วันศุกร์ที่ 17-7-15 หลังจากเลื่อนมาหลายวัน วันนี้ตื่นแต่เช้า
เพราะจะนั่งรถไฟ จากสถานีหัวลำโพงไปหัวหิน เพื่อที่จะไปซื้อทุเรียนหมอนทองป่าละอู
ซึ่งทางเทศบาลเมืองหัวหิน รวบรวม 10 สวนทุเรียนที่ปลูกพันธุ์นี้
มาออกร้านที่หน้าศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ ระหว่างวันที่ 10-19 เดือนนี้
ขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินมาที่สถานีหัวลำโพง เดินไปตามทางออกที่ 2 เพื่อไปสถานีรถไฟหัวลำโพง
7.30 น. ถึงสถานีรถไฟหัวลำโพง สอบถามค่าตั๋วรถด่วนพิเศษ ขบวนที่ 43 กรุงเทพ.-สุราษญ์ธานี
ซึ่งออกเดินทางจากสถานีรถไฟหัวลำโพงเวลา 8.05 น. ถึงสถานีรถไฟหัวหินเวลา 11.26 น.
ปรากฏว่าค่าตั๋ว ซึ่งเป็นชั้นสองปรับอากาศ ราคาคนละ 416 บาท ใช้สิทธิ์ผูสูงอายุ เหลือ 361 บาท
ลดแค่ 50 บาท ไม่ได้ลดครึ่งราคาตามที่ประกาศไว้ใน
http://www.railway.co.th/Ticket/ChackPrice_TrainGo.asp?Sta=%E0%B8%81%E0%B8%
A3%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E&Fin=%E0%
B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%AB%E0%B8%B4%E0%B8%99&
IdTrain=43&NFee=%E0%B8%94%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%
B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9
จึงเปลี่ยนใจไปลองนั่งรถไฟชั้น 3 ธรรมดา นั่งพัดลม ขบวนรถที่ 261 กรุงเทพ-หัวหิน
ออกเดินทางจากสถานีรถไฟหัวลำโพงเวลา 9.20 น. ถึงสถานีรถไฟหัวหินเวลา 13.35 น.
ปกติค่าโดยสารคนละ 44 บาท แต่ช่วงนี้ยังให้บริการฟรี
โดยขอตั๋วจากช่องจำหน่ายบัตรโดยสาร ช่องที่ 12
เลือกเดินทางจากสถานีรถไฟหัวลำโพง เพราะเป็นสถานีต้นทาง วันธรรมดามีที่นั่งแน่นอน
รับตั๋วเสร็จมีเวลาเหลือสองชั่วโมง จึงชวนแฟนไปไหว้พระที่วัดไตรมิตรฯ
เดินลอดถนนพระราม 4 ไปเข้าถนนมหาพฤฒาราม
ข้ามสะพานคลองผดุงกรุงเกษมไปเข้าถนนข้าวหลาม
จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าซอยสุกร 2 ซึ่งเป็นทางไปออกตรงข้ามวัดไตรมิตร
ที่เข้าทางนี้ ก็เพื่อจะพาแฟนมาทานโจ๊ก ที่ร้านเจ๊หมวยเกี้ย
หน้าร้านมีป้าย"อากงส่งเสริม" ซึ่งหมายถึงองค์ปึงเถ่ากง แห่งศาลเจ้าปึงเถ่ากง ตลาดน้อย
ร้านย้ายมาจากตลาดน้อยประมาณ 7 ปีแล้ว
เจ๊หมวยสมบูรณ์ขึ้นกว่าแต่ก่อน
มีเฟซบุ้คของร้านให้ตามไปกดไลค์ คือ www.facebook.com/joketaladnoi
ยังคงเปิดขายทุกวัน ตั้งแต่ตีสามครึ่ง ถึง สิบโมงเช้า
ใส่ไข่มีทั้งไข่ไก่ลวกและไข่เยี่ยวม้า
เครื่องปรุงและกาน้ำชาจีน
ปาท่องโก๋ถ้วยละ 1 ตัว 3 บาท
น้ำแข็งถ้วยละบาท ถ้าไม่เอาแบบเย็น มีถ้วยน้ำชาจีนให้รินฟรี
ของแฟนไม่เอาหมูสับ ของตัวเองใส่ทุกอย่าง ใส่ไข่ไก่ทั้งคู่ ชามละ 40 บาท
เครื่องในอย่างละชิ้น มี กระเพาะหมู ตับหมู
เซี่ยงจี๊
ไส้อ่อน
หมูสับปรุงรส 4 ลูก
และไข่ลวก
เทปาท่องโก๋ใส่ชามโจ๊ก
หมูสับปรุงรสหอมเหมือนเดิม
เครื่องในต้มสุกกำลังดี มีรสเค็มเล็กน้อย ช่วยให้อร่อยยิ่งขึ้น
"วันนี้อาสามไม่ถามเรื่องจานฝังเพชรเหรอ?"
