หลังจากวันแรกของการใช้ชีวิตในดินแดนต่างบ้านต่างเมืองผ่านไปได้ด้วยดี ก็มาถึง #วันที่2 ... แผนของเราในวันนี้ก็คือ
(วันที่2) วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม 2558 : หมู่บ้านบุกชน ฮันอก >> ถนนซัมชองดง >> พระราชวังเคียงบก >> อนุสาวรีย์พระเจ้าเซจง >> คลองชองเกชอน >> เมียงดง >> เอ็น โซล ทาวเวอร์ >> ย่านทงแดมุน
link : รีวิวเที่ยวเกาหลี แบบละเอียดยิบ #วันที่1 =
http://ppantip.com/topic/33945200
link : รีวิวเที่ยวเกาหลี แบบละเอียดยิบ #วันที่2 =
http://ppantip.com/topic/33951051
link : รีวิวเที่ยวเกาหลี แบบละเอียดยิบ #วันที่3 =
http://ppantip.com/topic/33962978
link : รีวิวเที่ยวเกาหลี แบบละเอียดยิบ #วันที่4 =
http://ppantip.com/topic/33977273
link : รีวิวเที่ยวเกาหลี แบบละเอียดยิบ #วันที่5 =
http://ppantip.com/topic/33986116
วันที่สองของการท่องเที่ยวที่กรุงโซลเราจะไปแลนด์มาร์กของที่นี่กัน
นั่นก็คือ "พระราชวังเคียงบก" (Gyeongbokgung Palace) นั่นเอง........
งงใช่มั้ยครับว่า ทำไมบางคนเรียก "เคียงบก" บางคนเรียก "เคียงบกกุง".... กุง แปลว่า พระราชวังครับ เคลียร์นะ
แต่เราจะเริ่มต้นวันนี้ด้วยการไปเดินถ่ายรูปที่หมู่บ้านบุกชน ฮันอก (Bukchon Hanok) ... ผมออกจากโรงแรมเวลาประมาณ 8.30 น.ครับ ไปขึ้นรถไฟฟ้าสถานีเดิมเลยครับที่หน้าโรงแรมผม คือสถานี jongno 3ga เพื่อไปลงสถานี anguk (1สถานีเองครับ) พอถึงปุ้บก็เดินออกมาทางออกที่ 2 แล้วให้เดินตามแผนที่ที่ผมลงไว้ด้านล่างครับ
บางคนอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องเดินตามแผนที่? นั่นก็เพราะ แผนที่นี้จะระบุจุดที่เหมาะแก่การถ่ายรูปของนักท่องเที่ยวไว้ครับ มี 8 จุดด้วยกัน (แต่จุดที่ 1 และ2 มันอยู่ไกลมาก ผมขออนุญาติข้ามไปเริ่มต้นที่จุดที่ 3 เลยนะครับ)
แผนที่ยืมมาจาก www.travelkorea.hanintel.com ครับ
*****ผมบอกไว้ก่อนเลยนะครับว่าหมู่บ้านบุกชนฮันอกตั้งอยู่บนเนินเขา ต้องมีขึ้นๆลงๆบ้าง อาจจะลำบากไปนิด แต่คุ้มค่ากับการถ่ายรูปมากครับ... และที่นี่ยังเป็นบ้านคนจริงๆ มีผู้พักอาศัยจริงๆ กรุณาอย่าส่งเสียงดังรบกวนเค้านะครับ และซอยบางซอยที่เราต้องเดินผ่าน มันเหมือนจะไม่ใช่ทางที่สำหรับให้นักท่องเที่ยวเดินด้วยซ้ำ คือ ถ้าทุกคนไปเองแบบผม จะรู้สึกว่า
"เฮ้ย กูดูแผนที่ผิดป้ะวะ ทำไมทางลงมันเป็นแบบนี้".... ทางลงบางจุดลำบากพอๆกับขับรถลงจากดอยอ่างขางเลยครับ แถมถ้าฝนตกด้วยไม่ต้องพูดถึง "เละ" แน่ๆ
มาต่อกันที่แผนที่ด้านบนครับ
เพื่อนๆเห็นทางออกที่ 2 ของสถานีรถไฟใต้ดิน anguk มั้ยครับ ที่อยู่ด้านล่างของแผนที่... ให้เราเดินตรงขึ้นไปครับ ถ้าไปตอนเช้าตรงหน้าทางออกจะมีป้ายรถเมล์ คนเกาหลีจะมายืนรอรถเมล์กันเยอะมาก ก็ให้แทรกๆตัวออมา จะเจอกับร้าน rossini ครับ...
