สวัสดีครับ...พอดีผมอยากจะขอความคิดเห็นจาก เพื่อนๆที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ หรือ ผู้ที่รู้กฏหมายครับ
ข้อเล่าก่อนว่า ตัวผมกับแฟน ใช้ชีวิตคู่กับแบบชายรักชายครับ อยู่ด้วยกันมาหลายปีแล้วครับ ช่วยกันทำงาน สร้างฐานะ จากแต่ก่อนไม่มีอะไร ช่วยกันก่อร่างสร้างตัว จนปัจจุบันนี้ก็พอจะมีทรัพย์สินอยู่ประมาณหนึ่ง แต่เนื่องด้วยทรัพย์ส่วนใหญ่เป็นชื่อของแฟนผม ไม่ว่าจะเป็น บ้าน คอนโด ที่ดิน รถ สังหาและอสังหาอื่นๆ (หลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้วทำไมถึงไม่โอนกรรมสิทธิ์ หรือเปลี่ยนชื่อทรัพย์สินบางส่วนมาเป็นชื่อผมบ้าง นั่นเนื่องจากว่า ไม่ว่าจะเป็นบ้าน รถ ส่วนใหญ่ยังผ่อนอยู่กับธนาคาร ซึ่งแฟนผมต้องการเป็นคนรับภาระเองทั้งหมด และอีกอย่าง เนื่องจากทุกอย่างที่มีทุกวันนี้มันค่อยๆพอกพูนขึ้น ซึ่งก่อนหน้านั้นผมเองและแฟนก็ไม่ได้ตระหนักถึงเรื่องนี้ซักเท่าไร) นั้นทำให้ทั้งผมและแฟนผมเอง ได้มานั่งคุยกันว่า หากวันหนึ่งตัวแฟนผมเองเกิดโชคไม่ดีขึ้นมา แล้วผมจะเป็นอย่างไร เพราะประเทศไทยยังไม่สามารถจดทะเบียนคู่ชีวิตสำหรับเพศเดียวกันได้ ตัวผมและแฟนผมเองมิได้มีข้อผูกพันธ์กันทางสายเลือดแต่อย่างไร ซึ่งในทางกฏหมายก็เป็นเสมือนเพื่อนหรือคนรู้จักกันแค่นั้น จึงไม่มีสิทธิ์ทางกฏหมายใดๆในทรัพย์สินที่ร่วมสร้างกันมาเลย จะมีก็แต่หุ่นในบริษัทซึ่ง...หุ่นส่วนหลักก็คือของแฟนผม รองลงมาคือเพื่อนของแฟน และท้ายสุดคือตัวผม ซึ่งหากวันนั้นเกิดขึ้น เท่ากับผมต้องมาเป็นหลักให้กับบริษัท เพราะเพื่อนของแฟนผมแค่มาร่วมลงทุนแต่ไม่มีมีความรู้ทางด้านงานที่บริษัททำเลย แต่ด้วยความที่สัดส่วนหุ่นส่วนของผมนั้นน้อย นั้นจึงเป็นประเดนได้พูดคุยกันว่าหากตัวเค้าเกิดโชคไม่ดีขึ้นมาแล้วจะยังไงดี จึงคุยกันจนได้แนวทางมาสองแนวทางตามนี้ครับ
1.จดทะเบียนรับผมเป็นบุตรบุญธรรม เพื่อให้ตัวผมมีสิทธิในส่วนของมรดก ซึ่งผมเองรู้สึกว่ามันยังไงไม่รู้แฮะ (เป็นลูกบุญธรรมของแฟนเนี๊ยนะ) และอีกอย่างผมไม่ทราบว่าถ้าหากในอนาคต ประเทศไทยสามารถจดทะเบียนคู่ชีวิตระหว่างเพศเดียวกันได้ ถึงเวลานั้นผมและแฟนจะสามารถยกเลิกการเป็นบุตรบุญธรรมแล้วไปจดทะเบียนคู่ชีวิตอย่างถูกต้องได้หรือไม่ รวมถึงผมไม่แน่ใจเรื่องผลทางกฏหมายของบุตรบุญธรรมจะมีผลกับเรื่องทรัพย์สินอย่างไร (ทั้งนี้ผมกับแฟนอายุห่างกันเกิน 15 ปีครับ สามารถจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมได้แน่นอน)
2. ให้แฟนผมทำพินัยกรรมไว้ ซึ่งผมก็มองว่าน่าจะดี เพียงแต่ผมเองไม่แน่ใจว่า หากเกิดโชคไม่ดีถึงวันที่ต้องเปิดพินัยกรรม แล้วญาติๆของทางฝั่งแฟน เค้าจะสามารถฟ้องผมหรือคัดค้านพินัยกรรมได้หรือไม่ และพินัยกรรมที่แฟนผมเขียนขึ้นโดยยกทรัพย์สินให้ตัวผมซึ่งมิได้มีความสัมพันธิ์กันทางสายเลือดหรือทางกฏหมายนั้น ตัวพินัยกรรมเองมันจะมีนำ้หนักพอหรือไม่ เพราะผมเองไม่อยากขึ้นโรงขึ้นศาลไม่อยากมีปัญหากับทางญาติของฝั่งแฟนเลย ส่วนตัวผมรู้จัก พี่น้องของทางแฟนผมบางคน ทุกคนนิสัยดี แต่ผมตระหนักว่า ทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นตอนนี้ ไม่สามารถรับรองสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้มันจะเป็นอย่างไร
เลยอยากจะขอคำแนะนำจาก เพื่อนๆที่ เคยประสบเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตัวเอง หรืออยู่ในสถานะการณ์เดียวกัน หรือผู้ที่รู้กฏหมายช่วยกันแนะนำและหาทางออกที่มันดีที่สุดทีครับ
ให้แฟนผมจดทะเบียนรับตัวผมเป็นบุตรบุญธรรมหรือทำพินัยกรรม?????
