หลังจากที่ได้ขับขี่ผ่านไปสักกว่า 2000 กิโลเมตรแล้วก็ได้พบข้อดีข้อเสียต่างๆ จากการขับขี่ MG 6 ผมจึงอยากจะเล่าสู่กันฟังต่อไปตามที่บางท่านต้องการให้ผมนำเสนอต่อจากประสบการณ์เฉียด...และการเลือกรถที่ความปลอดภัยของผมตามกระทู้อ้างอิงที่ผมได้เขียนเล่าประสบการณ์ตาม link นี้ http://ppantip.com/topic/33833594  
   จึงอยากเรียนผู้ที่อ่านกระทู้นี้ได้โปรดอ่านที่มาที่ไปก่อนจะมาเป็นกระทู้นี้เพื่อ Review รถคันนี้ ตาม link ที่แนบมาครับ และได้โปรดเข้าใจว่าผมไม่ใช่นัก Review รถที่เก่งกาจอะไร ไม่มีใครขอให้ผมทำหรือมีผลประโยชน์อื่นใดกับเรื่องราวต่างๆ ที่ผมได้เขียน เพียงแต่เห็นว่าส่วนหนึ่งจากประสบการณ์ ความรู้ และศึกษามานั้น น่าจะมีประโยชน์ต่อใครหลายๆ คน สำหรับการจะเลือกรถสักคนมาใช้ เพียงเพราะเป็นแค่มนุษย์เงินเดือนที่หาเช้ากินค่ำ และขอให้อ่านให้จบก่อนนะครับ เผื่อจะมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย.....สาธุ!

   สำหรับการ Review รถ MG 6 Fastback D 1.8 Turbo Sunroof คันนี้เป็นรถที่ผมได้ตัดสินใจซื้อมาใช้งาน ผมเลยเอาเรื่องราวของผมมาแบ่งปันความรู้ต่างๆ จากการได้สัมผัสการใช้รถคันนี้ในชีวิตจริง เพราะเห็นว่ารถ MG 6 ยังมีคนใช้น้อย และคนส่วนใหญ่มักจะหาข้อมูลจาก Internet ซึ่งมีข้อมูลดีดี ข้อมูลจริงที่เป็นสาระ ยังมีน้อยมาก เอามาเพื่อใช้พิจารณาเพิ่ม และหลายๆ ท่านอาจจะมีความชื่นชอบหรืออคติหรือว่าไม่รู้อะไรเลย เกี่ยวกับรถยี่ห้อใหม่ที่เข้ามาเมืองไทย ซึ่งบนโลก Internet จะให้ความคิดเห็นว่าเป็นรถอังกฤษ สัญชาติจีน ลูกครึ่งไทย ที่ไปไม่รอดซะมากกว่า “ยังไงยังไงก็จีน ของห่วย!” ตั้งแต่ยังไม่ได้อ่านรายละเอียดเลยซะด้วยซ้ำ แล้วเหมือนว่าปิดหูปิดตากันไปโดยปริยาย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม่จึงเป็นเช่นนั้น หึหึ! ซึ่งสิ่งที่ผมเขียนนี้ ท่านไม่ต้องเชื่อหรอกครับ ผมขอเพียงแค่อ่านให้จบแล้วพิจารณาตามตรรกะและเหตุผลของท่านว่ามันดีหรือไม่ ห่วย! แค่ไหน ตรงใจท่านหรือไม่ รถเชื้อชาติอังกฤษ สัญชาติจีน ลูกครึ่งไทย ที่เศรษฐีอันดับหนึ่งของไทยรับรองหนักหนาว่ามันเป็นรถที่ดีมาก ถึงกับซื้อมาขับเองเลย แกว่าอย่างนั้น จริงหรือไม่ ถ้าอย่างนั้นผมจะซื้อมันมาทำไมกัน  อะไรดลจิตดลใจขนาดนั้น และหลายคนก็พูดว่า “มีเงินอย่างเดียวไม่พอ ต้องโง่ด้วย” หรือป่าว?....
   สำหรับประวัติ spec หรือคุณสมบัติต่างๆ ของรถ ขอรบกวนให้ท่านไปหาตาม Review ชื่อดังทั้งหลาย ที่เขามีรอให้ท่านได้อ่านอยู่แล้ว และควรใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วย ส่วนผมแค่ review รถของผมเท่านั้นซึ่งต้องใช้ไปอีกนานหลายปีกว่าจะหาเหตุผลซื้อคันใหม่ได้แต่ต้องมีเงินด้วยและอาจต้องโง่ด้วยหรือป่าวไม่รู้ เห้อ..!
   นอกเหนือจากความปลอดภัยที่ผมเคย Review ไปแล้วตาม link นี้ http://ppantip.com/topic/33833594 ผมจะให้ดูภายนอกก่อนว่ามีข้อดีขอเสียยังไง
   พอดีว่าผมมีโอกาสเอารถมาเคลือบแก้วร้านน้องคนหนึ่งที่เล่นบาสเก็ตบอลด้วยกัน ต้องขอบคุณอย่างมาก เขามีใจชอบรถแนวยุโรปเป็นทุนอยู่บ้างแล้วน้องเขาก็ชี้จุดที่ต่างจากรถบางรุ่นที่ขายทั่วไปในไทยให้ดูว่ามันต่างที่จุดไหนกันบ้าง
   [ทั้งนี้ก็ขออนุญาตแน่ะนำร้านน้องเขาสักหน่อยเพราะของดีราคาสมเหตุสมผลทุกวันนี้หายาก ร้านน้องเขาชื่อ Car Wash & Wax อยู่ในตัวเมืองมวกเหล็ก สระบุรี ถ้าผ่านหรืออยู่ใกล้ๆ ก็แวะกันไปได้ครับ ผมอยู่ อ.ปากช่อง ยังต้องไปร้านนี้เลยครับ หรือที่ link นี้ได้ครับ https://www.facebook.com/pages/Car-Wash-Wax/640790276019531