ครั้งแรกที่พาแฟนไปทานที่ทางเข้าตลาดน้อย
เมื่อวันพุธที่ 20-8-08 เจ๊หมวยเกี้ยยังห้อยจานฝังเพชรอยู่
คห.ที่ 280-284 "เที่ยวไปกินไป @ ตลาดน้อย"
http://topicstock.ppantip.com/food/topicstock/2008/08/D6876761/D6876761.html
ครั้งที่มาทานที่ใหม่ เมื่อวันพฤหัสฯที่ 7-7-11 ถามเจ๊เรื่องจาน
เจ๊บอกว่าตอนย้ายมาใหม่ๆยังห้อยอยู่ แต่ซอยนี้วิ่งราวกันบ่อย กลัวตาย กลัวโดนจี้ เลยต้องเก็บ
"ขนาดตำรวจถามว่าทำไมไม่ห้อยจานฝังเพชร?
อั๊วถามอีว่า กล้ารับประกันไหมล่ะ ว่าจะไม่โดนปล้น อียังไม่กล้ารับประกันเลย"
จ่ายเงินค่าโจ๊กมื้อเช้าแบบเบาๆ 88 บาท
จากนั้นเดินออกมาที่ปากซอยสุกร 2 ถนนมิตรภาพไทย-จีน หรือ ชื่อเดิมถนนไตรมิตร
8.05 น.ข้ามถนนไปวัดไตรมิตรฯ
ตั้งใจจะมากราบพระประธานในพระอุโบสถ แต่ยังไม่เปิด
ขณะเดียวกัน โรงเรียนทั้งสองแห่งในวัดไตรมิตรฯ นักเรียนกำลังเข้าแถวหน้าธงชาติ
โรงเรียนแรกติดกับร้านข้าวแกงคุณยาย คือ โรงเรียนมหาวีรานุวัตร
ซึ่งก่อตั้งเมื่อ 05/09/2505 เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล-ประถมศึกษา
เคารพธงชาติและฟังโอวาทจากครูใหญ่เสร็จแล้ว เป็นการนั่งสมาธิและอ่านหนังสือ
ชั้นอนุบาลอยู่ทางด้านขวาสุด
นักเรียนบางคนสวมปลอกแขนสีแดงขริบขาว ทำหน้าที่เป็นสารวัตรนักเรียน
สมัยเรียนชั้น มศ. 3 เคยเป็นสารวัตรนักเรียนห้อยนกหวีด ร่วมกับเพื่อนห้องเดียวกันหลายคน
แต่ละคนจะมีสมุดพก ที่จะต้องเขียนบันทึกส่งอาจารย์ผู้ปกครองตอนเลิกเรียนคนละเล่ม
แต่ละคนเขียนบันทึกกันแบบตลกไม่กลัวไม้เรียว เช่น เหตุการณ์ปกติ วันนี้ก๋วยเตี๋ยวไม่อร่อย
หรือ คำจากไบเบิ้ล ผู้ใดฟังคำของเราและวางใจใน พระองค์ผู้ทรงใช้เรามาฯ (ยอห์น 5.24) เป็นต้น
ติดกับโรงเรียนมหาวีรานุวัตรทางฝั่งซ้าย คือ โรงเรียนวัดไตรมิตรวราราม
ก่อตั้งเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2476 เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล-มัธยมศึกษาตอนต้น
มีการสอนภาษาจีน ทางเข้าฝั่งซ้าย มีอาคารสถาบันขงจื๊อ ซึ่งประเทศจีนมาเปิดเอง
เมื่อพระอุโบสถยังไม่เปิด แต่พระมหามณฑปเปิดแล้ว
จึงขึ้นบันไดไปที่ชั้น 4
ซึ่งประดิษฐานพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร
กราบขอพรให้เดินทางไปหัวหินอย่างปลอดภัยทั้งไปและกลับ
ไม่ได้แวะชมนิทรรศการเกี่ยวกับพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร ที่ชั้น 3
และ ชมนิทรรศการศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช ที่ชั้น 2
8.40 น.เดินกลับไปรอรถไฟไปหัวหิน ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง
ติดตามเรื่องราวอื่นๆได้ที่เพจ"เที่ยวไปกินไป by laser"
[CR] เที่ยวไปกินไป by laser @ โจ๊กเจ๊หมวยเกี้ย ซอยสุกร 2
เพราะจะนั่งรถไฟ จากสถานีหัวลำโพงไปหัวหิน เพื่อที่จะไปซื้อทุเรียนหมอนทองป่าละอู
ซึ่งทางเทศบาลเมืองหัวหิน รวบรวม 10 สวนทุเรียนที่ปลูกพันธุ์นี้
มาออกร้านที่หน้าศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ ระหว่างวันที่ 10-19 เดือนนี้
ขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินมาที่สถานีหัวลำโพง เดินไปตามทางออกที่ 2 เพื่อไปสถานีรถไฟหัวลำโพง
7.30 น. ถึงสถานีรถไฟหัวลำโพง สอบถามค่าตั๋วรถด่วนพิเศษ ขบวนที่ 43 กรุงเทพ.-สุราษญ์ธานี
ซึ่งออกเดินทางจากสถานีรถไฟหัวลำโพงเวลา 8.05 น. ถึงสถานีรถไฟหัวหินเวลา 11.26 น.
