อ่านรีวิวปั่นจักรยานบนเขาใหญ่มาตั้งหลายครั้ง ไม่เคยไปปั่นสักที เพราะ จขกท.เป็นโรคแพ้สะพาน เขา และที่ลาดชัน ขึ้นทีไร รั้งท้ายคนอื่นตลอด
แต่ถ้าไม่ได้ลองปั่นขึ้นเขาใหญ่ คงไม่รู้ว่าความฟินเวลาลงเขา มันเป็นยังไง วันนี้เลยจัดทริปเฉพาะกิจปั่นขึ้นเขาใหญ่ (ฝั่งปราจีนบุรี) ไปกับพี่ๆในกลุ่ม โดยขนจักรยานใส่รถยนต์ เพื่อไปเริ่มที่หน้าด่าน แต่เกิดเหตุขัดข้องนิดหน่อย เลยไปถึงหน้าด่านเกือบเที่ยง
มาถึงก็จอดรถยนต์ที่ร้าน Noen Homme Cafe เตรียมจักรยานกันเรียบร้อย ก็วอร์มขา 2 km. ปั่นก่อนขึ้นเขา
กว่าจะได้ขึ้นเขา ก็ประมาณเที่ยงครึ่ง โชคดีที่วันนี้อากาศดี ไม่มีแดด ตัดปัญหาเรื่องความร้อนไปได้ 1 อย่าง
พอเริ่มปั่นขึ้นเขา ความเหนื่อยก็บังเกิด (จขกท. ไม่มีประสบการณ์ขึ้นเขาแบบต่อเนื่องแบบนี้เลย) ปั่นไม่ถึงกิโล หายใจถี่ และหอบมากก แต่พยายามใช้เกียร์ตามที่พี่ๆ บอก เพื่อเบาแรงเวลาขึ้นเขา (แต่เหมือนจะไม่ช่วยไรเลย เหนื่อยเหมือนเดิม 5555)
พึ่งรู้ว่าปั่นขึ้นเขาใหญ่ มันมีแต่ขึ้นๆ ๆ ๆ ขึ้นมาก หรือขึ้นน้อย สลับกันไป ธรรมชาติข้างทางนี่แทบไม่ได้มองเลย ตั้งหน้าตั้งตาปั่นอย่างเดียว จนมาถึงน้ำตกธารรัตนา พี่ๆที่ปั่นขึ้นมาก่อน ก็มาจอดรอให้กำลังใจ จขกท. ก็ได้พักไปด้วย ลงจากจักรยานมา ขาสั่นไปหมด 555 อีกอย่าง เมื่อสัปดาห์ก่อนจักรยานล้ม แผลที่เข่าก็พึ่งเริ่มแห้ง ยังมีอาการตึงๆ และเจ็บแผลอยู่
หลังจากนั้นก็ออกเดินทางต่อ ปั่นขึ้นกันต่อไป แต่ไม่ทันไร ตะคริวก็มา ได้พักประมาณ 5-10 นาที พี่ในกลุ่มให้ตัดสินใจว่าจะไปต่อมั้ย เพราะกลัวว่าจะเป็นตะคริวอีก แต่ จขกท.ก็เลือกที่จะไปต่อ เพราะยังขึ้นเขาไม่ถึงครึ่งทางเลย ก็ค่อยๆกาดึ้บ กาดึ้บ ด้วยความเร็ว 5 km./hr. บางเนินไม่ไหว ก็เป็นเสือภูเข็นกันไป
พี่ๆในกลุ่มตัดสินใจว่า เราจะลงเขาก่อน 16.00 น. เพราะกลัวค่ำแล้วจะเกิดอันตราย เลยตกลงกันว่าถึงเวลา 14.30 น. เมื่อไหร่ ก็จะกลับลงเขาทันที
จนเวลา 14.30 น. จขกท. ปั่นเป็นเต่าคลานขึ้นมาได้ที่ระยะทางประมาณ 24 km. เพราะฉะนั้น สิ่งที่รอคอยก็มาถึง การลงเขาแบบฟินๆ
พี่กลุ่มหน้าลงไปก่อน จขกท.ปั่นลงกับพี่อีกคน ขาลงนี่แบบฟินมากๆ ลมเย็นๆปะทะหน้า แต่ก็ต้องคอยระวังเรื่องทางลงที่มีโค้งค่อนข้างเยอะ และต้องคอยระวังรถยนต์ที่สวนทางขึ้นมา ต้องระวังพื้นถนนที่เปียกมีร่องรอยจากฝน และเป็นครั้งแรก ที่ลงเขาทำความเร็วได้ 58.6 km./hr.
