คุกไทยมีไว้ขังคนจน"
มีชายคนหนึ่งได้พิสูจน์เรื่องนี้ให้ทุกคนเห็น โดยแลกกับ"อิสรภาพอันประเมินค่ามิได้"ของตนเอง
4 ก.ค.2550 “หมูแฮม”-กัณฑ์พิทักษ์ ปัจฉิมสวัสดิ์ ได้ใช้ก้อนหินทุบใบหน้าสถาพร อรุณศิริ พนักงานขับรถโดยสาร สาย 513 และขับรถเบนซ์ พุ่งชนผู้โดยสารที่ยืนบนทางเท้า รวมถึงสายชล หลวงแสง พนักงานเก็บเงินรถเมล์สายดังกล่าวเสียชีวิต หลังไม่พอใจที่รถเมล์ขับปาดหน้าให้หยุดบริเวณปากซอยสุขุมวิท 26
http://hilight.kapook.com/view/33370" rel="nofollow" >][
http://hilight.kapook.com/view/33370]
มี.ค. 2556 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ลดโทษ “หมูแฮม” เหลือคุก 2 ปี 1 เดือน เพราะเชื่อว่ามีจิตบกพร่อง โทษจำคุกจึงให้"รอลงอาญา"ไว้
http://m.thairath.co.th/content/330509" rel="nofollow" >[
http://m.thairath.co.th/content/330509
27 ธ.ค.2553 “นักศึกษาสาว วัย 17 ปี” ขับรถยนต์ซีวิคพุ่งชนรถตู้โดยสารบนทางยกระดับดอนเมืองโทลเวย์ มีผู้เสียชีวิต 9 ศพ ด้วยนักศึกษารายนี้นามสกุล “เทพหัสดิน ณ อยุธยา”
ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง พิพากษาจำเลยฐานความผิดฐานขับรถยนต์โดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และได้รับอันตรายต่อร่างกายบาดเจ็บสาหัส และทรัพย์สินเสียหาย และใช้โทรศัพท์ขณะขับรถยนต์
ทั้งนี้ให้ลงโทษจำคุกจำเลยในความผิดฐานขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และทำให้ทรัพย์สินเสียหายเป็นเวลา 3 ปี คำให้การในชั้นพิจารณาเป็นประโยชน์ ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกเป็นเวลา 2 ปี โทษจำคุกให้รอลงอาญาเป็นเวลา 3 ปี(ภายหลังแก้เป็น 4 ปี) คุมประพฤติจำเลย 3 ปี และให้รายงานตัวทุกๆ 3 เดือน ให้ทำงานบริการสังคมโดยการดูแลผู้ป่วยจากอุบัติเหตุเป็นเวลา 48 ช.ม. และห้ามจำเลยขับรถยนต์จนกว่าจะมีอายุครบ 25 ปีบริบูรณ์
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9550000107246" rel="nofollow" >][
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9550000107246]
3 ก.ย.2555 “บอส” วรายุทธ อยู่วิทยา ลูกชายเฉลิม อยู่วิทยา เจ้าของกระทิงแดง ขับเฟอร์รารี่ชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่ ป. สน.ทองหล่อ เสียชีวิตคาที่ช่วงเวลา 05.30 น. บริเวณซอยสุขุมวิท 47
ผ่านไป 1 วัน พล.ต.ท.คำรณวิทญ์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. กล่าวว่า คดีนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน คดีจบแล้วเพราะผู้ต้องหาตัวจริงรับสารภาพ
ก่อนที่ ผบช.น.จะพูดจาหนักแน่นเช่นนี้ พ.ต.ท.ปัณณ์ณภณ นามเมือง สวป.สน.ทองหล่อ ได้นำ “สุเวศ หอมอุบล” พ่อบ้านของตระกูลอยู่วิทยาเข้ามอบตัวแทน “บอส” ที่ สน.ทองหล่อ ทั้งที่ ด.ต.วิเชียร ที่เสียชีวิตคือลูกน้องของพ.ต.ท.ปัณณ์ณภณ ทั้งนี้เพราะ พ.ต.ท.ปัณณ์ณภณคือตำรวจที่เข้านอกออกในบ้านอยู่วิทยา อาคารหรู 6 ชั้นในซอยสุขุมวิท 53 นั่นเอง ซึ่งก็ถูกผบช.น.สั่งเด้งฟฟ้าผ่าทันที