เมื่อเดินตรงต่อไปอีกซักพักไม่ถึง 3 นาที จะเจอกับทางแยกครับ ให้ข้ามถนนไปแล้วจะเจอกับ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว (สัญลักษณ์รูปตัว i) ให้เลี้ยวขวา ซักพักจะเจอกับซอยด้านซ้ายมือ เลี้ยวเข้าซอยแล้วเดินตรงเลยครับ ซอยที่เราเลี้ยวเข้ามานี่ส่วนใหญ่จะเป็นเกรสเฮ้าส์ ยังไม่ค่อยมีจุดน่าสนใจเท่าไหร่
พอเราเดินตรงไปจนสุดปุ้บ จะเจอกับโรงเรียน chongang ก็เลี้ยวซ้ายนิดนึง แล้วเข้าซอยแรกเลย
จะเจอกับจุดถ่ายรูปหมายเลข 3
รูปนี้ผมถ่ายใกล้ๆจุดถ่ายรูปหมายเลข 3 ครับ
หลังจากนั้นก็เดินตามแผนที่เลยครับ ไม่ต้องกลัวว่าจะเลี้ยวผิดเลี้ยวถูกนะ.. ของแบบนี้มันพลาดกันได้ ผมเองยังเผลอเดินผิดทางไปตั้งไกล 5555 จนกระทั่งมาถึง
จุดที่ 6 เป็นจุดไฮไลท์เลยครับ
ถ่ายรูปสบายเลยครับ ไม่มีคนหลุดเข้ามาในเฟรม เพราะเช้าวันที่ผมไปฝนตก
เมื่อเดินมาถึงจุดที่ 8 บริเวณนี้จะเป็นทางแยกไป
ถนนซัมชองดงครับ... เป็นถนนที่มีร้านคาเฟ่ ขายเสื้อผ้า ของกุ๊กกิ๊ก เครื่องสำอาง นิดๆหน่อยๆครับ ร้านก็ไม่ได้เยอะอะไรมากมาย... ในวันที่ผมไป มันยังเช้าอยู่ ประมาณ 9โมงครับ ยังไม่มีร้านไหนเปิดเลย เงียบสงัดมาก เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาฝาก... แต่ถ้าไม่อยากเดินเพราะอาจจะไปเช้าแบบผม ตรงจุดที่8 จะมีบันไดลงไปข้างล่างแบบน่ากลัวมาก! อย่าได้รังเรที่จะลงครับ 555555 บันไดนี้จะพาเราออกไปสู่ถนนใหญ่มุ่งหน้าสู่พระราชวังเคียงบก... เดินดีๆนะครับ ค่อนข้างชัน (ถ้าดูตามแผนที่ที่ผมให้ไว้ จะออกมาทางร้าน beanbins ครับ)... หลังจากลงมาสู่ภาคพื้นดินปกติแล้ว ก็เดินไปทางซ้ายเรียบถนนใหญ่ไปเลยครับ
อ้อ! ลืมบอกไป ผมใช้เวลาในการเดินถ่ายรูปตามจุดต่างๆในหมู่บ้านบุกชน ฮันอก ประมาณ 1ชั่วโมงเศษๆครับ...
ระหว่างทางเดินก็จะผ่านตึกหน้าตาแปลกๆตลอดทางครับ
รูปนี้ถ่ายข้างหน้าตึก national museum of modern and contemporary art. ครับ (ในแผนที่มีบอก)
เมื่อเดินใกล้ถึงประตูหน้าของพระราชวังเคียงบก จะเจอกับป้อมอันนี้อยู่กลางสี่แยกใหญ่ๆเลยครับ
เราก็ทำการข้ามถนนมาอีกฝั่งนึง ฝั่งนี้เป็นกำแพงของพระราชวังแล้วครับ เดินต่ออีกไม่ถึง 2นาที ก็ แท่น แท๊นนนนนนนนนนนนน !!!!
