ปัญหากับกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาครั้งนี้มีอยู๋ ผมกับภรรยามีอาชีพรับราชการทั้งคู่ ภรรยากู้เงิน กยศ. เรียนมาตั้งแต่ระดับ ปวส. และ ปริญญาตรี สำเร็จการศึกษาเมื่อปี 2548 เมื่อสำเร็จการศึกษา ก็สอบเข้าเป็นพนักงานราชการในหน่วยงานราชการได้ทันที ที่จังหวัดสุโขทัย การเริ่มชำระเงินกู้ กยศ.นั้น ตามตารางที่ปรินท์จากธนาคารกรุงไทย ในจังหวัดสุโขทัย มีกำหนดเริ่มต้นชำระในปี 2550 เดือนกรกฎาคม
ภรรยาของผม ชำระค่างวดเงินกู้ กยศ. ทุกปี ในระหว่าง ปี 2550 ถึง 2558 โดยชำระที่ธนาคารกรุงไทย ในตัวจังหวัดบ้าง ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในจังหวัดสุโขทัยบ้าง โดยหากชำระไม่ทันกำหนดในวันที่ 2 กรกฎาคม ของทุกปี ก็จะมีค่าปรับบ้าง ยอดชำระนั้น ก็เพิ่มขึ้นเรือย ๆ ตั้งแต่ ปีแรก สองพันกว่าบาท เพิ่มประมาณ ปีละ 2000 เป็น 4000 , 6000 , 8000 , 10000 , 12,000 , 14000 มาโดยลำดับ ในปีที่ผ่านมา เราจะชำระแต่ล่าช้ากว่ากำหนดประมาณ 2 เดือน ก็มีค่าปรับกันไป
ความฉงน สงใส เกิดขึ้นในปีนี้ เมื่อเราได้รับใบทวงถามให้ชำระหนี้พร้อมค่าปรับ ประมาณ 25,000.- บาท ส่งไปที่บ้านภรรยา ที่เพชรบูรณ์ แม่ยายผมโทรมาสอบถามว่า จ่ายกันทุกปีหรือเปล่า ทำไมปีนี้เรียกเก็บมาเยอะจัง เราจึงไปนำใบทวงถามดังกล่าว มาสอบถามกับธนาคารกรุงไทย ในห้างสรรพสินค้า ในจังหวัดสุโขทัย ที่เราใข้บริการอยู่เป็นประจำ เจ้าหน้าที่ของธนาคารก็ให้ความอนุเคราะห์ ตรวจสอบให้ แต่ปรากฎว่า
ในระบบของ กยศ. แจ้งว่า เราไม่ได้ชำระหนี้เงินกู้ ในปี 2550 , 2551 , 2552 , และ 2553 เราสองคน หน้าซีดเผือด มองหน้ากันและถามกันเองว่า เราไม่ได้จ่าย เหรอ ระบบผิดพลาดหรือป่าว ตั้งแต่แต่งงานกันมาก็จ่ายมาตลอดน่ะ เรามีเงินเดือนประจำ มีรายได้เสริมจากการค้าขายเสื้อผ้ามือสองตามตลาดนัด มีศักดิ์ศรีแห่งความเป็นคนเพียงพอที่จะไม่เบี้ยวหนี้ กยศ. ที่ทำให้เรามีความรู้มาใข้ในการทำมาหากิน เราได้แต่เก็บข้อข้องใจไว้ วันรุ่งขึ้น เป็นวันที่ 1 กรกฎาคม 2558 ผมลองโทรเข้าหา CALL CENTER ของ กยศ. มีเสียงในระบบตอบรับอัตโนมัติว่า วันนี้เป็นวันหยุดทำการเนื่องจาก พนักงานไปอบรมที่ไหนสักแห่ง ขอให้ติดต่อเข้ามาใหม่ ผมก็ยังคงได้แต่เก็บข้อข้องใจไว้ ไปโพสต์ที่ระบบ กระดานสนทนาของ กยศ. แจ้งเรื่องไว้ ก็ไม่มีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลั[ทั้งที่ ทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้แล้ว เรากลับมานั่งค้นใบ PAY IN กับ SLIP จ่ายเงิน กยศ. เจอบ้างไม่เจอบ้าง เพราะเราย่ายบ้านกันสองครั้งในรอบ 8 ปี