วันนี้ถือว่าได้ประสบการณ์ขึ้น และลงเขาเป็นครั้งแรก สนุกมากๆ ไว้โอกาสหน้าจะมาแก้ตัว ปั่นแบบเท้าไม่แตะพื้นกะเค้าบ้างนะคะ
เต่าคลานขึ้นเขาใหญ่
แต่ถ้าไม่ได้ลองปั่นขึ้นเขาใหญ่ คงไม่รู้ว่าความฟินเวลาลงเขา มันเป็นยังไง วันนี้เลยจัดทริปเฉพาะกิจปั่นขึ้นเขาใหญ่ (ฝั่งปราจีนบุรี) ไปกับพี่ๆในกลุ่ม โดยขนจักรยานใส่รถยนต์ เพื่อไปเริ่มที่หน้าด่าน แต่เกิดเหตุขัดข้องนิดหน่อย เลยไปถึงหน้าด่านเกือบเที่ยง
มาถึงก็จอดรถยนต์ที่ร้าน Noen Homme Cafe เตรียมจักรยานกันเรียบร้อย ก็วอร์มขา 2 km. ปั่นก่อนขึ้นเขา
กว่าจะได้ขึ้นเขา ก็ประมาณเที่ยงครึ่ง โชคดีที่วันนี้อากาศดี ไม่มีแดด ตัดปัญหาเรื่องความร้อนไปได้ 1 อย่าง
พอเริ่มปั่นขึ้นเขา ความเหนื่อยก็บังเกิด (จขกท. ไม่มีประสบการณ์ขึ้นเขาแบบต่อเนื่องแบบนี้เลย) ปั่นไม่ถึงกิโล หายใจถี่ และหอบมากก แต่พยายามใช้เกียร์ตามที่พี่ๆ บอก เพื่อเบาแรงเวลาขึ้นเขา (แต่เหมือนจะไม่ช่วยไรเลย เหนื่อยเหมือนเดิม 5555)
พึ่งรู้ว่าปั่นขึ้นเขาใหญ่ มันมีแต่ขึ้นๆ ๆ ๆ ขึ้นมาก หรือขึ้นน้อย สลับกันไป ธรรมชาติข้างทางนี่แทบไม่ได้มองเลย ตั้งหน้าตั้งตาปั่นอย่างเดียว จนมาถึงน้ำตกธารรัตนา พี่ๆที่ปั่นขึ้นมาก่อน ก็มาจอดรอให้กำลังใจ จขกท. ก็ได้พักไปด้วย ลงจากจักรยานมา ขาสั่นไปหมด 555 อีกอย่าง เมื่อสัปดาห์ก่อนจักรยานล้ม แผลที่เข่าก็พึ่งเริ่มแห้ง ยังมีอาการตึงๆ และเจ็บแผลอยู่
หลังจากนั้นก็ออกเดินทางต่อ ปั่นขึ้นกันต่อไป แต่ไม่ทันไร ตะคริวก็มา ได้พักประมาณ 5-10 นาที พี่ในกลุ่มให้ตัดสินใจว่าจะไปต่อมั้ย เพราะกลัวว่าจะเป็นตะคริวอีก แต่ จขกท.ก็เลือกที่จะไปต่อ เพราะยังขึ้นเขาไม่ถึงครึ่งทางเลย ก็ค่อยๆกาดึ้บ กาดึ้บ ด้วยความเร็ว 5 km./hr. บางเนินไม่ไหว ก็เป็นเสือภูเข็นกันไป
พี่ๆในกลุ่มตัดสินใจว่า เราจะลงเขาก่อน 16.00 น. เพราะกลัวค่ำแล้วจะเกิดอันตราย เลยตกลงกันว่าถึงเวลา 14.30 น. เมื่อไหร่ ก็จะกลับลงเขาทันที
จนเวลา 14.30 น. จขกท. ปั่นเป็นเต่าคลานขึ้นมาได้ที่ระยะทางประมาณ 24 km. เพราะฉะนั้น สิ่งที่รอคอยก็มาถึง การลงเขาแบบฟินๆ
พี่กลุ่มหน้าลงไปก่อน จขกท.ปั่นลงกับพี่อีกคน ขาลงนี่แบบฟินมากๆ ลมเย็นๆปะทะหน้า แต่ก็ต้องคอยระวังเรื่องทางลงที่มีโค้งค่อนข้างเยอะ และต้องคอยระวังรถยนต์ที่สวนทางขึ้นมา ต้องระวังพื้นถนนที่เปียกมีร่องรอยจากฝน และเป็นครั้งแรก ที่ลงเขาทำความเร็วได้ 58.6 km./hr.
วันนี้ถือว่าได้ประสบการณ์ขึ้น และลงเขาเป็นครั้งแรก สนุกมากๆ ไว้โอกาสหน้าจะมาแก้ตัว ปั่นแบบเท้าไม่แตะพื้นกะเค้าบ้างนะคะ