คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
พวกที่ชอบพูดแบบนี้ไม่เคยไป หรือไม่มีปัญญาไปต่างประเทศในประเทศที่พัฒนาแล้วหรอกครับ
สมัยก่อนพวกประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างยุโรปตะวันตก อเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ไม่ใช่ประเทศที่จะได้ไปกันง่ายๆ
สมัยผมเด็กๆครูบางคนไปสิงคโปร์ก็กลับมาคุยโม้หน้าเสาธงเป็นคุ้งเป็นแคว ชื่นชมเค้ามากอย่างนั้นอย่างนี้ นี่แค่ไปสิงคโปร์นะครับยังเพ้อขนาดนั้น
เอาจากประสบการณ์ตรงที่ผมไปเยอรมันมา ภาพตอนเด็กๆที่พวกผู้ใหญ่(ที่ไม่เคยรู้จักแม้แต่คนเยอรมัน)ฝังหัวผมมาว่าคนเยอรมันดุ แย่อย่างนั้นอย่างนี้ แล้วผมก็เคยรู้จักครูสอนภาษาอังกฤษชาวเยอรมันแก่ๆคนนึง โครตพ่อโครตแม่ดุอย่างไม่มีเหตุผล(เป็นสมัยนี้ผมเอาเรื่องแล้ว) ผมเลยมีประสบการณ์แย่ๆเกี่ยวกับคนเยอรมันอยู่บ้าง แต่ตอนโตมาไปเรียนภาษาเยอรมันกับครูชาวเยอรมันก็ค่อยมีประสบการณ์ที่ดีขึ้นเยอะ เพราะเค้าดีมากๆ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าคนเยอรมันจริงๆเป็นยังไง พอผมไปเจอจริงๆ คนเยอรมันนี่โครตดีมากๆเลยครับ เวลาต้องการความช่วยเหลือนี่ช่วยเหลือเต็มที่ ช่วยจนถึงที่สุด รู้ว่าผมเป็นนักท่องเที่ยวก็ไม่เคยมาหลอกลวงเอาเงินแบบบ้านเรา (อันนี้ผมอาจจะโชคดีเองก็ได้) ไอ้ที่แย่ๆที่เจอมันก็มีบ้างแหละครับ เช่นคนเมา มนุษย์ลุง มนุษย์ป้า แต่ในภาพรวมผมว่าคนที่นั่นโดยรวมเค้าดีกว่าที่เมืองไทยมาก อย่างตอนเดินข้ามถนน เค้าไม่มีมาตะบี้ตะบันเหยียบคันเร่งพุ่งมาใส่เราแบบที่เจอในเมืองไทยเมืองพุทธจิตใจสูงส่งหรอกครับ เค้าขับมาเร็วแค่ไหน(ผมเคยเจอประเภทขับมาจนน่าจะเร็วกว่าความเร็วที่กฎหมายกำหนดไว้ที่30กม./ชม.) ก็จะชะลอหรือหยุดให้เราจนเดินข้ามพ้นถนน
เรื่องนี้ผมว่ามันปลูกฝังกันได้ แต่ต้องยอมรับความจริงกันก่อนครับว่าคุณภาพคนบ้านเราโดยรวมมันแย่
แย่ตั้งแต่ที่บ้าน ไปโรงเรียนก็แย่ อย่างครูห่วยๆในโรงเรียนทุกวันนี้เยอะแยะมาก แบบนี้จะไปสอนเด็กให้เป็นคนมีคุณภาพได้ยังไง
เราไม่ยอมรับความจริง เราไม่กล้าวิจารณ์ เรามีคุณธรรมจอมปลอมบางอย่างคุ้มกันไม่ให้เราไปแตะต้องครูห่วยๆ
ต้องขอโทษด้วยที่ผมอาจจะใช้ถ้อยคำที่รุนแรงไป แต่มันคือความเป็นจริง ชีวิตผมเจอคุณภาพชีวิตห่วยๆในโรงเรียนต่างจังหวัดมาเป็นสิบกว่าปี
ถึงจะมาเจอคุณภาพการศึกษาดีๆ ครูดีๆ ในมหาวิทยาลัยในกรุงเทพ และต่างประเทศ ผมถึงเห็นว่าเราต้องยอมรับความจริงแล้วปรับปรุง ไม่ใช่หลอกตัวเองไปวันๆแล้วให้ทุกอย่างมันแย่ลงๆแบบทุกวันนี้