ถัดมาอีกวันสองวัน ภรรยา ก็นำเงินจำนวน 15,000 บาท ไปชำระที่ธนาคารกรุงไทยสาขา ห้างสรรพสินค้า ในตัวจังหวัดสุโขทัย โดยที่ไม่ได้บอกผม แล้วหลังเลิกงาน เธอก็เดินทำหน้างง ๆ มาบอกผมว่า นำเงินไปจ่ายแล้ว ปรากฎในระบบว่า ช่วงปี 2550-2553 ที่เคยอ้างว่าไม่ได้จ่าย มีข้อมูลปรากฎขึ้นมาแล้ว ผมก็นึกในใจว่า เฮ้อ จบเรื่องได้เสียที แต่มันไม่จบ เพราะภรรยาเล่าต่อว่า แต่ ปรากฎในรายการในระบบว่า ปี 2556 เราไม่ได้จ่ายหนี้ ใ้ห กยศ. เป็นจำนวนเงิน 12,000 กว่าบาท
โอ้ว!!! เคราะห์ซ้ำกรรมซัดอะไรเช่นนี้ เรารื้อค้นบ้านหาใบ PAY IN หนี้ กยศ. ปี 2556 ซึ่งค้นทั้งบ้านก็ไม่พบ แต่ก็ได้น้ำใจจากเพื่อนร่วมงานภรรยาว่า เขาจำได้ว่าปีนั้น เธอและภรรยาของผมไปจ่ายหนี้ กยศ. พร้อมกัน มีสำเนาใบ PAY IN มาให้เพื่อให้ไปค้นเทียบกับธนาคาร ใจของผมค่อยชื้นฉ่ำขึ้นมาบ้าง
วันรุ่งขึ้น ภรรยา รวบรวมใบ PAY IN ทั้งของตนเองและของเพื่อนที่รวบรวมได้ ได้สอบถามที่ธนาคารกรุงไทย สาขาในห้างสรรพสินค้า ในตัวจังหวัดสุโขทัยซึ่งเป็นที่เราไปใช้บริการและจำได้อย่างแม่นยำว่า จ่ายที่นี่แน่นอน ท่านรองผู้จัดการสาขา ท่านอำนวยความสะดวก(ตอนเช้าไปท่านไม่อยู่ ภรรยานั่งรอจนท่านไปติดต่อราชการเสร็จจนเข้ามาที่สาขา ห้าง) รับเรื่องไว้ แต่ไม่ได้ให้เขียนเป็นคำร้องขอดูเอกสารแต่อย่างใด ท่านให้ความกรุณาว่า จะค้นให้ ขอให้ระบุวันเวลา ให้ชัดเจน และให้ทิ้งเบอร์โทรศํพท์ไว้เพื่อติดต่อกลับ แต่เมื่อภรรยาขอเบอร์ติดต่อท่าน ท่านไม่ไห้ ซึ่งเราก็เข้าใจว่า เป็นสิทธิส่วนบุคคลของท่านที่จะให้หรือไม่ให้เบอร์ติดต่อ
เวลาผ่านไปประมาณ หนึ่งสัปดาห์ เสียงโทรศัพท์ที่สร้างความเจ็บปวดรวดร้าวให้กับเราสองคนก็ดังขึ้น เจ้าหน้าที่ของธนาคารสาขาที่เราไปติดต่อนั่นเอง ทางเจ้าหน้าที่แจ้งมาว่า ได้ให้ทางสาขาใหญ่ในจังหวัดเช็ครายการการทำธุรกรรมในวันเวลาที่เราแจ้งไปแล่ว ไม่พบรายการธุรกรรม ที่มีเลขอ่างอิงเป็นเลขบัตรประชาชนของภรรยาของผมอยู่ นั่นหมายความได้สองอย่างคือ หนึ่ง ภรรยาผมไม่ได้จ่ายเงินให้ กยศ. หรือ สอง มีความผิดพลาดจากส่วนใดส่วนหนึ่งเกิดขึ้น เสียงนั้นถามต่อว่า คุณมีสำเนาใบ PAY IN มั้ย ถ้าไม่มีก็ช่วยอะไรไม่ได้แสดงว่าคุณไม่ได้จ่ายเงินเข้ามา และถามต่อว่า คุณจะดูเอกสารหรือไม่ ถ้าดูจะให้สาขาใหญ่ในตัวจังหวัดพิมพ์มาให้ แต่ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายหน่อยน่ะ ภรรยาผมไม่ได้ถามว่าเท่าไหร่ เพราะเสียใจกับเรื่องที่ได้ยิน ได้แต่ขอบคุณและวางสายไป
