เมื่อสองวันก่อนได้เห็นเค้าประกาศหาผู้ร่วมทุนกัน แต่ละโพสต์ดูเลื่อนลอย แบบที่ถ้าเราเป็นเจ้าของเงินก็ไม่กล้าลง  นึกภึงตัวเองที่หลายครั้ง มีออร์เดอร์แต่หลุดเพราะทุนไม่พอ ไม่กล้าจับ เลยโพสต์บ้าง ว่าเรามีร้านวัสดุแบบนี้นะ อยู่ที่นี่ จดทะเบียนอย่างนี้ ก็แจ้งรายละเอียดไปประมาณนึง ไม่น่าเชื่อ ไม่ถึง 20 นาทีได้มั้ง มีคนโทรกลับมาด้วย ก็คุยกันนะ รายละเอียดต่างๆ จนโอเค มะรืนนัดเจอกัน ก็เป็นลักษณะซื้อมาขายไป แบบเรามีลูกค้าสั่งแล้ว เค้าโอนต้นทุนออกให้ก่อน พอเราส่งมอบของเสร็จ เราเก็บเงินจากลูกค้า แล้วโอนคืนเค้า กำไรแบ่งกันเรา70เค้า 30 โดยที่เค้าให้เราวางเช็คค้ำไว้ ก็โอเคนะในความรู้สึกเรา ดีกว่าเสียโอกาส เพราะบางครั้งเราลงของไปหลายเจ้า ทุนหมด แทนที่จะปล่อยเลยไป ได้น้อยดีกว่าสูญ  ใครมีความเห็นยังไงบ้าง วิจารณ์มาได้ค่ะ

อีกอย่างคือของที่เราขายเรารับจากโรงงาน ซึ่งโรงงานจะซื้อตัววัสดุเปลือย ยังไม่ทำสี มาพ่นสีแล้วขายเราแบบกำไรดีอ่ะ แถมส่วนใหญ่ส่งไม่ตรงกำหนด เราต้องคอยผลัดลูกค้า มักเลื่อนออกไป2-3วัน มันไม่มาก แต่มันไม่เป๊ะ  เราอยากนัดลูดค้าวันศุกร์ก็วันศุกร์ไม่ใช่เลยไปวันจันทร์ เลยคิดอยากทำห้องอบสีเองเลย ใช้ทุนไม่เกิน3แสน เพราะดัดแปลงส่วนหลังโกดังที่เรามี พอคิดถึงกำไร และเป็นของที่เราต้องสั่งซื้ออยู่แล้ว มันก็บรรเจิด พอคิดถึงการหาคนร่วมทุน ก็หวั่น ว่ามันจะออกรูปไหน แบ่งกันยังไง เพราะแบบซื้อมาขายไปอย่างที่เล่ามันจบระยะสั้น 3-7วันเท่านั้น จบกันเป็นเคสๆไป แต่การร่วมทุนห้องอบมันยาวนะ เราไม่อยากเอาเปรียบใคร และกลัวเสียกิจการให้ใครเค้า เพราะความที่เค้ามีเงิน เรากลัวเค้าจะล้ำเข้ามาจนสุดท้ายความเป็นตัวเรา อยู่ในมือเค้า เราเป็นเพียงแค่แรงงาน  มันคงน่าเสียใจ หรือว่าเราควรติดต่อเป็นการกู้ แบบวงเงินเท่านี้ เอามาทำ ส่งดอก สัก6เดือน แล้วเดือนที่ 6คืนต้นด้วย จบกัน น่าจะดี เราเองก็แบงค์ไม่ได้ค่ะ ไม่อยู่ในเงื่อนไข ถ้ากู้กันแบบนี้ดอกเบี้ยควรอยู่ที่เท่าไหร่ เรากะเอาไว้ว่าร้อยละ3 นะจะกำลังดี หรือร้อยละ5 แพงนะ  แต่พอสู้ไหว เมื่อคิดถึงออร์เดอร์ที่มีอยู่ เฉือนกำไรออกไป6เดือนก็เป็นไทย  เพื่อนๆพี่ๆ รวมทั้งผู้มีความเข้าใจตรงนี้คิดอย่างไร ขอความเห็นด้วยค่ะ   ขอบคุณค่ะ  รูปใหญ่มากเลยลบเหลือแค่รูปเดียวค่ะ