ถึงแล้วววววววววววววววว!! พระราชวังเคียงบก
หน้าทางเข้ามีทหารยืนอยู่ครับ จะมีเจ้าหน้าทีของวังคอยบอกเราว่าเข้าไปถ่ายรูปใกล้ๆได้
พระราชวังเคียงบกปิดทำการทุกวันอังคารนะครับ (วันที่ผมไปเป็นวันจันทร์)... เปิดเช้า ปิดเย็นราวๆ 5 โมง... วันที่ผมไปผมก็ยังข้องใจอยู่ทุกวันนี้ครับว่าทำไม
เพราะวันที่ผมไป เค้าเปิดให้เค้าชมพระราชวังฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น หรืออาจจะเข้าฟรีเฉพาะช่วงโลว์ซีซันก็ได้มั้งครับ อันนี้ผมคิดเองนะ 5555 แต่ปกติจะเสียค่าเข้าชม 3,000วอน ต่อหนึ่งท่านครับ บูธขายตั๋วจะอยู่ด้านขวาของพระราชวังครับ เขียนว่า ticket ตัวใหญ่ๆ
เมื่อเดินผ่านพ้นประตูพระราชวังเข้าไป ตรงกลางเป็นที่สำหรับว่าการของกษัตริย์ในสมัยก่อนครับ
ก่อนจะไปผมโดนรีวิวสปอยล์ว่าส่วนนี้ห้ามถ่ายรูป พอเอาเข้าจริงๆผมก็เห็นเค้าถ่ายกันทุกคนอ่ะ
ผมขอเรียนว่า ผมเดินในพระราชวังนี้แบบมั่วๆนะครับ เจอทางเข้าตรงไหนน่าสนใจ เห็นตรงไหนมุมสวยผมก็แวะเลย โดยที่ไม่รู้ว่าส่วนไหนเรียกว่าอะไร ตรงไหนคืออะไร ถ้าเพื่อนๆอยากทราบความรู้ในส่วนของพระราชวังรบกวนเพื่อนๆศึกษากันเองนะครับ เพราะผมเดินตามแผนที่ไม่ไหวครับ มันกว้างใหญ่เกินไป และซับซ้อนมาก ผมเลยได้รูปแบบมั่วๆมาดังนี้
หลังนี้มีระเบียงชมวิวด้วยครับ
มาดูมุมกว้างกันบ้าง
หลังที่อยู่ลึกเข้าไปสีจะซีดมากครับ ไม้แตกด้วย แต่ยังคงความงามอยู่
ในวังมีทางตันด้วยนะเออ เอาดิ 555
ผมชอบหลังนี้มากครับ หน้าจั่วสวยมาก
รูปสุดท้ายนี่เป็นศาลากลางน้ำครับ ล้อมรอบด้วยสระบัว อยู่ด้านหลังๆๆของพระราชวัง
สภาพผมตอนเดินเที่ยวในวัง คือ หลังสะพายเป้ ถ่ายรูปมือนึง อีกมือนึงถือร่ม (ฝนตกตั้งแต่ล้อเครื่องบินแตะรันเวย์ ยังจำกันได้ใช่มั้ยครับ) มารู้สึกตัวอีกทีคือตัวเองเดินเข้ามาลึกมากๆ เลยพยายามหาทางกลับไปยังประตูหน้า ก่อนจะถึงประตูหน้าก็เจอกับร้านขายของที่ระลึกครับเลยแวะไปซื้อของนิดหน่อย ตรงข้ามกับร้านขายของที่ระลึกจะมีวังน้อยๆหลังนี้อยู่คู่กับต้นสนรูปร่างแปลกครับ
สวยดีใช่มั้ยครับ
และหลังจากผมถ่ายรูปนี้
"งานที่2" ก็เกิดขึ้นครับ... คือลมมาจากไหนไม่รู้ พัดแรงมาก พัดทุกอย่างปลิวว่อนไปหมด โดยเฉพาะร่มที่ผมถืออยู่ มันต้านแรงลมไว้ไม่ไหวครับ สภาพร่มตอนนั้นเรียกว่าพังยังไม่พอ ต้องเรียกว่าแหก! แหกชนิดที่ว่าผมไม่ไม่กล้าถือต่อ อายสายตาคนอื่นเค้าหน่ะครับ 5555555 แต่ฟ้าหลังฝนย่อมดีกว่าเสมอ หลังจากผมทิ้งซากร่มคันนั้นไปปุ้บบ ฝนหยุดตกทันทีครับ อากาศเย็นสบาย เหมือนเดินอยู่ในห้องแอร์เย็นๆ รู้สึกสบายตัวมากครับที่ไม่ต้องถือร่ม...
