"เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล" ชื่นมื่นคุย "กสทช." คดีฟ้องศาลปกครอง กสทช. ต่อลมหายใจไทยทีวีออกอากาศอีก 3 เดือน

นายสุชาติ ศรีวรกร ตุลาการหัวหน้าคณะในศาลปกครองกลางเจ้าของสำนวนคดีไทยทีวี ได้ไต่สวนคู่ความเพื่อพิจารณาคำร้องขอกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราว คดีที่ บริษัท ไทยทีวี จำกัด โดยนางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย หรือ ติ๋ม ทีวีพูล ยื่นฟ้อง กสทช. โดยการไต่สวนใช้เวลานานร่วม 3 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ
     ต่อมาเวลา 16.20 น. นางพันธุ์ทิพา กก.บริษัท ไทยทีวี ฯ กล่าวว่า
     การไต่สวนวันนี้ศาลยังไม่มีคำสั่งใดๆ แต่จากผลการพูดคุยกับ กสทช. สรุปว่า ในวันที่ 26 ก.ค.นี้ ช่องการออกอากาศของไทยทีวีทั้งหมด จะยังไม่จอดำ แต่นับจากวันนี้ไปอีก 3 เดือน จนถึงวันที่ 31 ต.ค.นี้ จะต้องหาผู้ร่วมลงทุนใหม่ ซึ่งจะเป็นความร่วมมือที่ กสทช.จะเปิดเวทีช่วยเพื่อหาผู้ร่วมลงทุน ขณะที่บริษัท ทีวีไทยฯ จะเป็นผู้พิจารณาตัดสินใจว่าใครจะเข้ามาเป็นผู้ร่วมลงทุน ซึ่งทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามสัดส่วนของ กติกา กสทช.ที่เคยกำหนดไว้ ขณะที่คุณสมบัติผู้ร่วมลงทุนที่เราต้องหา คือผู้ที่มีศักยภาพในการผลิตและเงินลงทุน โดยคาดว่าผู้ที่เคยไม่ผ่านการประมูลทีวีดิจิตอลที่ผ่านมา อาจจะสนใจเข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรลงทุน ขณะที่ระหว่างนี้ช่องไทยทีวี จะรักษาสภาพในการออกอากาอยู่โดยไม่จอดำ แต่จะพิจารณาตัดเรื่องของตัววิ่ง ระหว่างการออกอากาศ ส่วนค่าใช้จ่ายระหว่างการออกอากาศช่วง 3 เดือนนี้ จะอยู่ประมาณ 20 ล้านต่อเดือนต่อช่อง
     นางพันธุ์ทิพา กล่าวอีกว่า
     การพูดคุยกับ กสทช. ที่ศาล ในวันนี้เรายังไม่ได้พูดคุยถึงรายละเอียดยอดเงินที่ค้างชำระค่างวด และการชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาต เพราะหากพูดถึงเรื่องเงินในขณะนี้ปัญหาต่างๆ อาจจะยังไม่จบ และเรื่องของหนังสือค้ำประกันของธนาคารก็ยังไม่มีการยึดไปหรือดำเนินการใดๆ ขณะที่เรื่องของการยกเลิกออกอากาศนั้น ที่ผ่านมาเราได้ทำหนังสือถึง กสทช. ตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ขอแจ้งยกเลิกการออกอากาศ แต่ กสทช. ได้ยืนยันกลับมาว่ากรณีของบริษัท ทีวีไทยฯ ยังไม่ถูกยกเลิก ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ต้องสู้กันต่อไปในศาล ขณะที่ขยายระยะเวลาออกอากาศไปอีก 3 เดือนข้างหนี้นี้ ก็เพื่อเปิดทางหาผู้ร่วมลงทุนใหม่ และในส่วน กสทช.เอง ตนคิดว่าคงจะปรับวิธีการบริหารของ กสทช.เอง

     ด้าน พ.อ.นที รองประธาน กสทช. กล่าวว่า
     กสทช.ให้เวลาบริษัท ไทยทีวี ฯ อีก 3 เดือน ในการออกอากาศและหาผู้ร่วมลงทุนสำหรับเงินค่างวดที่ 2 ขณะนี้ยังไม่ได้ทวงถาม ซึ่งเท่ากับบริษัทยังค้างชำระอยู่ตามกฎและกติกาไม่ได้มีการแก้ไขใดๆ
     "คิดว่าน่าจะเป็นแนวทางที่ดี ที่ 2 ฝ่ายจะให้ความร่วมมือกันโดยไม่มีใครขอร้องใคร ถ้ามีตรงไหนที่ กสทช. ให้การสนับสนุนได้ภายใต้กรอบกติกาและไม่เกินความสามารถ กสทช.ก็อยากสนับสนุน เพราะจะทำให้ทีวีดิจิตอลได้เคลื่อนไปข้างหน้า" พ.อ.นที รองประธาน กสทช.กล่าว

     ขณะที่ น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กสทช. กล่าวเสริมว่า
     การหาผู้ร่วมทุนของบริษัทไทยทีวี ฯ นั้น ในส่วนของ กสทช. ไม่ใช่การจัดหาผู้ร่วมลงทุนให้โดยตรงเพราะจะกลายเป็นการสร้างวิธีพิเศษ แต่ กสทช. คงให้การสนับสนุนในการเปิดเวทีเพื่อ บริษัท ไทยทีวี ฯ จะจัดหาผู้ร่วมทุนเอง ขณะที่สัดส่วนของผู้ร่วมลงทุนใหม่นั้นต้องเป็นไปตามกติกา แต่หากพ้นจาก 3 เดือนแล้ว ถ้าบริษัท ไทยทีวี ไม่อาจปรับแผนธุรกิจหาผู้ร่วมลงทุนใหม่ได้ และไม่อาจปฏิบัติตามกติกาของ กสทช. ก็ต้องนำไปสู่กระบวนการพิจารณาเพิกถอน และพักใช้ใบอนุญาต แต่ขณะเดียวกันหากภายในวันที่ 26 ก.ค.นี้ บริษัทไทยทีวี ฯ จะยุติการออกอากาศเอง กสทช.ก็ต้องพิจารณาดำเนินการเพิกถอนและพักใช้ใบอนุญาต สำหรับกรณีที่ บริษัทไทยทีวี ฯ มีหนังสือแจ้งขอหยุดออกอากาศตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค.นั้น ตามขั้นตอน กสทช. ต้องเป็นผู้ให้อนุญาตเท่านั้นและถ้ามีการยุติออกอากาศจาก กสทช.แล้ว บริษัท ก็ต้องทำทุกอย่างให้ครบตามขั้นตอน คือการขึ้นตัววิ่งและจ่ายเงินค่างวดค้างชำระ แต่ระหว่างนี้ยังไม่ได้มีการพักใช้ใบอนุญาต บริษัท ไทยทีวี ฯ จึงยังออกอากาศได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่