ศาลพิพากษาจำคุก 1 ปี 15 วัน 2 นักศึกษา รุมกระทืบ รปภ. ฉุนไม่ให้จอดรถ โทษจำคุกให้รอลงอาญา 3 ปี หลังชดใช้เงิน 2.2 แสนบาท
นายปัญจพล เตือนภักดี และ นายภาสัน รอดเกิด นักศึกษา คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เดินทางมายังศาลอาญา เพื่อฟังคำพิพากษา ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ในความผิดฐานร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส
จากกรณีเมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่ผ่านมา นายปัญจพล กับพวกรุมทำร้ายร่างกาย นายทวิชาติ สร้อยมาศ พนักงานรักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ผู้เสียหาย จนได้รับบาดเจ็บสาหัสเนื่องจาก ไม่พอใจ ที่ นายทวิชาติ ห้ามไม่ให้จอดรถในจุดอันตราย ภายในมหาวิทยาลัย
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยทั้งสองกระทำผิดจริงพิพากษาจำคุกคนละ 1 ปี 15 วัน ปรับ 500 บาท ทั้งนี้ศาลได้พิเคราะห์รายงานการสืบเสาะแล้ว เชื่อว่าสาเหตุการทำร้ายเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบของทั้งสองฝ่าย และจำเลยทั้งสองไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน และผู้เสียหายขอให้รอการลงโทษให้กับจำเลยทั้งสอง เนื่องจากได้ชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 220,000 บาท จนเป็นที่พอใจมีเหตุสมควรปราณี โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษ 3 ปี และคุมประพฤติ 2 ปี รวมถึงบำเพ็ญประโยชน์จำนวน 48 ชั่วโมง
ที่มา :
http://news.voicetv.co.th/thailand/77265.html
.............................................................................................................................................................................
ผมเอาข่าวนี้มาลงเพื่อแสดงให้เห็นว่า รอลงอาญาอีกแล้วครับ
โดยทั้งหมดมันแทบไม่เกี่ยวกับตำรวจ(พนักงานสอบสวน) หรือ อัยการ เพราะตามหลักการตัดสินคดีของศาล ศาลจะไม่ตัดสินตามสำนวนของคนอื่น ศาลจะนำสืบข้อเท็จจริงจากหลักฐานที่มีแล้วใช้สำนวนของตนเองตัดสิน โดยคดีนี้มีประจักษ์พยานและวัถุพยานที่เป็นภาพถ่ายมากมายรวมทั้งตัวเจ้าทุกข์เองไม่มีอะไรให้หมกเม็ด สรุปอัยการก็ลงความเห็นสั่งฟ้องให้เป็นคดีทำร้ายร่างกายสาหัส "ไม่ใช่พยายามฆ่า" และศาลก็ตัดสินให้เพียงจำคุก 1 ปี 15 วัน "จากโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี" รวมทั้งจำเลยไม่เคยติดคุกและชดเชยเงินเลย "รอลงอาญา" กันไป ก็ตามนั้นครับ
ทีนี้ทราบแล้วนะครับว่ากระบวนการยุติธรรมรวมทั้งที่ผ่านๆมามันเป็นอย่างไร อ่านแล้วรู้แล้วก็อย่าเอา "ตำรวจ" กับ "อัยการ" ไปเป็นแพะไปเป็นจำเลยสังคมของคดีอีกหล่ะครับ หึๆ
ศาลรอลงอาญา 3 ปี คดีนักศึกษารุมทำร้ายยาม ม.รามคำแหง
ศาลพิพากษาจำคุก 1 ปี 15 วัน 2 นักศึกษา รุมกระทืบ รปภ. ฉุนไม่ให้จอดรถ โทษจำคุกให้รอลงอาญา 3 ปี หลังชดใช้เงิน 2.2 แสนบาท
นายปัญจพล เตือนภักดี และ นายภาสัน รอดเกิด นักศึกษา คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เดินทางมายังศาลอาญา เพื่อฟังคำพิพากษา ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ในความผิดฐานร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส
จากกรณีเมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่ผ่านมา นายปัญจพล กับพวกรุมทำร้ายร่างกาย นายทวิชาติ สร้อยมาศ พนักงานรักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ผู้เสียหาย จนได้รับบาดเจ็บสาหัสเนื่องจาก ไม่พอใจ ที่ นายทวิชาติ ห้ามไม่ให้จอดรถในจุดอันตราย ภายในมหาวิทยาลัย
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยทั้งสองกระทำผิดจริงพิพากษาจำคุกคนละ 1 ปี 15 วัน ปรับ 500 บาท ทั้งนี้ศาลได้พิเคราะห์รายงานการสืบเสาะแล้ว เชื่อว่าสาเหตุการทำร้ายเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบของทั้งสองฝ่าย และจำเลยทั้งสองไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน และผู้เสียหายขอให้รอการลงโทษให้กับจำเลยทั้งสอง เนื่องจากได้ชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 220,000 บาท จนเป็นที่พอใจมีเหตุสมควรปราณี โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษ 3 ปี และคุมประพฤติ 2 ปี รวมถึงบำเพ็ญประโยชน์จำนวน 48 ชั่วโมง
ที่มา : http://news.voicetv.co.th/thailand/77265.html
.............................................................................................................................................................................
ผมเอาข่าวนี้มาลงเพื่อแสดงให้เห็นว่า รอลงอาญาอีกแล้วครับ
โดยทั้งหมดมันแทบไม่เกี่ยวกับตำรวจ(พนักงานสอบสวน) หรือ อัยการ เพราะตามหลักการตัดสินคดีของศาล ศาลจะไม่ตัดสินตามสำนวนของคนอื่น ศาลจะนำสืบข้อเท็จจริงจากหลักฐานที่มีแล้วใช้สำนวนของตนเองตัดสิน โดยคดีนี้มีประจักษ์พยานและวัถุพยานที่เป็นภาพถ่ายมากมายรวมทั้งตัวเจ้าทุกข์เองไม่มีอะไรให้หมกเม็ด สรุปอัยการก็ลงความเห็นสั่งฟ้องให้เป็นคดีทำร้ายร่างกายสาหัส "ไม่ใช่พยายามฆ่า" และศาลก็ตัดสินให้เพียงจำคุก 1 ปี 15 วัน "จากโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี" รวมทั้งจำเลยไม่เคยติดคุกและชดเชยเงินเลย "รอลงอาญา" กันไป ก็ตามนั้นครับ
ทีนี้ทราบแล้วนะครับว่ากระบวนการยุติธรรมรวมทั้งที่ผ่านๆมามันเป็นอย่างไร อ่านแล้วรู้แล้วก็อย่าเอา "ตำรวจ" กับ "อัยการ" ไปเป็นแพะไปเป็นจำเลยสังคมของคดีอีกหล่ะครับ หึๆ