กำลังใจที่มีอยู่เพียงน้อยนิดของเราสองคน หดหายไปในฉับพลัน นี่เวรหรือกรรมอันใด ชักนำให้เราพบเคราะห์กรรมครั้งนี้ เราเป็นหนี้ กยศ. เราต้องการชดใช้เพื่อให้โอกาส น้อง ๆ ลูก ๆ หลาน ๆ ได้มีโอกาสเหมือนกับที่เราเคยได้มา เมื่อถึงเวลาที่เราต้องชำระคืน เราก็ตั้งหน้าตั้งตา ชำระคืน ช้าบ้าง เร็วบ้าง แต่ชำระเกินกว่าที่ยอดแจ้งตามใบเรียกเก็บหรือตารางเรียกเก็บทุกครั้ง แล้วทำไมเราต้องมาเจอกับเคราะห์กรรมแบบนี้
ยังมีประชาชนอีกเป็นจำนวนมากที่ มีเรื่องกับ กยศ. ทั้งผิดนัดชำระ เบี้ยว ขอต่อรองประนอมหนี้ ขึ้นโรง ขึ้นศาล ไกล่เกลี่ย และเจรจาของลดยอดหนี้ ฯลฯ ร้อยแปดปัญหา แต่เราซึ่งเป็นผู้ที่มีเจตนาสุจริต ไม่เคยคิดเบี้ยว หากไม่มีเงินก็ไปหาทางจนนำเงินมาชำระให้ได้ แล้วทำไมต้องเจอปัญหาแบบนี้
จนถึงตอนนี้ เรายังไม่รู้ว่าจะหาทางออกกับปัญหานี้ได้อย่างไร ถึงอยากสอบถามท่านสมาชิกพันทิพย์ที่เคารพ ว่า ท่านใดมีความเห็นอย่างไร กับเรื่องนี้บ้าง สำหรับตัวผมเอง หลังจากที่เล่าเรื่องนี้ให้กับท่านสมาชิกได้ร่วมกันพิจารณาแล้ว ผมเตรียมการจะทำหนังสือและรวบรวมเอกสารทั้งหมดเพื่อติดต่อขอหยุดชำระหนี้กองทุน กยศ. เพื่อให้ทาง กยศ. ดำเนินการตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งอยากเรียกร้องความเป็นธรรม ให้กับครอบครัวของเรา เราทำหน้าที่ของเราตามตัวบทกฎหมาย และ แนวทางที่สังคมวางไว้ แล้วสิ่งที่เราได้รับกลับกลายเป็นเช่นนี้ ผมจะไม่ตั้งโทษหรือกล่าวหาใคร หน่วยงานใด หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ การเขียนคำถามและบทความนั้เป็นแต่เพียงการเรียกร้องความเป็นธรรมให้เกิดขึ้น และเสนอเรื่องราวให้เป็นอุทาหรณ์กลับ ใครหลาย ๆ คนที่ต้องการกู้ยืมเงินทุนการศึกษา จากกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา ว่า ควรและจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องเก็บรักษาหลักฐานทุกชิ้น ทั้งที่ กยศ.ส่งมา และหรือเราไปติดต่อกับธนาคารแห่งใดก็ตามที่มีธุรกรรมอันเกี่ยวข้องกับตัวเงิน มิเช่นนั้นท่านอาจเป็นเหยื่อของอะไรบางอย่างที่เกิดขึ้นแล้วในสังคมไทยนี้
ขอแสดงความนับถือ และ ขออภัยหากได้กล่าวถึง ใคร หน่วยงานใด ทั้งนี้ข้าพเจ้าเพียงอ้างถึงเพื่อให้เรื่องราวถูกต้องตามความเป็นจริงเท่านั้น
นายประสพ ด้วงช้าง
เจ้าหน้าที่บริหารงานทะเบียนและบัตร ระดับ 6ว
เทศบาลตำบลบ้านโตนด อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย
หมายเลขโทรศัพท์ 099 270 9219
ใครพบปัญหาในการชำระเงินคืน กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) บ้าง?