สมัยก่อนพวกประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างยุโรปตะวันตก อเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ไม่ใช่ประเทศที่จะได้ไปกันง่ายๆ
สมัยผมเด็กๆครูบางคนไปสิงคโปร์ก็กลับมาคุยโม้หน้าเสาธงเป็นคุ้งเป็นแคว ชื่นชมเค้ามากอย่างนั้นอย่างนี้ นี่แค่ไปสิงคโปร์นะครับยังเพ้อขนาดนั้น
เอาจากประสบการณ์ตรงที่ผมไปเยอรมันมา ภาพตอนเด็กๆที่พวกผู้ใหญ่(ที่ไม่เคยรู้จักแม้แต่คนเยอรมัน)ฝังหัวผมมาว่าคนเยอรมันดุ แย่อย่างนั้นอย่างนี้ แล้วผมก็เคยรู้จักครูสอนภาษาอังกฤษชาวเยอรมันแก่ๆคนนึง โครตพ่อโครตแม่ดุอย่างไม่มีเหตุผล(เป็นสมัยนี้ผมเอาเรื่องแล้ว) ผมเลยมีประสบการณ์แย่ๆเกี่ยวกับคนเยอรมันอยู่บ้าง แต่ตอนโตมาไปเรียนภาษาเยอรมันกับครูชาวเยอรมันก็ค่อยมีประสบการณ์ที่ดีขึ้นเยอะ เพราะเค้าดีมากๆ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าคนเยอรมันจริงๆเป็นยังไง พอผมไปเจอจริงๆ คนเยอรมันนี่โครตดีมากๆเลยครับ เวลาต้องการความช่วยเหลือนี่ช่วยเหลือเต็มที่ ช่วยจนถึงที่สุด รู้ว่าผมเป็นนักท่องเที่ยวก็ไม่เคยมาหลอกลวงเอาเงินแบบบ้านเรา (อันนี้ผมอาจจะโชคดีเองก็ได้) ไอ้ที่แย่ๆที่เจอมันก็มีบ้างแหละครับ เช่นคนเมา มนุษย์ลุง มนุษย์ป้า แต่ในภาพรวมผมว่าคนที่นั่นโดยรวมเค้าดีกว่าที่เมืองไทยมาก อย่างตอนเดินข้ามถนน เค้าไม่มีมาตะบี้ตะบันเหยียบคันเร่งพุ่งมาใส่เราแบบที่เจอในเมืองไทยเมืองพุทธจิตใจสูงส่งหรอกครับ เค้าขับมาเร็วแค่ไหน(ผมเคยเจอประเภทขับมาจนน่าจะเร็วกว่าความเร็วที่กฎหมายกำหนดไว้ที่30กม./ชม.) ก็จะชะลอหรือหยุดให้เราจนเดินข้ามพ้นถนน
เรื่องนี้ผมว่ามันปลูกฝังกันได้ แต่ต้องยอมรับความจริงกันก่อนครับว่าคุณภาพคนบ้านเราโดยรวมมันแย่
แย่ตั้งแต่ที่บ้าน ไปโรงเรียนก็แย่ อย่างครูห่วยๆในโรงเรียนทุกวันนี้เยอะแยะมาก แบบนี้จะไปสอนเด็กให้เป็นคนมีคุณภาพได้ยังไง
เราไม่ยอมรับความจริง เราไม่กล้าวิจารณ์ เรามีคุณธรรมจอมปลอมบางอย่างคุ้มกันไม่ให้เราไปแตะต้องครูห่วยๆ
ต้องขอโทษด้วยที่ผมอาจจะใช้ถ้อยคำที่รุนแรงไป แต่มันคือความเป็นจริง ชีวิตผมเจอคุณภาพชีวิตห่วยๆในโรงเรียนต่างจังหวัดมาเป็นสิบกว่าปี
ถึงจะมาเจอคุณภาพการศึกษาดีๆ ครูดีๆ ในมหาวิทยาลัยในกรุงเทพ และต่างประเทศ ผมถึงเห็นว่าเราต้องยอมรับความจริงแล้วปรับปรุง ไม่ใช่หลอกตัวเองไปวันๆแล้วให้ทุกอย่างมันแย่ลงๆแบบทุกวันนี้
แสดงความคิดเห็น
ขอถามตรงๆ ทำไมเรามักได้ยิน คนพูดถึงประเทศที่พัฒนาแล้วว่า พัฒนาแต่วัตถุ แต่จิตใจไม่พัฒนา