   แค่อยากแน่ะนำ อยู่ใกล้ก็แวะไปนะครับ งานดีมากๆ อาจช้าบ้างเพราะเขาใส่ใจรายละเอียดเยอะ]


   Ok ครับนอกเรื่องไปแป๊ป...น้องเขาเทียบกันกับรถคันหนึ่งที่ขายในไทยจอดอยู่ข้างๆ กัน (รถ Segment สูงกว่า MG 6 ด้วย) แต่ขอไม่บอกว่ารถรุ่นอะไร ยี่ห้ออะไร นะครับ ผมจะเล่าในส่วนที่ผมเห็นว่ามันแตกต่าง ซึ่งภายนอกจะมีดังนี้
   1.    บริเวณขอบประตูตามภาพ

ท่านว่ามันเป็นเหล็กหรือพลาสติก .....แน่นอนครับมันเป็นเหล็กเข้ารูป ยี่ห้ออื่นเป็นพลาสติก ที่คิดไว้ 2 อย่างคือ 1. เหล็กจะทนทานกว่า 2. พลาสติกเปลี่ยนง่ายกว่า แต่ก็เคลมประกันทุกทีอะนะ จะเหล็กหรือพลาสติกคงไม่ต่างกัน แต่ที่ต่างคือวัสดุที่เหล็กย่อมแข่งแรงกว่า....คิดยาวๆ เลย
  
   2.    นอตล้อรถ ตามภาพ

จะเห็นเป็นแฉก ต่างจากรถทั่วไปที่เป็น 6 เหลียม จริงๆก็ 6 เหลี่ยมแร่ะ แต่มันครอบไว้เฉยๆ อิอิ
  
   3.    เมื่อพูดถึงล้อ ล้อปกติจะเป็น Goodyear แต่ล้ออะไหล่จะเป็น MAXXIS ....เออมีงงนิดหน่อย?
  
   4.    ในส่วนเครื่องยนต์ตามภาพ วัสดุที่ใช้ มีรายละเอียดดังนี้

A.    จะเป็นเหล็กทั้งโครงสร้าง แต่อีกยี่ห้อเป็นพลาสติกหรือไฟเบอร์อะไรสักอย่าง

B.    ชุดแบตเตอรี่มีการหุ้มวัสดุมาปกปิดได้ดีระดับหนึ่ง ชุดแบตเตอรี่ยังมีสายไฟฟ้าต่างๆ ซึ่งมีลักษณะการใช้งานต่างกันเหมาะกับการ Maintenance รถ กรณีที่เกี่ยวข้องกับแบตเตอรี่ อันนี้ถ้าใครทราบก็ช่วยขยายความให้ด้วยนะครับ ตามภาพ


