คำสั่งปิดวิทยุพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พุทธมณฑล ไล่พระเณรออกไป จนตั้งตัวไม่ทัน

เมื่อวันศุกร์ (17 ก.ค.) ที่ผ่านมาเวลาประมาณ 18 นาฬิกาเศษ ได้เกิดเหตุการณ์ช็อกผู้ฟังคาวิทยุ เมื่อแม่ข่ายสถานีวิทยุกระจายเสียงพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่ออกอากาศจากพุทธมณฑล อ.ศาลายา จ.นครปฐม ได้มีเสียงเพลงธรณีกรรแสง พร้อมเสียงประกาศลาผู้ฟังของพระบุญร่วม ปุญญมโน หรือที่ผู้ฟังเรียกว่า หลวงตาร่วม ผู้อำนวยการสถานีประกาศด้วยน้ำเสียงสลดว่า สถานีฯ จำต้องยุติการออกอากาศลงในทันที อย่างไม่มีกำหนดฯ ซึ่งสร้างความตกตลึงให้กับแฟนคลับทั่วประเทศ ที่ติดตามรับฟังอย่างต่อเนื่องมานานกว่า 11 ปี

สำหรับสาเหตุของคำสั่งให้ปิดตัวลงอย่างไม่คาดฝันนี้

พระปลัดบุญร่วม กล่าวว่า
“..อาตมาเป็นพระ เมื่อเจ้าของสถานที่เขามาบอกว่าต้องให้รีบปิด เพราะถ้าไม่ปิดเดี๋ยวนี้ พวกเขาจะเดือดร้อน อาตมาก็ทำอะไรไม่ถูก” เมื่อถามเขาว่า ใครเป็นคนสั่งให้ปิด เขาบอกว่า ..”..หน่วยเหนือ..ระดับรัฐมนตรีเป็นคนสั่ง แต่ไม่บอกว่าใคร ได้แต่ดำชับว่า เดี๋ยวท่านกำลังจะมาตรวจด้วยตนเอง ..” เขาขอร้องอาตมา ด้วยความสงสาร ไม่อยากขัดขืน จึงต้องจำใจปิด”

พระอาจารย์บุญร่วม กล่าวนอกจากให้ปิดแล้ว เขายังให้ขนย้ายเครื่องส่ง และทรัพย์สินออกให้หมด และย้ำให้ทั้งพระ เณรและฆราวาสทุกคนต้องออกไปจากอาคารด้วย อาตมาเก็บของแทบไม่ทัน “ หลวงตาร่วมกล่าวอีกแล้วเขาก็ใส่กุญแจล็อกห้องเลย



“เท่านั้นยังไม่พอ เขายังไปถอนป้ายชื่อสถานีวิทยุพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่ตั้งอยู่หน้าเสาธงออกไปด้วย ทีแรกเขาต้องการจะขุดเอาเสาออก แต่เพราะตอนก่อสร้างอาตมาเทปูนไว้อย่างแข็งแรง เขาช่วยกันหลายคนยังเอาไม่ออก จึงถอดเอาแต่ป้ายไป” พระอาจารย์บุญร่วมเล่า
ปิดตัวลงเป็นการชั่วคราวที่รับฟัง



สถานีวิทยุกระจายเสียงพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติ พุทธมณฑล 104.25 MHz. ลงมือก่อตั้งในปี ๒๕๔๖ ด้วยเงินบริจาคของพุทธศาสนิกชน ได้ซ่อมแซม ปรับปรุงอาคารที่กำลังจะทุบทิ้ง และติดตั้งเสาส่ง เครื่องวิทยุและอุปกรณ์ต่างๆ รวมเป็นมูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท โดยไม่ใช้งบประมาณของรัฐฯ และเริ่มออกอากาศวันแรก ตรงกับวันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๔๗ และมีพิธีเปิดป้ายสถานีวิทยุอย่างเป็นทางการ โดยนายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีซึ่งกำกับดูแลกรมการศาสนา

สถานีฯ ได้พัฒนาและเจริญก้าวหน้าด้วยการบริจาคของผู้ฟัง จนสามารถขายกำลังส่งได้ ระหว่าง ๕,๐๐๐ – ๑๐.๐๐๐ วัตต์ ด้วยเสาส่งสูง ๑๒๐ เมตร ต่อมาในปี ๒๕๕๕ เมื่อมีการตั้งคณะกรรมการ กสทช.แล้ว ได้ประกาศใช้กฎหมายให้สถานีวิทยุชุมชน ลดกำลังส่งเหลือเพียง 500 วัตต์ เสาส่งสูงไม่เกิน ๖๐ เมตร พระอาจารย์บุญร่วมและเครือข่ายได้ร่วมกับสถานีวิทยุในเครือขายของหลวงตามหาบัวและวัดสังฆทานฟ้องกสทช.ต่อศาลปกครองกลาง ขณะนี้เรื่องยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา

อย่างไรก็ตามสถานีวิทยุ พุทธมณฑล ได้ปฏิบัติตามระเบียบของกสทช. ด้วยดีตลอดมา จนกระทั่งถูกสั่งปิดโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายอาคารสถานที่ดังกล่าว “ ขนาดกสทช.และทหาร ที่มีหน้าที่และอำนาจโดยตรงตามกฎหมาย ยังให้ความเคารพร่วมมือและไม่เคยทำรุนแรงเช่นนี้เลย “ หลวงตาร่วมกล่าว

“เราอยากรู้ว่าใครเป็นคนสั่ง ไม่เข้าใจเลยว่าสำนักพุทธทำแบบนี้ได้อย่างไร ทำไม่ต้องทั้งปิดทั้งไล่ออกและปลดป้ายทิ้ง ทั้งๆที่ออกอากาศ มีแต่ธรรมะมาตลอด มีแต่ประโยชน์ ไม่เห็นสร้างความเดือดร้อนให้ใครนอกจากคนเลวๆ” แฟนครับท่านหนึ่งกล่าว และทิ้งท้ายว่า “คนสั่งปิดน่าจะเป็นสมุนของเทวทัต คนอย่างนี้น่าจะขับไล่ให้กลับไปอเวจีเร็วๆ”

แหล่งข่าวใกล้ชิดหลวงตาร่วมกล่าวว่า การที่สถานีวิทยุฯ ต้องปิดตัวอย่างไม่ทันตั้งตัวในครั้งนี้ สร้างความสะเทือนใจแก่หลงตามร่วมเป็นอย่างมาจนน้ำตาซึม หลวงตาร่วมบุกเบิกดำเนินการมาด้วยตนเองตลอดเวลากว่า 11 ปี จนปัจจุบันมีเครือข่ายรับฟังได้ทั่วประเทศกว่า 100 สถานี และออกอากาศรับฟังได้ทั่วโลกทางอินเตอร์เน็ท

อนึ่ง ได้มีการนัดหมายกันของผู้ที่เคยฟังการออกอากาศของหลวงตาร่วมได้นัดหมายกันเพื่อไปสวดมนต์และภาวนากัน ณ บริเวณที่ตั้งสถานีวิทยุ ภายในพุทธมณฑล,ศาลายา ซึ่งผู้สื่อข่าวรายงานว่า เริ่มมีสาธุชนทยอยมาร่วมกันตั้งแต่ช่วงสายเป็นต้นมา


ตื่นเถิดชาวพุทธ - Wake Up Buddhist



ที่มา:https://www.facebook.com/1417408405221131/photos/pcb.1469734449988526/1469734433321861/?type=1&theater
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่