ข้อเล่าก่อนว่า ตัวผมกับแฟน ใช้ชีวิตคู่กับแบบชายรักชายครับ อยู่ด้วยกันมาหลายปีแล้วครับ ช่วยกันทำงาน สร้างฐานะ จากแต่ก่อนไม่มีอะไร ช่วยกันก่อร่างสร้างตัว จนปัจจุบันนี้ก็พอจะมีทรัพย์สินอยู่ประมาณหนึ่ง แต่เนื่องด้วยทรัพย์ส่วนใหญ่เป็นชื่อของแฟนผม ไม่ว่าจะเป็น บ้าน คอนโด ที่ดิน รถ สังหาและอสังหาอื่นๆ (หลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้วทำไมถึงไม่โอนกรรมสิทธิ์ หรือเปลี่ยนชื่อทรัพย์สินบางส่วนมาเป็นชื่อผมบ้าง นั่นเนื่องจากว่า ไม่ว่าจะเป็นบ้าน รถ ส่วนใหญ่ยังผ่อนอยู่กับธนาคาร ซึ่งแฟนผมต้องการเป็นคนรับภาระเองทั้งหมด และอีกอย่าง เนื่องจากทุกอย่างที่มีทุกวันนี้มันค่อยๆพอกพูนขึ้น ซึ่งก่อนหน้านั้นผมเองและแฟนก็ไม่ได้ตระหนักถึงเรื่องนี้ซักเท่าไร) นั้นทำให้ทั้งผมและแฟนผมเอง ได้มานั่งคุยกันว่า หากวันหนึ่งตัวแฟนผมเองเกิดโชคไม่ดีขึ้นมา แล้วผมจะเป็นอย่างไร เพราะประเทศไทยยังไม่สามารถจดทะเบียนคู่ชีวิตสำหรับเพศเดียวกันได้ ตัวผมและแฟนผมเองมิได้มีข้อผูกพันธ์กันทางสายเลือดแต่อย่างไร ซึ่งในทางกฏหมายก็เป็นเสมือนเพื่อนหรือคนรู้จักกันแค่นั้น จึงไม่มีสิทธิ์ทางกฏหมายใดๆในทรัพย์สินที่ร่วมสร้างกันมาเลย จะมีก็แต่หุ่นในบริษัทซึ่ง...หุ่นส่วนหลักก็คือของแฟนผม รองลงมาคือเพื่อนของแฟน และท้ายสุดคือตัวผม ซึ่งหากวันนั้นเกิดขึ้น เท่ากับผมต้องมาเป็นหลักให้กับบริษัท เพราะเพื่อนของแฟนผมแค่มาร่วมลงทุนแต่ไม่มีมีความรู้ทางด้านงานที่บริษัททำเลย แต่ด้วยความที่สัดส่วนหุ่นส่วนของผมนั้นน้อย นั้นจึงเป็นประเดนได้พูดคุยกันว่าหากตัวเค้าเกิดโชคไม่ดีขึ้นมาแล้วจะยังไงดี จึงคุยกันจนได้แนวทางมาสองแนวทางตามนี้ครับ
1.จดทะเบียนรับผมเป็นบุตรบุญธรรม เพื่อให้ตัวผมมีสิทธิในส่วนของมรดก ซึ่งผมเองรู้สึกว่ามันยังไงไม่รู้แฮะ (เป็นลูกบุญธรรมของแฟนเนี๊ยนะ) และอีกอย่างผมไม่ทราบว่าถ้าหากในอนาคต ประเทศไทยสามารถจดทะเบียนคู่ชีวิตระหว่างเพศเดียวกันได้ ถึงเวลานั้นผมและแฟนจะสามารถยกเลิกการเป็นบุตรบุญธรรมแล้วไปจดทะเบียนคู่ชีวิตอย่างถูกต้องได้หรือไม่ รวมถึงผมไม่แน่ใจเรื่องผลทางกฏหมายของบุตรบุญธรรมจะมีผลกับเรื่องทรัพย์สินอย่างไร (ทั้งนี้ผมกับแฟนอายุห่างกันเกิน 15 ปีครับ สามารถจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมได้แน่นอน)
2. ให้แฟนผมทำพินัยกรรมไว้ ซึ่งผมก็มองว่าน่าจะดี เพียงแต่ผมเองไม่แน่ใจว่า หากเกิดโชคไม่ดีถึงวันที่ต้องเปิดพินัยกรรม แล้วญาติๆของทางฝั่งแฟน เค้าจะสามารถฟ้องผมหรือคัดค้านพินัยกรรมได้หรือไม่ และพินัยกรรมที่แฟนผมเขียนขึ้นโดยยกทรัพย์สินให้ตัวผมซึ่งมิได้มีความสัมพันธิ์กันทางสายเลือดหรือทางกฏหมายนั้น ตัวพินัยกรรมเองมันจะมีนำ้หนักพอหรือไม่ เพราะผมเองไม่อยากขึ้นโรงขึ้นศาลไม่อยากมีปัญหากับทางญาติของฝั่งแฟนเลย ส่วนตัวผมรู้จัก พี่น้องของทางแฟนผมบางคน ทุกคนนิสัยดี แต่ผมตระหนักว่า ทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นตอนนี้ ไม่สามารถรับรองสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้มันจะเป็นอย่างไร
เลยอยากจะขอคำแนะนำจาก เพื่อนๆที่ เคยประสบเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตัวเอง หรืออยู่ในสถานะการณ์เดียวกัน หรือผู้ที่รู้กฏหมายช่วยกันแนะนำและหาทางออกที่มันดีที่สุดทีครับ