แล้วเราก็ออกมาถึงประตูหน้าพระราชวังที่เราเข้ามากันตอนแรกครับ ตาผมเหลือบไปเห็นเพดานของประตูพระราชวัง เป็นภาพวาดลงสี คล้ายๆรูปหงษ์คู่ครับ สวยงามมากครับ
แต่พอผมมาใกล้ๆ ผมว่ามันน่าจะเป็นรูปไก่นะครับ เพราะมีหงอนเหมือนไก่
*****ก่อนเราจะไปที่ต่อไป ผมขอแจกแจงเรื่องเกี่ยวกับพระราชวังเคียงบกนิดนึงครับ
- การเปลี่ยนเวรยามทหาร ถ้าผมจำไม่ผิดรู้สึกจะมี 3 รอบ เวลา 11โมง บ่าย2 และ 4โมงเย็นครับ... (เวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ) รอบละ 10นาที แต่ถ้าฝนตกแบบวันที่ผมไปจะไม่มีการแสดงครับ... สำหรับผมเอง ผมคิดว่ามันไม่จำเป็นเท่าไหร่นะถ้าเราพลาดดูโชว์นี้ เพราะยังไงทหารรักษาการณ์ก็ผลัดกันมายืนอยู่บริเวณหน้าทางเข้าพระราชวังให้เราได้ถ่ายรูปแบบใกล้ชิดอยู่แล้ว ใครที่ไม่ได้เห็นการแสดงในช่วงนี้ก็อย่าเสียใจไปครับ
- มีบริการให้ยืมชุดฮันบกใส่ครับ บูธอยู่ด้านซ้ายมือในพระราชวัง ให้ยืม
"ฟรี" แต่จะเป็นรอบๆครับ เช่น ตอน 10.15, 11.10, 13.15น. เป็นต้น ยืมได้คราวละไม่เกิน 30นาที และแต่ละรอบมีจำนวนจำกัดครับ ประมาณว่าใครมาก่อนได้ก่อน ยังไงก็ศึกษาข้อมูลกันอีกทีนะครับเพื่อนๆ
- พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านแห่งชาติ (The National Folk Museum) จะตั้งอยู่ใต้ศาลาใหญ่ๆสูงๆ ด้านหลังๆหน่อยของพระราชวังครับ (ไม่รู้ชื่อเรียก) หาไม่ยากครับ เพราะศาลาที่ผมว่านี่มันสูงที่สุดในนี้แล้วครับ ส่วนค่าบริการเค้าคิดรวมไปกับตั๋วค่าเข้าชมพระราชวังแล้ว เข้าชมได้เลย เมื่อชมข้างในเสร็จแล้วออกมา จะมีทหารยืนดักอยู่ เค้าจะขอตรวจกระเป๋าเราครับว่า ฮั่นแน่! แอบเอาอะไรออกมารึป่าว... แค่นั้นครับ ไม่มีไรมาก
เป็นอันจบครับ สำหรับพระราชวังเคียงบก แลนด์มาร์กของเกาหลีใต้
[CR] รีวิวเที่ยวเกาหลี แบบละเอียดยิบ #วันที่2
(วันที่2) วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม 2558 : หมู่บ้านบุกชน ฮันอก >> ถนนซัมชองดง >> พระราชวังเคียงบก >> อนุสาวรีย์พระเจ้าเซจง >> คลองชองเกชอน >> เมียงดง >> เอ็น โซล ทาวเวอร์ >> ย่านทงแดมุน
link : รีวิวเที่ยวเกาหลี แบบละเอียดยิบ #วันที่1 = http://ppantip.com/topic/33945200
link : รีวิวเที่ยวเกาหลี แบบละเอียดยิบ #วันที่2 = http://ppantip.com/topic/33951051
link : รีวิวเที่ยวเกาหลี แบบละเอียดยิบ #วันที่3 = http://ppantip.com/topic/33962978
link : รีวิวเที่ยวเกาหลี แบบละเอียดยิบ #วันที่4 = http://ppantip.com/topic/33977273
link : รีวิวเที่ยวเกาหลี แบบละเอียดยิบ #วันที่5 = http://ppantip.com/topic/33986116
วันที่สองของการท่องเที่ยวที่กรุงโซลเราจะไปแลนด์มาร์กของที่นี่กัน
นั่นก็คือ "พระราชวังเคียงบก" (Gyeongbokgung Palace) นั่นเอง........
