เรื่องของเรื่องคือ เราทำสัญญาเช่าซื้อบ้านกับคนรู้จักอ่ะค่ะ โดยให้เค้าเข้าอยู่ก่อนได้ (เพราะก่อนหน้านี้เค้าอยู่แบบจ่ายค่าเช่าอยู่แล้ว) ในสัญญาระบุจำนวนเงินดาวน์และที่ต้องผ่อนชำระรายเดือน และหากเค้าผิดสัญญา ให้ถือว่าสัญญาเป็นโมฆะและเรายึดเงินที่จ่ายมาแล้วทั้งหมดได้ แต่ไม่ได้ระบุในเรื่องที่ให้เรากลับเข้าครอบครองบ้านได้เลยน่ะค่ะ

ตัวคนซื้อเค้าผิดสัญญาตั้งแต่เงินดาวน์แล้ว จ่ายมาแค่ 20% ของจำนวนที่ตกลงกัน ส่วนที่ต้องจ่ายรายเดือน จ่ายตรง 2 เดือนแรก เดือน 3-5 จ่ายแบบขยักขย่อน แล้วก็หยุดชำระไปเลยตั้งแต่เดือน 6 เราคุยจนสุดวิสัยแล้วเลยหาทนายทำเรื่องฟ้องขับไล่ ตามขั้นตอนกฎหมายทุกอย่างอ่ะค่ะ

เราชนะคดีเมื่อเมษายนที่ผ่านมา หลังจากนั้นรอปิดหมาย นับวันส่งเรื่องไปบังคับคดี ซึ่งก็ครบกำหนดไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว แต่ผลปรากฎว่า หลังจากที่ทนายเราไปเช็คสำเนาที่ศาล เค้าถึงได้ทราบว่าจำเลยยื่นเรื่องขอพิจารณาคดีใหม่เพราะไม่ได้มาสู้คดีเนื่องจากที่อยู่ตามภูมิลำเนากับที่อยู่อาศัยจริงเป็นคนละที่กัน (เค้าอยู่บ้านเรา แต่ที่อยู่เค้าที่ระบุในสัญญาเป็นที่อยู่ตามบัตรประชาชน) ซึ่งศาลนัดไต่สวนคำร้องเดือนหน้านี้ค่ะ

ตอนนี้เราเลยมึนตึ๊บว่าจะต้องมานั่งฟ้องร้องกันใหม่ทั้งหมดมั๊ย เพราะจำเลยค่อนข้างหัวหมอและคอนเนคชั่นเยอะพอสมควร แต่หลักฐานทางเราก็บ่งบอกอยู่ชัดเจนว่าจำเลยเป็นคนผิดสัญญาตั้งแต่แรก และบ้านก็ยังเป็นของเราแท้ ๆ ยังไม่ได้มีการโอนใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ตัวเรากลับเข้าครอบครองบ้านไม่ได้

มาถึงตรงนี้เราเลยอยากขอความเห็นน่ะค่ะ ว่าในกรณีแบบนี้ โอกาสที่ศาลจะเห็นพ้องกับจำเลยให้พิจารณาคดีใหม่มีมาก-น้อยแค่ไหน และเราพอจะทำอะไรได้บ้างเพื่อไม่ให้คดียืดเยื้ออ่ะคะ

ขอบคุณล่วงหน้าทุกความเห็นค่ะ
_/\_