24 ก.ย. 2556 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ได้มีการโพสต์ข้อความโดยอ้างว่านายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ผู้ต้องหากรณีขับรถชนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิต และอัยการเจ้าของคดีกล่าวว่าจะมีการออกอนุมัติออกหมายจับนายวรยุทธ เนื่องจากมีพฤติการณ์หลบหนี และอ้างว่าป่วยอยู่ที่สิงคโปร์ ได้เดินทางกลับจากสิงคโปร์ถึงประเทศไทยแล้ว โดยไม่มีหมายจับ ทำให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองไม่สามารถจับกุมตัวได้ และต้องปล่อยให้เข้าประเทศไทย
http://news.sanook.com/1237222/" rel="nofollow" >][
http://news.sanook.com/1237222/]
ต้นปี 2558 ที่ผ่านมา รายการ"เรื่องนี้ถึงไหน"ทางTNNทำสกู๊ปเรื่องนี้ สอบถามไปยังสนง.อัยการสูงสุด แจ้งเพียงว่า "อยู่ในระหว่างขั้นตอนการพิจารณาหนังสือร้องขอความเป็นธรรมของจำเลย"
https://www.youtube.com/watch?v=rIFLepN3FuE" rel="nofollow" >][
https://www.youtube.com/watch?v=rIFLepN3FuE]
27 พ.ค. 2558 ตำรวจนำตัว "เจเจ" ณัฐพล เข็มเงิน ศิลปินอิสระ(วงDrunkAllDay)ชาวสุพรรณบุรีซึ่งถูกจับข้อหา"พ่นสีสเปรย์ใส่ป้ายศาลอาญา"
มาแถลงข่าวผ่านสื่อทุกช่อง ด้วยฝ่ายความมั่นคงต้องการเชื่องโยงกับคดีความมั่นคงอื่นๆ แต่เจ้าตัวยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองใดๆ
ในวันเดียวกันนั้น มีการ"พิพากษา"คดีละเมิดศาล"ทันที" โดยนิติกรชำนาญการพิเศษศาลอาญาขอให้ไต่สวนผู้ต้องหา โดยนายสุนันท์ นาคะรับมอบอำนาจจากผู้อำนวยการศาลอาญา แถลงต่อศาลว่า เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำศาลอาญาว่ามีบุคคลใช้สีสเปรย์ พ่นที่ป้ายศาลอาญา 2 จุด คล้ายกับสัญลักษณ์ต่อต้านอำนาจรัฐ ทำให้ป้ายศาลอาญาได้รับความเสียหาย และเป็นการประพฤติไม่เรียบร้อยบริเวณศาลอาญาซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะผู้ก่อเหตุ คือนายณัฐพล กระทำการดังกล่าวอาจมีมูลความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล
ส่วนสาเหตุที่พ่นสีสเปรย์ใส่ป้ายศาลนั้นเนื่องจากมีความรู้สึกคับแค้นใจเพราะรุ่นพี่ที่รู้จักกันถูกเจ้าหน้าที่ทหารยิงเสียชีวิต และอยู่กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลทหาร แต่ไม่ได้รับทราบความคืบหน้า จึงกระทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่ทราบว่าจะมีความผิดรุนแรงขนาดนี้ แต่ก็น้อมยอมรับผิดและยินดีช่วยทำความสะอาดศาลอาญาหรือบำเพ็ญประโยชน์
ต่อมาศาลพิพากษาโดยให้เหตุผลว่า เชื่อได้ว่านายณัฐพล ผู้ถูกกล่าวหาได้นำสีสเปรย์สีดำฉีดทับป้ายหลังข้อความศาลอาญาซึ่งป้ายดังกล่าวถือเป็นทรัพย์สินของราชการและป้ายดังกล่าวยังอยู่ในบริเวณศาล การกระทำดังกล่าวจึงเป็นการผิดกฎหมายและยังเป็นการประพฤติตนไม่เหมาะสม บริเวณศาล ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 33 (1) ให้จำคุก 1 เดือน แต่ทางไต่สวนศาลเห็นว่าผู้ถูกกล่าวหาได้สำนึกผิด ประกอบกับผู้ถูกกล่าวหาไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอลงอาญา 1 ปี(จำเลยสารภาพตลอดข้อกล่าวหาไม่ขอสู้คดี และไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน) ให้รายงานตัว 4 ครั้ง พร้อมคุมประพฤติ
--- จบคดีแรก"ละเมิดศาล"
...แต่ศาลยังสั่งคุมขังไว้ในอีกคดีหนึ่ง อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360, พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 มาตรา 12, 35, 54 และ 56 ต่อมาวันที่ 25 พฤษภาคม 2558 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธิน สามารถติดตามจับกุมตัวได้ อุ้มเข้าค่ายทหารไปสองวันก่อนและจำเลยให้การรับสารภาพโดยตลอด และเพื่อนๆได้รวบรวมเงินมาประกันตัวได้ในคืนวันที่ 28 พ.ค แต่คดียังคงเดินต่อไป