C.    ท่อชิ้นนี้เป็นเหมือนยี่ห้อทั่วไปแต่ผันด้วยผ้าซึ่งหนาและดีกว่า ท่อยางของอีกยี่ห้อ


D.    อันนี้ไม่มีอะไรแค่ที่ใส่น้ำยาปัดฉีดกระจก

E.    เป็นหมอพักน้ำหล่อเย็นเป็นรูปแบบปกติที่มีในรถยุโรป ก็อาจไม่ได้แตกต่างจากอีกยี่ห้อ แต่แปลกตาดี

F.    รถส่วนใหญ่จะใช้วัสดุกันร้อนที่เราดูแล้วน่าจะเป็นผ้า แต่ MG 6 ใช้คล้ายจะเป็นอลูมิเนียมหรืออะไรสักอย่าง แต่ที่แน่ๆ ดูดีเลย ไม่สกปรกง่ายๆ


   5.    เหล็กและชิ้นส่วนที่เป็นพลาสติกภายนอกของตัวรถที่ใช้สัมผัสได้ถึงความแข็งแรงกว่ารถทั่วไปในไทย จับต้องแล้วดูแข็งแรงมาก คนละเรื่องเลย

   6.    วัสดุภายนอกโดยรวมใช้วัตถุดิบที่ดีกว่ารถทั่วไปที่ขายในไทย เพียงแค่สัมผัสท่านจะรู้ด้วยตัวท่านเอง แต่ ณ จุดนี้..มันจึงอาจจะทำให้รถมีน้ำหนักมากกว่าปกติ

   7.    ชุดที่ปัดน้ำฝนดูจะทำมาเฉพาะ ผมไม่ทราบว่าแบบนี้มีขายในท้องตลาดหรือไม่ แต่มีขายที่ Lotus แน่นอนเห็นมากับตา แต่รูปลักษณ์เรียบหรูและคุณภาพดีเลยทีเดียว จะว่าเพราะเป็นของรถใหม่ก็ได้ครับ

   ในส่วนต่อมา ผมสังเกตเองจากการใช้รถ

   1.    ไฟหน้าที่เป็น ฮาโลเจน อาจดูไม่ทันสมัยแต่มีเลนส์โปรเจคเตอร์และจัดโคมสะท้อนแสงได้ดี ปรับได้ 3 ระดับไม่ไปแยงตาคนอื่นแน่นอน ถ้าเป็น LED หรือ Xenon คงจะดี ซึ่งรุ่น TOP ของ MG 6 ก็ยังเป็น โปรเจคเตอร์ฮาโลเจน (อันนี้ทราบเอง น้องเขาไม่ได้บอก) ด้วยการจัดแสงที่ดีมากเลย อาจเป็นเรื่องบังเอิญหรือป่าวว่า MG6 ไม่ใช้ LED แต่ก็จริงนะ ขอนอกเรื่องนิดหน่อย [ผมก็มีอารมณ์เวลารถที่ใช้ไฟ LED หรือ Xenon จ่อตูดรถหรือวิ่งสวนผมใช้ไฟ LED หรือ Xenon ส่องใส่ผมมันทำให้เรามองไม่เห็น แสบตา อันตรายต่อการขับขี่ เพียงเพราะจัดโคมสะท้อนแสงได้ไม่ดี หึหึ มันเหมือนจะเท่ห์นะครับ แต่ผมว่ามันเฮ้ห์มากกว่า] เริ่มจะนอกเรื่องเยอะแล้ว ต้องขออภัยครับ ผมทราบมาอีกว่า กรณีฝนตกหนัก ฮาโลเจน จะส่องสว่างดีกว่า LED หรือ Xenon จากท่าผู้หนึ่งที่เคยเปลี่ยนหลอดมาแล้ว แต่อนาคตเชื่อได้ว่าเป็น LED แน่นอน

   2.    ช่วงล่างรถ MG6 ตัวนี้ผมเองไม่เคยทราบว่าจะต้องมีอะไรเยอะแยะ แต่ก็มีเยอะเลย น่าจะเป็น Censor อะไรสักอย่าง และมีการเก็บรายละเอียด ปกปิดป้องกัน ไว้ได้ดีตามภาพ



a.    เป็นส่วนของนอตยึดชิ้นส่วน เป็นนอตเหล็กเลย รถโดยทั่วไปจะใช้กริบพลาสติก ผมเคยขับรถคันเก่าจะใช้กริบพลาสติก พอวิ่ง 140 km/h. ทางตรง เจอลมแรงหลุดครูดไปกับพื้นถนนเลย แต่ MG6 ใช้วัสดุแบบนี้ ผมคิดว่าดีกว่ามากในการยึดวัสดุ ดูแน่นเลย


b.    การวางท่อไอเสียจะมีวัสดุกันความร้อน พร้อมกับคานที่กันท่อไอเสียหลุดหรือหล่นได้ ส่วนรายละเอียดอื่นรองสังเกตให้ดีๆ นะครับ



c.    เข้าใจว่าน่าจะเป็นระบบของช่วงล่างของล้อหลังที่มี censor เต็มไปหมด และน่าจะเป็นระบบล้ออิสระ โดยทั่วไปรถ C segment ที่มีช่วงล่างแบบนี้จะมีในตัว Top เท่านั้น แต่ MG 6 fastback ให้มาหมดทุกรุ่น