ภรรยาของผม ชำระค่างวดเงินกู้ กยศ. ทุกปี ในระหว่าง ปี 2550 ถึง 2558 โดยชำระที่ธนาคารกรุงไทย ในตัวจังหวัดบ้าง ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในจังหวัดสุโขทัยบ้าง โดยหากชำระไม่ทันกำหนดในวันที่ 2 กรกฎาคม ของทุกปี ก็จะมีค่าปรับบ้าง ยอดชำระนั้น ก็เพิ่มขึ้นเรือย ๆ ตั้งแต่ ปีแรก สองพันกว่าบาท เพิ่มประมาณ ปีละ 2000 เป็น 4000 , 6000 , 8000 , 10000 , 12,000 , 14000 มาโดยลำดับ ในปีที่ผ่านมา เราจะชำระแต่ล่าช้ากว่ากำหนดประมาณ 2 เดือน ก็มีค่าปรับกันไป
ความฉงน สงใส เกิดขึ้นในปีนี้ เมื่อเราได้รับใบทวงถามให้ชำระหนี้พร้อมค่าปรับ ประมาณ 25,000.- บาท ส่งไปที่บ้านภรรยา ที่เพชรบูรณ์ แม่ยายผมโทรมาสอบถามว่า จ่ายกันทุกปีหรือเปล่า ทำไมปีนี้เรียกเก็บมาเยอะจัง เราจึงไปนำใบทวงถามดังกล่าว มาสอบถามกับธนาคารกรุงไทย ในห้างสรรพสินค้า ในจังหวัดสุโขทัย ที่เราใข้บริการอยู่เป็นประจำ เจ้าหน้าที่ของธนาคารก็ให้ความอนุเคราะห์ ตรวจสอบให้ แต่ปรากฎว่า
ในระบบของ กยศ. แจ้งว่า เราไม่ได้ชำระหนี้เงินกู้ ในปี 2550 , 2551 , 2552 , และ 2553 เราสองคน หน้าซีดเผือด มองหน้ากันและถามกันเองว่า เราไม่ได้จ่าย เหรอ ระบบผิดพลาดหรือป่าว ตั้งแต่แต่งงานกันมาก็จ่ายมาตลอดน่ะ เรามีเงินเดือนประจำ มีรายได้เสริมจากการค้าขายเสื้อผ้ามือสองตามตลาดนัด มีศักดิ์ศรีแห่งความเป็นคนเพียงพอที่จะไม่เบี้ยวหนี้ กยศ. ที่ทำให้เรามีความรู้มาใข้ในการทำมาหากิน เราได้แต่เก็บข้อข้องใจไว้ วันรุ่งขึ้น เป็นวันที่ 1 กรกฎาคม 2558 ผมลองโทรเข้าหา CALL CENTER ของ กยศ. มีเสียงในระบบตอบรับอัตโนมัติว่า วันนี้เป็นวันหยุดทำการเนื่องจาก พนักงานไปอบรมที่ไหนสักแห่ง ขอให้ติดต่อเข้ามาใหม่ ผมก็ยังคงได้แต่เก็บข้อข้องใจไว้ ไปโพสต์ที่ระบบ กระดานสนทนาของ กยศ. แจ้งเรื่องไว้ ก็ไม่มีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลั[ทั้งที่ ทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้แล้ว เรากลับมานั่งค้นใบ PAY IN กับ SLIP จ่ายเงิน กยศ. เจอบ้างไม่เจอบ้าง เพราะเราย่ายบ้านกันสองครั้งในรอบ 8 ปี
