์ ต้องงั้นงี้ คำพูดหยาบคายมาก จนดิชั้นคิดว่า คนเหล่านี้ไม่รู้จริงๆหรอว่า การพูดอย่างสุภาพคนปกติเขาก็เข้าใจกัน
5.กองแช่ง เฉพาะดิชั้นนะคะ ที่ขอให้นิยามกลุ่มเหล่านี้เป็นผู้ป่วยหมายเลขหนึ่ง เนื่องจากเป็นผู้ที่สื่อสารกับผู้อื่นไม่เข้าใจและไม่มีหลักเหตุผลใดๆในการสื่อความนอกจากการเข้ามาด่าทุกบุคคลที่จะทำให้ผู้ด่าได้รับความสนใจ จะไม่เน้นโชว์เหนือทางความรู้เหมือนโค้ช แต่จะใช้คำที่หยาบคายและยั่วยุทางอารมณ์ ทำให้นักีฬาหรือผู้ฝึกสอนเสียหาย
เหล่านี้คือระดับความคิดของคนที่ต้องอยู่ร่วมโลกกับเรา
ดิชั้นหวังว่า จุดยืนของคนดูกีฬา จะไปไม่ถึงจุดที่ 4 และ 5
มารยาทเป็นเรื่องที่สำคัญมากนะคะของโลกใบนี้ มารยาทที่ดีจะทำให้เป็นที่รักและไม่เป็นที่รังเกลียดของคนโดยทั่วไป
กีฬาเป็นสิ่งที่ดีนะคะ โดยไม่ได้ตั้งเงื่อนไขว่าจะดีกับผู้ชนะเท่านั้น แพ้ก็ได้ออกกำลัง ผู้แพ้ก็ได้คิดแก้เกมส์ ผู้แพ้ก็ยังมีสิทธิ์ชนะในคราวหน้า ไม่ว่าจะแพ้ชนะ ก็ต้องรู้แพ้รู้ชนะรู้อภัยทั้งนั้น ชนะวันนี้ ก็ใช่ว่าจะแพ้ไม่เป็น
ถ้าโลกใบนี้ไม่สวยงาม คุณจะอยู่ไปเพื่ออะไรคะ ถ้าคุณไม่รักษามารยาทสังคม คุณจะอยู่กับสังคมที่ไม่พึงประสงค์ไหม สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ต้องสำนึกไว้เสมอว่าสังคมต้องการคนดี สิ่งดีๆ แล้วสิ่งดีๆนั้นไม่ได้ถือกำเนิดขึ้นมาเองเสมอไป เกิดจากสำนึกดีของคนดีทั้งนั้นนะคะ ให้โลกเราสวย พวกเรามาช่วยกัน รับรู้ด้วยกันแล้วทำให้โลกนี้สดใส สุดท้ายนี้ ขอได้ไหมหัวใจที่ดีต่อกัน แม้มีใครต้องการก็ปันก็แบ่งไปนะคะ
คนดู กองเชียร์ นักวิจารณ์กีฬา โค้ชคีย์บอร์ด กองแช่ง เอาให้พอดีซักทาง
1. คนดูกีฬา พวกนี้ดูจริงดูจัง ไม่ค่อยมีปากเสีย มาเพื่อดู รับความสนุกเพลิดเพลิน ดูไปตามเกมส์เข้าใจไปตามเกมส์ พวกที่เก่งดูเก่งๆมักรู้อยู่แล้วว่าจะแพ้ชนะอย่างไร ไม่ค่อยมาเกลือกกลวกกับสามกลุ่มที่เหลือ เริดๆเชิดๆดูของนางไปรู้หรือไม่รู้ตูอมภูมิไว้ก่อน จะบอกเฉพาะคนที่อยากบอกเท่านั้น
2. กองเชียร์ พวกนี้มาเพื่อเชียร์ จะอะไรยังไง กองเชียร์ทำหน้าที่ของกองเชียร์คือให้กำลังใจนักกีฬา กองเชียร์มีหลายระดับ ตั้งแต่ เชียร์เพราะชอบวอลเลย์บอล รักชาติ ไปจะถึงติ่งนักฬา ส่วนมากเป็นผู้มีความรู้ทางการกีฬา แล้วมักจะเป็นผู้ที่ปกป้องสถาบันการกีฬาแห่งประเทศเมื่อมีนักวิจารณ์ หรือโค้ชคีย์บอร์ด เกรียนเกินพอดี กองเชียร์นี่สำคัญมากเพราะต้องสู้กับหลายทาง
3.นักวิจารณ์กีฬา พวกนี้ปรมาณน้ำท่วมทุ่งผํกบุ้งจริงๆน้อยมาก จะหานักวิจารณ์ที่วิจารณ์สมเหตุสมผลมีความรู้หลักการดีๆ แล้วเข้าใจเกมส์กีฬาจนสามารถถ่ายทอด วิเคราะห์เกมส์ว่าจุดเด่นจุดด้อยเกมส์จริงๆคืออะไร โดยที่ไม่ใช้บุคลากรทางการกีฬาเป็นที่ตั้งและที่ระบาย หาได้น้อยจริง ส่วนใหญ่เป็นจะเป็นโค้ชคีย์บอร์ดที่แฝงมาวิจารณ์ นักวิจารณ์จริงๆ จะมุ่งเป้าไปที่พฤติกรรมที่ส่งผลต่อรูปเกมส์ของตัวผู้เล่น นานๆจะผ่านมาซักที หรือไม่ก็เป็นเจ้าประจำที่ทุกคนจะรู้ว่าคนนี้เชื่อถือได้ คุณด้วยแล้วสนุก ได้ความรู้จริง