ล่าสุดวันนี้ (14 กรกฎาคม 2558) ศาลอาญานัดสอบคำให้การ นายณัฐพล จำเลย คดีหมายเลขดำ อ.2342/58 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง ในความผิดฐานทำให้เสียหาย ทำลาย หรือทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ ขูด ขีด เขียน พ่นสี หรือทำให้ปรากฏด้วยประการใดซึ่งความเสียหายแก่สาธารณประโยชน์ ทั้งนี้ศาลได้อ่านและอธิบายฟ้องให้จำเลยฟังจนเข้าใจ แล้วสอบถามปรากฏว่า จำเลยให้การรับสารภาพผิดไม่ขอต่อสู้คดี
ดังนั้นศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง จึงสั่งจำคุก 2 ปี คำรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยไว้ 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา (เพราะเคยกระทำความผิดมาก่อน ---> ซึ่งก็คือคดีละเมิดศาลจากการกระทำเดียวกันกับคดีที่สองนี้นั่นเอง)
คุกไทยมีไว้ขังคนจน"
มีชายคนหนึ่งได้พิสูจน์เรื่องนี้ให้ทุกคนเห็น โดยแลกกับ"อิสรภาพอันประเมินค่ามิได้"ของตนเอง
การเลือกใช้การพ่นสเปรย์นั่นเป็น"สันติวิธี"และเป็นเรื่องปกติอย่างนึงของ"ชาวอนาคิส"เสียด้วยซ้ำ ย่อมมิใช่การทุบทำลายหรือโยนระเบิด นั่นเพียงพอแล้ว ที่จะชี้เจตนา ว่าเขาเพียงต้องการความเป็นธรรมอย่างสันติ ไม่ใช่ทำลายล้างฆ่าแกงใคร
ปล่อยเขาออกมาเถอะครับ เขาไม่ได้เป็นภัยอะไรกับความมั่นคงของพวกคุณหรอก... เขาแค่อยากเห็นความเป็นธรรมในสังคมที่คนทุกคนควรได้รับอย่างเท่าๆกัน
ทีมาNithiwat Wannasiri
"คุกไทยมีไว้ขังคนจน"? มาตรฐานยุติธรรมไทย ????
มีชายคนหนึ่งได้พิสูจน์เรื่องนี้ให้ทุกคนเห็น โดยแลกกับ"อิสรภาพอันประเมินค่ามิได้"ของตนเอง
4 ก.ค.2550 “หมูแฮม”-กัณฑ์พิทักษ์ ปัจฉิมสวัสดิ์ ได้ใช้ก้อนหินทุบใบหน้าสถาพร อรุณศิริ พนักงานขับรถโดยสาร สาย 513 และขับรถเบนซ์ พุ่งชนผู้โดยสารที่ยืนบนทางเท้า รวมถึงสายชล หลวงแสง พนักงานเก็บเงินรถเมล์สายดังกล่าวเสียชีวิต หลังไม่พอใจที่รถเมล์ขับปาดหน้าให้หยุดบริเวณปากซอยสุขุมวิท 26
http://hilight.kapook.com/view/33370" rel="nofollow" >][http://hilight.kapook.com/view/33370]
มี.ค. 2556 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ลดโทษ “หมูแฮม” เหลือคุก 2 ปี 1 เดือน เพราะเชื่อว่ามีจิตบกพร่อง โทษจำคุกจึงให้"รอลงอาญา"ไว้
http://m.thairath.co.th/content/330509" rel="nofollow" >[http://m.thairath.co.th/content/330509
27 ธ.ค.2553 “นักศึกษาสาว วัย 17 ปี” ขับรถยนต์ซีวิคพุ่งชนรถตู้โดยสารบนทางยกระดับดอนเมืองโทลเวย์ มีผู้เสียชีวิต 9 ศพ ด้วยนักศึกษารายนี้นามสกุล “เทพหัสดิน ณ อยุธยา”
ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง พิพากษาจำเลยฐานความผิดฐานขับรถยนต์โดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และได้รับอันตรายต่อร่างกายบาดเจ็บสาหัส และทรัพย์สินเสียหาย และใช้โทรศัพท์ขณะขับรถยนต์
ทั้งนี้ให้ลงโทษจำคุกจำเลยในความผิดฐานขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และทำให้ทรัพย์สินเสียหายเป็นเวลา 3 ปี คำให้การในชั้นพิจารณาเป็นประโยชน์ ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกเป็นเวลา 2 ปี โทษจำคุกให้รอลงอาญาเป็นเวลา 3 ปี(ภายหลังแก้เป็น 4 ปี) คุมประพฤติจำเลย 3 ปี และให้รายงานตัวทุกๆ 3 เดือน ให้ทำงานบริการสังคมโดยการดูแลผู้ป่วยจากอุบัติเหตุเป็นเวลา 48 ช.ม. และห้ามจำเลยขับรถยนต์จนกว่าจะมีอายุครบ 25 ปีบริบูรณ์
