ขอสอบถามความรู้ค่ะ
คือลูกเรามีอาการแพ้แบบผิวหนังเป็นผื่นและหน้าบวม รอบ ๆ ตาก็บวม ซึ่งพาไปหาหมอแล้ว คุณหมอถามหาสาเหตุตอนนั้นที่นึกได้ก็คือลูกกินปูทะเลในวันศุกร์ตอนเย็น(แต่เค้าไม่เคยแพ้ปูทะเลเพราะเคยให้เค้ากินหลายครั้งแล้วแต่ไม่เคยแพ้) แต่พอคุณหมอดูอาการคุณหมอก็ให้ความเห็นว่าลักษณะแบบนี้ไม่ใช่อาการแพ้อาหารทะเล คุณหมอบอกถ้าแพ้อาหารทะเลผื่นจะลามไปทั่วทั้งคอหรือตัวแล้ว (แต่กรณีของลูกเรานี่ผื่นจะมีเฉพาะที่หน้าและก็บวมเฉพาะที่หน้า) คุณหมอบอกอาการแบบนี้จะเป็นอาการแพ้พวกพืชที่เป็นพวกไอวี่ หรือไม่ก็พวกสารเคมีมากกว่า ซึ่งพวกเถาว์ไอวี่ก็มีสิทธิ์เป็นไปได้แต่ยังไม่ปักใจตรงนี้เพราะก่อนหน้านั้นเค้าไม่ได้ไปเดินแถว ๆ พวกพืชเหล่านี้ ส่วนพวกสารเคมีจากสบู่หรือแชมพูก็ไม่ใช่แน่ ๆ เพราะไม่ได้เปลี่ยนใช้ยี่ห้อใหม่ ก็ยังใช้ยี่ห้อเดิม ๆ อยู่ซึ่งเค้าก็ไม่แพ้
คือจากที่สังเกตุผื่นของลูก จะเริ่มเห็นผื่นแดง ๆ เป็นวงเล็ก ๆ บนแก้มเค้าในตอนเย็น ๆ ของวันศุกร์ แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร เราก็คิดว่าคงเป็นผื่นจากแดด เพราะวันนั้นแดดแรงมากเลยคิดว่าคงจะเพราะเค้าแพ้แดด จากนั้นพอเช้าวันเสาร์เริ่มเห็นผื่นเยอะขึ้น แต่ไม่ยังไม่บวมนะ เราก็ยังไม่ได้กังวลอะไรเพราะยังคิดว่าอาจจะเพราะเค้าแพ้แดดด้วย เดี๋ยวผื่นก็คงจะหายไปเอง อีกอย่างเค้าไม่มีอาการคันด้วยก็เลยไม่ได้กังวลมาก เพราะเคยเห็นเค้าเป็นเวลาออกแดดมาก ๆ เค้าจะมีผื่นแดงเล็ก ๆ อยู่ ทีนี้พอตอนเช้าวันอาทิตย์รู้สึกผื่นขึ้นเยอะขึ้นแต่ยังไม่เต็มหน้า แค่ขยายวงกว้าง แต่เช้าวันจันทร์นั่นแหละกลายเป็นว่าผื่นขึ้นเยอะและมีอาการบวมรอบ ๆ ตาและผิวหน้า(แต่ตาไม่แดง ไม่คันตาและน้ำตาไม่ไหลนะ) นั่นหละจึงได้พาไปหาหมอเพราะมีอาการบวม ซึ่งคุณหมอก็ยังไม่ได้กังวลมากเพราะเค้าไม่มีอาการคันและไม่มีผลกับเรื่องระบบหายใจเค้า แค่ผื่นที่หน้าและหน้าบวม ตาบวม คุณหมอก็มีแค่เขียนใบสั่งยาและบอกให้สังเกตุอาการด้วย ถ้าแย่ลงก็ให้พากลับมาหาหมออีกรอบ ซึ่งตอนนี้ก็กินยาแก้แพ้และอาการไม่ได้ลามขึ้น ซึ่งก็ยังนึกสาเหตุไม่ออกว่าลูกแพ้อะไร
ทีนี้พอมานึกย้อนตรงนี้ คือเมื่อวันศุกร์(10 ก.ค.)ตอน 11 โมงเช้าเกือบ ๆ เที่ยงซึ่งแดดแรงมาก วันนั้นเป็นวันสุดท้ายของคอร์สซัมเมอร์ของเด็ก ๆ เกรด 3 และเกรด 4 เป็นคอร์สวิทยาศาสตร์ช่วงปิดเทอม และคุณครูมีให้เด็ก ๆ แสดงโปรเจ็คทดลองการระเบิดของภูเขาไฟ (Erupting Volcano Project) ซึ่งวันนั้นสูตรที่พวกเค้าใช้ทดลองคือจะต้องใช้เบกกิ้งโซดาผสมกับน้ำส้มสายชู(คือบรรดาพ่อแม่ก็พากันดูการทดลองไปกับพวกเค้าด้วย)