4.โค้ชคีย์บอร์ด นี่พูดตรงๆ มีเยอะขึ้นเรื่อยๆ จนจะเยอะกว่ากองเชียร์แล้ว เป็นกลุ่มบุคคลที่อันตรายต่อการพัฒนาของทุกวงการจริงๆ บางคนแช่ง บางคนด่า หยาบคายมาก จะตำหนิผู้เล่น แต่หารู้ไม่ว่าคำพูดที่ออกมามันนิยามความน่าเชื่อถือของตัวผู้พูด โค้ชคีย์บอร์ดส่วนใหญ่มักจะกระหายชัยชนะ กลัวความพ่ายแพ้ ที่น่าตกใจไปกว่านั้น บางคนชมเวลาผู้เล่นชนะอวยทีสุด แต่ถ้าแพ้นี้ด่ายับ แล้วก็ชี้เป็นชี้ตายว่าจะต้องทำอย่างนั้นจะต้องแก้เกมส์อย่างนี้ ดิชั้นเป็นห่วงสภาพจิตใจกลุ่มคนเหล่านี้ค่ะ ไม่อยากให้เป็นคนที่วาดฝันไว้เกินเอื้อม โดยที่ไม่เข้าใจความเป็นไปของเกมส์กีฬา ต้องบอกก่อนว่า คนที่ทำงานในสมาคมดิชั้นเชื่อว่าไม่ใช่ผู้ที่รู้น้อยแน่นอน ทุกคนทำตามหน้าที่ของตัวเองอย่างทีสุด การแก้เกมส์หรือพลิกสถานการณ์ไม่ใช่เรื่องของความคิดหรือความรู้สึกที่นึกเอาว่าทำแบบนี้แล้วจะชนะ ทำแบบนั้นจะเห็นผลทันที่ ถ้าเห็นว่ามีการขอเวลานอก คนปกติจะเข้าใจว่านั้นคือการแก้เกมส์ แต่จะทำได้ไล่ทันไหมก็อีกเรื่อง แต่จะมีโค้ชคีย์บอร์ดมาแล้ววว ทำไมไม่แก้เกมส์ ต้องงั้นงี้ คำพูดหยาบคายมาก จนดิชั้นคิดว่า คนเหล่านี้ไม่รู้จริงๆหรอว่า การพูดอย่างสุภาพคนปกติเขาก็เข้าใจกัน
5.กองแช่ง เฉพาะดิชั้นนะคะ ที่ขอให้นิยามกลุ่มเหล่านี้เป็นผู้ป่วยหมายเลขหนึ่ง เนื่องจากเป็นผู้ที่สื่อสารกับผู้อื่นไม่เข้าใจและไม่มีหลักเหตุผลใดๆในการสื่อความนอกจากการเข้ามาด่าทุกบุคคลที่จะทำให้ผู้ด่าได้รับความสนใจ จะไม่เน้นโชว์เหนือทางความรู้เหมือนโค้ช แต่จะใช้คำที่หยาบคายและยั่วยุทางอารมณ์ ทำให้นักีฬาหรือผู้ฝึกสอนเสียหาย
เหล่านี้คือระดับความคิดของคนที่ต้องอยู่ร่วมโลกกับเรา
ดิชั้นหวังว่า จุดยืนของคนดูกีฬา จะไปไม่ถึงจุดที่ 4 และ 5
มารยาทเป็นเรื่องที่สำคัญมากนะคะของโลกใบนี้ มารยาทที่ดีจะทำให้เป็นที่รักและไม่เป็นที่รังเกลียดของคนโดยทั่วไป
กีฬาเป็นสิ่งที่ดีนะคะ โดยไม่ได้ตั้งเงื่อนไขว่าจะดีกับผู้ชนะเท่านั้น แพ้ก็ได้ออกกำลัง ผู้แพ้ก็ได้คิดแก้เกมส์ ผู้แพ้ก็ยังมีสิทธิ์ชนะในคราวหน้า ไม่ว่าจะแพ้ชนะ ก็ต้องรู้แพ้รู้ชนะรู้อภัยทั้งนั้น ชนะวันนี้ ก็ใช่ว่าจะแพ้ไม่เป็น
ถ้าโลกใบนี้ไม่สวยงาม คุณจะอยู่ไปเพื่ออะไรคะ ถ้าคุณไม่รักษามารยาทสังคม คุณจะอยู่กับสังคมที่ไม่พึงประสงค์ไหม สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ต้องสำนึกไว้เสมอว่าสังคมต้องการคนดี สิ่งดีๆ แล้วสิ่งดีๆนั้นไม่ได้ถือกำเนิดขึ้นมาเองเสมอไป เกิดจากสำนึกดีของคนดีทั้งนั้นนะคะ ให้โลกเราสวย พวกเรามาช่วยกัน รับรู้ด้วยกันแล้วทำให้โลกนี้สดใส สุดท้ายนี้ ขอได้ไหมหัวใจที่ดีต่อกัน แม้มีใครต้องการก็ปันก็แบ่งไปนะคะ