งงใช่มั้ยครับว่า ทำไมบางคนเรียก "เคียงบก" บางคนเรียก "เคียงบกกุง".... กุง แปลว่า พระราชวังครับ เคลียร์นะ
แต่เราจะเริ่มต้นวันนี้ด้วยการไปเดินถ่ายรูปที่หมู่บ้านบุกชน ฮันอก (Bukchon Hanok) ... ผมออกจากโรงแรมเวลาประมาณ 8.30 น.ครับ ไปขึ้นรถไฟฟ้าสถานีเดิมเลยครับที่หน้าโรงแรมผม คือสถานี jongno 3ga เพื่อไปลงสถานี anguk (1สถานีเองครับ) พอถึงปุ้บก็เดินออกมาทางออกที่ 2 แล้วให้เดินตามแผนที่ที่ผมลงไว้ด้านล่างครับ
บางคนอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องเดินตามแผนที่? นั่นก็เพราะ แผนที่นี้จะระบุจุดที่เหมาะแก่การถ่ายรูปของนักท่องเที่ยวไว้ครับ มี 8 จุดด้วยกัน (แต่จุดที่ 1 และ2 มันอยู่ไกลมาก ผมขออนุญาติข้ามไปเริ่มต้นที่จุดที่ 3 เลยนะครับ)
*****ผมบอกไว้ก่อนเลยนะครับว่าหมู่บ้านบุกชนฮันอกตั้งอยู่บนเนินเขา ต้องมีขึ้นๆลงๆบ้าง อาจจะลำบากไปนิด แต่คุ้มค่ากับการถ่ายรูปมากครับ... และที่นี่ยังเป็นบ้านคนจริงๆ มีผู้พักอาศัยจริงๆ กรุณาอย่าส่งเสียงดังรบกวนเค้านะครับ และซอยบางซอยที่เราต้องเดินผ่าน มันเหมือนจะไม่ใช่ทางที่สำหรับให้นักท่องเที่ยวเดินด้วยซ้ำ คือ ถ้าทุกคนไปเองแบบผม จะรู้สึกว่า "เฮ้ย กูดูแผนที่ผิดป้ะวะ ทำไมทางลงมันเป็นแบบนี้".... ทางลงบางจุดลำบากพอๆกับขับรถลงจากดอยอ่างขางเลยครับ แถมถ้าฝนตกด้วยไม่ต้องพูดถึง "เละ" แน่ๆ
มาต่อกันที่แผนที่ด้านบนครับ เพื่อนๆเห็นทางออกที่ 2 ของสถานีรถไฟใต้ดิน anguk มั้ยครับ ที่อยู่ด้านล่างของแผนที่... ให้เราเดินตรงขึ้นไปครับ ถ้าไปตอนเช้าตรงหน้าทางออกจะมีป้ายรถเมล์ คนเกาหลีจะมายืนรอรถเมล์กันเยอะมาก ก็ให้แทรกๆตัวออมา จะเจอกับร้าน rossini ครับ...