ปรากฏว่าค่าตั๋ว ซึ่งเป็นชั้นสองปรับอากาศ ราคาคนละ 416 บาท ใช้สิทธิ์ผูสูงอายุ เหลือ 361 บาท
ลดแค่ 50 บาท ไม่ได้ลดครึ่งราคาตามที่ประกาศไว้ใน
http://www.railway.co.th/Ticket/ChackPrice_TrainGo.asp?Sta=%E0%B8%81%E0%B8%
A3%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E&Fin=%E0%
B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%AB%E0%B8%B4%E0%B8%99&
IdTrain=43&NFee=%E0%B8%94%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%
B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9
จึงเปลี่ยนใจไปลองนั่งรถไฟชั้น 3 ธรรมดา นั่งพัดลม ขบวนรถที่ 261 กรุงเทพ-หัวหิน
ออกเดินทางจากสถานีรถไฟหัวลำโพงเวลา 9.20 น. ถึงสถานีรถไฟหัวหินเวลา 13.35 น.
ปกติค่าโดยสารคนละ 44 บาท แต่ช่วงนี้ยังให้บริการฟรี
โดยขอตั๋วจากช่องจำหน่ายบัตรโดยสาร ช่องที่ 12
เลือกเดินทางจากสถานีรถไฟหัวลำโพง เพราะเป็นสถานีต้นทาง วันธรรมดามีที่นั่งแน่นอน
รับตั๋วเสร็จมีเวลาเหลือสองชั่วโมง จึงชวนแฟนไปไหว้พระที่วัดไตรมิตรฯ
เดินลอดถนนพระราม 4 ไปเข้าถนนมหาพฤฒาราม
ข้ามสะพานคลองผดุงกรุงเกษมไปเข้าถนนข้าวหลาม
จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าซอยสุกร 2 ซึ่งเป็นทางไปออกตรงข้ามวัดไตรมิตร
ที่เข้าทางนี้ ก็เพื่อจะพาแฟนมาทานโจ๊ก ที่ร้านเจ๊หมวยเกี้ย
หน้าร้านมีป้าย"อากงส่งเสริม" ซึ่งหมายถึงองค์ปึงเถ่ากง แห่งศาลเจ้าปึงเถ่ากง ตลาดน้อย
ร้านย้ายมาจากตลาดน้อยประมาณ 7 ปีแล้ว
เจ๊หมวยสมบูรณ์ขึ้นกว่าแต่ก่อน
มีเฟซบุ้คของร้านให้ตามไปกดไลค์ คือ www.facebook.com/joketaladnoi
ยังคงเปิดขายทุกวัน ตั้งแต่ตีสามครึ่ง ถึง สิบโมงเช้า
ใส่ไข่มีทั้งไข่ไก่ลวกและไข่เยี่ยวม้า
เครื่องปรุงและกาน้ำชาจีน
ปาท่องโก๋ถ้วยละ 1 ตัว 3 บาท
น้ำแข็งถ้วยละบาท ถ้าไม่เอาแบบเย็น มีถ้วยน้ำชาจีนให้รินฟรี
ของแฟนไม่เอาหมูสับ ของตัวเองใส่ทุกอย่าง ใส่ไข่ไก่ทั้งคู่ ชามละ 40 บาท
เครื่องในอย่างละชิ้น มี กระเพาะหมู ตับหมู
เซี่ยงจี๊
ไส้อ่อน
หมูสับปรุงรส 4 ลูก
และไข่ลวก
เทปาท่องโก๋ใส่ชามโจ๊ก
หมูสับปรุงรสหอมเหมือนเดิม
เครื่องในต้มสุกกำลังดี มีรสเค็มเล็กน้อย ช่วยให้อร่อยยิ่งขึ้น
"วันนี้อาสามไม่ถามเรื่องจานฝังเพชรเหรอ?"