ซึ่งคำถามที่สงสัยคือ กรณีที่น้ำส้มสายชูทำปฎิกิริยากับเบกกิ้งโซดาซึ่งเป็นช่วงที่จะเกิดฟอง ซึ่งเป็นไปได้ไหมที่อายที่เกิดจากการทำปฎิกิริยาของสารสองอย่างนี้จะทำให้คนที่ได้รับอายนี้เกิดอาการแพ้ ทำให้เกิดผื่นและบวมได้ไหม คือเท่าที่หาอ่านทางอินเตอร์เน็ตนั้นก็เห็นว่าในส่วนของคนที่แพ้เบกกิ้งโซดานั้นก็มีอยู่นะ ซึ่งก็จะทำให้ผิวเป็นผื่น แต่นั่นคือเค้าเอาเบกกิ้งโซดาไปขัดหน้า ไปสัมผัสหน้า แต่กรณีที่ลูกเราทดลองนี่เค้าไม่ได้สัมผัสเบกกิ้งโซดาโดยตรง เค้าแค่เทน้ำที่เค้าผสมเบกกิ้งโซดากับสีผสมอาหารลงไปในกระป๋องทดลองที่มีน้ำส้มสายชูและแค่ยืนดูผลการทดลองของเค้า ซึ่งก็ใกล้พอสมควร เลยสงสัยว่าแบบนี้มีสิทธิ์ที่ลูกเราจะแพ้สารเคมีตรงนี้ได้ไหม อีกอย่างเค้าทำกลางแจ้งที่แดดแรงด้วย ตรงนี้จะมีผลอะไรไหม(คือตอนนี้ก็พยายามหาอ่านข้อมูลเหมือนกัน แต่ยังไม่เจอว่ามีใครหรือมีเด็ก ๆ แพ้สารเคมีตรงนี้น่ะ เพราะกรณีนี้ก็เห็นว่าเด็ก ๆ นักเรียนเค้าก็ทดลองปกติ)
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
ปล. อันนี้เป็นลิงค์สูตรการทดลองในเน็ตนะคะ เผื่อจะได้เห็นภาพชัดขึ้น(ในห้องเรียนลูกใช้สูตรแรก เค้าใช้เบกกิ้งโซดากับน้ำส้มสายชู)
http://www.how-things-work-science-projects.com/erupting-volcano.html
กรณีเบกกิ้งโซดาผสมกับน้ำส้มสายชู พอสองอย่างทำปฎิกิริยากันแล้วสามารถทำให้คนอยู่ใกล้แพ้ได้ไหมคะ
คือลูกเรามีอาการแพ้แบบผิวหนังเป็นผื่นและหน้าบวม รอบ ๆ ตาก็บวม ซึ่งพาไปหาหมอแล้ว คุณหมอถามหาสาเหตุตอนนั้นที่นึกได้ก็คือลูกกินปูทะเลในวันศุกร์ตอนเย็น(แต่เค้าไม่เคยแพ้ปูทะเลเพราะเคยให้เค้ากินหลายครั้งแล้วแต่ไม่เคยแพ้) แต่พอคุณหมอดูอาการคุณหมอก็ให้ความเห็นว่าลักษณะแบบนี้ไม่ใช่อาการแพ้อาหารทะเล คุณหมอบอกถ้าแพ้อาหารทะเลผื่นจะลามไปทั่วทั้งคอหรือตัวแล้ว (แต่กรณีของลูกเรานี่ผื่นจะมีเฉพาะที่หน้าและก็บวมเฉพาะที่หน้า) คุณหมอบอกอาการแบบนี้จะเป็นอาการแพ้พวกพืชที่เป็นพวกไอวี่ หรือไม่ก็พวกสารเคมีมากกว่า ซึ่งพวกเถาว์ไอวี่ก็มีสิทธิ์เป็นไปได้แต่ยังไม่ปักใจตรงนี้เพราะก่อนหน้านั้นเค้าไม่ได้ไปเดินแถว ๆ พวกพืชเหล่านี้ ส่วนพวกสารเคมีจากสบู่หรือแชมพูก็ไม่ใช่แน่ ๆ เพราะไม่ได้เปลี่ยนใช้ยี่ห้อใหม่ ก็ยังใช้ยี่ห้อเดิม ๆ อยู่ซึ่งเค้าก็ไม่แพ้