เมื่อเดินตรงต่อไปอีกซักพักไม่ถึง 3 นาที จะเจอกับทางแยกครับ ให้ข้ามถนนไปแล้วจะเจอกับ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว (สัญลักษณ์รูปตัว i) ให้เลี้ยวขวา ซักพักจะเจอกับซอยด้านซ้ายมือ เลี้ยวเข้าซอยแล้วเดินตรงเลยครับ ซอยที่เราเลี้ยวเข้ามานี่ส่วนใหญ่จะเป็นเกรสเฮ้าส์ ยังไม่ค่อยมีจุดน่าสนใจเท่าไหร่
พอเราเดินตรงไปจนสุดปุ้บ จะเจอกับโรงเรียน chongang ก็เลี้ยวซ้ายนิดนึง แล้วเข้าซอยแรกเลย จะเจอกับจุดถ่ายรูปหมายเลข 3
หลังจากนั้นก็เดินตามแผนที่เลยครับ ไม่ต้องกลัวว่าจะเลี้ยวผิดเลี้ยวถูกนะ.. ของแบบนี้มันพลาดกันได้ ผมเองยังเผลอเดินผิดทางไปตั้งไกล 5555 จนกระทั่งมาถึงจุดที่ 6 เป็นจุดไฮไลท์เลยครับ
เมื่อเดินมาถึงจุดที่ 8 บริเวณนี้จะเป็นทางแยกไปถนนซัมชองดงครับ... เป็นถนนที่มีร้านคาเฟ่ ขายเสื้อผ้า ของกุ๊กกิ๊ก เครื่องสำอาง นิดๆหน่อยๆครับ ร้านก็ไม่ได้เยอะอะไรมากมาย... ในวันที่ผมไป มันยังเช้าอยู่ ประมาณ 9โมงครับ ยังไม่มีร้านไหนเปิดเลย เงียบสงัดมาก เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาฝาก... แต่ถ้าไม่อยากเดินเพราะอาจจะไปเช้าแบบผม ตรงจุดที่8 จะมีบันไดลงไปข้างล่างแบบน่ากลัวมาก! อย่าได้รังเรที่จะลงครับ 555555 บันไดนี้จะพาเราออกไปสู่ถนนใหญ่มุ่งหน้าสู่พระราชวังเคียงบก... เดินดีๆนะครับ ค่อนข้างชัน (ถ้าดูตามแผนที่ที่ผมให้ไว้ จะออกมาทางร้าน beanbins ครับ)... หลังจากลงมาสู่ภาคพื้นดินปกติแล้ว ก็เดินไปทางซ้ายเรียบถนนใหญ่ไปเลยครับ
อ้อ! ลืมบอกไป ผมใช้เวลาในการเดินถ่ายรูปตามจุดต่างๆในหมู่บ้านบุกชน ฮันอก ประมาณ 1ชั่วโมงเศษๆครับ...
พระราชวังเคียงบกปิดทำการทุกวันอังคารนะครับ (วันที่ผมไปเป็นวันจันทร์)... เปิดเช้า ปิดเย็นราวๆ 5 โมง... วันที่ผมไปผมก็ยังข้องใจอยู่ทุกวันนี้ครับว่าทำไม เพราะวันที่ผมไป เค้าเปิดให้เค้าชมพระราชวังฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น หรืออาจจะเข้าฟรีเฉพาะช่วงโลว์ซีซันก็ได้มั้งครับ อันนี้ผมคิดเองนะ 5555 แต่ปกติจะเสียค่าเข้าชม 3,000วอน ต่อหนึ่งท่านครับ บูธขายตั๋วจะอยู่ด้านขวาของพระราชวังครับ เขียนว่า ticket ตัวใหญ่ๆ
ผมขอเรียนว่า ผมเดินในพระราชวังนี้แบบมั่วๆนะครับ เจอทางเข้าตรงไหนน่าสนใจ เห็นตรงไหนมุมสวยผมก็แวะเลย โดยที่ไม่รู้ว่าส่วนไหนเรียกว่าอะไร ตรงไหนคืออะไร ถ้าเพื่อนๆอยากทราบความรู้ในส่วนของพระราชวังรบกวนเพื่อนๆศึกษากันเองนะครับ เพราะผมเดินตามแผนที่ไม่ไหวครับ มันกว้างใหญ่เกินไป และซับซ้อนมาก ผมเลยได้รูปแบบมั่วๆมาดังนี้