ถัดมาอีกวันสองวัน ภรรยา ก็นำเงินจำนวน 15,000 บาท ไปชำระที่ธนาคารกรุงไทยสาขา ห้างสรรพสินค้า ในตัวจังหวัดสุโขทัย โดยที่ไม่ได้บอกผม แล้วหลังเลิกงาน เธอก็เดินทำหน้างง ๆ มาบอกผมว่า นำเงินไปจ่ายแล้ว ปรากฎในระบบว่า ช่วงปี 2550-2553 ที่เคยอ้างว่าไม่ได้จ่าย มีข้อมูลปรากฎขึ้นมาแล้ว ผมก็นึกในใจว่า เฮ้อ จบเรื่องได้เสียที แต่มันไม่จบ เพราะภรรยาเล่าต่อว่า แต่ ปรากฎในรายการในระบบว่า ปี 2556 เราไม่ได้จ่ายหนี้ ใ้ห กยศ. เป็นจำนวนเงิน 12,000 กว่าบาท
โอ้ว!!! เคราะห์ซ้ำกรรมซัดอะไรเช่นนี้ เรารื้อค้นบ้านหาใบ PAY IN หนี้ กยศ. ปี 2556 ซึ่งค้นทั้งบ้านก็ไม่พบ แต่ก็ได้น้ำใจจากเพื่อนร่วมงานภรรยาว่า เขาจำได้ว่าปีนั้น เธอและภรรยาของผมไปจ่ายหนี้ กยศ. พร้อมกัน มีสำเนาใบ PAY IN มาให้เพื่อให้ไปค้นเทียบกับธนาคาร ใจของผมค่อยชื้นฉ่ำขึ้นมาบ้าง
วันรุ่งขึ้น ภรรยา รวบรวมใบ PAY IN ทั้งของตนเองและของเพื่อนที่รวบรวมได้ ได้สอบถามที่ธนาคารกรุงไทย สาขาในห้างสรรพสินค้า ในตัวจังหวัดสุโขทัยซึ่งเป็นที่เราไปใช้บริการและจำได้อย่างแม่นยำว่า จ่ายที่นี่แน่นอน ท่านรองผู้จัดการสาขา ท่านอำนวยความสะดวก(ตอนเช้าไปท่านไม่อยู่ ภรรยานั่งรอจนท่านไปติดต่อราชการเสร็จจนเข้ามาที่สาขา ห้าง) รับเรื่องไว้ แต่ไม่ได้ให้เขียนเป็นคำร้องขอดูเอกสารแต่อย่างใด ท่านให้ความกรุณาว่า จะค้นให้ ขอให้ระบุวันเวลา ให้ชัดเจน และให้ทิ้งเบอร์โทรศํพท์ไว้เพื่อติดต่อกลับ แต่เมื่อภรรยาขอเบอร์ติดต่อท่าน ท่านไม่ไห้ ซึ่งเราก็เข้าใจว่า เป็นสิทธิส่วนบุคคลของท่านที่จะให้หรือไม่ให้เบอร์ติดต่อ
เวลาผ่านไปประมาณ หนึ่งสัปดาห์ เสียงโทรศัพท์ที่สร้างความเจ็บปวดรวดร้าวให้กับเราสองคนก็ดังขึ้น เจ้าหน้าที่ของธนาคารสาขาที่เราไปติดต่อนั่นเอง ทางเจ้าหน้าที่แจ้งมาว่า ได้ให้ทางสาขาใหญ่ในจังหวัดเช็ครายการการทำธุรกรรมในวันเวลาที่เราแจ้งไปแล่ว ไม่พบรายการธุรกรรม ที่มีเลขอ่างอิงเป็นเลขบัตรประชาชนของภรรยาของผมอยู่ นั่นหมายความได้สองอย่างคือ หนึ่ง ภรรยาผมไม่ได้จ่ายเงินให้ กยศ. หรือ สอง มีความผิดพลาดจากส่วนใดส่วนหนึ่งเกิดขึ้น เสียงนั้นถามต่อว่า คุณมีสำเนาใบ PAY IN มั้ย ถ้าไม่มีก็ช่วยอะไรไม่ได้แสดงว่าคุณไม่ได้จ่ายเงินเข้ามา และถามต่อว่า คุณจะดูเอกสารหรือไม่ ถ้าดูจะให้สาขาใหญ่ในตัวจังหวัดพิมพ์มาให้ แต่ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายหน่อยน่ะ ภรรยาผมไม่ได้ถามว่าเท่าไหร่ เพราะเสียใจกับเรื่องที่ได้ยิน ได้แต่ขอบคุณและวางสายไป