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9550000107246" rel="nofollow" >][http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9550000107246]
3 ก.ย.2555 “บอส” วรายุทธ อยู่วิทยา ลูกชายเฉลิม อยู่วิทยา เจ้าของกระทิงแดง ขับเฟอร์รารี่ชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่ ป. สน.ทองหล่อ เสียชีวิตคาที่ช่วงเวลา 05.30 น. บริเวณซอยสุขุมวิท 47
ผ่านไป 1 วัน พล.ต.ท.คำรณวิทญ์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. กล่าวว่า คดีนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน คดีจบแล้วเพราะผู้ต้องหาตัวจริงรับสารภาพ
ก่อนที่ ผบช.น.จะพูดจาหนักแน่นเช่นนี้ พ.ต.ท.ปัณณ์ณภณ นามเมือง สวป.สน.ทองหล่อ ได้นำ “สุเวศ หอมอุบล” พ่อบ้านของตระกูลอยู่วิทยาเข้ามอบตัวแทน “บอส” ที่ สน.ทองหล่อ ทั้งที่ ด.ต.วิเชียร ที่เสียชีวิตคือลูกน้องของพ.ต.ท.ปัณณ์ณภณ ทั้งนี้เพราะ พ.ต.ท.ปัณณ์ณภณคือตำรวจที่เข้านอกออกในบ้านอยู่วิทยา อาคารหรู 6 ชั้นในซอยสุขุมวิท 53 นั่นเอง ซึ่งก็ถูกผบช.น.สั่งเด้งฟฟ้าผ่าทันที
24 ก.ย. 2556 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ได้มีการโพสต์ข้อความโดยอ้างว่านายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ผู้ต้องหากรณีขับรถชนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิต และอัยการเจ้าของคดีกล่าวว่าจะมีการออกอนุมัติออกหมายจับนายวรยุทธ เนื่องจากมีพฤติการณ์หลบหนี และอ้างว่าป่วยอยู่ที่สิงคโปร์ ได้เดินทางกลับจากสิงคโปร์ถึงประเทศไทยแล้ว โดยไม่มีหมายจับ ทำให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองไม่สามารถจับกุมตัวได้ และต้องปล่อยให้เข้าประเทศไทย http://news.sanook.com/1237222/" rel="nofollow" >][http://news.sanook.com/1237222/]
ต้นปี 2558 ที่ผ่านมา รายการ"เรื่องนี้ถึงไหน"ทางTNNทำสกู๊ปเรื่องนี้ สอบถามไปยังสนง.อัยการสูงสุด แจ้งเพียงว่า "อยู่ในระหว่างขั้นตอนการพิจารณาหนังสือร้องขอความเป็นธรรมของจำเลย"
https://www.youtube.com/watch?v=rIFLepN3FuE" rel="nofollow" >][https://www.youtube.com/watch?v=rIFLepN3FuE]
27 พ.ค. 2558 ตำรวจนำตัว "เจเจ" ณัฐพล เข็มเงิน ศิลปินอิสระ(วงDrunkAllDay)ชาวสุพรรณบุรีซึ่งถูกจับข้อหา"พ่นสีสเปรย์ใส่ป้ายศาลอาญา"
มาแถลงข่าวผ่านสื่อทุกช่อง ด้วยฝ่ายความมั่นคงต้องการเชื่องโยงกับคดีความมั่นคงอื่นๆ แต่เจ้าตัวยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองใดๆ
ในวันเดียวกันนั้น มีการ"พิพากษา"คดีละเมิดศาล"ทันที" โดยนิติกรชำนาญการพิเศษศาลอาญาขอให้ไต่สวนผู้ต้องหา โดยนายสุนันท์ นาคะรับมอบอำนาจจากผู้อำนวยการศาลอาญา แถลงต่อศาลว่า เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำศาลอาญาว่ามีบุคคลใช้สีสเปรย์ พ่นที่ป้ายศาลอาญา 2 จุด คล้ายกับสัญลักษณ์ต่อต้านอำนาจรัฐ ทำให้ป้ายศาลอาญาได้รับความเสียหาย และเป็นการประพฤติไม่เรียบร้อยบริเวณศาลอาญาซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะผู้ก่อเหตุ คือนายณัฐพล กระทำการดังกล่าวอาจมีมูลความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล
ส่วนสาเหตุที่พ่นสีสเปรย์ใส่ป้ายศาลนั้นเนื่องจากมีความรู้สึกคับแค้นใจเพราะรุ่นพี่ที่รู้จักกันถูกเจ้าหน้าที่ทหารยิงเสียชีวิต และอยู่กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลทหาร แต่ไม่ได้รับทราบความคืบหน้า จึงกระทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่ทราบว่าจะมีความผิดรุนแรงขนาดนี้ แต่ก็น้อมยอมรับผิดและยินดีช่วยทำความสะอาดศาลอาญาหรือบำเพ็ญประโยชน์
ต่อมาศาลพิพากษาโดยให้เหตุผลว่า เชื่อได้ว่านายณัฐพล ผู้ถูกกล่าวหาได้นำสีสเปรย์สีดำฉีดทับป้ายหลังข้อความศาลอาญาซึ่งป้ายดังกล่าวถือเป็นทรัพย์สินของราชการและป้ายดังกล่าวยังอยู่ในบริเวณศาล การกระทำดังกล่าวจึงเป็นการผิดกฎหมายและยังเป็นการประพฤติตนไม่เหมาะสม บริเวณศาล ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 33 (1) ให้จำคุก 1 เดือน แต่ทางไต่สวนศาลเห็นว่าผู้ถูกกล่าวหาได้สำนึกผิด ประกอบกับผู้ถูกกล่าวหาไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอลงอาญา 1 ปี(จำเลยสารภาพตลอดข้อกล่าวหาไม่ขอสู้คดี และไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน) ให้รายงานตัว 4 ครั้ง พร้อมคุมประพฤติ
--- จบคดีแรก"ละเมิดศาล"
...แต่ศาลยังสั่งคุมขังไว้ในอีกคดีหนึ่ง อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360, พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 มาตรา 12, 35, 54 และ 56 ต่อมาวันที่ 25 พฤษภาคม 2558 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธิน สามารถติดตามจับกุมตัวได้ อุ้มเข้าค่ายทหารไปสองวันก่อนและจำเลยให้การรับสารภาพโดยตลอด และเพื่อนๆได้รวบรวมเงินมาประกันตัวได้ในคืนวันที่ 28 พ.ค แต่คดียังคงเดินต่อไป
ล่าสุดวันนี้ (14 กรกฎาคม 2558) ศาลอาญานัดสอบคำให้การ นายณัฐพล จำเลย คดีหมายเลขดำ อ.2342/58 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง ในความผิดฐานทำให้เสียหาย ทำลาย หรือทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ ขูด ขีด เขียน พ่นสี หรือทำให้ปรากฏด้วยประการใดซึ่งความเสียหายแก่สาธารณประโยชน์ ทั้งนี้ศาลได้อ่านและอธิบายฟ้องให้จำเลยฟังจนเข้าใจ แล้วสอบถามปรากฏว่า จำเลยให้การรับสารภาพผิดไม่ขอต่อสู้คดี
ดังนั้นศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง จึงสั่งจำคุก 2 ปี คำรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยไว้ 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา (เพราะเคยกระทำความผิดมาก่อน ---> ซึ่งก็คือคดีละเมิดศาลจากการกระทำเดียวกันกับคดีที่สองนี้นั่นเอง)
คุกไทยมีไว้ขังคนจน"
มีชายคนหนึ่งได้พิสูจน์เรื่องนี้ให้ทุกคนเห็น โดยแลกกับ"อิสรภาพอันประเมินค่ามิได้"ของตนเอง
การเลือกใช้การพ่นสเปรย์นั่นเป็น"สันติวิธี"และเป็นเรื่องปกติอย่างนึงของ"ชาวอนาคิส"เสียด้วยซ้ำ ย่อมมิใช่การทุบทำลายหรือโยนระเบิด นั่นเพียงพอแล้ว ที่จะชี้เจตนา ว่าเขาเพียงต้องการความเป็นธรรมอย่างสันติ ไม่ใช่ทำลายล้างฆ่าแกงใคร
ปล่อยเขาออกมาเถอะครับ เขาไม่ได้เป็นภัยอะไรกับความมั่นคงของพวกคุณหรอก... เขาแค่อยากเห็นความเป็นธรรมในสังคมที่คนทุกคนควรได้รับอย่างเท่าๆกัน
ทีมาNithiwat Wannasiri