สภาพผมตอนเดินเที่ยวในวัง คือ หลังสะพายเป้ ถ่ายรูปมือนึง อีกมือนึงถือร่ม (ฝนตกตั้งแต่ล้อเครื่องบินแตะรันเวย์ ยังจำกันได้ใช่มั้ยครับ) มารู้สึกตัวอีกทีคือตัวเองเดินเข้ามาลึกมากๆ เลยพยายามหาทางกลับไปยังประตูหน้า ก่อนจะถึงประตูหน้าก็เจอกับร้านขายของที่ระลึกครับเลยแวะไปซื้อของนิดหน่อย ตรงข้ามกับร้านขายของที่ระลึกจะมีวังน้อยๆหลังนี้อยู่คู่กับต้นสนรูปร่างแปลกครับ
และหลังจากผมถ่ายรูปนี้ "งานที่2" ก็เกิดขึ้นครับ... คือลมมาจากไหนไม่รู้ พัดแรงมาก พัดทุกอย่างปลิวว่อนไปหมด โดยเฉพาะร่มที่ผมถืออยู่ มันต้านแรงลมไว้ไม่ไหวครับ สภาพร่มตอนนั้นเรียกว่าพังยังไม่พอ ต้องเรียกว่าแหก! แหกชนิดที่ว่าผมไม่ไม่กล้าถือต่อ อายสายตาคนอื่นเค้าหน่ะครับ 5555555 แต่ฟ้าหลังฝนย่อมดีกว่าเสมอ หลังจากผมทิ้งซากร่มคันนั้นไปปุ้บบ ฝนหยุดตกทันทีครับ อากาศเย็นสบาย เหมือนเดินอยู่ในห้องแอร์เย็นๆ รู้สึกสบายตัวมากครับที่ไม่ต้องถือร่ม...
แล้วเราก็ออกมาถึงประตูหน้าพระราชวังที่เราเข้ามากันตอนแรกครับ ตาผมเหลือบไปเห็นเพดานของประตูพระราชวัง เป็นภาพวาดลงสี คล้ายๆรูปหงษ์คู่ครับ สวยงามมากครับ
*****ก่อนเราจะไปที่ต่อไป ผมขอแจกแจงเรื่องเกี่ยวกับพระราชวังเคียงบกนิดนึงครับ
- การเปลี่ยนเวรยามทหาร ถ้าผมจำไม่ผิดรู้สึกจะมี 3 รอบ เวลา 11โมง บ่าย2 และ 4โมงเย็นครับ... (เวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ) รอบละ 10นาที แต่ถ้าฝนตกแบบวันที่ผมไปจะไม่มีการแสดงครับ... สำหรับผมเอง ผมคิดว่ามันไม่จำเป็นเท่าไหร่นะถ้าเราพลาดดูโชว์นี้ เพราะยังไงทหารรักษาการณ์ก็ผลัดกันมายืนอยู่บริเวณหน้าทางเข้าพระราชวังให้เราได้ถ่ายรูปแบบใกล้ชิดอยู่แล้ว ใครที่ไม่ได้เห็นการแสดงในช่วงนี้ก็อย่าเสียใจไปครับ
- มีบริการให้ยืมชุดฮันบกใส่ครับ บูธอยู่ด้านซ้ายมือในพระราชวัง ให้ยืม "ฟรี" แต่จะเป็นรอบๆครับ เช่น ตอน 10.15, 11.10, 13.15น. เป็นต้น ยืมได้คราวละไม่เกิน 30นาที และแต่ละรอบมีจำนวนจำกัดครับ ประมาณว่าใครมาก่อนได้ก่อน ยังไงก็ศึกษาข้อมูลกันอีกทีนะครับเพื่อนๆ
- พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านแห่งชาติ (The National Folk Museum) จะตั้งอยู่ใต้ศาลาใหญ่ๆสูงๆ ด้านหลังๆหน่อยของพระราชวังครับ (ไม่รู้ชื่อเรียก) หาไม่ยากครับ เพราะศาลาที่ผมว่านี่มันสูงที่สุดในนี้แล้วครับ ส่วนค่าบริการเค้าคิดรวมไปกับตั๋วค่าเข้าชมพระราชวังแล้ว เข้าชมได้เลย เมื่อชมข้างในเสร็จแล้วออกมา จะมีทหารยืนดักอยู่ เค้าจะขอตรวจกระเป๋าเราครับว่า ฮั่นแน่! แอบเอาอะไรออกมารึป่าว... แค่นั้นครับ ไม่มีไรมาก