กำลังใจที่มีอยู่เพียงน้อยนิดของเราสองคน หดหายไปในฉับพลัน นี่เวรหรือกรรมอันใด ชักนำให้เราพบเคราะห์กรรมครั้งนี้ เราเป็นหนี้ กยศ. เราต้องการชดใช้เพื่อให้โอกาส น้อง ๆ ลูก ๆ หลาน ๆ ได้มีโอกาสเหมือนกับที่เราเคยได้มา เมื่อถึงเวลาที่เราต้องชำระคืน เราก็ตั้งหน้าตั้งตา ชำระคืน ช้าบ้าง เร็วบ้าง แต่ชำระเกินกว่าที่ยอดแจ้งตามใบเรียกเก็บหรือตารางเรียกเก็บทุกครั้ง แล้วทำไมเราต้องมาเจอกับเคราะห์กรรมแบบนี้
ยังมีประชาชนอีกเป็นจำนวนมากที่ มีเรื่องกับ กยศ. ทั้งผิดนัดชำระ เบี้ยว ขอต่อรองประนอมหนี้ ขึ้นโรง ขึ้นศาล ไกล่เกลี่ย และเจรจาของลดยอดหนี้ ฯลฯ ร้อยแปดปัญหา แต่เราซึ่งเป็นผู้ที่มีเจตนาสุจริต ไม่เคยคิดเบี้ยว หากไม่มีเงินก็ไปหาทางจนนำเงินมาชำระให้ได้ แล้วทำไมต้องเจอปัญหาแบบนี้
จนถึงตอนนี้ เรายังไม่รู้ว่าจะหาทางออกกับปัญหานี้ได้อย่างไร ถึงอยากสอบถามท่านสมาชิกพันทิพย์ที่เคารพ ว่า ท่านใดมีความเห็นอย่างไร กับเรื่องนี้บ้าง สำหรับตัวผมเอง หลังจากที่เล่าเรื่องนี้ให้กับท่านสมาชิกได้ร่วมกันพิจารณาแล้ว ผมเตรียมการจะทำหนังสือและรวบรวมเอกสารทั้งหมดเพื่อติดต่อขอหยุดชำระหนี้กองทุน กยศ. เพื่อให้ทาง กยศ. ดำเนินการตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งอยากเรียกร้องความเป็นธรรม ให้กับครอบครัวของเรา เราทำหน้าที่ของเราตามตัวบทกฎหมาย และ แนวทางที่สังคมวางไว้ แล้วสิ่งที่เราได้รับกลับกลายเป็นเช่นนี้ ผมจะไม่ตั้งโทษหรือกล่าวหาใคร หน่วยงานใด หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ การเขียนคำถามและบทความนั้เป็นแต่เพียงการเรียกร้องความเป็นธรรมให้เกิดขึ้น และเสนอเรื่องราวให้เป็นอุทาหรณ์กลับ ใครหลาย ๆ คนที่ต้องการกู้ยืมเงินทุนการศึกษา จากกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา ว่า ควรและจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องเก็บรักษาหลักฐานทุกชิ้น ทั้งที่ กยศ.ส่งมา และหรือเราไปติดต่อกับธนาคารแห่งใดก็ตามที่มีธุรกรรมอันเกี่ยวข้องกับตัวเงิน มิเช่นนั้นท่านอาจเป็นเหยื่อของอะไรบางอย่างที่เกิดขึ้นแล้วในสังคมไทยนี้
ขอแสดงความนับถือ และ ขออภัยหากได้กล่าวถึง ใคร หน่วยงานใด ทั้งนี้ข้าพเจ้าเพียงอ้างถึงเพื่อให้เรื่องราวถูกต้องตามความเป็นจริงเท่านั้น
นายประสพ ด้วงช้าง
เจ้าหน้าที่บริหารงานทะเบียนและบัตร ระดับ 6ว
เทศบาลตำบลบ้านโตนด อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย
หมายเลขโทรศัพท์ 099 270 9219