คือจากที่สังเกตุผื่นของลูก จะเริ่มเห็นผื่นแดง ๆ เป็นวงเล็ก ๆ บนแก้มเค้าในตอนเย็น ๆ ของวันศุกร์ แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร เราก็คิดว่าคงเป็นผื่นจากแดด เพราะวันนั้นแดดแรงมากเลยคิดว่าคงจะเพราะเค้าแพ้แดด จากนั้นพอเช้าวันเสาร์เริ่มเห็นผื่นเยอะขึ้น แต่ไม่ยังไม่บวมนะ เราก็ยังไม่ได้กังวลอะไรเพราะยังคิดว่าอาจจะเพราะเค้าแพ้แดดด้วย เดี๋ยวผื่นก็คงจะหายไปเอง อีกอย่างเค้าไม่มีอาการคันด้วยก็เลยไม่ได้กังวลมาก เพราะเคยเห็นเค้าเป็นเวลาออกแดดมาก ๆ เค้าจะมีผื่นแดงเล็ก ๆ อยู่ ทีนี้พอตอนเช้าวันอาทิตย์รู้สึกผื่นขึ้นเยอะขึ้นแต่ยังไม่เต็มหน้า แค่ขยายวงกว้าง แต่เช้าวันจันทร์นั่นแหละกลายเป็นว่าผื่นขึ้นเยอะและมีอาการบวมรอบ ๆ ตาและผิวหน้า(แต่ตาไม่แดง ไม่คันตาและน้ำตาไม่ไหลนะ) นั่นหละจึงได้พาไปหาหมอเพราะมีอาการบวม ซึ่งคุณหมอก็ยังไม่ได้กังวลมากเพราะเค้าไม่มีอาการคันและไม่มีผลกับเรื่องระบบหายใจเค้า แค่ผื่นที่หน้าและหน้าบวม ตาบวม คุณหมอก็มีแค่เขียนใบสั่งยาและบอกให้สังเกตุอาการด้วย ถ้าแย่ลงก็ให้พากลับมาหาหมออีกรอบ ซึ่งตอนนี้ก็กินยาแก้แพ้และอาการไม่ได้ลามขึ้น ซึ่งก็ยังนึกสาเหตุไม่ออกว่าลูกแพ้อะไร
ทีนี้พอมานึกย้อนตรงนี้ คือเมื่อวันศุกร์(10 ก.ค.)ตอน 11 โมงเช้าเกือบ ๆ เที่ยงซึ่งแดดแรงมาก วันนั้นเป็นวันสุดท้ายของคอร์สซัมเมอร์ของเด็ก ๆ เกรด 3 และเกรด 4 เป็นคอร์สวิทยาศาสตร์ช่วงปิดเทอม และคุณครูมีให้เด็ก ๆ แสดงโปรเจ็คทดลองการระเบิดของภูเขาไฟ (Erupting Volcano Project) ซึ่งวันนั้นสูตรที่พวกเค้าใช้ทดลองคือจะต้องใช้เบกกิ้งโซดาผสมกับน้ำส้มสายชู(คือบรรดาพ่อแม่ก็พากันดูการทดลองไปกับพวกเค้าด้วย)
ซึ่งคำถามที่สงสัยคือ กรณีที่น้ำส้มสายชูทำปฎิกิริยากับเบกกิ้งโซดาซึ่งเป็นช่วงที่จะเกิดฟอง ซึ่งเป็นไปได้ไหมที่อายที่เกิดจากการทำปฎิกิริยาของสารสองอย่างนี้จะทำให้คนที่ได้รับอายนี้เกิดอาการแพ้ ทำให้เกิดผื่นและบวมได้ไหม คือเท่าที่หาอ่านทางอินเตอร์เน็ตนั้นก็เห็นว่าในส่วนของคนที่แพ้เบกกิ้งโซดานั้นก็มีอยู่นะ ซึ่งก็จะทำให้ผิวเป็นผื่น แต่นั่นคือเค้าเอาเบกกิ้งโซดาไปขัดหน้า ไปสัมผัสหน้า แต่กรณีที่ลูกเราทดลองนี่เค้าไม่ได้สัมผัสเบกกิ้งโซดาโดยตรง เค้าแค่เทน้ำที่เค้าผสมเบกกิ้งโซดากับสีผสมอาหารลงไปในกระป๋องทดลองที่มีน้ำส้มสายชูและแค่ยืนดูผลการทดลองของเค้า ซึ่งก็ใกล้พอสมควร เลยสงสัยว่าแบบนี้มีสิทธิ์ที่ลูกเราจะแพ้สารเคมีตรงนี้ได้ไหม อีกอย่างเค้าทำกลางแจ้งที่แดดแรงด้วย ตรงนี้จะมีผลอะไรไหม(คือตอนนี้ก็พยายามหาอ่านข้อมูลเหมือนกัน แต่ยังไม่เจอว่ามีใครหรือมีเด็ก ๆ แพ้สารเคมีตรงนี้น่ะ เพราะกรณีนี้ก็เห็นว่าเด็ก ๆ นักเรียนเค้าก็ทดลองปกติ)
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
ปล. อันนี้เป็นลิงค์สูตรการทดลองในเน็ตนะคะ เผื่อจะได้เห็นภาพชัดขึ้น(ในห้องเรียนลูกใช้สูตรแรก เค้าใช้เบกกิ้งโซดากับน้ำส้มสายชู)
http://www.how-things-work-science-projects.com/erupting-volcano.html