ครั้งแรกที่พาแฟนไปทานที่ทางเข้าตลาดน้อย
เมื่อวันพุธที่ 20-8-08 เจ๊หมวยเกี้ยยังห้อยจานฝังเพชรอยู่
คห.ที่ 280-284 "เที่ยวไปกินไป @ ตลาดน้อย"
http://topicstock.ppantip.com/food/topicstock/2008/08/D6876761/D6876761.html
ครั้งที่มาทานที่ใหม่ เมื่อวันพฤหัสฯที่ 7-7-11 ถามเจ๊เรื่องจาน
เจ๊บอกว่าตอนย้ายมาใหม่ๆยังห้อยอยู่ แต่ซอยนี้วิ่งราวกันบ่อย กลัวตาย กลัวโดนจี้ เลยต้องเก็บ
"ขนาดตำรวจถามว่าทำไมไม่ห้อยจานฝังเพชร?
อั๊วถามอีว่า กล้ารับประกันไหมล่ะ ว่าจะไม่โดนปล้น อียังไม่กล้ารับประกันเลย"
จ่ายเงินค่าโจ๊กมื้อเช้าแบบเบาๆ 88 บาท
จากนั้นเดินออกมาที่ปากซอยสุกร 2 ถนนมิตรภาพไทย-จีน หรือ ชื่อเดิมถนนไตรมิตร
8.05 น.ข้ามถนนไปวัดไตรมิตรฯ
ตั้งใจจะมากราบพระประธานในพระอุโบสถ แต่ยังไม่เปิด
ขณะเดียวกัน โรงเรียนทั้งสองแห่งในวัดไตรมิตรฯ นักเรียนกำลังเข้าแถวหน้าธงชาติ
โรงเรียนแรกติดกับร้านข้าวแกงคุณยาย คือ โรงเรียนมหาวีรานุวัตร
ซึ่งก่อตั้งเมื่อ 05/09/2505 เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล-ประถมศึกษา
เคารพธงชาติและฟังโอวาทจากครูใหญ่เสร็จแล้ว เป็นการนั่งสมาธิและอ่านหนังสือ
ชั้นอนุบาลอยู่ทางด้านขวาสุด
นักเรียนบางคนสวมปลอกแขนสีแดงขริบขาว ทำหน้าที่เป็นสารวัตรนักเรียน
สมัยเรียนชั้น มศ. 3 เคยเป็นสารวัตรนักเรียนห้อยนกหวีด ร่วมกับเพื่อนห้องเดียวกันหลายคน
แต่ละคนจะมีสมุดพก ที่จะต้องเขียนบันทึกส่งอาจารย์ผู้ปกครองตอนเลิกเรียนคนละเล่ม
แต่ละคนเขียนบันทึกกันแบบตลกไม่กลัวไม้เรียว เช่น เหตุการณ์ปกติ วันนี้ก๋วยเตี๋ยวไม่อร่อย
หรือ คำจากไบเบิ้ล ผู้ใดฟังคำของเราและวางใจใน พระองค์ผู้ทรงใช้เรามาฯ (ยอห์น 5.24) เป็นต้น
ติดกับโรงเรียนมหาวีรานุวัตรทางฝั่งซ้าย คือ โรงเรียนวัดไตรมิตรวราราม
ก่อตั้งเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2476 เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล-มัธยมศึกษาตอนต้น
มีการสอนภาษาจีน ทางเข้าฝั่งซ้าย มีอาคารสถาบันขงจื๊อ ซึ่งประเทศจีนมาเปิดเอง
เมื่อพระอุโบสถยังไม่เปิด แต่พระมหามณฑปเปิดแล้ว
จึงขึ้นบันไดไปที่ชั้น 4
ซึ่งประดิษฐานพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร
กราบขอพรให้เดินทางไปหัวหินอย่างปลอดภัยทั้งไปและกลับ
ไม่ได้แวะชมนิทรรศการเกี่ยวกับพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร ที่ชั้น 3
และ ชมนิทรรศการศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช ที่ชั้น 2
8.40 น.เดินกลับไปรอรถไฟไปหัวหิน ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง
ติดตามเรื่องราวอื่นๆได้ที่เพจ"เที่ยวไปกินไป by laser"