   ส่วนภายในก็มีดังนี้ (อาจไม่มีภาพ ต้องขออภัยครับ หาตาม web review ทั่วไปดูได้ครับ เหมือนกันหมด)

   1.    ที่นั่งคนขับถูกออกแบบพอดีกับคนนั่ง(ผมเอง) หรือเข้าพอดีกับหลัง เวลาขับเข้าโค้งเร็วๆ ตัวจะไม่เหวี่ยงออกจากเบาะ เหมือนที่มีในรถแข่ง อาจไม่ต้องซื้อเบาะแพงๆ มาใช้

   2.    เบาะหนังเย็บด้วยด้ายแดง หัวหุ้มเกียร์ และพวงมาลัย มีมาให้เลยลงตัวดีไม่ต้องซื้อหรือขอแถมเบาะหนังเพิ่ม

   3.    เบาะคนขับเป็นไฟฟ้า มีมาให้ใน Fast back ทุกรุ่น ในขณะที่รถทั่วไปที่ขายในไทยมีแต่รุ่น TOP เท่านั้น

   4.    เบรกมือไฟฟ้าที่มีมาให้ใน Fast back ทุกรุ่น ตั้งแต่เริ่มต้น ในขณะที่รถทั่วไปที่ขายในไทยมีแต่รุ่น TOP บางยี่ห้อเท่านั้น (เออทำไมเป็นอย่างนั้น)

   5.    การออกแบบภายใน ถูกออกแบบมาโดยมีเหตุผลที่แตกต่างออกไปเพื่อประโยชน์ในการขับขี่หรือความปลอดภัย (ผมคิดเอาเอง เป็นเหตุผลส่วนตัว ท่านควรลองสัมผัสเองด้วยนะ)ในขณะที่รถทั่วไปที่ขายในไทยเน้นในลักษณะการใช้งานภายในให้สะดวกสบายมากกว่า แต่จากประสบการณ์เวลาขับ สิ่งที่ให้มาใช้งานภายในมันแทบจะไม่ได้ใช้เลย ยกตัวอย่างเช่น

      a.    USB นิยมเอามาชาร์จแบ็ตโทรศัพท์ ผมใช้ผ่าน Powerbank ปลอดภัยกว่า อันนี้แล้วแต่บุคคลชอบ

      b.    Navigator คือ หนึ่งในสิ่งที่คนไทยนิยมให้มีในรถและมักจะมีแต่ตัว TOP ถึงแม้เอาเข้าจริงไม่ได้ใช้เลย และมักจะพาหลงอีก แต่รถ MG6 มีนะแต่ต้องซื้อเพิ่ม ผมเลยขอเขาแถมมาให้ แต่จนตอนนี้ยังไม่มีของ เขาเลยยังไม่ติดให้ แต่เอารถมาแล้ว ซึ่งถ้าของมาทางโชว์รูมยืนยันว่าจะติดตั้งให้ถึงที่เลย อดต้องรอไปก่อน

      c.    ที่วางแก้ว มีก็ดีนะแต่สำหรับคนขับมีช่องเดียวก็คงพอแล้วนะครับ มันแทบไม่ได้ใช้เลย ผมคิดจากที่ใช้งานจริงๆ หากมีมากกว่านี้ก็เป็นผลพลอยได้

   6.    Console MG6 หลายคนว่ามันดูเก่า แต่ผมว่ามันดูดีกว่าคันเก่าของผมมาก ดูรู้เลยว่ารถยุโรป ถึงจะตกยุคแต่ก็โอเคเลย หน้าจอบอกสถานะ สัญญาณเตือนมีมาให้ 3 จอ จะเยอะไปไหน พอลองใช้จริง ก็ระบบมันเยอะเลยต้องมีให้ถึง 3 จอ สำหรับ 3 จอที่ว่าก็แยกออกจากกันตามประเภทลักษณะใช้งาน


เดี๋ยวพักแป๊ปนึงมาต่อกัน......